PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2562

โอกาสทวงคืนค่าโง่

พลังประชารัฐ “หลงเหลี่ยม” ไปแอบดีลในค่ายทหาร ยกโควตาประธานสภาผู้แทนราษฎรให้พรรคประชาธิปัตย์

“ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ส่อโดน “จัดหนัก”

ตามอาการที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา เปิดไฟเขียวผ่านตลอดทุกสี่แยก ปล่อยให้ “ซักฟอก” คุณสมบัตินายกฯในวันโหวต 5 มิถุนายน แบบไม่จำกัดเวลา

แบะท่า ต่อให้ลากยาวไปหลายวันก็ไม่มีปัญหา

อารมณ์เหมือนจงใจ “เขี่ยลูก” เข้าทางบาทาพรรคเพื่อไทย ใส่พานให้ทีมอนาคตใหม่ รวมถึงคนยี่ห้อประชาธิปัตย์สาย “ชวน” เองที่แสดงอาการหมั่นไส้

“ลับเขี้ยว” รอฟัด พล.อ.ประยุทธ์ “เต็งหนึ่ง” ในบัญชีนายกฯพลังประชารัฐ

แต่ก็ทันเกมเหมือนกัน ตามจังหวะที่ “นายกฯลุงตู่” บอกปัด ไม่จำเป็นต้องเข้าไปโชว์วิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกฯก่อนเกมโหวตสภา เพราะตลอดเวลา 4-5 ปีก็พูดมาจนคนทั่วไปก็เห็นกันหมดแล้ว

รู้แกว “นักเลงสภา” กวักมือเรียกเข้าไปรุมกินโต๊ะ

และประเมินรูปเกม องครักษ์ “ลุงตู่” ในทีมพลังประชารัฐก็คงไม่ปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ถูกรุมกินโต๊ะฝ่ายเดียวแน่ ตามเหลี่ยมน่าจะกระทุ้งไปที่ปรมาจารย์ชวน

จี้จุด ย้ำปมส่วนตัว ดักคอภาวะทางใจ ปล่อยให้ “ลุงตู่” โดนรุมยำ ถือว่าไม่แมน

ขณะที่อีกด้าน ขั้วเพื่อไทยและพันธมิตร “นายใหญ่” ทีมดูไบ จ่อดัน “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นคู่ชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

ทั้งๆที่อยู่ในระหว่างศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จากคดีหุ้น

ตั้งท่าท้าทายกระบวนการยุติธรรม จงใจเดินเกมดิสเครดิตศาลรัฐธรรมนูญ ก่อให้เกิดความสับสนในหมู่ประชาชน ส่อเกิดความวุ่นวายทางกฎหมายตามมา

“ส.ส.ตลาดล่าง” กับ “ส.ส.ตลาดบน” ได้ล่อกันนัวแน่

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เกมโหวตนายกฯจะป่วนลากยาวกันแค่ไหน มันก็ต้องมีตอนจบ ตามสมการตัวเลข ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ รวมกับพันธมิตรพรรคเล็กที่ล็อกแขนไว้ ประกอบกับ 250 ส.ว. โดยไม่ต้องพึ่ง ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย

ยังไงก็รวมคะแนนเสียงเกิน 376 เสียง ล็อกเก้าอี้ให้ “ลุงตู่” ชัวร์

และเมื่อได้ตีตั๋วต่อนายกฯแล้ว ดุลอำนาจอยู่ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ ในการคุมจัด ครม.

นี่แหละโอกาสที่พลังประชารัฐจะทวง “ค่าโง่” คืน

จับอาการ “ร้อนรน” จนผิดปกติของคนประชาธิปัตย์ โฟกัสการเคลื่อนไหวของ “เสี่ยต่อ” นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ที่เดินสายทั้งวัน มีข่าวประชุมกันแทบจะทุกครึ่งชั่วโมง

ฝั่งหนึ่งก็มือลั่นโพสต์ร่วมรัฐบาล “ลุงตู่” แต่อีกฝั่งก็ปฏิเสธทันควัน

และสังเกต “ออปชัน” ของประชาธิปัตย์ ต้องยึดดีลเดิมที่แท็กทีมกับภูมิใจไทยดอดเข้าบ้านในค่ายทหาร เออออกับขาใหญ่นอกพรรคพลัง-ประชารัฐ ปาดหน้าเค้ก พาณิชย์ เกษตรฯ การพัฒนาสังคมฯ บวก 4 รมช.

ยื้อ ไม่ยอมคายอ้อยออกจากปากช้างง่ายๆ

แต่นั่นก็ปล่อยข่าวปูดกระแส พูดเองเออเองอยู่ฝั่งเดียว สวนทางกับอาการนั่งไม่ติดกับสัญญาณตอบรับที่นิ่งสนิทจากฝั่งพลังประชารัฐ ภายหลังเกมพลิกเหลี่ยมล้ม “ดีลขาใหญ่”

ดึงการเจรจาร่วมรัฐบาลเป็นมติพรรค ตามหลักการรัฐธรรมนูญ

ทุกอย่างไปว่ากันหลังคิวโหวตนายกฯ รู้ตัวเลขกันชัดๆใครโหวตให้ ใครแตกแถว โดยที่นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ย้ำหลักการร่วมรัฐบาลต้องนำนโยบายทุกพรรคไปจูนกันก่อน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติตามเป้าหมายของประเทศ ไม่มีการต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

“ดีลพี่ใหญ่” ล่มแล้ว พาณิชย์ เกษตรฯ คมนาคม ต้องตกลงในวงกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น

โยนเกมกดดันกลับไปที่ประชาธิปัตย์ ที่มีแต้ม 54 เสียง แต่ “เล่นใหญ่”

ในอารมณ์ล่าสุด นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทีมงานสายนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และนายถาวร เสนเนียม ประกาศชัดๆ ส.ส.เกือบ 30 เสียงพร้อมโหวตหนุน “ลุงตู่” โดยไม่รอมติพรรค

หักเหลี่ยมทีม “เสี่ยต่อ” ชิงเข้าล็อกโควตารัฐมนตรีก่อน

ฉะนั้นอย่าว่าแต่ “ดีลเดิม” ตอนนี้ฉวยอะไรได้ นายเฉลิมชัยต้องคว้าไว้ก่อน ไม่งั้นอด

แถมไพ่ใบสุดท้ายมันอยู่ในกำมือ “นายกฯลุงตู่” ถ้ายุบสภา เลือกตั้งใหม่ ค่ายที่จะเหนื่อยหนักก็ไม่พ้นทีมประชาธิปัตย์นั่นแหละ พรรคแตก กระสุนหมด กระแสตก โพลคนเบื่อ

ยิ่งในมุมที่ “ชวน หลีกภัย-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” แสดงอาการต่อต้าน “ลุงตู่” เหมือนย้อนศร แก้เผ็ดกองเชียร์ที่หันไปเลือกพรรคพลังประชารัฐ อารมณ์นี้อ่านใจกองเชียร์ประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯและปักษ์ใต้ที่เทใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับไปเลือกประชาธิปัตย์อีกหรือไม่ คงจะพอเดาทางได้ง่ายๆ

รอบนี้ “ตีไพ่พลาด” ซ้ำ ปชป.เสียหมดตูดแน่.

ทีมข่าวการเมือง