PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561

‘หัวจ่าย’ โดนล็อกก็จบ

‘หัวจ่าย’ โดนล็อกก็จบ



วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2562 กาปฏิทินไว้ล่วงหน้าเลย
ตามสูตรเผื่อเหลือเผื่อขาด โอกาสเป็นไปได้มากที่สุด ตามห้วงเวลาปลายเปิดจากที่ประชุมร่วมระหว่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน คุยกับตัวแทนพรรคการเมือง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กำหนดเข้าคูหากาบัตรได้ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 5 พฤษภาคมปีหน้า
ถ้าประกอบกับเหตุผลที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ย้ำการเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแม็ป แต่นั่นก็ต้องเกิดขึ้นภายหลังพระราชพิธีสำคัญของคนไทย ที่จำเป็นต้องทำให้บรรยากาศบ้านเมืองอยู่ในความสงบ
ต้องบวกลบเวลาสำหรับปัจจัยนอกเหนือการเมืองที่ควบคุมไม่ได้
ว่ากันตามเงื่อนไขสถานการณ์ นักการเมืองเองก็เข้าใจตรงกัน ประเมินจากท่าทีของคนกลางๆ อย่างนายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ยอมรับกรอบเวลาวันเลือกตั้ง 4 กรอบ ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม ถือว่าเป็นไปได้หมด
โดยระดับความชัดเจนมาถึงตรงนี้ จะช้าหรือเร็วไปอีก 1-2 เดือนคงไม่มีผล
นักการเมืองอาชีพขอให้รู้ว่าได้เลือกตั้งชัวร์ๆก็พอแล้ว
ตามแนวโน้ม แบบที่ทุกยี่ห้อ ทุกป้อมค่ายร่วมด้วยช่วยกันแห่กดดัน เรียกร้อง คสช.ปลดล็อกให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมได้ เพื่อจะมีเวลาทำไพรมารีโหวตได้ทัน รวมทั้งการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่
สไตล์นักการเมืองค่อยๆแซะไปทีละขยัก
เช่นเดียวกันตามฟอร์มของทหารก็ไม่ปล่อยพรวดพราดให้คุมเกมยาก
ประเมินจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ไล่เรียงปฏิทินงานตามเงื่อนเวลาทางกฎหมายที่จะเปิดให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ ประกอบกับคิวที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.บอกผ่านสื่อต่างประเทศเกี่ยวกับทิศทางอนาคตไปต่อทางการเมือง
ทุกอย่างให้จับตาเดือนกันยายนจะชัดเจน
จุดสตาร์ตออกตัวน่าจะอยู่ในห้วงจังหวะที่ “บิ๊กตู่” ประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ผ่านบัญชีพรรคการเมืองที่ชื่อ “พลังประชารัฐ”
ถึงตรงนั้นระดับความมัน บรรยากาศการปะทะจะเริ่มดุเด็ดเผ็ดมันขึ้นตามเงื่อนไขเดิมพัน
ตามเค้าลางที่เห็นๆกันตั้งแต่ยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมือง
ทหารยังจับตาแบบกัดติด
แต่ก็ออกฤทธิ์แสดงเดชกันได้อย่างสบายใจ
อารมณ์แบบที่ “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จัดอีเวนต์เลี้ยงเรตติ้ง เปิดเกมการตลาดกวาดแต้ม เดินสายออกพบประชาชนต่างจังหวัด
“ปล่อยของ” อัดรัฐบาล คสช.แบบรายวัน
กลายเป็นขวัญใจรากหญ้า แทรกตัวเข้าไปอยู่ในใจกองเชียร์ยี่ห้อ “ทักษิณ” ได้แบบเนียนๆ
แต่นั่นก็ว่ากันไม่ได้ เพราะในฝ่ายของทีมหนุน “ลุงตู่” เองก็อยู่ในช่วงกำลังเขย่าฉากการเมืองให้คึกคัก จากการเดินกระแสต่อเนื่องของทีมงาน “สามมิตร”
เดินหน้าภารกิจปั้นพรรคหนุน “นายกฯลุงตู่” ตีตั๋วต่อ
ล่าสุด นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน นัดออกรอบที่สนามกอล์ฟย่านชานเมืองรังสิต เพื่อโชว์ขุมกำลังอดีต ส.ส.เกรดเอ
ที่ตามมาเข้าร่วมทีม “พลังประชารัฐ” วันที่ 30 มิถุนายนนี้
มีช็อตเขย่าขวัญ “นายใหญ่” แดนไกลแบบถี่ยิบ
เรื่องของเรื่อง โดยปฏิบัติการย้อนศรกับสิ่งที่ “นายใหญ่” ประกาศดังๆจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มั่นใจอิทธิฤทธิ์ยี่ห้อ “ทักษิณ” จะช่วยพรรคเพื่อไทยกวาดทั้งอีสาน ไล่ส่งพวกย้ายพรรครีบไสหัวออกไป
มวยรู้ทาง อ่านไต๋กันออก “นายใหญ่” กำลังอยู่ในอาการนั่งไม่ติด
เพราะการเปิดตัวของ “สุริยะ” ไม่ใช่แค่แรงสั่นสะเทือนในภาคอีสาน เพื่อไทยเลือดไหลออกไม่หยุด
แต่ยังสร้างอิมแพกต์ไปถึงมือระดับ “หัวจ่าย”
การเปิดไพ่ของ “สุริยะ” ชิ่ง “นายใหญ่” มาหนุน “นายกฯ ลุงตู่” เดินหน้าปฏิรูป ได้ส่งแรงสะท้อนไปถึงมวยระดับนายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ แกนนำพรรคเพื่อไทย รวมถึงคนสำคัญอย่าง “เฮียเพ้ง” นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล แกนนำสายตรงดูไบ
มวยเบอร์ใหญ่ของ “ทักษิณ” พวกที่มีกำลังสำรองจ่ายไปก่อน
ตอนนี้เริ่มคิดหนัก หากจะดื้อเสี่ยงไปเผชิญชะตากรรม.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: