PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กรณ์ จาติกวณิชย์:จับตาศาลพิจารณาคำร้องพรบ.เงินกู้2.2ล้านล้าน

วันพรุ่งนี้เป็นวันที่สองที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการพิจารณาคำร้องเรื่องพ.ร.บ. เงินกู้ ๒ ล้านล้าน
ศาลได้เรียกผู้เชี่ยวชาญทางการคลังที่เป็นอดีตรัฐมนตรีคลังมาแสดงความคิดเห็นสามท่าน ท่านทนง พิทยะ (รัฐมนตรีคลังสองสมัย สมัยที่สองในรัฐบาลไทยรักไทย) ท่านธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล (รัฐบาลเพื่อไทย) และอดีตรมช. คลังดร. พิสิฐ ลี้อาธรรม (รัฐบาลประชาธิปัตย์ยุคนายกฯชวน หลีกภัย)

แม้จะมาจากต่างพรรค ต่างขั้ว รวมถึงเป็นอดีตรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดปัจจุบัน แต่ทุกท่านเคยแสดงความคิดเห็นไว้ชัดเจนว่า 'ไม่เห็นด้วย' กับพรบ.เงินกู้ฉบับนี้

ท่านทนงเคยพูดไว้ว่า "ไม่ควรใช้เงินกู้ในการลงทุนก้อนโตขนาดนี้ การลงทุนควรมาจากรายได้ก่อนอันดับแรก เพื่อรักษาวินัยการเงินการคลัง ไม่ให้หนี้สาธารณะเกิน 50% ของ GDP"

ท่านธีระชัยเคยพูดว่า "เป็นการออก พ.ร.บ.แบบหลวมๆ ไม่มีความละเอียดรอบคอบ ไม่รัดกุม มีแต่ชื่อโครงการ แต่ไม่มีรายละเอียดว่าลงทุนได้จริงหรือไม่"

ส่วนดร. พิสิฐได้พูดไว้ว่า "ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ได้บอกแหล่งที่มาของเงินที่จะนำไปใช้หนี้ บอกเพียงว่าสามารถชำระเงินคืนได้ภายใน 50 ปี แต่ไม่ได้บอกว่านำเงินมาจากไหน"

ส่วนสองรัฐมนตรีที่เสนอกฎหมายนี้คือคุณกิตติรัตน์และคุณชัชชาติได้เบิกความไปก่อนหน้านี้แล้วว่ากฎหมายฉบับนี้ดีเลิศและจำเป็นอย่างยิ่งเพราะอะไร

ผมขอทิ้งท้ายว่าล่าสุดเมื่อไม่กี่วันมานี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ออกมาแถลงว่าจะไม่รอเงินกู้ ๒ ล้านล้านแล้ว แต่จะเริ่มเดินหน้าลงทุนพัฒนาระบบรถไฟด้วยงบประมาณ ๑๗๖,๐๐๐ ล้านที่รัฐบาลอภิสิทธิได้อนุมัติไว้ตั้งแต่ปี ๕๓ และอดีตรัฐมนตรีคมนาคมคุณโสภณ ซารัมย์ได้เริ่มดำเนินการไว้ แต่มีการสั่งยุติเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลเพื่อให้รอใช้เงินกู้ ๒ ล้านล้าน

สรุปความหมายว่าโครงการนี้สามารถลงทุนด้วยงบปกติได้ และน่าจะทำต่อจากรัฐบาลที่แล้วแต่แรก

คอยติดตามกันต่อไปครับ

ูพิเชษฐ์ พันธวิชาตกุล: ผู้Novoteลต.ส.ส.อาจเสียสิทธิ์

ผมเคยขึ้นเฟซไว้เมื่อ วันที่ 7 กพ.57 แจ้งมติกกต.ให้ทราบว่า

"กกต.มีมติเลือกตั้ง สว. (สมาชิกวุฒิสภา)
ในวันที่ 30 มี.ค.57
รับสมัคร 
วันที่ 4-8 มีค.57 และเลือกตั้งล่วงหน้า
วันที่ 23 มีค. 57

ผมเคยเป็นห่วงว่า
ผู้ที่ไม่ไปเลือก สส. หรือ No vote การเลือกตั้ง สส. ใน
วันที่ 2 กพ. 57 ที่ผ่านมา

โดยหวังการไปเลือกตั้ง สว. ในวันที่ 30 มี.ค. 57
ลบล้างการเสียสิทธิบางประการเนื่องจากการไม่ไปเลือก สส.ได้

หากผู้ตั้งใจ No vote การเลือกตั้งสส. และสุดท้ายมีการกำหนดวันเลือกตั้งสสใหม่ไปหลังวันที่เลือกตั้งสว. คือหลัง 30 มีค. 57
จะอาศัยอะไรมาล้างการเสีย สิทธิเนื่องจากการไม่ไปเลือก สส.

ข้อเป็นห่วงดังกล่าวชักจะมีเค้าเกิดขึ้นแล้ว

ด้วยวันนี้มีข่าวว่า กกต.มีมติให้ไปเลือกตั้งสส. ครั้งใหม่ในวันที่ 27 เม.ย.57 แทนการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กพ. 57
และกำหนดเลือกตั้งสส. ล่วง หน้าในวันที่ 20 เม.ย. 57 แทนวันที่ 26 มค. 57

นั่นคือจะมีการเลือก สว. ก่อนการเลือกตั้ง สส.
ผู้ถูกจำกัดสิทธิบางประการ เพราะเหตุไม่ไปเลือกสส. จึงไม่มีโอกาสใช้การเลือกตั้ง สว. เป็นการล้างข้อจำกัดสิทธิ

ฉะนี้แล้ว ผู้ตั้งใจจะ No vote
การเลือกตั้งสส.เพื่อเป็นการ บอยคอต(boy cott) โดยหวังว่ามีการเลือกตั้งสว.ข้างหน้ามาล้างการเสียสิทธิทางการเมืองบางประการ จะคงสามารถบอยคอตการเลือกตั้ง สส. ต่อไปหรือไม่

หากกลับใจมาลงเลือกตั้ง
อะไรจะเกิดขึ้น ?

การเมืองต่อไปนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

เรื่องนี้ไม่ได้ห้ามกระพริบตา
กระพริบตาไปเถิดกี่ครั้งก็ได้

เพราะการเมืองวันนี้ไม่จบลง ง่ายๆแน่

พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล
๑๒-๐๒-๕๗

เกิดเหตุผู้ชุมนุมกลุ่มอิสระยิงกันเองบริเวณประตู 5 ข้างทำเนียบฯ เจ็บ 1 ราย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 กุมภาพันธ์ 2557 21:16 น.  

เกิดเหตุยิงกันเองของผู้ชุมนุมกลุ่มอิสระ บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล บาดเจ็บ 1 ราย เป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุ 30 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี
     
       วันนี้(11 ก.พ.) เมื่อเวลา 21.00 น.ที่ผ่านมา ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานครได้รับแจ้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิง เมื่อเวลาประมาณ 20.50 น. ที่บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล โดยเบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บชาย 1 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรามาธิบดีโดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
     
       อนึ่ง สำหรับบริเวณใกล้ทำเนียบรัฐบาล เป็นจุดที่มีการชุมนุมของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.)
     
       ต่อมา ศูนย์เอราวัณแจ้งเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้บาดเจ็บเป็นชาย ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30ปี มีบาดแผลเปิดที่ศีรษะ ได้รับการรักษาภายในห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลรามาธิบดี
     
       ต่อมานายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าการ์ดเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กล่าวว่า เหตุยิงกันดังกล่าวเกิดขึ้นจากผู้ชุมนุมที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ชุมนุมของผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วม กปปส.อิสระที่ชุมนุมที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันเอง ส่วนผู้ก่อเหตุได้หนีไป ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เกี่ยวกับ คปท. เพราะอยู่นอกพื้นที่ชุมนุม

ผบ.ตร.เยี่ยม 2 สันติบาลถูกการ์ดทำร้าย "ร.ต.ต." เล่าถูกรุมซ้อมปลดทรัพย์

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 11กุมภาพันธ์ ที่โรงพยาบาลตำรวจ(รพ.ตร.)พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.ท.อำนาจอันอาตม์งาม ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.สฤษฎิ์ชัย เอนกเวียง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลเยี่ยมร.ต.ต.สมคิด เชยกมล รองสว.สส.บก.ส.1และ จ.ส.ต.วชิรพงศ์ อุ่นนวลบุรพงศ์ ผบ.หมู่บก.ส.1ตำรวจสันติบาลซึ่งถูกการ์ดกปปส.เวทีแจ้งวัฒนะควบคุมตัวและรุมทำร้าย ได้รับบาดเจ็บ โดยผบ.ตร.มอบกระเช้าเยี่ยมไข้และเงินสวัสดิการข่วยเหลือ 35,000 บาท

ร.ต.ต.สมคิดเล่าเหตุการณ์ให้ผบ.ตร.ฟังว่าเข้าไปหาข่าวในพื้นที่โดยยืนยันว่าไม่มีการพกพาอาวุธแต่อย่างใดเมื่อถูกการ์ดควบคุมตัวก็มีการปิดตาและถูกแตะเสยที่ใบหน้ารุมทำร้ายร่างกายเตะต่อยตามตัวจนระบมช้ำ ถูดยึดโทรศัพท์ทรัพย์สินติดตัวและพระเครื่องไปจนหมด

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ตำรวจทั้งสองนายมีอาการช้ำใน การเข้าพื้นที่ของตำรวจเป็นหน้าที่ทั้งเรื่องการดูแลความปลอดภัย การข่าว จากนี้สั่งการให้สันติบาละนครบาลมีมาตรการให้ตำรวจเข้าพื้นที่ทำงานอย่างระมัดระวังตัว

ลุ้น.!ศาลรธน.เตรียมพิจารณาคำร้องปชป.ยื่นเลือกตั้งโมฆะ 12 ก.พ.

ศาลรธน.เตรียมพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องปชป.ยื่นเลือกตั้งโมฆะก่อนไต่สวนคดีกู้ 2 ล้านล้านพรุ่งนี้ 12 ก.พ.

วันที่ (11ก.พ.) มีรายงานข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่า ในวันพรุ่งนี้ (12 ก.พ.57) เวลา 10.00 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีการไต่สวนคำร้องที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154 วรรคหนึ่ง (1) ว่าร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. .... มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญได้นัดพยานผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน ประกอบด้วย ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินหรือผู้แทน นายพิสิฐ ลี้อาธรรม อดีตส.ส.ร. น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง นายทนง พิทยะ อดีตรมว.คลัง และนายธีรชัย ภูวนารถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมจากที่เคยไต่สวนพยานผู้ร้องและผู้ถูกร้องมาก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุมตามปกติก่อนที่จะเริ่มการไต่ต่สวน โดยมีวาระการพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับ ในคำร้องที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 เพื่อขอให้ศาลสั่งให้การเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ 2 ก.พ. เป็นโมฆะ เนื่องจากรัฐบาลพยายามจัดการเลือกตั้งโดยไม่คำนึงถึงความขัดแย้ง อีกทั้งยังขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคเพื่อไทยพร้อมตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค เป็นเวลา 5 ปี

‪#‎สยามรัฐ‬


มติครม. อนุมัติเงิน 712ล้านบาท จ่ายจำนำข้าว

รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (11 ก.พ. 57) ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติงบประมาณกลางรายจ่ายประจำปี 2557 จำนวน 712 ล้านบาท นำไปจ่ายให้กับเกษตรกรที่ตกค้างในส่วนของโครงการรับจำนำข้าวปี 2555/2556

ซึ่งนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เผยว่า การนำเงินส่วนดังกล่าวมาให้ชาวนานั้น ก็เพื่อให้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวที่ตกค้างจากการตัดยอดการจ่ายเงินไปตั้งแต่เดือนกันยายน 2556 ได้รับเงินอย่างทั่วถึง ขณะเดียวกันจะกันสำรองไว้ ในส่วนที่อาจมีชาวนาตกหล่นจากโครงการรับจำนำข้าว

สำหรับวงเงินจำนวนดังกล่าวจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ วงเงินในส่วนของ ปี 2555/2556 จำนวน 636 ล้านบาท และในส่วนปี 2556/2557 อีก 75 ล้านบาท

เบื้องต้นได้สั่งการไปยังกระทรวงพาณิชย์ ให้เร่งดำเนินการระบายข้าวเพื่อจ่ายเงินส่วนที่ยังมีการคงค้างกับเกษตรกรที่ได้รับใบประทวนไปแล้วโดยเร็วที่สุด จึงให้เกษตรกรมั่นใจได้ว่าทางรัฐบาลจะดำเนินการอย่างเต็มที่


ลุงอนนท์ ไทยดี 65 ปี ขอทานเขียนหนังสือ เหยื่อระเบิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เสียชีวิตลงแล้ว

ลุงอนนท์ ไทยดี 65 ปี ขอทานเขียนหนังสือ เหยื่อระเบิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เสียชีวิตลงแล้ว (11 กุมภาพันธ์ 2557) ที่โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อเวลา 15.40 น.

อนนท์ ไทยดี ชายวัย 65 ปี ที่เรียกตัวเองว่าเป็น ขอทานเขียนหนังสือ โดยอาศัยพื้นที่บริเวณสกายวอล์คสะพานลอยอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นที่ทำมาหากินด้วยการขายหนังสือทำมือ ที่เขียนด้วยตัวเอง เพื่อเลี้ยงชีพ จนเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาในย่านนั้น จู่ ๆ เขาก็โดนลูกหลงของระเบิดจากความไม่สงบทางการเมือง เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2557 จนต้องเข้ารับการรักษาอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลราชวิถี เพราะมีบาดแผลตามร่างกายและศีรษะ ซึ่งวันต่อมาแพทย์ก็แจ้งให้ทราบว่าอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

แต่ล่าสุด วันนี้ (11 กุมภาพันธ์ 2557) กลับมีรายงานจาก ผู้สื่อข่าว TNN24 @poohtnn24 ระบุว่า นายอนนท์ ไทยดี อายุ65 ปี หรือ ขอทานเขียนหนังสือ ได้เสียชีวิตลงแล้วหลังจากเข้ารับการรักษาอยู่นานเกือบ 1 เดือน โดยเขาได้จบชีวิตลงเมื่อเวลาประมาณ 15.40 น. ที่โรงพยาบาลราชวิถี เนื่องจากมีลิ่มในกระแสเลือดบริเวณซี่โครง เพราะแรงระเบิด ทำให้ต้องเสียชีวิตลงก่อนกำหนดออกจากโรงพยาบาลเพียงไม่กี่วัน

http://hilight.kapook.com/view/97740

คุณลุงอนนท์ ไทยดี ลุงเขียนหนังสือขอทานเคยให้สัมภาษณ์ว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้ลุงต้องมาเขียนหนังสือขอทานนั้นคือการที่เมื่อก่อนลุงเคยรับราชการ แล้วต่อต้านสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ไม่โปร่งใส ไม่เอื้ออำนวยสิ่งที่จะเข้าข้างประโยชน์ตนเอง ตลอดช่วงอายุรับราชการของลุง 34 ปี ลุงอยู่ด้วยความลำบาก ความเห็นต่างก็เลยไม่มีใครชอบลุง ลุงก็เลยลาออกก่อนกำหนด ลุงก็เลยเขียนขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกงานศพ และการที่ลุงเป็นคนใจดีทำให้ลุงหยิบยืมเงินเพื่อไปช่วยเหลือคนอื่นจนทำให้เป็นหนี้ 3ล้านบาท และลูกๆก็ได้ช่วยปลดหนี้ให้ลุงเดือนละ2หมื่นบาท ลุงจึงหนีออกจากบ้านมา เมื่อถามว่า “คิดว่าการเขียนหนังสือของลุงถือว่าเป็นอาชีพหนึ่งเลย หรือไม่” ลุงก็ตอบว่า “ป้ายข้างหน้าคือคำตอบ “เมื่อขอทาน...เขียนหนังสือ” และสิ่งที่ลุงนำมาเขียนหนังสือคือ ประสบการณ์ วิสัยทัศน์ และสิ่งที่อยากจะสื่อออกมา อยากจะเปลี่ยนแปลงโลก และประเทศไทย

http://utcc-jr21.blogspot.com/


"สุเทพ"นัดชุมนุมวันมาฆะบูชาวาเลนไทน์

19.00 น. (11/2/57) สุเทพ เทือกสุบรรณ "คำต่อคำ" ‪#‎เวทีปทุมวัน‬

วันที่ 14-16 ก.พ. นี้ จะนัดชุมนุมใหญ่ทุกเวทีเพื่อบอกรักประเทศไทย โดยในวันที่ 14 ก.พ. นี้ ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชาและวันวาเลนไทน์ กลุ่ม กปปส. จะจัดกิจกรรมทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ และกรวดน้ำแผ่เมตตาให้ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์

การเดินขบวนเมื่อวานนี้ (10 ก.พ. 57) ที่ ถ.สุขุมวิท-เอกมัย ได้เงินรวม 9,811,940 บาท ซึ่งตอน 2 วันของการเดินขบวนเพื่อระดมเงินช่วยเหลือชาวนาที่เดือดร้อนจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล มียอดเงินรวมอยู่ที่ 24,313,830 บาท ซึ่งเงินทั้งหมดจะนำไปช่วยเหลือชาวนา ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางไปพม่าเพื่อประกอบพิธีไสยศาสตร์ เอาชนะมวลชลกลุ่ม กปปส. อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ประกาศที่จะให้ความช่วยเหลือนายอนนท์ ไทยดี อายุ 65 ปี ซึ่งเสียชีวิตในวันนี้ จากกรณีเหตุระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อช่วงเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา โดยระบุว่านายอนนท์ไม่ได้มาร่วมชุมนุมกับกลุ่ม กปปส. แต่กลับโดนลูกหลงแทน เพราะฉะนั้นจะช่วยเหลือด้วยการดูแลค่าใช้จ่ายในการทำศพอีกด้วย

‪#‎กปปส‬ ‪#‎ปฏิรูปประเทศ‬ ‪#‎thaiuprising‬ ‪#‎PDRC‬ ‪#‎occupybangkok‬‪#‎shutdownBKK‬ ‪#‎springnews‬


ชาวนาอีสาน 20 จังหวัดจ่อเคลื่อนไหวใหญ่บุกกรุงเทพฯ กดดัน รบ.เร่งจ่ายค่าข้าว

ที่ประชุมเครือข่ายเกษตรกร20จังหวัดอีสานมีมติเตรียมพร้อมเคลื่อนเข้ากรุงเทพฯ กดดันรัฐบาลเร่งจ่ายเงินจำนำข้าว พร้อมตั้งเวทีปฏิรูปเกษตรกรไม่ให้ตกเป็นเหยื่อนักการเมือง
วันนี้ (11 ก.พ.) ที่ห้องประชุมโกเมน โรงแรมสวนวรุณ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรชาวนา 20 จังหวัดภาคอีสาน ประชุมหารือถึงแนวทางการเคลื่อนไหว และแนวทางการต่อสู้กรณีเงินจำนำข้าวที่ยังไม่ได้รับจากรัฐบาล พร้อมพร้อมพูดคุยแนวทางปฏิรูปเกษตรกร โดยตลอดทั้งวัน เครือข่ายเกษตรกรได้ร่วมหารือและพูดคุยกันถึงปัญหาและความคืบหน้าของการรับจำนำข้าวในแต่ละพื้นที่ ตลอดจนหาแนวทางขับเคลื่อนในการปฏิรูปเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรไม่ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง มีอำนาจในการต่อรอง สามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต รวมถึงแนวทางการเคลื่อนไหว โดยที่ประชุม มีมติร่วมกันว่า เครือข่ายเกษตรกร 20 จังหวัดภาคอีสาน พร้อมที่เดินทางไปร่วมสนับสนุนกับม็อบชาวนาส่วนกลางที่กรุงเทพฯ เพื่อเร่งรัดให้ภาครัฐหาเงินมาจ่ายค่าจำนำข้าวให้กับเกษตรกรโดยเร็วที่สุด ไม่ว่ารัฐจะหาเงินมาจากไหนก็ตาม เนื่องจากการทำนาต้องมีการลงทุน ทั้งค่าปุ๋ย ค่าหว่าน ค่าไถ โดยในวันพรุ่งนี้ (12 ก.พ.) เกษตรกรจะเคลื่อนไหวเดินทางไปชุมนุมที่ลำตะคลอง จังหวัดนครราชสีมาบางส่วน หากรัฐบาลไม่จ่ายเงินให้เกษตรที่เข้าโครงการรับจำนำข้าว จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯทันที

พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังมีมติจัดตั้งเวทีกระจายไปยังจุดต่าง ๆ ทั่วภาคอีสาน เพื่อให้ความรู้กับพี่น้องเกษตรกร ถึงแนวทางการปฏิรูปเกษตรกร เพื่อให้เกษตรสามารถลืมตาอ้าปากได้

‪#‎ทีนิวส์‬


"อดุลย์" เข้าทบ.แจง "ประยุทธ์" ออกหมายจับ 6 ทหารเอี่ยวยิง "ขวัญชัย" ปูด"พันโท" เบื้องหลังทีมยิง

"อดุลย์" เข้าทบ.แจง "ประยุทธ์" ออกหมายจับ 6 ทหารเอี่ยวยิง "ขวัญชัย" ปูด"พันโท" เบื้องหลังทีมยิง ด้านผบ.พล.ร.9 เผยยังไม่ได้รับหนังสือขอตัว ยัน 6 ทหารยังอยู่ในหน่วย ไม่ได้หนี พร้อมส่งตัวดำเนินการตามกม.

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมทีมพนักงานสอบสวนได้เดินทางเข้าพบ เพื่อหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ภายหลังจากที่ศาล จ.อุดรธานี อนุมัติหมายจับทีมมือปืนยิงนายขวัญชัย สาราคำ หรือ ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร โดยเป็นกำลังพลของกองทัพบกสังกัดกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9 ) จำนวน 6 นาย โดยพล.ต.อ.อดุลย์ ได้นำเอกสาร และสำนวนของพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับคดีดังกล่าวมาชี้แจงให้กับ ผบ.ทบ.รับทราบ และยืนยันว่า จะดำเนินคดีดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา และให้มีความโปร่งใสมากที่สุด

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่า จากการสอบสวนด้วยพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า มีนายทหารยศ พ.ท. สังกัดพล.ร.9 เป็นผู้อยู่เบื้องหลังคดีลอบยิงนายขวัญชัย ซึ่งขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชาพยายามโทรศัพท์ติดต่อ พ.ท.คนดังกล่าวแต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากปิดโทรศัพท์มือถือ

ด้านพล.ต.ไพโรจน์ ทองมาเอง ผบ.พล.ร.9 กล่าวว่า เบื้องต้นขณะนี้ทางหน่วยยังไม่ได้รับหนังสือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอตัวทหารไปรับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด แต่ถ้ามีหนังสือขอตัวมา ทางหน่วยต้นสังกัดก็จะดำเนินการตามขั้นตอนและกระบวนการ โดยทางหน่วยจะส่งนายทหารพระธรรมนูญเข้าร่วมด้วย ทั้งนี้คาดว่าหนังสือดังกล่าวไม่ได้ส่งตรงมายังพล.ร.9 เลย แต่น่าจะส่งมายังส่วนกลาง คือกองทัพบก ส่วนรายชื่อทหารทั้ง 6 นายที่ศาลอนุมัติหมายจับนั้น จากการตรวจสอบรายชื่อพบว่า ทหารทั้งหมดมีชื่ออยู่ในสังกัดพล.ร.9 จริง แต่ทหารดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับคดีอย่างไรหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน แต่ยืนยันว่าทางหน่วยต้นสังกัดไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ส่วนจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือการเมืองท้องถิ่นนั้นขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน โดยทหารที่มีชื่อดังกล่าวยังคงเดินทางมาทำงานตามปกติ ซึ่งตนเองก็ได้มีการพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอะไร เพราะขณะนี้ทหารทั้งหมดถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ โดยจะต้องรอกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป.


การประชามติออกกม.ควบคุมคนต่างชาติในสวิสเสียงฝ่ายขวา1%ชนะ


ประชาธิปไตยมั้ยล่ะครับ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พลเมืองสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่มีสัดส่วนประชากรต่างชาติมากสุดในยุโรป ทำประชามติครั้งสำคัญเกี่ยวกับการมีกฎหมายควบคุมคนเข้าเมือง 

ผลปรากฏว่าฝ่ายที่ต้องการให้ออกกม.ควบคุมจำนวนคนต่างชาติชนะ แต่ไม่ถึง 1% (50.4%) โดยมีคนมาลงคะแนนเสียงเพียง 56% คนที่ไม่ต้องการให้มีกฎหมายควบคุมคนเข้าเมืองเป็นพวกพูดฝรั่งเศส แต่สวิสที่พูดเยอรมันอยากให้ควบคุม เรียกว่าแบ่งประเทศได้ครึ่ง ๆ 

ถึงสวิสไม่ได้เป็นสมาชิก EU แต่ผลการเลือกตั้งที่สะท้อนความคิดขวา ๆ และคุกคามนโยบาย “ไร้พรมแดน” ทำให้คณะกรรมาธิการ EC ต้องออกออกแถลงการณ์ดักคอไว้ก่อน เพราะสวิสเองมีความตกลงระดับทวิภาคีเรื่องการเข้าเมืองกับ EU และไม่นับกรณีที่สวิสเป็นส่วนหนึ่งของ Schengen ซึ่งปรกติแล้วใครมีวีซ่า Schengen เดินทางเข้าออกประเทศเหล่านี้ได้เสรี

ผู้อยู่เบื้องหลังการผลักดันประชามติครั้งนี้คือ พรรค Swiss People's Party (Schweizerische Volkspartei – SVP) พรรคฝ่ายขวา กระแสพรรคการเมืองขวากำลังมาแรงในยุโรป ไม่เฉพาะในสวิส แต่ลามไปถึงในฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และล่าสุด นอร์เวย์ พวกเขาอ้างว่าคนต่างชาติ migrants เหล่านี้ทำให้รัฐต้องตัดสวัสดิการของพลเมืองตนเองลง ทำให้เกิดการว่างงาน (ทั้ งๆ ที่สวิสมีอัตราการว่างงานต่ำสุดในยุโรป 4% เท่านั้น และพนักงานบริษัทใหญ่ ๆ ในสวิส เป็นต่างชาติทั้งนั้น) พรรคการเมืองนี้เคยอยู่เบื้องหลังการผลักดันให้ลงคะแนนเสียงออกกฎห้ามมัสยิดสร้าง “หอสวด” หรือ Minarets มาแล้วเมื่อปี 52 นี่เอง

ผลจากการลงประชามติครั้งนี้ ทำให้รัฐบาลสวิสต้องไปจัดทำร่างกฎหมายควบคุมโควตาคนเข้าเมืองให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี ครับ ประชาธิปไตยเป็นอย่างนี้ เราไม่ได้สิ่งที่เราคาดหวังเสมอไป แต่สำคัญคือการเล่นตามกติกา ซึ่งถ้าทำได้ เราจะหลีกเลี่ยงความรุนแรงและความเดือดร้อนในวงกว้างได้ เป็นการแกปัญหาอย่างสันติวิธีที่สุด และเรียนรู้ที่จะอยู่กับความแตกต่าง

http://www.nytimes.com/2014/02/10/world/europe/swiss-voters-narrowly-approve-curbs-on-immigration.html

http://www.theguardian.com/world/2014/feb/09/swiss-referendum-immigration-quotas

http://www.businessweek.com/articles/2014-02-10/will-the-swiss-turn-against-immigration-force-out-expat-executives


เปิด 22 รายชื่อล็อตแรก ศรส.อ้างเป็นท่อน้ำเลี้ยง “ม็อบกำนัน”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
11 กุมภาพันธ์ 2557 19:31 น.  

เผย 22 ใน 136 รายชื่อ ศรส.อ้างเป็นท่อน้ำเลี้ยง กปปส.มีทั้งสหพัฒน์ เบียร์สิงห์-เบียร์ช้าง ยาคูลท์ กาแฟเขาช่อง ดุสิตธานี อินเตอร์คอนติเนนตัล ห้างเกษร-พารากอน คิงเพาเวอร์ เมืองไทยประกันชีวิต 
ไทยน้ำทิพย์ นายทุนน้ำตาล “มิตรผล-วังขนาย” รายบุคคลมีทั้ง “เสี่ยกระทิงแดง” พ่วง “นวลพรรณ-ทยา” แถมท้าย “ศักดิ์ชัย กาย”
     
       วันนี้ (11 ก.พ.) ตามที่ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) เตรียมจะประกาศรายชื่อกลุ่มทุนที่ ศรส.อ้างว่าเป็นผู้สนับสนุนการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ทั้งหมด 136 รายชื่อ แม้ในวันนี้นายธาริต เพ็งดิษฐ์  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จะยังไม่มีการประกาศรายชื่อทั้งหมด โดยอ้างว่าเพื่อความรอบคอบและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น “เอเอสทีวีผู้จัดการ” ทราบว่า ศรส.จะเรียกมาชี้แจงบางส่วน จำนวน 22 รายชื่อ ดังนี้
     
       ได้แก่ นิติบุคคล ประกอบด้วย บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน), บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด, กลุ่มบริษัทกาแฟเขาช่อง, โรงแรมดุสิตธานี, กลุ่มโรงแรมสยาม อินเตอร์คอนติเนนตัล, ห้างสรรพสินค้าเกษรพลาซ่า, ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน, บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด, บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, กลุ่มมิตรผล, กลุ่มวังขนาย, โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ
     
       ส่วนบุคคลธรรมดา ได้แก่ นายชุมพล สุกใส นายอำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี, บุคคลในตระกูลอยู่วิทยา เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดงและเรดบูล, นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานคณะกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กรรมการบริษัท บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย), คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
     
       นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด อดีตผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อดีตที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นางทยา ทีปสุวรรณ ผู้บริหารโรงเรียนศรีวิกรม์ นักธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ภรรยา นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์, นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการกลุ่มน้ำตาลมิตรผล และ ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย และนายศักดิ์ชัย กาย บรรณาธิการนิตยสารลิปส์ เป็นต้น

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์: ที่ม็อบไม่ยอมไปปิด



กลยุทธ์ปิดล้อมของ ม็อบ กปปส. เป็นไปอย่างสะเปะสะปะ นึกอยากจะไปปิดที่ไหนก็ไป โดยไม่มีแผนการณ์รองรับและต่อเนื่อง วันก่อนไปปิด "กรมชลประทาน" สั่งให้ข้าราชการทุกคนออกมาจากตึก แล้วคล้องโซ่ปิดประตู ไม่ยอมให้ใครทำงาน

แล้วบรรดาเกษตรกรชาวนาจะไปเอาน้ำที่ไหน? ใครจะเป็นคนวางแผนให้? เพราะกรมชลประทานมีหน้าที่โดยตรงในการควบคุมวางแผนจัดสรรน้ำให้กับเกษตรกรทั้งประเทศ คุณคิดว่าทำอย่างนี้ฉลาดหรือโง่? เท่ากับทำร้ายเกษตรกรไทยทั้งประเทศ ไหนบอกว่าเห็นใจชาวนา อย่างนี้เท่ากับไปฆ่าชาวนาชัดๆ

แกนนำประกาศทุกวี่ทุกวัน "ชัตดาวน์กรุงเทพฯ" แต่ไม่ประสบความสำเร็จเสียที เพราะไปปิดสารพัดที่ ไม่ว่ากระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ เลยเถิดไปถึงกรมการกงสุล สถานที่ทำพาสปอร์ต ไปทำร้ายประชาชนให้เดือดร้อนเข้าไปอีก

ไม่เห็นรัฐบาลจะ "เดือดเนื้อร้อนใจ" ตรงไหน แต่เกษตรกรยันประชาชนเขาเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า

สถานที่เดียว ที่ม็อบไม่เคยไปแตะต้อง อันเป็นหัวใจของการชัตดาวน์กรุงเทพฯคือ "ศาลาว่าการกทม.” ที่เสาชิงช้า อู่ข้าวอู่น้ำของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นที่ที่คุณสุขุมพันธ์พรรคประชาธิปัตย์ ดำรงค์ตำแหน่งผู้ว่าฯอยู่ ไม่ใช่ของพรรคเพื่อไทย จึงไม่เคยไปปิด สั่งให้ราชการออก เอาโซ่ไปคล้อง เป็นการเลือกที่รักมักที่ชัง เล่นการเมืองแบ่งพรรคแบ่งพวก ฝั่งไหนเป็นประโยชน์กับพรรคตัวเองไม่แตะต้อง ฝั่งไหนเป็นของพรรคตรงข้ามก็ตามย่ำยี

ปากบอกจะหานายกฯคนกลางมาปฏิรูป ทำแบบนี้จะปฏิรูปไหวหรือ? เห็นชัดๆว่าปกป้องแต่ผลประโยชน์ของพรรคตัวเอง คนจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ดูหมากการเมืองไม่ออก ต้องให้ชูวิทย์มาบอก

ส่วนที่ม็อบประกาศให้ตำรวจเร่งจับคนยิง ปาระเบิดทำร้ายม็อบ แต่ระเบิดที่ "บรรทัดทอง" ผู้ชุมนุมตายไปหนึ่ง นายประคอง ชูจันทร์ กลับทำเฉย แรกๆตรวจพบห้องพักในตึกร้าง บอกว่าเป็นคลังอาวุธ แต่ดันเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจ เลยปล่อยจนถึงเดี๋ยวนี้ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนร้าย เพราะเกี่ยวข้องกับ กทม. เลยเว้นวรรคให้ ไม่สนใจติดตามเพราะกลัวจะเข้าตัว

แล้วยังมีเรื่อง "ถุงทราย" ที่กทม.อ้างว่าเอาไว้ป้องกันน้ำท่วม ทำไปทำมา กลายเป็นว่าเอาไปให้ม็อบ คปท. ใช้ล้อมทำเนียบรัฐบาล ให้มันได้แบบนี้สิครับ ม็อบ กปปส. หรือ ม็อบ คปท. ควรจะเรียกว่า ม็อบ กทม. สนับสนุนกันชัดๆไปเลย ไม่ต้องปากว่าตาขยิบ

มันเป็นเรื่องของการแย่งชิง "อำนาจการเมือง" ประชาชนตกเป็นเหยื่อ ปากเป่านกหวีด ตาลอยละห้อย เหมือนต้องมนต์หมอผีพ่นคาถา เป่ากระหม่อมทุกค่ำคืน โดยไม่สนว่าประชาชนที่ไหนจะเดือดร้อน

ธาตุแท้ของนักการเมืองที่ลาออกเฉพาะชื่อ แต่ในใจยังสิงสถิตย์ทำประโยชน์ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ อะไรที่เป็นประโยชน์ ยินยอมพร้อมใจถวายหัวทำให้ ส่วนอะไรที่เป็นของพรรคตรงข้าม ต้องทำลายกันเสียให้ยับเยินป่นปี้

ม็อบนอนกันข้างถนน กินข้าวกล่อง ส่วนบรรดาแกนนำนอนอินเตอร์คอนฯ กับ ดุสิตธานี กินบุฟเฟ่ต์หลากชนิด

หากยังไม่รู้ก็รู้ไว้เสียด้วย บรรดาหมอ วิศวะ ดารา ประชาชน ทั้งนายทุนท่อน้ำเลี้ยง ช่วยตื่นจากภวังค์ เอานกหวีดออกจากปาก แล้วจะรู้ว่าถูกนักการเมืองหลอกใช้ มันเป็นเรื่องของกิเลสตัณหาการเมือง ผลประโยชน์ของพรรคตัวเองแท้ๆ


ลูกสาว "สนธิญาณ" เผยนาทีตำรวจปีนรั้วบุกค้นบ้าน 1

ลูกสาว "สนธิญาณ" เผยนาทีตำรวจปีนรั้วบุกค้นบ้าน 2

คำต่อคำ : ลูกสาว "สนธิญาณ" เผยชัด!! นาทีตร.พกอาวุธ-ปีนรั้วบุกค้นบ้านสุดอุกอาจ !!

คำต่อคำ : ลูกสาว "สนธิญาณ" เผยชัด!! นาทีตร.พกอาวุธ-ปีนรั้วบุกค้นบ้านสุดอุกอาจ !!
คำต่อคำ ลูกสาว "สนธิญาณ" เปิดเผยช่วงเวลาตำรวจบุกค้นบ้าน ชี้ไม่มีการบอกกล่าว-กดกริ่ง แต่บุกปีนเข้าบ้านสุดอุกอาจ-บางส่วนมีอาวุธ พร้อมยืนยันในบ้านไม่เจอสิ่งผิดกฏหมาย
วันนี้ ( 11 ก.พ.57 )  สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาพ.ต.ท.สายัณห์ปุ๋ย หนองโพสารวัตรปราบปรามสภ.โพธิ์แก้วนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า30นายพร้อมอาวุธครบมือบุกค้นบ้านเลขที่90/142หมู่บ้านพุทธธานีต.กระทุ่มล้มอ.สมพรานจ.นครปฐม ของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ตามพรก.ฉุกเฉินเมื่อวานนี้  โดยขณะเข้าค้นภายในบ้านซึ่งมีเพียงภรรยา ลูกสาวพ่อบ้านคนขับรถและคนงานในบ้านเท่านั้น  หลังจากใช้เวลาค้นบ้านนานกว่า3ชม.เจ้าหน้าที่พบเพียงเสื้อเกราะและวิทยุสื่อสารจึงควบคุมตัวนายวรพจน์ ไชยเดช.อายุ51ปี.พ่อบ้านและนายประมวญประจันนวลอาย45ปีคนขับรถนายสนธิญาณมาสอบปากคำที่สภ.โพธิ์แก้ว
ล่าสุดผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์ได้ลงพื้นที่สัมภาษณ์ นางสาวกิ่งการะเกด ชื่นฤทัยในธรรม ลูกสาวนายสนธิญาณ ขณะเดินทางไปดำเนินเรื่องประกันตัว พ่อบ้าน และคนขับรถ ที่สภ.โพธิ์แก้ว โดยเนื้อหามีดังนี้
ผู้สื่อข่าว : เหตุการณ์เป็นยังไง ?
ก็ในช่วงเวลาประมาณ 6.24 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาที่ในบ้าน ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า เข้ามาในลักษณะปืนรั้วเข้ามา แล้วทำการเปิดประตูอะไรเอง แล้วให้เจ้าหน้าที่ท่านอื่นเข้ามาในบ้าน แต่ว่าก็ยังไม่ได้เข้ามาอยู่ในตัวบ้าน แต่ก็มีการเดินตรวจสอบสิ่งของต่างๆ ในบริเวณพื้นที่บ้าน และก็มีการรวบตัวของคนรถ และคนดูแลบ้าน ที่โรงรถ
ผู้สื่อข่าว : เราได้ยินเสียงเรียกหรือกดกริ่งมั้ย ?
ไม่มีการกดกริ่งหรือเสียงเรียกอะไรเลย อันนี้ก็เท่าที่ดูจากกล้องวงจรปิด ตามบันทึกคือไม่มีการกดกริ่งปืนข้าวรั้วเข้ามาเลย และปลดล็อคประตูให้เจ้าหน้าที่ท่านอื่นเข้ามา
ผู้สื่อข่าว : แล้วเราได้ขอดูหมายค้นมั้ย ?
ในเบื้องต้นก็ขอดู ทางเจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติตามขั้นตอนมีหมายมาถูกต้อง
ผู้สื่อข่าว : หลังจากที่ค้นภายในบ้านแล้วเจ้าหน้าที่ทำอย่างไรต่อ ?
หลังจากที่ขอดูหมาย เลยให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในบ้าน แต่ก็ไม่เจออะไรหรือสิ่งผิดปกติ ผิดกฏหมาย
ผู้สื่อข่าว : หลังจากนี้เราจะมีการดำเนินคดีเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ที่บุกเข้ามาในบ้าน ?
เบื้่องต้นต้องปรึกษาทนาย กับผู้ที่เกี่ยวข้องเพราะเป็นการเข้ามาที่อุกอาจ ต้องแจ้งว่าเจ้าหน้าที่เข้ามาพร้อมอาวุธจากที่เห็นก็ค่อนข้างตกใจนิดนึง เป็นการเข้ามาอย่างที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้าไม่มีการกดออดเรียก
ผู้สื่อข่าว : เรื่องนี้เป็นปัญหาการเมืองหรือเปล่า เพราะคนที่โดนหมายค้นโดนควบคุมตัวไว้แล้ว ?
เรื่องนี้ก็ต้องบอกเลยนะคะว่าไม่แน่ใจ เพราะหลังจากที่เมื่อวานไปเยี่ยมคุณพ่อมาที่ ตชด.ภาค1 ก็คิดว่าเรื่องราวก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ทางผู้กำกับก็รับปากจะดูแลเป็นอย่างดีทั้งคุณพ่อและครอบครัวของเรา
ผู้สื่อข่าว : กลัวมั้ยว่าจะมีคนไปโยงเรื่องค้นบ้านเข้ากับเรื่องของการเมือง ?
อาจจะมีกังวลบ้างนิดนึง ก็อยากจะให้ช่วยให้ความเป็นธรรมกับทางครอบครัวด้วย
ผู้สื่อข่าว : คุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง ?
อาจจะมีตกใจบ้างเล็กน้อยเลยส่งกิ่งมาแทน
ผู้สื่อข่าว : อันนี้คือมาดำเนินการเรื่องการประกันตัวคนในบ้าน ?
เบื้่องต้นจะมาประกันตัวก่อนในเรื่องที่จะฟ้องหรือไม่อยู่ในดุลยพินิจของทนายและผู้ที่เกี่ยวข้องให้ช่วยชี้ทาง
ผู้สื่อข่าว : ในส่วนของคุณพ่อที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกปปส.หรือเรื่องการเมืองเรามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
คือต้องเข้าใจก่อนว่าในส่วนของคุณพ่อเข้าไปช่วย กปปส.เป็นเรื่องของอุดมการณ์เข้า ทางบ้านก็เป็นเบื้องหลังช่วยสนับสนุนเรื่องกำลังใจ แต่ถ้าถามว่าเกี่ยวข้องมั้ยก็ไม่อยากให้เอาส่วนของครอบครัวของแกนนำเข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของการเมือง
ผู้สื่อข่าว : อยากจะฝากเรียนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจมั้ยว่าในส่วนของการเมืองก็การเมือง ประชาชนก็ประชาชน
อยากฝากว่าไม่อยากให้ทำการปฏิบัติกับประชาชนเกินกว่าเหตุในแบบที่เกิดขึ้น อาจจะขอตรวจค้นในลักษณะถ้อยทีถ้อยอาศัย ให้เกียรติเจ้าของบ้าน ไม่อุกอาจแบบนี้ ไม่เกินกว่าเหตุแบบนี้


"เมียมือยิงฆ่าขวัญชัย" บี้แจ้งความ ! อ้าง ผัวโดนทำร้ายก่อนจับกุม ? และไม่มีหมายจับ ?

"เมียมือยิงฆ่าขวัญชัย" บี้แจ้งความ ! อ้าง ผัวโดนทำร้ายก่อนจับกุม ? และไม่มีหมายจับ ?

ภรรยาผู้ต้องหาพยายามฆ่าขวัญชัย เดินทางแจ้งความที่สภ.เมือง จ.อุดรธานี อ้าง ตร.จับกุมสามีโดยไม่มีหมายจับ ??? อีกทั้งยังทำร้ายร่างกายขณะจับกุม ???

วันนี้ (11 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ซัลมา บือราเฮง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 6 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พร้อมด้วยทนายความ เข้าเยี่ยม นายมะดือนัง มะแซ ผู้ต้องหาพยายามฆ่านายขวัญชัย สาราคำ ประธานชมรมคนรักอุดร ซึ่งถูกฝากขังไว้ที่เรือนจำกลางอุดรธานี

ต่อมาเวลา 14.30 น. น.ส.ซัลมาพร้อมด้วยทนายความเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประยงค์ จอมสมสา สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อขอแจ้งความว่าตนเป็นภรรยาของนายมะดือนัง ที่ถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำกลางอุดรธานี ขอร้องทุกข์ว่าการจับกุมนายมะดือนังนั้น ตำรวจไม่มีหมายจับและไม่ได้แสดงหมาย ???

โดยนายมะดือนังถูกทำร้ายร่างกายขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับกุม ??? นอกจากนี้คำให้การใดๆ ที่ให้ไว้แก่ตำรวจก็ไม่ได้เกิดจากความสมัครใจให้ปากคำ ???

ภาพจากเพจ "Tee Terapon

เมาท์กระจาย เมื่อประธานศาล ปค.สูงสุดโร่แจ้งความ

เมาท์กระจาย เมื่อประธานศาล ปค.สูงสุดโร่แจ้งความ

Author by  11/02/14No Comments »
 
โดย ประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์
กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ในศาลปกครอง เมื่อมีข่าวว่า นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด ได้มอบอำนาจให้ นายอโนชา ชัยวงศ์ นิติกร สำนักงานศาลปกครองไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์ข้อความเฟซบุ๊คในข้อหาดูหมิ่นประธานศาลปกครองสูงสุดที่ สน.ทุ่งสองห้อง โดยไม่ระบุว่า “ไม่รู้ตัวผู้กระทำผิด”
คำถามคือ ใครโพสต์ข้อความอะไรลงในเฟซบุ๊ค ถึงขนาดทำให้นายหัสวุฒิโกรธ ถึงขั้นไปแจ้งความดำเนินคดี
ต่อมาเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 ร.ต.ท.ชัยรัตน์ ธรรมสีหา พนักงานสอบสวน ได้ออกหมายเรียกพยานคือ นายพุฒิพงศ์ พงศ์อเนกกุล อยู่ย่านตลาดพลู เขตธนบุรี กทม.ไปให้การเป็นพยานในในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2557
(ในภาพหมายเรียก)
จากการตรวจสอบพบว่า นายพุฒิพงศ์ เป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาธรรมศาสตร์ เคยเรียนกับนายหัสวุฒิที่เป็นยังอาจารย์พิเศษสอนอยู่ที่คณะนิติศาสตร์ด้วย
นายพุฒิพงศ์ยอมรับว่า เคยโพสต์ภาพนายหัสวุฒิสองภาพและข้อความวิพากษ์วิจารณ์ลงในเฟซบุ๊ค Phuttipong Ponganekgul  ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่ให้ถูกพนักงานสอบสวนเรียกตัวไปเป็นพยาน
ขณะที่ ร.ต.ท.ชัยรัตน์ ธรรมสีหา พนักงานสอบสวน ยอมรับว่า ประธานศาลปกครองสูงสุดให้มาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้โพสต์ภาพดังกล่าว แต่ถ้าต้องการทราบรายละเอียดให้ไปที่สถานีตำรวจ
เมื่อตรวจสอบภาพสองภาพที่มีการโพสต์ลงในเฟซบุ๊คแล้ว  ถ้าดูเฉพาะภาพไม่แล้วไม่น่าจะเป็นการดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทใดๆ
ภาพแรกเป็น นายหัสวุฒิใช้มือแตะศรีษะผู้หญิงรายหนึ่ง นั่งหลับตาทำท่าเหมือนบริกรรมคาถา
ภาพสอง นายหัสวุฒิกำลังยืนกุมมือพระสงฆ์รูปหนึ่งแล้วทำท่าเหมือนบริกรรมคาถาเหมือนภาพแรก
ที่สำคัญภาพนี้มีการแพร่กระจาย และส่งต่อๆกันในหมู่ตุลาการและเจ้าหน้าที่สำนักงานศาลปกครองเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง

แต่ที่มีปัญหาจนถึงขั้นนายหัสวุฒิไปแจ้งความดำเนินคดีนั้น น่าจะเป็นข้อความใต้ภาพที่พูดถึงความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมในพฤติกรรมดังกล่าว
อย่างไรก็ตามข้อหาดูหมิ่นเป็นความผิดลหุโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 ซึ่งระบุว่า ผู้ใดดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณา ต้องระวางทาจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ว่ากันตามจริงแล้ว กรณีนี้เป็นเพียงเรื่องอื้อฉาวเล็กๆที่เกิดขึ้นในศาลปกครองเพราะในช่วงที่ผ่านมานับแต่ยุคนายอัขราทร จุฬารัตน์  เป็นประธานศาลปกครองสูงสุดจนมาถึงนายหัสวุฒิ ได้มีกรณีอื้อฉาวขึ้นในศาลปกครองหลายเรื่อง และมีการนำไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) อาทิ การเปลี่ยนองค์คณะศาลปกครองสูงสุดในการพิจารณาคดีแถลงการณ์ร่วมปราสาทพระวิหาร การแต่งตั้งอดีตตุลาการศาลปกครองสูงสุดเป็นที่ปรึกษาโดยหลายคนไม่มีภาระงานที่ชัดเจน  แต่ได้รับเงินเดือนสูงๆรวมแล้วปีละกว่า 5 ล้านบาท  ลูกสาวของผู้บริหารระดับสูงในศาลปกครองสูงสุดเป็นผู้ช่วยทนายความในคดีที่ผู้บริหารรายดังกล่าวเป็นผู้พิจารณาคดีด้วย
น่าเสียดายที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.เองก็ไต่สวนบางคดีอย่างล่าช้านานกว่า 3 ปี ทั้งๆที่มีพยานหลักฐานชัดเจนจนเชื่อกันในศาลว่า กรรมการ ป.ป.ช.บางคนให้ความช่วยเหลือเพราะมีความสัมพันธ์กันในอดีต
เรื่องราวเหล่านี้น่าจะมีการนำมาร้อยเรียงให้ทราบในคราวต่อๆไป