PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

"ปณิธาน" ยันนานาชาติกดดันไทยรับโรฮีนจาไม่ได้

"ปณิธาน" ยันนานาชาติกดดันไทยรับโรฮีนจาไม่ได้ ย้ำทำตามขั้นตอน ระบุแนวทางแก้ปัญหาชัดเจนขึ้นตามลำดับ

นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในการแก้ปัญชาวโรฮีนจาขณะนี้มีความชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ ในการร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมการในการประชุมหารือกันในวันที่ 29 พ.ค. นี้ โดยมีไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งถือว่าเป็นบทเรียนร่วมกันครั้งใหญ่ที่สหประชาชาติ อาเซียน และแต่ละประเทศต้องหันกลับมามองในเรื่องของภัยคุกคามสมัยใหม่ ในลักษณะความมั่นคงของมนุษย์

ทั้งนี้ ในการหารือวันที่ 29 พ.ค. นั้น จะเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศที่จะเป็นผู้ชี้แจง โดยขณะนี้มีการสรุปเบื้องต้นเพื่อส่งไปยังนานาประเทศที่เข้าร่วมให้รับทราบ ซึ่งยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ ส่วนประเด็นที่ประเทศมหาอำนาจหลายประเทศเรียกร้องให้ประเทศไทยรับคนเหล่านี้เข้ามานั้น ทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักการที่กำหนด โดยเฉพาะกฎหมายเรื่องการเข้าเมือง หลักมนุษยธรรม สิทธิมนุษยชน และหลักกฎหมายทางทะเล

สมชัย ไม่กังวลร่างรธน. - กกต.ไม่หวงอำนาจ กจต.

สมชัย ไม่กังวลร่างรธน. - กกต.ไม่หวงอำนาจ กจต. มองข้าราชการอาจถูกแทรกแซงจากนักการเมือง กมธ.ยกร่างฯ ต้องพิจาณา

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แสดงความกังวลถึงการกำหนดในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ใน 2 เรื่อง คือ ผลในอนาคตและไม่ต้องการเห็นถึงความขัดแย้งของสังคมไทย ส่วนในเรื่องกลุ่มการเมืองสมัครรับเลือกตั้งได้นั้น เป็นการเมืองที่มีความล้าหลัง มี ส.ส.อิสระ และก่อให้เกิดการเจรจาต่อรองเรื่องผลประโยชน์การซื้อเสียงในสภา ทำให้พรรคการเมืองมีความอ่อน
แอลง ส่วนเรื่องของคณะกรรมการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง (กจต.) ทาง กกต. ไม่ได้หวงอำนาจ แต่มองว่าข้าราชการอาจจะถูกแทรกแซงจากนักการเมือง ซึ่งกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะต้องพิจารณาในเรื่องนี้

สนช.มีมติผ่านความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ภาษีการรับมรดก โดยให้ผู้ได้รับมรดกเกิน 100 ล้านบาทขึ้นไปเสียภาษีร้อยละ5-10

สนช.มีมติผ่านความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ภาษีการรับมรดก โดยให้ผู้ได้รับมรดกเกิน 100 ล้านบาทขึ้นไปเสียภาษี ร้อยละ 5-10 ผ่อนชำระได้ 5 ปี

ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติผ่านวาระ 2 และวาระ 3 ของร่างพระราชบัญญัติภาษีการรับมรดกด้วยคะแนน 145 เสียง ไม่เห็นด้วย 5 เสียง เพื่อออกเป็นกฎหมายบังคับใช้โดยให้เสียภาษีในอัตราร้อยละ 10 ของมูลค่าในส่วนที่ต้องเสียภาษี แต่หากผู้ที่ได้รับมรดกเป็นผู้สืบสันดานจะได้รับมรดกจากบุพการีให้เสียภาษีในอัตราร้อยละ 5 และกำหนดให้ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีสามารถผ่อนชำระได้ในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี ทั้งนี้ จะกำหนดจัดเก็บตั้งแต่มูลค่ามรดก 100 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งนี้ การประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวใช้เวลากว่า 6 ช.ม. โดย นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก ยืนยันว่า กฎหมายฉบับนี้จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้และรายจ่ายให้กับคนในสังคมพร้อมทั้งช่วยยกระดับชีวิตประชาชนที่ยากไร้ให้ดีขึ้น โดยอัตราที่จัดเก็บดังกล่าวถือว่ามีความเหมาะสมแล้ว

ตัวแทนชาวบ้านจว.บุรีรัมย์ ได้เดินทางมาที่สถานฑูตจีน

สนทวีสุข(ทนาย) ตัวแทนชาวบ้านจว.บุรีรัมย์ ได้เดินทางมาที่สถานฑูตจีน ถ.รัชดาภิเษก กทม. วัตถุประสงค์ เพื่อยื่นหนังสือถึง นายหมิง ฟู่ขุย เอกอัครราชฑูตจีน ประจำประเทศไทย เรื่อง ขอให้รัฐบาล สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีนได้ระงับการดำเนินการของบริษัท ShaanxiYanchang Petroleum ประเทศไทย
ขณะรายงานอยู่ระหว่างประสานจนท.ประจำสถานฑูตเพื่อยื่นหนังสือต่อไป
: ตั้งแต่เตรียมการจนถึงวันเดินทางพี่น้องเราเจออุปสรรคมากมาย ไม่มีใครอยากทิ้งบ้าน หยุดทำงานหารายได้เพื่อมาตะลอนๆ ที่เมืองใหญ่ แต่จำเป็นต้องมาเพราะความเดือดร้อน 

"ทักษิณ" ให้สัมภาษณ์ที่เกาหลีใต้ ซัด "องคมนตรี" และคนในวัง ร่วมมือ "สุเทพ" เปิดทางรัฐประหาร

"ทักษิณ" ให้สัมภาษณ์ที่เกาหลีใต้ ซัด "องคมนตรี" และคนในวัง ร่วมมือ "สุเทพ" เปิดทางรัฐประหาร
22 พ.ค. 58 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า นช. ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน ได้ให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ โดยกล่าวถึงการเมืองในประเทศไทย ว่า “คือ ประเทศไทยนี่ ... ตราบใดที่เขาปล่อยให้ทำงาน ก็ยังมีอำนาจ แต่ถ้าไม่ปล่อยให้ทำงานก็ไม่มีอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองคมนตรีทั้งหลาย ก็เที่ยวนี้ก็.. ทหารก็จะฟังองคมนตรี เพราะตอนที่เขาไม่ต้องการให้เราอยู่ เขาก็ให้สุเทพออกมา และให้ทหารเข้ามาช่วย และก็มีพวกบางคนจากในวังมาช่วย เลยทำให้เราไม่มีอำนาจอะไร ผมก็เลยคุยกับนายกฯ ปูว่าเหตุการณ์เหมือนที่พี่โดนมา
ทหารเขาอาจจะชื่นชอบประชาธิปไตยแบบพม่า ที่พม่าเลิกแล้ว แต่เค้าชอบอย่างนั้นไง เราไม่รู้ ผมก็ยังตำหนิเค้าไป เขาก็ยังอายุน้อย เค้าคงโกรธ...ที่ปฏิวัติแบบนี้ เค้าก็คงโกรธว่าประเทศไทยมาดีๆแล้ว...แต่เค้าคงโกรธนะ เราเป็นครอบครัวสาธารณะ จะพูดอะไรต้องระมัดระวัง”

"พล.ต.สรรเสริญ" ซัด "พ.ต.ท.ทักษิณ" เอาแต่ผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง โดยไม่นึกถึงความเสียกหายบ้านเมือง !!

"พล.ต.สรรเสริญ" ซัด "พ.ต.ท.ทักษิณ" เอาแต่ผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง โดยไม่นึกถึงความเสียกหายบ้านเมือง !! - ตอก..."อดีตนายกฯ" สร้างความแตกแยกให้สังคม !! - ชี้ คสช. พูดจริงทำจริง !!
>>>>> อยู่ดีไม่ว่าดีบักแม้ว มีลมหายใจไปวันๆ รอเข้าโลงก็พอแล้ว นี่ถ้าเองเป็นคนธรรมดาซักหน่อย เค้าคงไม่ปล่อยให้นานขนาดนี้หรอก
วันนี้ (22 พ.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในทำนองเป็นความพยายามจากหลายฝ่าย จากการยึดอำนาจของกลุ่ม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการพูดเรื่องเก่าๆ อ้างเหตุผลเลื่อนลอยตามความเชื่อของตัวเอง และเอาผลประโยชน์ของตนเองและเครือข่ายเป็นที่ตั้ง โดยไม่ได้ใส่ใจกับความเสียหายของบ้านเมือง ที่ทำให้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ และเครือญาติ ขึ้นมามีอำนาจทางการเมือง
"ทุกเรื่องที่อดีตนายกฯ พูด มองตนเองเป็นเสมือนศูนย์กลางของจักรวาล เห็นคนอื่นเป็นฝ่ายตรงข้าม โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงว่า ตลอดช่วงเวลาที่ท่านอยู่ในตำแหน่ง มีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากเพียงใด มีการใช้อำนาจรัฐในทางมิชอบมากเพียงใด และสร้างให้เกิดความแตกแยกในสังคมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนแผ่นดินไทยเพียงใด ซึ่งการกล่าวให้ร้ายบุคคลอื่น และประเทศชาติ เป็นสิ่งที่อดีตนายกฯ ต้องรับผิดชอบ และไม่ควรอาศัยโอกาสที่อยู่ต่างประเทศพูดโดยไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้" รองโฆษกฯ กล่าว
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ประชาชนคนไทยทุกคนเข้าใจดีว่า ทำไมทหารต้องออกมารับผิดชอบบ้านเมืองในขณะนั้น ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ ผบ.ทบ.ในขณะนั้น ต้องตัดสินใจ และไม่มีใครสามารถมาชี้นำหรือกำหนดการปฏิบัติให้ท่านได้ เพราะท่านเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดต่อผลของทุกสิ่งที่ได้ตัดสินใจลงไป
"ความสงบสุขที่เกิดขึ้นในประเทศตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา เป็นเครื่องพิสูจน์การกระทำของ คสช.และรัฐบาล เพราะเราเชื่อว่า ประชาชนจะเข้าใจว่าใครจะสมควรได้รับการยอมรับ โดยดูที่การกระทำเป็นหลัก มิใช่พิจารณาจากวาทกรรม ซึ่งอาจปั้นแต่งให้สวยหรูแต่อาจจะตรงข้ามกับการกระทำโดยสิ้นเชิง" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว


บิ๊กตู่ เผย เบื้องหลังปฏิวัติ แจงข้อกล่าวหา"ทักษิณ"

พลเอก ประยุทธ์ นายกฯและหน.คสช. แจง ข้อกล่าวหา "พ.ต.ท.ทักษิณ" เบื้องหลังปฏิวัติ ยันองคมนตรี ไม่เกี่ยวปฏิวัติ 22พค.57 ยันตัดสินใจเอง "เพราะมันชีวิตผม" เสี่ยงชีวิต นำปฏิวัติ ถาม ถ้ามีใครสั่งให้ไปตาย จะไปมั้ย ผมตัดสินใจทำของผมคนเดียว ไม่มีใครสั่ง เพราะผมเห็นว่า ประเทศชาติ และประชาชน มีอันตรายอย่างร้ายแรงผมไม่ได้พูดเท็จเลย ไม่มีใครรู้ ผมทำคนเดียว ครอบครัวผมยังไม่รู้เลย ผมตัดสินใจ วันนั้น เดี๋ยวนั้น เพราะมันไปไม่ได้อีกแล้ว ผมยอมรับว่า ผมทำผิด แต่ถ้าผมปล่อยไปวันนั้นมันจะมีวันนี้ มั้ยบ้านเมืองอาจล่มสลายไปแล้วก็ได้ เปรยไม่อยากตอบโต้"คุณทักษิณ"เขาเป็นคนแบบนั้น ท่านจะพูดอะไร ก็ปล่อยท่านไปเถอะ แนะให้กลับมาสู้คดี ยันจะให้ความเป็นธรรม เพราะถ้าอยู่ต่างประเทศ ก็จะถูกกล่าวหา อยู่แบบนี้


'พลเมืองโต้กลับ' ฟ้อง 'คสช.' ข้อหา 'กบฏ' ศาลนัดฟังรับฟ้องหรือไม่ 29 พ.ค.

Fri, 2015-05-22 17:52

พลเมืองโต้กลับฟ้อง "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" กับพวก คสช.รวม 5 คน ข้อหากบฏตาม ม. 113 จากกรณีทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ศาลนัดฟังคำสั่งรับฟ้องหรือไม่ 29 พ.ค.
 
 
ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย
 
22 พ.ค. 2558 สำนักข่าวไทยรายงานว่า กลุ่มพลเมืองโต้กลับนำโดยนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ หรือพ่อน้องเฌอ กับพวก 15 คน พร้อมด้วยนายอานนท์ นำภา ทนายความกลุ่ม เดินทางมายังศาลอาญา รัชดาภิเษก เพื่อเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กับพวกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.รวม 5 คน ประกอบด้วยพลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย /พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง /พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว / พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ในข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ ที่เป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 จากกรณีเข้ายึดอำนาจทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งกลุ่มมองว่าเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม ศาลรับคำร้องไว้พิจารณา และนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ ในวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคมนี้
 
ทั้งนี้กลุ่มพลเมืองโต้กลับ มีความพยายามนัดรวมตัวที่รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีลาดพร้าว เพื่อเดินเท้ามายังศาลอาญาในวันนี้ แต่ตำรวจไม่ยินยอมได้เข้าเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ขึ้นรถตู้เดินทางมาส่งที่ศาลอาญาแทน โดยไม่ได้มีการควบคุมตัวหรือแจ้งข้อหาแต่อย่างใด

บิ๊กจิ๋ว ปัด ไม่เคยลงร่วมลง MOU โครงการคอคอดกระ ยัน ข่าวเท็จ

บิ๊กจิ๋ว ปัด ไม่เคยลงร่วมลง MOU โครงการคอคอดกระ ยัน ข่าวเท็จ
Cr:ไทยรัฐ
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี แถลง ไม่เคยร่วมลง MOU โครงการคอคอดกระ ระหว่างไทยกับจีน ที่เมืองกว่างโจว เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ยันข่าว ถูกปล่อยออกมาจากผู้ไม่หวังดี ขณะภาพที่ปรากฏในโซเชียลฯ เป็นเท็จ
วันที่ 22 พ.ค. 58 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านพัก ซอยปิ่นประภาคม จ.นนทบุรี แถลงถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ได้ไปร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศไทยและจีน ในโครงการคอคอดกระ ที่เมืองกว่างโจว เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ขอปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง จนต้องออกมาชี้แจง เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนได้ โดยที่ระบุว่าไปลงนามเมื่อวันที่ 15 นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะวันดังกล่าวเป็นวันเกิดของตน และตนอยู่กับพรรคพวกเพื่อนฝูงในประเทศไทย เรื่องนี้สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้
พล.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า จากนั้นผู้ที่ออกมาให้ข่าวก็มีการเปลี่ยนสถานที่ วัน และเวลา ในการลงนามจาก วันที่ 15 พ.ค. 58 เป็นวันที่ 10 พ.ค. 58 นั้น ยืนยันว่า ข่าวนี้ก็เป็นเท็จ และตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการลงนามดังกล่าวเช่นกัน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้ให้ข่าวดังกล่าวเป็นหนึ่งในคณะที่ไปพบกับรัฐบาลจีน ที่กว่างโจว จริง และมีการลงนามบันทึกข้อตกลงด้วย แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดว่า คือเรื่องใด โดยมีรัฐมนตรีคนหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ปรากฏอยู่ด้วย ส่วนที่มีข่าวว่า ตนใช้เอกสารลงนามที่มีตราสัญลักษณ์ของรัฐบาลนั้น ก็เป็นเรื่องเท็จ
"ข่าวที่เกิดขึ้นเป็นข่าวปล่อยจากผู้ไม่หวังดี โดยผู้ให้ข่าวหวังที่จะสร้างความตื่นตระหนก ขอย้ำว่า ข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเท็จ อีกทั้งข่าวที่ปรากฏออกมา ทราบว่า เพียงแค่ครึ่งวันก็มีการถอดข่าวดังกล่าวออก จากโซเชียลมีเดียทั้งหมด ตลอดชีวิตของผมที่ผ่านมา สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนมาโดยตลอด เมื่อมีข่าวนี้เกิดขึ้นอาจทำให้นานาชาติคิดว่า ไทยกับจีน จะร่วมมือกันทำอะไร เพื่อสร้างอิทธิพลให้เกิดขึ้นบริเวณนี้หรือไม่ ผมยืนยันว่า ไม่เคยทำอะไรที่จะสร้างความกระทบกระเทือนและเสียหายระหว่างไทยกับจีน" พล.อ.ชวลิต กล่าว
เมื่อถามว่า ส่วนรูปที่มีการปล่อยออกมา โดยมีภาพของ พล.อ.ชวลิต ร่วมลงนามกับนักธุรกิจของจีน พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ภาพดังกล่าว ถ่ายขึ้นเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่ภายในประเทศไทย ซึ่งตนกับนักธุรกิจจีนได้หารือเรื่องการทำงาน การสร้างถนน ส่วนโครงการคอคอดกระก็มีเพียงแค่การพูดถึง แต่ไม่มีการลงนามใดๆ ทั้งสิ้น


รวบนักเคลื่อนไหวท้าทายคสช. หลังจัดกิจกรรมต่อต้านรัฐประหาร

รวบนักเคลื่อนไหวท้าทายคสช. หลังจัดกิจกรรมต่อต้านรัฐประหาร
Cr:แนวหน้า
22 พ.ค. 58 เมื่อเวลา 13.00 น. กลุ่มวายพีดี 11 คน นำโดยนายธัชพงศ์ แกดำ กรรมการกลุ่ม และนายสุร แก้วเกาะสะบ้า เลขาธิการกลุ่ม ได้เดินทางมายังอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และเข้าพูดคุยกับ พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เพื่อขอจัดกิจกรรมตามกำหนดการเดิม โดยพ.ต.อ.อรรถวิทย์ ยืนยันไม่ให้จัดกิจกรรมในบริเวณดังกล่าว เพราะเกรงว่าอาจขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขณะที่นายธัชพงศ์ ได้ขอเข้าไปกับพูดคุยกับกลุ่ม
จากนั้น นายสุร ได้อ่านแถลงการณ์เรื่อง "คัดค้านรัฐประหาร ต่อต้านการกระทำอันไม่เป็นประชาธิปไตย" ทันที โดยมีเนื้อหาสรุปว่า ขอประณามพฤติกรรมการใช้อำนาจของ คสช. ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา คือ 1. แต่งตั้งทหารและพวกพ้องมาดำรงตำแหน่งสำคัญและการกระทำโดยไม่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม 2. สภานิติบัญญัติ (สนช.) ที่ตั้งขึ้น ออกกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนและไม่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์แท้จริงของประชาชน 3. ลิดรอนเสรีภาพ อิสรภาพ การแสดงออกของประชาชนและสื่อมวลชน และละเมิดสิทธิชุมชนโดยใช้คำสั่งห้ามจัดเสวนาทางวิชาการและการพูดในที่สาธารณะมากมาย 4. แปรรูประบบการศึกษาอย่างน่าไม่อาย ด้วยร่างพระราชบัญญัติให้มหาวิทยาลัยบางแห่งออกนอกระบบ โดยมีสมาชิก สนช.หลายคนเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยที่มีส่วนได้เสีย 5. รัฐธรรมนูญที่กำลังร่างอยู่ในขณะนี้ มีหลายมาตราที่มีข้อกังขาว่าลดอำนาจของประชาชน
ซึ่งเมื่ออ่านแถลงการณ์จบ ทั้ง 11 คนพยายามที่จะดำเนินการเสวนาต่อไป โดยนั่งพูดคุยกันบริเวณบันไดด้านหน้าทางเข้าอนุสรณ์สถานฯ ประมาณ 5 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้ามาเชิญตัวทั้ง 11 คนขึ้นรถกระบะไปยังสถานีตำรวจชนะสงคราม ซึ่งระหว่างการขึ้นรถกระบะนั้น กลุ่มวายพีดี พร้อมใจกันตระโกนว่า "สิทธิชุมชน เสรีภาพ การศึกษา ประชาธิปไตย" ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
พ.ต.อ.อรรถวิชย์ เปิดเผยว่า เป็นการเชิญตัวไปพูดคุยซักถาม เพราะขณะนี้ทั้งหมดยังไม่ถือว่ามีความผิด แต่การกระทำอาจเข้าข่ายขัดคำสั่ง คสช. ที่ห้ามชุมนุมเกิด 5 คน จากนั้นก็ได้ปล่อยตัวไปโดยไม่มีการแจ้งข้อหา โดยภายหลังได้รับ0การปล่อยตัว กลุ่มวายพีดีทั้ง 11 คน ได้มายืนอ่านบททวีที่หน้า สน.ชนะสงคราม อีกด้วย


นศ.รามฯเรียกร้องนายกฯมาจากการเลือกตั้ง

22 พ.ค. 58 เมื่อเวลา 12.00 น. ที่รัฐสภา กลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ในนามกลุ่มเสียงจากคนหนุ่มสาว พร้อมด้วยกลุ่มราม-พรหมคีรี และกลุ่มกล้าคิด สร้างมิตร สร้างประชาธิปไตย นำโดยนายนันทพงศ์ ปานมาศ ผู้ประสานงานกลุ่มเสียงจากคนหนุ่มสาว ได้ยื่นหนังสือ
ประเด็นสำคัญเรียกร้อง1ให้นายรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง
2สมาชิกวุฒิสภาจะต้องมาจากการเลือกตั้ง
3.ขอให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองกลับไปศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์กลับมาทำร้ายประชาชนอีก


มอบตัว “กิตติศักดิ์ มัทธุจัด“ ผู้ต้องหาโกงเงิน สจล. บินจากอังกฤษขอสู้คดี

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 22 พ.ค. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นำเจ้าหน้าที่ บก.ป. เข้าควบคุมตัว นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2363/2557 ลง 26 ธ.ค. 57 ข้อหาปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันลักทรัพย์, ร่วมกันฟอกเงิน โดยผู้ต้องหาเดินทางมากับสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG911 จากลอนดอน ประเทศอังกฤษ เครื่องลงเวลาประมาณ 05.40 น. หลังดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายกิตติศักดิ์แล้ว จึงได้นำตัวเพื่อไปดำเนินคดีต่อไป
สำหรับนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด เป็น 1 ในผู้ต้องหา และเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ ที่เป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในคดีร่วมกันลักทรัพย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ไปกว่า 1.6 พันล้านบาทที่ผ่านมา หลบหนีไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ
ทั้งนี้ ในการกลับประเทศครั้งนี้ นายกิตติศักดิ์เป็นผู้ติดต่อขอมอบตัวด้วยตนเองเพื่อมอบตัวและสู้คดี ทาง พล.ต.ท.ประวุฒิ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามไปควบคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนรายละเอียดอื่น จะแถลงข่าวอีกครั้งที่กองบังคับการปราบปราม ในวลา 10.00 น. วันที่ 22 พ.ค.นี้


จับ ‘ดาวดิน’ เข้าห้องขังทันที หลังชูป้าย คัดค้านรัฐประหาร ที่ขอนแก่น

Fri, 2015-05-22 14:26

"ขอเชิญตัวแต่โดยดี ถ้าไม่ไปจะมีมาตรการเพิ่ม" เจ้าหน้าที่บอกก่อนจับกุม นักศึกษากลุ่มดาวดิน หลังชูป้ายผ้า คัดค้านรัฐประหาร ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น
22 พ.ค. 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 13.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จังหวัดขอนแก่น นักศึกษากลุ่มดาวดินได้ออกมาแสดงสัญลักษณ์คัดค้านการรัฐประหาร โดยการถือป้ายผ้าที่เขียนข้อความว่า “คัดค้านรัฐประหาร” และได้พูดถึงปัญหาสำคัญประเด็นหนึ่งที่เกิดขึ้นหลังจากมีการรัฐประหารคือ ประเด็นปัญหาด้านทรัพยากร เช่น เหมืองแร่ทองคำ การจัดการน้ำ ปิโตรเลียม การไล่รื้อที่ดินจากแผนแม่บทป่าไม้และที่ดิน โดยระบุว่า การกระทำทั้งหลายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้สะท้อนให้เห็นถึงการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุน และไม่สนในประเด็นเรื่อง สิทธิ เสรีภาพ และสิทธิชุมชน
“จริงๆ แล้วการรัฐประหารเป็นการตัดตอนประชาธิปไตย ตัดอำนาจประชาชน ซึ่งประชาชนทุกคนควรมีสิทธิมีเสียงในประเทศตัวเอง แต่อำนาจกลับถูกคนแค่กลุ่มเดียวมายึดเอาไป ส่วนเหตุผลที่เลือกชูประเด็นเรื่องทรัพยากรก็เพราะว่ากลุ่มของพวกเราก็ทำงานเรื่องนี้อยู่แล้ว จึงเห็นปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นว่าได้มีหน่วยงานรัฐและทหารมาอำนวยความสะดวกให้กลุ่มนายทุน รวมถึงการใช้อำนาจในการกดขี่ไม่ให้ชาวบ้านสามารถออกมาต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านของตัวเองได้ พวกเราจึงต้องการออกมาแสดงจุดยืนในการต้อต้านอำนาจที่ไม่เป็นธรรม ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน ต่อต้านอำนาจที่ไม่รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ต่อต้านรัฐทหาร ต่อต้านเผด็จการและต่อต้าน คสช. อีกเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่น เพราะว่า ที่แห่งนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย ที่โดน คสช. ขโมยไปจากประชาชนคนไทย และเรายังเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราทำคือสิ่งที่ถูกต้องการวิพากษ์การทำงานของรัฐบาล เป็นสิทธิและเสรีภาพของทุกคน ถ้า คสช. คิดว่าผิด ประเทศนี้ก็เป็นประเทศของเผด็จการไปแล้ว” นายภานุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ หนึ่งในนักศึกษาที่ออกมาแสดงความคิดเห็นกล่าว
ต่อมาเวลา 13.27 น. เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ได้เข้าจับกุมนักศึกษากลุ่มดังกล่าว ทั้งหมด 7 คน คือ จตุภัทร บุญภัทรรักษา อภิวัฒน์ สุนทรารักษ์  พายุ บุญโสภณ  ภานุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์  สุวิชชา ฑิพังกร ศุภชัย ภูครองพลอย และ วสันต์ เสธสิทธิ โดยในระหว่างเข้าจับกุ่มเจ้าหน้าที่ได้กล่าวว่า "ขอเชิญตัวแต่โดยดี ถ้าไม่ไปจะมีมาตรการเพิ่ม"
ขณะเดียวกัน เพจดาวดิน สังกัดพรรคสามัญชน รายงานว่า เวลา 13.40 น. นักศึกษาทั้ง 7 คน และผู้ติดตามจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รวมทั้งหมด 13 คน ได้มาถึงมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร (มทบ.23) โดย นศ.ทั้ง 7 คน ถูกนำตัวเข้าห้องขังทันที
อัทเดพรายชื่อผู้ถูกควบคุมตัว จากเดิมที่ทราบชื่อทั้งหมด 7 คน คือกลุ่มนักศึกษาดาวดินที่ออกไปชูป้ายผ้า ล่าสุดทราบว่าในจำนวน 13 คน ที่อยู่ที่ค่ายศรีพัชรินทร มีนักศึกษากลุ่มดาวดินอีก 3 คนคือ จุฑามาส ศรีหัตถผดุงกิจ ขวัญหทัย ปทุมถาวรสกุล และจิรัขญา หาญณรงค์ และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ทนายความฯคือ ดวงทิพย์ ฆารฤทธิ์ ธีระยุทธ สินธุโคตร และจิรวิชญ์ ฉิมมานุกูล ซึ่งติดตามไปในฐานะผู้สังเกตการณ์ ถูกควบคุมตัวด้วย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้ง 13 คน ถูกนำตัวมาที่ สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองขอนแก่นแล้ว

สหรัฐฯหนาวจีนกำลังวางแผนเสนอกำหนดราคาอ้างอิงทองคำเป็นเงินหยวน

(20 พ.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Americans Fear Beijing, Moscow May Introduce New Gold Standard" อัยย๊ะ! ทำเป็นเล่นไปนะสหรัฐฯเอ๋ย จีนกับรัสเซียเอาจริงนะนี่
Sputnik อ้างสำนักข่าว Deutsche Wirtschafts Nachrichten (DWN) ว่า "จีนกำลังวางแผนเสนอกำหนดราคาอ้างอิงทองคำเป็นเงินหยวน ชาวอเมริกันหวาดกลัวว่าจีนอาจจะกำหนดมาตรฐานทองคำครั้งใหม่แทนเงินดอลล่าร์ (ของสหรัฐฯ)"
รายงานข่าวบอกว่า การแข่งขันในตลาดทองคำกรุงลอนดอนมีการเติบโตขึ้นหลังจากที่ตลาดค้าทองคำ Shanghai Gold Exchange (SGE) ได้ก่อตั้งหอการค้านานาชาติขึ้นเขตการค้าเสรีขึ้นมา ซึ่งสนับสนุนการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรี สำนักข่าวบูมเบิร์กอ้างอิงคำพูดของ Jiang Shu นักวิเคราะห์ทองคำอาวุโสจาก Industrial Bank Co. ในเซี่ยงไฮ้ว่า "รัฐบาลกลางของจีนกำลังค่อยๆเปิดกว้างตลาดทองคำด้วยการอนุญาตให้มีผู้เข้าร่วมในการค้าขายมากขึ้น"
เนื่องจากจีนเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ของโลก โดยตรรกะแล้วจีนจึงมีความสนใจถึงความเป็นไปได้ในการที่จะมีอิทธิพลต่อการกำหนดราคาทองคำ นิตยสาร Financial Times รายงานอ้างแหล่งข่าวจากภายในตลาด SGE ซึ่งกล่าวว่าจีนจะกำหนดราคาตายตัวของทองคำ (fixing price) ก่อนสิ้นไปนี้ เนื่องจากจีนกำลังเผชิญกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วในตลาดทองคำ
คาดว่าบริษัทเหมืองและโรงกลั่นของจีนที่เก็บทรัพย์สินของตนเองไว้ในต่างประเทศจะต้องขนทองคำของพวกเขากลับมาที่จีน เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางรัฐบาลจีนได้ยกเลิกความเข้มงวดในการนำเข้าและส่งออกทองคำเพื่อสนับสนุนการค้าโลหะมีค่าหลายชนิดในกลุ่มตัวแทนผู้จำหน่ายภายในประเทศ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของจีนทำให้สหรัฐฯรู้สึกเป็นกังวลใจเป็นอย่างมาก เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้จีนได้ซื้อทองคำเป็นจำนวนมาก ซึ่งตรงกันข้ามกับแนวโน้มของนานาชาติ และสหรัฐฯกลัวว่ากรุงปักกิ่งและกรุงมอสโคว์อาจจะร่วมมือกันเพื่อกำหนดมาตรฐานราคาทองคำใหม่