PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กมธ.เกษตรวุฒิส่งนส.สัมมนาแนะนำนายกฯเรื่องข้าว



(7ก.พ.57)กมธ.การเกษตรฯ วุฒิสภา นำผลจากการสัมมนาส่งถึงนายกฯ แนะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในการจ่ายเงินให้แก่ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว โดยรับชำระดอกเบี้ยแทนนับตั้งแต่วันที่ได้รับใบประทวน และเร่งระบายข้าวสารในสต๊อกโดยเร็ว





ชูวิทย์ กมลวิษฎ์ : ใครเป็นประชาธิปัตย์ ที่ควรเอาเยี่ยงอย่าง?


ผมรู้จักคุณพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ขณะที่ผมเป็นกรรมาธิการงบประมาณ ปี 2555 คุณพิเชษฐ์เป็นผู้อาวุโสที่อยู่ในคณะกรรมาธิการฯติดต่อกันมายาวนานกว่า 15 ปี ท่านมีความรู้ความสามารถ ละเอียดรอบคอบ ติดตามข้าราชการกระทรวงต่างๆเกี่ยวกับงบประมาณอย่างมีเหตุผล เมื่อตอบไม่ชัดเจน ท่านจะให้ส่งเอกสาร พร้อมสอบถามย้อนหลังทุกครั้ง

ท่านเป็นผู้อาวุโสของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผมเคารพนับถือ วางตัวได้เหมาะสม ไม่เคยเอาเรื่องส่วนตัวถกเถียงเพื่อเอาชนะ ยอมรับฟังความเห็นที่แตกต่าง ไม่คิดว่าตัวเองถูกทุกอย่าง มีความเชื่อมั่นในตัวเองแต่ไม่แข็งกร้าวปิดกั้นความคิดเห็นของผู้อื่น

ท่านไม่เคยขึ้นเวที หรือสนับสนุนม็อบ ไม่ฉกฉวยสถานการณ์เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับตัวเอง ท่านบอกว่าเป็นนักการเมืองในสภา ต้องยึดถือระบบรัฐสภา ท่านมีจุดยืนที่ชัดเจนตรงไปตรงมาไม่แอบแฝง ไม่เอาชีวิตของประชาชนมาเป็นตัวประกัน เพื่อเป็นประโยชน์กับพรรคตัวเอง

ท่านให้สัมภาษณ์ว่า "ผมยอมให้คนกระบี่โกรธผมที่ไม่สนับสนุนให้ใครไปเสี่ยงความตายความพิการเช่นนั้น และจนบัดนี้ใครก็อย่ามาขอสนับสนุนการเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯจากผมเด็ดขาด บอกกล่าวไว้ก่อน จะได้ไม่ต้องมาเสียใจกัน"

หากบรรดา ส.ส. หน้าใหม่ หรือสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จะเลียนแบบใครสักคน ผมว่าอย่าไปเลียนแบบคุณอภิสิทธิ์เลย เพราะคุณอภิสิทธิ์ไม่เคยทำผิด ยืนยันว่าตัวเองทำถูกทุกอย่าง มันผิดวิสัยมนุษย์มนาคนเดินดินกินข้าวแกงอย่างเราๆท่านๆ ที่มีผิดบ้างถูกบ้างเป็นของธรรมชาติ

คนอย่างท่านพิเชษฐสิครับ ที่เราควรยึดถือเป็นแบบอย่าง ไม่เฉพาะสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น เพราะท่านอยู่บนโลกมนุษย์ ไม่ได้อยู่บนสรวงสวรรค์เป็นเทวดา

น่าเสียดายที่ท่านตัดสินใจอำลาวงการเมืองไปแล้ว ส่วนคนที่ควรจะอำลา กลับยังอยู่สร้างปัญหาให้กับประเทศชาติต่อไป


ขั้นตอนจำนำข้าว "ปัญหา"อยู่ตรงไหน


โดยหลักการ ตามสัญญา ธกส ต้องโอนเงินเข้าให้เกษตรกรภายใน 3 วัน นับแต่วันทำสัญญา แต่ปัญหาที่โยนกันไปมา ธกสก็บอกว่ารัฐยังไม่ได้จ่ายมา มันก็เลยเป็นปัญหาเช่นนี้แล

ตัวอย่างข้อมูลของจังหวัดชัยภูมิ


ศรส.ยันเนรเทศ"สาธิต"ห้ามแกนนำกปปส.ออกนอกประ้เทศ

แถลงการณ์ ศรส. ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗

ที่ประชุมศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส. มีผลการประชุมที่สมควรแจ้งพี่น้องประชาชน ดังนี้

๑.ศรส. เห็นสมควรแจ้งด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่งเพื่อห้ามการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรกับแกนนำ กปปส. ทั้งที่ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับไว้ ๑๙ คน และอีก ๓๙ คน ที่ได้ตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่ง ศรส. จะได้ขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม โดยหากปรากฏตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้กักตัวไว้แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ของ ศรส. ในทันที โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

๒.กองบัญชาการตำรวจนครบาลและตำรวจภูธร ได้รายงานผลการดำเนินคดีกับแกนนำ กปปส. ที่นำมวลชนไปปิดล้อม กีดกัน ขัดขวางการเลือกตั้ง ทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม และการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษและไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับ ผู้ที่คิดจะทำผิดอีกในอนาคตที่จะมีการเลือกตั้งอีกในเร็ววันนี้ ซึ่งศาลได้ออกหมายจับเพิ่มเติมอีก ๕ คน ได้แก่ พระพุทธอิสระ หรือนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ นายนวการ ขอนศรี นายประเสริฐ ด้วงทิพย์ นายทินกร ปลอดภัย และนายปรีติ เชาวลิต และในต่างจังหวัดที่มีการกระทำผิด ศาลได้ออกหมายจับผู้กระทำผิดให้เพิ่มอีก ๑๒ คน โดย ศรส. ได้เร่งรัดให้ดำเนินการจับกุมโดยเร็ว รวมถึงการดำเนินคดีกับบุคคลที่กระทำผิดรายอื่น ๆ ให้ครบถ้วนด้วย

๓.ศรส. ร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ ได้ดำเนินการเปิดสถานที่ราชการให้สามารถกลับมาให้บริการแก่ประชาชนได้ตามปกติจำนวนมากแล้ว รวมถึงวันนี้เปิดทำการกลับมาบริการประชาชนได้แล้ว รวม ๓๘ แห่ง และจะได้ทยอยเปิดสถานที่ราชการทุกแห่งให้ครบในที่สุด ประชาชนท่านใดต้องการสอบถามข้อมูลการเปิดทำการของสถานที่ราชการ ให้สอบถามได้ที่หมายเลข ๑๑๑๑ 

๔.การดำเนินการเพื่อออกคำสั่งเนรเทศแกนนำ กปปส. ราย นายสาธิต เซกัล นั้น ศรส. ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการร่วมกันตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เพราะนายสาธิต เซกัล เป็นคนต่างด้าว สัญชาติอินเดีย ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นพำนักได้ในประเทศไทย ซึ่งตามกฎหมาย นายสาธิต จะต้องงดเว้นไม่กระทำความผิดใด ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคง แต่นายสาธิต ได้เข้าร่วมเป็นแกนนำหลักของ กปปส. ขึ้นเวทีอภิปราย ปลุกระดม ยุยงให้ประชาชน ล่วงละเมิดกฎหมายบ้านเมือง นำมวลชนไปปิดล้อมบุกรุกสถานที่ราชการหลายแห่ง แม้เมื่อประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ แล้ว ก็ยังนำมวลชนไปปิดล้อมกรมการบินพลเรือน นายสาธิต จึงเป็นบุคคลที่กระทำการกระทบต่อความมั่นคงของบ้านเมือง บัดนี้ กระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมาย ได้ดำเนินการตามขั้นตอนโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เห็นสมควรต้องสั่งเนรเทศ นายสาธิต ออกจากราชอาณาจักร ซึ่งจะได้มีการดำเนินการเพื่อออกคำสั่งเนรเทศต่อไปตามพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ

๕.ศรส. ขอแจ้งพี่น้องประชาชนว่า ข้อมูลจากการตรวจสอบของหน่วยงานด้านความมั่นคงปรากฏมียอดผู้ชุมนุมของ กปปส. สูงสุดเมื่อคืนวานนี้ ช่วงเวลาประมาณ ๒๑.๐๐ นาฬิกา ที่ประมาณ ๕,๙๐๐ คน ซึ่งได้ลดน้อยลงเป็นลำดับอย่างต่อเนื่องทุกวัน ศรส. ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความร่วมมืองดการเข้าร่วมชุมนุม การสนับสนุนด้านการเงิน และการช่วยเหลือต่าง ๆ ซึ่ง ศรส. ขอเน้นย้ำว่า แกนนำ กปปส. ได้กระทำผิดต่อกฎหมายของบ้านเมืองอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการปิดล้อมบุกรุกสถานที่ราชการ การกีดขวางการจราจรและกระทำผิดต่าง ๆ ถึงขนาดปิดกรุงเทพมหานคร หรือ Shutdown Bangkok โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปิดล้อม ปิดกั้น ขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งล้วนเป็นความผิดต่อกฎหมายที่มีโทษอุกฉกรรจ์ทั้งสิ้น และที่สำคัญได้ส่งผลต่อความเสียหายด้านเศรษฐกิจของประเทศและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทุกสาขาอาชีพเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลในการใช้สิทธิเลือกตั้งอันมิใช่เรื่องการเมืองกับการเมือง แต่เป็นเรื่องกระทำผิดต่อพี่น้องประชาชนโดยตรง ถึงขนาดที่เลขาธิการสหประชาชาติ นายบัน คี มูน ออกแถลงการณ์ประกาศในนามขององค์การสหประชาชาติว่า การขัดขวางการเลือกตั้งของ กปปส. ที่กระทำต่อพี่น้องประชาชนนั้น เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
จึงประกาศมาเพื่อทราบทั่วกัน
______________________

February 7, 2014

At 13:00 hrs. Mr.Tharit Pengdit, Director-General, the Department of Special Investigation, briefed the press on the outcome of the meeting of the Center For Maintaining Peace and Order (CMPO).

The CMPO has instructed the Immigration Bureau not to allow 19 leaders of the People's Democratic Reform Committee (PDRC) with arrest warrants and another accused 39 members to leave the country. The Immigration Bureau should keep them in custody and immediately report to the CMPO.

The Metropolitan Police Bureau and several Provincial Police Region commands have reported the proceeding of legal actions on the obstructions of advance and general elections. Recently, the Criminal Court has approved the issurance of arrest warrants against 5 members of the PDRC including Luang Pu Buddha Issara, the PDRC leader at Chaeng Watthana site. The Court also approved the issurance of arrest warrants against 12 people in the provincial areas. The CMPO urged the agencies concerned to immediately proceed the legal actions in order to deter such obstructions in the next elections.

Currently, 38 government agencies have resumed their functions. For further inquiry on the function of government agencies, please call 1111.

Following the proceeding of the deportation of Mr.Sathit Segal, the CMPO affirmed that the Royal Thai Police and the DSI have proceeded on the basis of facts and evidences. Mr.Sathit, an Indian ethnic with residence in Thailand, has committed crimes against the national security by provoking the demonstrations and leading the protesters to blockade several government agencies such as the Department of Civil Aviation. As a result, the Immigration Bureau has agreed with the CMPO in deporting Mr.Sathit.

The number of protesters from every site on 6th February reached the maximum at 21.00 hrs. with approximately 5900. The CMPO appreciated the public for not joining the demonstrations as well as not providing financial supports. The CMPO reaffirmed that the protest has not only violated the law but it also affected the national economy. In addition, the election obstructions by members of the PDRC were the violation of people's right to vote. Such action was already commented by Mr.Ban Ki Moon, the United Nations Secretary-General, stating that the election obstructions were intolerable.




http://youtu.be/EoanPDfgN-E

ผู้แทน 21 ราชนิกุลแจ้งกองปราบฯ จับมือโพสต์หมิ่นเบื้องสูง


ผู้แทน 21 ราชนิกุลแจ้งกองปราบฯ จับมือโพสต์หมิ่นเบื้องสูง

วันนี้ (7 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.30 น. ม.ล.ภูดิศ ศุขสวัสดิ์ อายุ 58 ปี ม.ล.สุทธิฉันท์ วรวุฒิ อายุ 57 ปี และ ม.ล.ธรรมธนวัทธ สวัสดิวัตน์ อายุ 42 ปี ผู้แทน 21 ราชตระกูล และราชนิกุล พร้อมด้วยนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความและประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.นิติพัฒน์ ผลเจริญพงศ์ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และติดตามบุคคลตามภาพถ่าย 6 ภาพที่เข้าข่ายกระทำความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

นายสงกานต์กล่าวว่า ภายหลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนทั่วไปที่ส่งมายังเครือข่ายฯ รวมทั้งได้รับการประสานจากผู้แทน 21 ราชนิกุล ว่าพบการโพสต์ข้อความและภาพผ่านเฟซบุ๊กที่เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง ก่อให้เกิดความเสียหายและผลกระทบต่อความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ และความรู้สึกของประชาชนทั่วไป จึงได้นำภาพและข้อความต่างๆ ที่ปรากฏออกมาแล้วเข้าร้องทุกข์ต่อทางพนักงานสอบสวน บก.ป.รวมทั้งหน่วยงานในสังกัด กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าว และหากพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็ขอให้มีการรวบรวมพยานหลักฐานพิจารณาดำเนินคดีกับบุคคลที่ปรากฎภาพต่อไป

ด้าน ม.ล.ภูดิศกล่าวว่า ทางผู้แทน 21 ราชนิกุลได้เคยตกลงกันไว้แล้วก่อนหน้านี้ว่าจากนี้ไปกรณีที่มีการหมิ่นเบื้องสูง มีการใส่ร้ายป้ายสี ไม่เคารพต่อสถาบันเบื้องสูง พวกเราจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่ ซึ่งในส่วนของผู้ที่โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กครั้งนี้จะขอให้ทางตำรวจได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าเป็นบุคคลที่มีตัวตนและกระทำการจริงหรือไม่ ถ้าจริงก็ขอให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่ ม.ล.สุทธิฉันท์กล่าวว่า อยากฝากไปยังสื่อมวลชนให้ช่วยติดตามกรณีดังกล่าว ขอให้ช่วยกันตรวจสอบเพราะเรื่องสถาบันเบื้องสูงซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย ได้ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะนักวิชาการบางคนที่เป็นถึงอาจารย์ในมหาวิทยาลัยของรัฐ มีการกระทำทั้งด้วยวาจาและผ่านสื่อต่างๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตรงนี้เราจึงอยากให้ยุติการกระทำ และขอให้ตำรวจเร่งดำเนินคดีด้วย

ส่วน ม.ล.ธรรมธนวัทธกล่าวว่า เรื่องเหล่านี้กระทบกระเทือนต่อจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ตนก็แปลกใจว่าทำไมที่ผ่านมากลับไม่มีการจัดการกับการกระทำลักษณะนี้เลย แต่จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ จากนี้ทาง 21 ราชนิกุลคงจะต้องเดินหน้าจัดการกับกรณีที่เกิดขึ้นให้ได้ แม้ว่าจะเคยเข้าร้องเรียนหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล แต่กลับไม่ได้รับการใส่ใจโดยเฉพาะรัฐบาลนี้ที่ไม่เคยนำเข้าสู่วาระการดำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจัง เราเคยยื่นเรื่องต่อนายกรัฐมนตรีแล้วก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ จากนี้คงจะขอติดตามการทำงานของตำรวจต่อไปว่าจะดำเนินการหรือไม่อย่างไร

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ได้รับเรื่องไว้ในเบื้องต้น ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป 

'บิ๊กแจ๊ด'รอสัญญาณลุยจับ'19กปปส.'

'คำรณวิทย์'ลั่นพร้อมจับ '19 แกนนำกปปส.' ผิด'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน' ด้าน'ศรส.'สั่งตม.ห้าม'แกนนำกปปส.'ออกนอกประเทศ

7 ก.พ.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ศาลได้อนุมัติหมายจับแกนนำ กปปส.จำนวน 19 ราย ในความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น. ) ยืนยันว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลเตรียมพร้อมกำลังตำรวจชุดจับกุมแกนนำ กปปส. ตามหมายจับแล้วและพร้อมปฏิบัติทันทีหากมีคำสั่งจาก ศรส. ส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุมในจุดต่างๆนั้นตำรวจนครบาลมีการตั้งด่านตรวจค้นพร้อมกำลังสายตรวจออกตรวจตราตลอดเวลายังไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ

"ศรส."สั่งตม.ห้าม"แกนนำกปปส."ออกนอกประเทศ

เมื่อเวลา 13.00 น.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงผลการประชุมศรส.ว่า ศรส.เห็นสมควรแจ้งด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่ง เพื่อห้ามการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรกับแกนนำกปปส. ทั้งที่ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับไว้ 19 คน และอีก 39 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่ง ศรส.จะได้ขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม โดยหากปรากฏตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองให้กักตัวไว้แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ของ ศรส.ในทันที โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และตำรวจภูธร ได้รายงานผลการดำเนินคดีกับแกนนำกปปส.ซึ่งศาลได้ออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 5 คน ได้แก่ หลวงปู่พุทธะอิสระ หรือนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ นายนวการ ขอนศรี นายประเสริฐ ด้วงทิพย์ นายทินกร ปลอดภัย และนายปรีติ เชาวลิต และในต่างจังหวัดที่มีการกระทำผิด ศาลได้ออกหมายจับผู้กระทำผิดให้เพิ่มอีก 12 คน โดย ศรส.ได้เร่งรัดให้ดำเนินการจับกุมโดยเร็ว รวมถึงการดำเนินคดีกับบุคคลที่กระทำผิดรายอื่น ๆ ให้ครบถ้วนด้วย

นายธาริต กล่าวต่อว่า ศรส.ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ได้ดำเนินการเปิดสถานที่ราชการให้สามารถกลับมาให้บริการแก่ประชาชนได้ตามปกติแล้ว รวม 38 แห่ง และจะได้ทยอยเปิดสถานที่ราชการทุกแห่งให้ครบในที่สุด ส่วนการดำเนินการเพื่อออกคำสั่งเนรเทศนายสาธิต เซกัล นั้น ยืนยันว่า ตามกฎหมายนายสาธิต จะต้องงดเว้นไม่กระทำความผิดใด ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคง แต่นายสาธิตได้เข้าร่วมเป็นแกนนำหลักของ กปปส.ขึ้นเวทีอภิปราย ปลุกระดม ยุยงให้ประชาชน ล่วงละเมิดกฎหมายบ้านเมือง นำมวลชนไปปิดล้อมบุกรุกสถานที่ราชการหลายแห่ง แม้เมื่อประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้ว ก็ยังนำมวลชนไปปิดล้อมกรมการบินพลเรือน นายสาธิตจึงเป็นบุคคลที่กระทำการกระทบต่อความมั่นคงของบ้านเมืองโดยบัดนี้กระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายได้ดำเนินการตามขั้นตอนโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เห็นสมควรต้องสั่งเนรเทศ นายสาธิต ออกจากราชอาณาจักร ซึ่งจะได้มีการดำเนินการเพื่อออกคำสั่งเนรเทศต่อไปตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

"ข้อมูลจากการตรวจสอบของหน่วยงานด้านความมั่นคงปรากฏมียอดผู้ชุมนุมของ กปปส. สูงสุดเมื่อคืนวันที่ 6 ก.พ.ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. อยู่ที่ประมาณ 5,900 คน ซึ่งได้ลดน้อยลงเป็นลำดับอย่างต่อเนื่องทุกวัน" นายธาริต กล่าว

แอดมิน เกรียนเทพ


มือดีปาบึ้มถล่มสถานีวิทยุ'โกตี๋'เจ็บ1

คนร้ายขว้างระเบิดเข้าสถานีวิทยุชุมชนที่อยู่ในความดูแลของ 'โกตี๋' สร้างความเสียหายกับพื้นที่ด้านนอก ส่วน'คนเฝ้า'เจอสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเวลา 04.30 น.วันที่ 7 ก.พ. พ.ต.ท. กมลรัตน์ พาน้อย สารวัตเวร สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุปาระเบิดใส่สถานีวิทยุเพื่อมวลชน เรดการ์ด เรดิโอ FM105.65 ตั้งอยู่เลขที่ 4/26 หมู่ที่ 3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จึงไปที่เกิดเหตุ พบว่า สถานีวิทยุดังกล่าวอยู่ในความดูแลของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ขณะเกิดเหตุ มีเพียงนายมานะ ถวิลพงษ์ อายุ 33 ปี ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสถานที่

นายมานะ กล่าวว่า ในช่วงเวลา 04.30 น. ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรมากระทบหลังคาในตำแหน่งห้องส่งวิทยุกระจายเสียง ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย มีคอมแอร์เสียหาย และยังมีรอยสะเก็ดระเบิดตามกำแพงและเสาเหล็กจำนวนหลายรู และยังพบหลุม 1 หลุม ขณะเดียวกัน อานุภาพของแรงระเบิดทำให้ตนถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ลำตัวข้างขวาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เนื่องจากจุดที่คนร้ายปาระเบิดเข้าใส่อยู่ใกล้กับที่พัก

พ.ต.อ.นราเดช พิทย์รักษ์ ผกก.สภ.คูคต กล่าวว่า ในที่เกิดเหตุพบหลุมกว้าง 20 ซม.ลึก 20 ซม.เท่ากับลูกบอล 1 หลุม จึงให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หากล้องวงจรปิด ตามจุดต่างๆ เพื่อตรวจพิสูจน์ว่า คนร้ายมาจากทิศทางใดและหลบหนีทิศทางใด ขณะเดียวกันได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 1 เข้ามาตรวจสอบว่าระเบิดที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นระเบิดชนิดไหน ส่วนที่มาของการก่อเหตุน่าจะมาจากเรื่องการเมือง เนื่องจากนายวุฒิพงศ์ มีบทบาทในการเป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่

ข่าว คมชัดลึก


ดร. พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย:การเลือกตั้ง ๒ ก.พ. โมฆะหรือไม่?

อาจารย์ ดร. พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย ณ สปป. ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายรัฐธรรมนูญ ตอบปัญหาว่าการเลือกตั้ง ๒ ก.พ. โมฆะหรือไม่?
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%

ผมอนุญาตตอบปัญหาเรื่องการเลือกตั้งวันที่ ๒ ก.พ. ที่ผ่านมาว่าเป็นโมฆะหรือไม่แบบรวดเร็วเพราะได้สัญญาเอาไว้กับทุกท่านเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ดี รายละเอียดของคำอธิบายตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญแบบสมบูรณ์นั้นจะอยู่ในบทความที่ผมกำลังเขียนอยู่ครับผม

๑. การเลือกตั้งวันที่ ๒ ก.พ. เป็นโมฆะหรือไม่?
ตอบ ไม่เป็นโมฆะ

๒. มีการกล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีการจัดภายในวันเดียวอันเป็นการขัดแย้งกับ ม.๑๐๘ ของรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่?

ตอบ ไม่ขัดแย้งกับ ม.๑๐๘ แต่อย่างใด ทั้งนี้เนื่องจากหลังการยุบสภามีการตราพระราชกฤษฎีกา "กำหนดวันเลือกตั้ง" เป็นวันที่ ๒ ก.พ. อันถือเป็นการกำหนดให้มีการเลือกตั้งเพียงวันเดียวตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ หาได้มีการกำหนดไว้หลายวันในพระราชกฤษฎีกาไม่ จึงสอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแล้ว ส่วนกรณีของการดำเนินการจัดการเลือกตั้งที่ไม่สำเร็จเพราะเหตุอื่นๆ นั้นเป็นคนละเรื่อง

๓. มีการกล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่ไม่สามารถเปิดสภาฯ ได้ เพราะ ส.ส. มีไม่ครบ ๙๕ เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้การเลือกตั้งมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ม.๙๓ ใช่หรือไม่?

ตอบ ไม่ขัดแย้งกับ ม.๙๓ การกล่าวว่าหากเลือกตั้งไม่ได้ ส.ส. ครบ ๙๕ เปอร์เซ็นต์แล้วสรุปไปเลยว่าขัดรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะเป็นการสรุปที่ไม่ถูกต้องตามหลักการ เป็นการพูดแบบตัดตอนไม่ครบถ้วน กล่าวคือ จะเห็นว่ารัฐธรรมนูญ ม.๙๓ เองบทบัญญัติไว้ชัดเจนถึงกรณีที่เลือกตั้งแล้วได้ ส.ส. ไม่ครบ ๙๕ เปอร์เซ็นต์ อันสะท้อนว่าเป็นเรื่องปกติที่ระบบกฎหมายรัฐธรรมนูญเข้าใจได้ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้น รัฐธรรมนูญจึงได้หาทางออกให้คือ ให้ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. เติมเข้ามาจนครบถ้วนตามจำนวนภายในเวลา ๑๘๐ วัน

๔. มีการกำหนดวันเลือกซ่อมวันเลือกตั้งล่วงหน้า (๒๖ ม.ค.) ในวันที่ ๒๓ ก.พ. ซึ่งเป็นเกิดหลังจากการจัดการเลือกตั้งทั่วไป (๒ ก.พ.) ตรงนี้ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการประกาศคะแนนวันที่ ๒ ก.พ. ไปแล้ว ทำให้เป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรมใช่หรือไม่?

ตอบ ไม่ถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายจนกล่าวได้ว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม เพราะกรณีทีี่เกิดขึ้นนี้ถือเป็น "ข้อยกเว้นทางกฎหมาย" เพราะเกิดเหตุการณ์ของการขัดขวางการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ ๒๖ ม.ค. กฎหมายเลือกตั้งฯ เองก็บัญญัติอนุญาตให้มีการกำหนดวันลงคะแนนใหม่ได้ (ม.๗๘) จริงอยู่ว่าโดยหลักการพึงต้องมีกำหนดวันเลือกตั้งซ่อมก่อนวันเลือกตั้งจริง (๒ ก.พ.) เพื่อที่จะได้นำเอาคะแนนมานับรวมกับวันเลือกตั้ง แต่กฎหมายเลือกตั้งฯ ได้มีการกำหนดให้อำนาจไว้แล้วว่า กกต. อาจกำหนดเป็นอย่างอื่นก็ได้หากเห็นสมควร (ม.๑๐๒) หลักการนี้ในทางกฎหมายมหาชนเราเรียกว่า "หลักความจำเป็น" (Necessity) นั่นเอง


เสธน้ำเงิน : เปิดโปง..แก๊งค์อั้งยี่แดงหมดท่าใช้เขมรมือที่ 3 จึงต้องเจอมือที่ 4

7 ก.พ.57 

นับแต่วันนี้ไปเครือข่ายอำนาจอั้งยี่พรรคแดงล้มหมดท่าแล้วจริงๆ ไม่เหลือสภาพสั่งการใดๆ เพราะทุกแผนการที่คิดพลิกฟ้าแบ่งแยกดิน ถูกแฉ จนหมดสิ้นแผนการที่วางไว้แรมปีแตกสลายภายในวันเดียว สร้างความปั่นปวน ฐานอำนาจผันแปรอย่างหนัก

ก่อนหน้านี้สายข่าวระดับสากลรายงาน และ เสธ ได้แฉพฤติกรรมชั่วร้ายของรัฐอั้งยี้แดงตลอดมา ว่าได้นำกองกำลังเถื่อนติดอาวุธจากเขมรการ์ดฮุนเซนชุดดำ ที่พรรคแดงเคยใช้ก่อการร้ายในปี 2553 ส่งเข้าไปในกรุงเทพฯ และปริมลฑล บางส่วนแฝงตัวอยู่ในที่ชุมนุม โดยกองกำลังติดอาวุธเหล่านี้พร้อมที่จะสร้างสถานการณ์เลวร้ายขึ้นในที่ชุมนุม ให้เกิดการโกลาหล นำไปสู่สงครามกลางเมือง

ที่ผ่านมาสายข่าว ได้เล็งหมายหัวแกนนำกองกำลังเสื้อแดงติดอาวุธ ผู้สนับสนุนพรรคอั้งยี่แดงในทางภาคเหนือและภาคอีสาน ตามจังหวัดที่เป็นฐานเสื้อแดง เช่น อุดร ขอนแก่น เชียงใหม่เชียงราย กองกำลังเสื้อแดงนี้ได้รับทุนสนับสนุนและอาวุธจำนวนมากจากพรรคแดง และพวกนี้คุยตลอดเวลาว่า พวกมันมีศักยภาพมากพอที่จะแบ่งแยกประเทศเป็นไทยเหนือ ไทยใต้ ได้

ท่านที่ติดตามเพจแฉ มาตลอดจะรู้การปฏิบัติการชั่วของพรรคอั้งยี่แดงที่ถูกเปิดโปง ดังนั้นจึงจะ ต่อจีกซอร์ให้ให้ภาพแผน และการปฏิบัติการชั่ว ของอั้งยี่พรรคแดง หลังวันที่ 22 ม.ค.57 เป็นต้นมาเพิ่มเติมอีก คือ

1. วันที่ 22 ม.ค. 57 รัฐอั้งยี่แดง ประกาศ พรก.ฉุกเฉินฯ หวังให้สมุนชั่วสร้างสถานการณ์รุนแรง
2. วันที่ 23 ม.ค. 57 สายข่าวรายงานว่าโกตี๋ แกนนำ นปช.แดงฮาร์ดคอร์ ปทุมฯ นั้น
- ภายในรังโจรมีการทำเป็นคลังอาวุธ ที่ทำให้สายถึงกับตกตะลึง เพราะมีมากมายมหาศาลมาก โกตี๋ ระบุว่ากองกำลังติดอาวุธเสื้อแดงทั่วประเทศ เตรียมจะลุกฮือขึ้นต่อสู้กับกลุ่มที่ต่อต้านระบอบดูไบ กองกำลังเสื้อแดงได้รับการสนับสนุนจากชายชุดดำฝ่ายชั่ว และชายชุดเขียวทรยศชาติตัวเอง (ภาพถ่ายทั้งหมดอยู่ในมือชาย 3 สีแล้ว)
- โกตี๋ คุยโม้กับสายว่า อาวุธและกองกำลังติดอาวุธที่เห็นเป็นเพียงส่วนน้อย ยังมีกองกำลังติดอาวุธกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ในภาคอีสาน และภาคเหนือของไทย และว่า ” พรรคแดงไม่มีวันแพ้พวกอำมาตย์ และพวกนิยมเจ้า ”
3. วันที่ 24 ม.ค.57 จับพวกรับจ้างป่วนและคนในเครื่องแบบ
- ชายชุดดำ 1 คน พร้อมรถมอเตอร์ไซต์สีขาว ติดสติ๊กเกอร์ Police ขว้างประทัดยักษ์ใส่ประชาชน ใต้สะพานข้ามแยกลาดพร้าว ถูกโอบล้อมและจับกุมได้โดยเจอสันติอหิงสวนเข้าไปเต็มรัก ลาไปเที่ยวทะเลยาว 1 คน
- ตะลุมบอนจับหญิงชุดดำพลร่ม สังกัดหน่วยจังหวัดลิง ได้ 2 คน แฝงตัวเป็นผู้ชุมนุมจะลอบจับแกนนำ โดยยิงแก๊สน้ำตา 1 ลูก ตกที่สะพานมัฆวานฯ จากนั้นเกิดการตะลุมบอนกันกับชายชุดเขียวกับการ์ด 3 คน ค้นในตัวพกระเบิดควัน ลาไปเที่ยวทะเลยาว 2 คน
4. วันที่ 25 ม.ค.57 จับชายจากลพบุรี พลางตัวใส่เสื้อชายชุดเขียวเพื่อเป็นใบเบิกทาง ขนอาวุธสงครามมหาศาล ที่ปทุมฯ รับจ้างขนรถคันนี้ไปจอดทิ้งไว้ริมถนนรังสิต-นครนายกฯ หน้าสวนสนุกดรีมเวิลด์ เพื่อจะนำไปให้พวกฮาร์ดคอร์เสื้อแดงแก๊งค์โกตี๋ปทุม มารับรถขับเข้ากรุงเทพฯ อีกที เตรียมก่อวินาศกรรมลอบโจมตีผู้ชุมนุม
5. วันที่ 26 ม.ค.57 เลือกตั้งล่วงหน้า
- พบเขมรใส่เสื้อขาว 80 คนที่ถูกมวลชนควบคุมตัวส่งโรงพักบึงกุ่ม แล้วต่อมาวิ , พล 2 ผู้สมัคร ส.ส.เผาไทย รีบตามไปถึงโรงพักเพื่อไปกดดันเอาเขมรและพม่าเหล่านี้คืน โดยเปลี่ยนเสื้อใหม่เป็นสีอื่นแล้วปล่อยตัวออกไปปะปนกับฝูงชน
- กุล ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอั้งยี่แดง และชายชุดดำฝ่ายชั่ว สั่งสมุนมือปืนเลว 5 คน มาดักยิงสุทินตาย ที่ใกล้วัดศรีเอี่ยม
6. วันที่ 27 ม.ค.57 เห็บหมาแดงลอบกัด ออกอาละวาด
- ปาระเบิดขู่ บ้านนายสำราญ ที่คันนายาว
- ยิงปืนถล่มขู่ บ้านน้องชายรังสิมา กว่า 50 นัด
7. วันที่ 28 ม.ค.57 ชายชุดดำออกโรงเองและจ้างสมุนอันธพาลแดงออกอาละวาด
- ชายชุดดำปลอมตัวมาลอบสังหารแกนนำ ที่หน้าสโมสรชายชุดเขียว ด้วยเสื้อวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เบอร์ 35 " หน้าเซเว่นบางซ่อน" ที่เป็นเสื้อวินก่อคดีฆ่าคนตายมาก่อน แต่ทานกำลังการ์ดและกำลังประชาชนสอนวิชาพลศึกษาไม่ไหว ถูกตะลุมบอนประเคนใส่จนใบหน้าเละเทะ หน้าอกซ้ายยุบ ถูกจับกุมไปอยู่ รพ.พระมงกฎ ต่อมา ผบ.ชายชุดดำ เดินทางไปเองขู่และมอบเงิน 200,000 บาท ขอให้ปิดปาก อย่าซัดทอดคนบงการที่ไปลอบสังหารประชาชน
- ยิงเข้าในรั้ว ปตท. ที่ตั้งเวที กปค. ถูกรถผู้ชุมนุมที่จอดในรั้วกระจกหลังมีรอยกระสุน 2 รู ถูก BB Gun ชายไร้สีนิรนามยิงสวนไปจนพวกหมาขี้เรื้อนใจเสาะแตกกระเจิง
- แก๊งค์เขมรติดอาวุธทีมเดียวปี 53 ยิง M79 วิถีโค้งจากทางด่วนโทลเวย์ ตกในสวนจตุจักร ใกล้กับจุดพักค้างแรมของกลุ่มผู้ชุมนุม สะเก็ดระเบิดถูกรถยนต์ 2-3 คัน มีผู้บาดเจ็บที่ขาเล็กน้อย 1 คน
8. วันที่ 29 ม.ค.57 ผบ.ชายชุดขาวแฉพรรคแดง ต่อกรรมาธิการสภาฯ พร้อมเอกสารราชการ ว่า
- มีรถตู้นำคนจากเขมรเข้ามาทางชายแดน “ภาคอีสาน” เป็นระยะๆ โดยมีชายชุดดำส่วนชั่วเป็นผู้อำนวยความสะดวก มีแกนนำแก๊งค์แดงเป็นผู้ประสานงาน ส่วนหนึ่งไปอยู่แถวตลาดไท และเขตอิทธิพลโกตี๋ย่านปทุมฯ มีนบุรี หนองจอก
- นำเอกสารของหน่วยฯ เมื่อปี 2553 ช่วงการชุมนุมแก๊งค์อั้งยี่แดง พบศพเขมรที่ตายบริเวณหน้าลานพระบรมรูป ร. 6 สวนลุมพินี จำนวน 23 ศพ ตรวจสอบแล้ว ไม่ใช่คนไทย แต่เป็นคนเขมร
- ผู้ตายเหล่านี้เป็นกองกำลังเขมรที่ได้รับการฝึกฝน จัดกำลังเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษ มีแผนภูมิการวางกำลัง การเดินแปรรูปขบวน อาวุธประจำกาย มีการดักฟังเสียง และมีรูปถ่ายหลังถูกยิงตาย แก๊งค์แดงฮาร์ดคอร์เก็บศพใส่รถบรรทุกหกล้อ และรถแช่แข็งออกไปด้านสวนลุมฯ
- ตอนเช้าแก๊งค์แดงฮาร์ดคอร์มีการนำคนมาอีก 8 คน ผู้หญิง 3 ผู้ชาย 5 คุมโดยแกนนำแดงคนสำคัญ 1 คน มาเก็บปลอกกระสุน ล้างเลือด เพื่อทำลายหลักฐาน
9. วันที่ 31 ม.ค.57 การ์ดโกตี๋ พกอาวุธเข้ามา คปท.ถูกรุมประเคนความยุติธรรมด้วยดนตรีไทยพื้นบ้าน จนจับตัวได้พร้อมอาวุธเตรียมการมหาศาล บัตรระบุเป็นแก๊งค์โกตี๋ ผู้บริหารนกเหลือง
10. วันที่ 1 ก.พ. 57 ก่อนวันเลือกตั้ง จุดแยกหลักสี่ กรุงเทพฯ
- ตอนบ่าย รัฐอั้งยี่แดง แก๊งค์โกตี๋สร้างสถานการณ์ ตั้งใจจะเข้าปะทะ ฆ่า ทำร้าย ผู้ชุมนุมพุทธอิสระให้ได้หลักร้อย โดยใช้ชายชุดดำในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ ร่วมกับแก๊งค์โกตี๋ ยิงประชาชนจากหน้าห้างไอทีสแคว์ก่อน 3-4 นัด
- แต่สิ่งที่นกกระจอกคาดไม่ถึงคือมี “ พยัคฆ์นักรบถุงป๊อบคอร์น” สวนกลับตีโต้ จนแก๊งค์โกตี๋และชายชุดดำชั่วหนีตายกระเจิง แบบขี้หดตดหาย
- ตอนค่ำ โกตี๋ ต้องเผ่นหนีตายออกนอกประเทศ โดยการโทรแจ้งจากชายชุดดำฝ่ายชั่วว่าถูกสั่งตาย
- ช่วงเย็นชายชุดดำชั่วพร้อมอาวุธปืน แฝงกายเข้ามาตรงเข้าทำร้ายหลวงปู่ฯ ระยะ 5 เมตร แต่สามารถบล็อก และระดมดนตรีไทยและสากลจนน่วมตั้งหัวจรดเท้า และจับกุมตัวไว้ มีบัตรประจำตัวข้าราชการ ลาไปเที่ยวทะเลยาว 1 คน
- กลางคืน แก๊งโกตี๋ลอบส่งสมุนหมาลอบกัด 2 คน ยิงลงมาจากตึก IT square ใส่ผู้หญิงที่เดินผ่านใกล้ สนง.เขตหลักสี่ จนบาดเจ็บ และถูกชายชุดเขียวและการ์ดหลายสิบคนรุมประเคนสิ่งเทียมไม้ใส่ไม่ยั้งจนสลบเหมือด ถูกจับตัวได้พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาว ลาไปเที่ยวทะเลยาวอีก 2 คน
11. วันที่ 6 ก.พ. 57 ผีห่าซาตานแก๊งค์แดงออกอาละวาดที่จุดผู้ชุมนุม 2 จุด
- จับ “ ชายเขมร” จำนวน 1 คน พร้อมหลักฐานพาสปอร์ต ยอมรับว่าได้รับค่าจ้างถูกส่งมาหาข่าวในที่ชุมนุม ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยจับ “ หญิงเขมร “ มาลอดแนมพร้อมหลักฐานการจดบันทึกสอดแนมได้ รับสารภาพว่าได้รับค่าจ้างจาก สส.พรรคแดง ทางภาคอีสาน และที่ผ่านมาเขมร 5 คนถูกจับได้ว่าแฝงตัวเข้าเตรียมก่อการร้าย และหาข่าวในที่ชุมนุม เขมรเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังติดอาวุธ หน่วยค้างคาวปีศาจ หรือหน่วย 911 ที่เคยร่วมก่อการร้ายในกรุงเทพฯเมื่อปี 2553
- ช่วงเย็นแก๊งค์อั้งยี่พรรคแดงสั่งให้ลูกน้องสวะหมาขี้เรื้อน ยิงปืนลูกซองใส่ล้อรถด้านหลังขวา และโดนไฟแช็คไว้ใต้ท้องรถ ที่จอดหน้าตึกศูนย์ราชการอาคารบี เพื่อก่อนกวนอย่าให้การพูดคุยระหว่าง กกต.สมชัย กับ พระพุทธะอิสระ สำเร็จ
- เวลา 20.26 น. ใช้ M79 ยิงจุดชุมนุมที่แจ้งวัฒนะ ลูกแรกลงบนสะพานข้ามเหนือเต้นพยาบาล และลูกที่ 2 ลงในห้องอาบน้ำผู้หญิง หลังเต๊นท์พยาบาล ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

นี่ไม่นับการก่อเหตุก่อนวันที่ 22 ม.ค.57 โดยกองกำลังติดอาวุธของพรรคแดงอีกนับไม่ถ้วน เช่น การปาระเบิดบ้านบุคคลสำคัญ การปาระเบิดสังหาร RGD-5 รัสเซีย Lot 48 ลอบสังหารแกนนำประชาชนอนุสาวรีย์ และซ้อนรถมอเตอร์ไซต์รับจ้างหนีไปลงใกล้บ้านหญิงกระบังลม
12. แผนระยะถัดไปของแก๊งค์แดง คือ จะใช้ 3 แก๊งค์หลักของตัวเองตอนนี้ (ชายชุดดำใหญ่ในราชการหวังเป็นรัฐมนตรีหลังเกษียณ, ชายชุดเขียวฝ่ายชั่วนอกราชการ, ชายชุดดำนอกราชการ ) โดยส่งการตรงจากชายดูไบคนเดียว แบบ “แต่ละแก๊งค์จะไม่รู้ซึ่งกันและกัน” ใช้ให้ฆ่ากันเองสร้างสถานการณ์ด้วยความเหี้ยมโหด คือ
- ส่งสายลับของ 1 ใน 3 แก๊งค์ พลางตัวทำทีไปมอบอาหารให้ชายชุดดำใน ศรส.และสุวรรณภูมิ เมื่อราว 1 ก.พ.57 แล้วถ่ายภาพความเป็นอยู่กำลังพล และอาวุธ ส่งหัวหน้าแก๊งค์ประเมิน
- หัวหน้าแก๊งหนึ่งจะแสร้งหวังดี (ประสงค์ร้าย) เข้าไปดูการจัดกำลังใน ศรส.ด้วยตาตนเอง ราว 7 ก.พ.57 และเข้าไปสั่งการแทรกแซง ชายชุดดำให้สับสน สั่งให้กองกำลังชายชุดดำต่างจังหวัด หันหัวขบวนรถกลับระหว่างทาง เพื่อตัดกำลังกันเอง
- จะใช้กองกำลังของแก๊งค์ 1 ใน 3 ผสานกับแก๊งค์เขมรหลานเขยฮุนเซน โจมตีสิ่งเทียมตำรวจด้วยอาวุธหนัก เช่น ยิงอาวุธวิถีโค้งเข้าใส่ ศรส.จุดเปราะบางที่ไปถ่ายภาพสืบมา หรือลอบยิงตามจุดตรวจต่างๆ ยามค่ำคืน โดยชายชุดดำผู้ปฏิบัติจะโดนหนักกว่าทางผู้ชุมนุม ตั้งเป้าไว้อย่างน้อยหลักร้อยคน แล้วโยนบาปว่าแกนนำ กปปส.สั่งการ
- อีก 1 ใน 3 แก๊งค์ ลอบโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุมจุดที่เปราะบาง ให้คิดว่าเป็นฝ่ายชุดดำผู้ปฏิบัติเป็นคนทำ ให้ชาย 3 สีแสดงตน ใช้อาวุธออกมาปกป้องผู้ชุมนุม หวังประจานต่อสังคม
- รัฐแดงปูเน่า ก็จะถือโอกาสยกระดับประกาศ พรก.ฉุกเฉิน เขตใช้กระสุนจริง ได้โดยชอบธรรมทันที เพียงลงทุนฆ่าชายชุดดำพวกเดียวกันเองหลักร้อยเท่านั้น แล้วก็ใช้เงินหลวงจ่ายเงินเยียวยา 7.5 ล้าน ให้ญาติภายหลัง

ชายดูไบ และแก๊งค์พรรคอั้งยี่แดงนี่มันจะโง่ไปถึงไหน มวลมหาประชาชน จากทุกภาคส่วนทุกชนชั้นของสังคม ที่เขาออกมาด้วยซื่อ จำนวนมากที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ออกมาขับไล่รัฐบาลเทียมปูเท่า ไม่ใช่เพียงการแสดงออกทางการเมืองธรรมดา แต่เป็นรูปแบบการปฏิวัติสังคม มีเป้าหมายล้มล้างผู้นำทุจริต และ ฟื้นฟูประชาธิปไตยที่แท้จริงขึ้นในประเทศไทย

ชาย 3 สี , นักรบนิรนามไร้สี , นักรบสังหารโจรดำ , นักรบถุงป๊อบคอร์น , การ์ด ฯลฯ (ไม่รู้มาจากไหน) เข้าไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว ที่จะให้ผีห่าซาตานแดงและกองกำลังเขมร มาทำร้ายผู้ชุมนุมที่เป็นผู้หญิง คนแก่ และเด็ก จำนวนมาก โดย
- ถ้าขืนชายชุดดำจัดกำลังเข้าสลายการชุมนุม ชาย 3 สีจะประกาศกฎอัยการศึกทันที ตามกฎหมายที่ให้อำนาจสภากลาโหม ( รก.กลาโหมเทียมปูเน่า เป็น รก.เข้าประชุมไม่ได้) ทุกคนต้องวางอาวุธไม่งั้นจะกลายเป็นกบถ ถ้าฝ่าฝืนจะถูกใช้ของดีจากภาษีประชาชน ล้อมถล่มหนักจากรอบด้าน จนชายชุดดำต้องสิ้นกรรม และเจ็บเป็นหลักพันคนแน่นอน แม่หม้ายจะเกิดทั้งแผ่นดิน และชาย 3 ก็ไม่ผิดกฎหมายกฎอัยการศึกด้วย
- แต่ถ้าจะใช้กองกำลังอันธพาลแดง หรือเขมร มาต่อสู้กับชาย 3 สี แล้วอ้างมือที่ 3 ก็จะต้องเจอดัดหลังด้วยมือที่ 4 นักรบนิรนามไร้สีต่างๆ สวนออกไปด้วย ปีอบคอร์นกู้ชาติ จัด Combo Set ไปให้ ถล่มเละแบบแตกกระเจิง กินจนอิ่มท้องใส้แตกแหลกเหลว หัวเบะนอนหลับสบาย
- จะเอาผิดกับชาย 3 สีก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่รู้เรื่องว่าเมื่อที่ 4 เป็นใคร เป็นการต่อสู้กันเองระหว่างมือที่ 3 และ 4 แล้วอย่ามาร้องเอ๋งๆ ร่ำไห้เหมือนคราก่อนอีก
- ตอนนี้พ่อครัวแสนดีร่างกำยำล่ำสัน มาเตรียมคั่วป๊อบคอร์นแจกที่แจ้งวัฒนะ และที่ชุมนุมเรียบร้อยแล้ว ดาหน้ากันเข้ามาเลยทั้งชุดดำชุดเขียวฝ่ายชั่ว และแดงอันธพาล

ดังนั้นก่อนที่ชายชุดดำฝ่ายดี และชายชุดดำผู้ปฏิบัติ จะต้องตกเป็นเหยื่อความโหดของชายดูไบ มีหนทางเดียวเท่านั้นในเวลานี้ คือ ต้องแบ่งงานผนึกกำลังกัน เพื่อป้องกันสูญเสียพี่น้องพวกเดียวกันเอง โดย
1. อาจมีนักรบป๊อบคอร์น เอาพวกอาวุธหนักทั้งหลายที่ยึดได้จากเขมร และสมุนโกตี๋ ไปโยนคืนใส่บ้านครอบครัวชายดูไบ แกนนำพรรคแดงตัวเอ้ และหัวหน้าชายชุดดำฝ่ายชั่ว พวกนี้ขี้ขลาดต้องหนีออกบ้านไปนอกเมือง และสนามบิน ทางด่วนแน่ ๆ
2. ระหว่างทางจากบ้านไปสนามบิน ให้ชายชุดดำฝ่ายดี ส่งสัญญาณต่อ ๆ กัน ลอบประกบรถสังหารครอบครัวชายดูไบ และแกนนำพรรคแดงตัวเอ้ เสียเลย
3. ถ้าพลาดจะมีนักรบป๊อบคอร์นอีกหลายทีม เตรียมสิ่งเทียมอาวุธชนิดเล็งแสงเลเซอร์ล๊อกเป้า ปล่อยจากตึกสูง ถล่มใส่ขบวนรถแบบปูพรหม ไม่ให้รอดแม้ยุงสักตัว

พวกมันมีลูกเขย-หลายเขยก็ผสมพันธ์กับเขมร, ชายดูไบก็เป็นที่ปรึกษานายกเขมร, วางแผนก็ไปสุมหัวสั่งการกันที่เขมร, ยิงเสื้อแดง -ทหาร- เผาเมืองปี 53 ก็ใช้กองกำลังเขมร, แกนนำแดงทำผิดก็หนีไปลี้ภัยเขมร, เอาข้าวก็เขมรมาสวมสิทธิ์ข้าวไทย, ปะทะกับนักศึกษารามก็ใช้เขมร, ปราบม๊อบ 26 ธ.ค.56 ก็ใช้บริษัท รปภ.เขมร , เลือกตั้งล่วงหน้าก็เอาเขมรมาลงคะแนน , ส่งสายลับมาจับได้ก็เป็นเขมร, อาวุธก็นำเข้ามาจากเขมร, ลอบโจมตีประชาชนผู้ชุมนุมก็ใช้กองกำลังเขมร

เอาซีวะ..พวกชายชุดดำฝ่ายชั่ว แก๊งค์อั้งยี่แดง และเขมร มันสมคบกันให้มีมือที่ 3 , แล้วทำไมประชาชนผู้ชุมนุมฝ่ายธรรมะ จะร่วมกับชาย 3 สี (เขียว ขาว ฟ้า) ให้มีมือที่ 4 มาปกป้องสวนกลับบ้างไม่ได้..

ให้ความยุติธรรมพวกมันแบบหูดับตับไหม้ด้วยป๊อบคอร์น กับสิ่งเทียมคนชั่วไทยใจเขมร..มันผิดตรงไหน !!

@เสธ น้ำเงิน
https://www.facebook.com/topsecretthai