PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

คสช.สั่งย้าย ธงทอง พ้นปลัดสำนักนายกฯ


(29 พ.ค.) เมื่อเวลา 20.50 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ประกาศคำสั่งที่ 27 เรื่องการแต่งตั้งให้ข้าราชการปฎิบัติหน้าที่ ให้นายธงทอง จันทรางศุ พ้นจากการปฎิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ยังคงปฎิบัติราชการที่สำนักนายกฯ และให้หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย มาปฎิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกฯอีกหน้าที่หนึ่ง โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน
นอกจากนี้ คำสั่ง คสช. ที่ 28 ยังให้นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกามาปฎิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนจากทางต้นสังกัดเดิมไปพลางก่อน และให้นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งนี้ คสช. ได้ประกาศคำสั่งที่ 29 ให้นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ มารายงานตัวเพิ่มเติม ณ ห้องจามจุรี มโมสรทหารบก เทเวศร์ วันที่ 29 พ.ค. 10.00-10.30 น.


คสช..แจงกรณีFBล่มไม่เกี่ยวปฏิบัติการเฉพาะเวปหมิ่น


กรณี Facebook ของผู้ใช้งานในไทยกว่า 26,000,000 account ล่ม นั้น ทาง คสช. ทราบดีถึงผลกระทบ และ คสช. ได้เร่งรัดให้ตรวจสอบและแก้ไขแล้ว ภายในเวลาที่คิดว่าคงไม่ช้าเกินไป 
. ทั้งนี้ อยากเรียนชี้แจงให้ทุกท่านทราบว่า คสช. มีการดำเนินการเฉพาะต่อเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ที่เข้าข่ายปลุกปั่น ยุยง และก่อให้เกิดความขัดแย้ง รวมถึงการล่วงละเมิดสถาบันฯ เท่านั้น และยึดแนวทางดังกล่าวมาโดยตลอด 
. แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะถูกตำหนิจากพี่น้องประชาชนมากกว่าวันละ 2 - 300 สาย ทางโทรศัพท์ และมากกว่าวันละ 200 อีเมล์ ว่า "เหตุใดดำเนินการช้า" หรือ "เหตุใดไม่ดำเนินการ" แต่
. อย่างไรก็ตาม คสช. ขอยืนยันว่า ไม่มีนโยบายในการปิดกั้นข่าวสารและlสิทธิในการรับรู้ของพี่น้องประชาชนในส่วนที่เป็นประโยชน์แต่อย่างใด ไม่ว่าทาง Facebook ซึ่งมีผู้ใช้งานมากกว่า 26,000,000 account, Line, YouTube, Twitter, Instagram หรือช่องทางอื่นใดก็ตาม
. นอกจากนี้ กรณีมีผู้นำภาพการปิดกั้นมาแอบอ้างบิดเบือนว่าเป็นการดำเนินการตามคำสั่ง กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย นั้น
. ขอเรียนให้ทราบว่า ชื่อ Facebook นี้ ยึดตามของเดิมก่อนตั้ง คสช. และเพื่อไม่ต้องการให้ทุกท่านเกิดความสับสนกรณีเปิดเพจ คสช. ขึ้นใหม่ ว่าเป็นเพจปลอมดังเช่นที่มีผู้อื่นจัดทำขึ้นหลายเพจตามที่ปรากฏ ดังนั้น คสช. จึงยังคงใช้เพจเดิม
. ทั้งนี้ ในปัจจุบัน การดำเนินการแก้ปัญหาต่างๆ เป็นการดำเนินการภายใต้ ชื่อ "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" หรือ "คสช." เท่านั้น ดังนั้น ภาพดังกล่าวจึงเป็นการจงใจทำขึ้นเพื่อบิดเบือนให้ร้ายต่อการดำเนินงานของ คสช. ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบกับทาง ICT ได้โดยตรง เนื่องจากการปิดเว็บไซต์ใดๆ จะต้องมีการขึ้นภาพสัญลักษณ์ (Logo) ของหน่วยงานที่ปิด อาทิ ICT หรือ คสช. แต่ในภาพดังกล่าวไม่มีสัญลักษณ์ใดๆ เลย จึงเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า ภาพดังกล่าวเป็นการทำปลอมขึ้น
. จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน


ศาลค้านประกัน"จาตุรนต์"ส่งขังเรือนจำกรุงเทพ๑๒วัน

๒๑.๐๐ น. ศาลทหารกรุงเทพฯ รับคดี "นายจาตุรนต์ ฉายแสง" ในข้อหาขัดคำสั่ง คสช. ในขณะนายจาตุรงต์ขอยืนประกันตัว แต่ศาลทหารกรุงเทพฯได้คัดค้านการประกันตัวนายจาตุรงต์ ได้มีคำสั่งและส่งเข้าเรือนจำกรุงเทพฯ เป็นเวลา ๑๒ วัน โดยอย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนจะยื่นสำนวนส่งอัยการทหาร เพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไปและศาลทหารจะเรียกตัวมาขึ้นศาลอีก


"จตุพร" ระบุแกนนำ นปช. รับเงื่อนไขไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง หลังถูกปล่อยตัว

"จตุพร" ระบุแกนนำ นปช. รับเงื่อนไขไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง หลังถูกปล่อยตัว ขณะ คมช.ปล่อยตัว นปช.-พท. รวม 16 คน...

วันที่ 28 พ.ค. 57 ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ปล่อยตัวแกนนำกลุ่มนปช. ที่ถูกกักตัว จำนวน 10 คน และแกนนำพรรคเพื่อไทย อีก 6 คนแล้ว โดยมีรายชื่อ ดังต่อไปนี้ นายจตุพร พรหมพันธ์ุ, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นางธิดา ถาวรเศรษฐ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นพ.เหวง โตจิการ, นายนิสิต สินธุไพร, นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ, นายขวัญชัย ไพรพนา,
 นายวีระกาน มุสิกพงศ์, นายชัยเกษม นิติสิริ, นายไชยา สะสมทรัพย์, นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์, พล.ท.มนัส เปาริก, พล.ต.ท.ชัช กุลดิลก และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย
นายจตุพร ให้สัมภาษณ์ระบุว่า การพูดคุยกันระหว่างแกนนำ นปช. กับ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจตรงกัน ที่จะดำเนินการเพื่อให้บ้านเมืองสามารถเดินหน้ากลับสู่ประชาธิปไตย ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ถูกกักตัว แกนนำทุกคนต่างได้รับการปฏิบัติ ดูแลจากทหารอย่างเพื่อนมนุษย์เป็นอย่างดี และหวังว่าแกนนำที่เหลือจะได้รับการปล่อยตัวออกมาตามลำดับ
พร้อมกันนี้ นายจตุพร ยังได้ฝากบอกกับมวลชนด้วยว่า แกนนำทุกคนเข้าใจในความรู้สึกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี และไม่อยากให้มีความสูญเสียเกิดขึ้น จึงขอให้ทุกคนช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปให้ได้ อย่างไรก็ตาม ในการปล่อยตัวครั้งนี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติยังได้มีเงื่อนไข ห้ามไม่ให้เคลื่อนไหวทางการเมืองอีก ตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกด้วย.
ไทยรัฐออนไลน์


นำ"จาตุรนต์"ฝากขังศาลทหารผลัดแรก 12 วัน

ฝากขังศาลทหารผลัดแรก 12 วัน
18.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัว นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีต รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งกระทำผิดฐานขัดขืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กรณีไม่มารายงานตัว จากกองปราบปรามไปฝากขังศาลทหารผัดแรก 12 วัน หลังสอบปากคำไม่แล้วเสร็จ
ภาพจาก มติชนออนไลน์


กระทรวงมหาดไทย เด้งอีก 5 ผู้ว่าราชการจังหวัด เข้ากรุ ผู้ตรวจมท.

กระทรวงมหาดไทย เด้งอีก 5 ผู้ว่าราชการจังหวัด เข้ากรุ ผู้ตรวจมท.

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด จำนวน 10 ตำแหน่งดังนี้

1.นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 2.นายเกรียงเดช เข็มทอง ผวจ.จันทบุรี เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 3.นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผวจ.ร้อยเอ็ด เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 4.นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผวจ.ระยอง เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย 5.นายวันชัย สุทธิวรชัย ผวจ.อุบลราชธานี เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
6.นายภุชงค์ โพธิกุฎสัย ที่ปรึกษาด้านการปกครอง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็น ผวจ.กาฬสินธุ์ 7.นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็น ผวจ.จันทบุรี 8.นายธานี สามารถกิจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็น ผวจ.ระยอง 9.นายสมศักดิ์ จังตระกุล ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็น ผวจ.ร้อยเอ็ด 10.นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็น ผวจ.อุบลราชธานี ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. เป็นต้นไป

ชุลมุนม็อบต้านรัฐประหารทุ่มขยะใส่ พ่นสี เจาะยางรถทหาร

18:00น.ชุลมุน! ทหาร เข้าคุมตัว คนที่คาดว่า จะเป็นแกนนำ 1คน ที่มารวมตัว @อนุสาวรีย์ชัยฯ ช่วง 6โมงเย็น / ผู้ชุมนุมหลายคนไม่พอใจ วิ่งกรูเข้าไปล้อมทหาร เพื่อจะยื้อยุดฉุดกระชากช่วยคนที่โดนคุมตัว

บ้างใช้ขวดน้ำเขวี้ยงใส่ทหาร/ มีรองเท้าเป็นข้าง และบางคน ทุ่มถังขยะอันใหญ่ของกทม. ที่มีขยะอยู่เต็มถังตรงป้ายรถเมลล์ ใส่กลุ่มทหาร และ ตำรวจ

หลังจากนั้นมีการเจาะยางและพ่นสีรถทหาร

















"จาตุรนต์" กำลังถูกนำตัวออกจากกองปราบ ไปศาลทหาร

@NoteBUJR 11m
18.00 "จาตุรนต์"' เผยขณะกำลังถูกนำตัวออกจากกองปราบ ไปศาลทหาร ว่า "ตนเองสบายดีไม่ต้องห่วง"


วันนี้ เฟสบุ๊ค ถูกบล็อคในประเทศไทย วิจารณ์ทหารชิมลาง

วันนี้ (28 พ.ค.57) เวลาประมาณ 15.40 น.เฟซบุ๊กไม่สามารถใช้การได้

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดไอซีที ระบุว่า ได้รับคำสั่งให้ระงับเฟซบุ๊คเป็นระยะ เพราะเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ใช้ในการสร้างกระแส ยุยงปลุกปั่น ก่อให้เกิดความไม่สงบ ตาม

ประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

ล่าสุดเวลา 16.19 . สามารถใช้งานเฟซบุ๊กได้แล้ว

Kattiya Tang เมื่อวันที่ 28พ.ค.57 เวลา15.50น. facebook.com เริ่มเข้าใช้งานไม่ได้แล้ว และเกิดเสียงวิพากวิจารณ์ในโลกออนไลน์ ขณะที่ทวิตเตอร์มีการโพสต์ข้อความแจ้งว่าข่าวว่า เฟซบุ๊กใช้งานไม่ได้แล้ว

นายไมเคิล พีล ผู้สื่อข่าวไฟแนลเชียล ไทมส์ กล่าวว่า โฆษกคสช. ปฎิเสธไม่ได้บล็อกเฟซบุ๊ก แต่อาจเป็นปัญหาในเชิงเทคนิค

ด้านนายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวว่า ได้รับคำสั่งให้ระงับใช้เอฟบีชั่วคราวเพราะขณะนี้มีการใช้ Social Network สร้างกระแส

หลังจากนั้นไม่นาน ทาง คสช.ได้ออกมาให้ข่าว ว่า  ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวว่าคสช.สั่งระงับระบบfacebookในขณะนี้นั้น

คสช.ขอยืนยันว่าไม่มีนโยบายระงับปิดระบบfacebook. และได้มอบให้คณะตรวจสอบติดตามสื่อออนไลน์ของกระทรวงไอซีที ตรวจสอบและแก้ไขแล้วปรากฎว่า เกิดข้อขัดข้องทางเทคนิค

ที่gateway. ขณะนี้กำลังประชุมISPเพื่อแก้ไขโดยด่วน. คาดว่าในเวลาไม่เกิน17.00น.ระบบเฟสบุคจะเปิดบริการได้ตามปกติ

รองโฆษกศิริจันทร์

///////////////////////////////
(รายละเอียดข่าวปลัด)

ปลัด ไอซีที เผย ปิดเว็ปไซต์เนื้อหาไม่เหมาะสมแล้ว 219 เว็ป  พร้อมตั้งกก.กำกับดูแลออนไลน์

นายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการปิดเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม หมิ่นประมาท และเป็นภัยต่อความมั่นคงตาม

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปแล้ว 219 เว็บไซต์  และเตรียมประสานความร่วมมือไปยังต่างประเทศเพื่อขอปิดบัญชีผู้ใช้งานเป็นรายบัญชีกรณีพบการนำเสนอเนื้อหาที่ผิดกฏหมาย

ในสื่อออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ ยูทูป

ทั้งนี้ ได้ตั้ง 3 คณะทำงานเพื่อกำกับดูแลการใช้อินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ในระดับที่เข้มข้นมากขึ้น ประกอบด้วย

1.คณะทำงานด้านการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูล มีหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ การใช้เว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อพบการฝ่าฝืนสามารถระงับการเผยแพร่ข้อมูลนั้นๆ ได้

ทันที โดยมีหัวหน้าคณะทำงาน คือ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ และมีคณะทำงานที่มาจากภาคส่วนต่างๆ เช่น ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักข่าวกรอง สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ กองบังคับการปราบปราม

กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 2.คณะทำงานด้านด้านสืบสวนสอบสวนและปรามปราม มีอำนาจสอบสวน สืบสวน และจับกุม ผู้ที่กระทำผิดนำ

เสนอข้อมูลข่าวสารที่ผิดกฎหมาย โดยมีผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และมีผู้แทนจากกองทัพบกร่วมทำงาน และ 3.

คณะทำงานอำนวยการ

นอกจากคณะทำงานแล้ว ไอซีที ได้เร่งหารือแนวทางการจัดทำ เนชั่นแนล อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ (National internet gateway) หรือ ช่องทางสำหรับเชื่อมต่อข่ายงานคอมพิวเตอร์ที่ต่างชนิดกันให้

สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ เพื่อเพิ่มความสามารถในการตรวจสอบและปิดกั้นเนื้อหาบนเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายทำได้ดีขึ้น โดยจะให้บริษัท กสท โทรคมนาคม เป็นตัวหลักในการดำเนินงาน ร่วมกับ

บริษัท ทีโอที และจะเรียกผู้ให้บริการที่มีเกตเวย์จากต่างประเทศเข้าร่วมหารือ ซึ่งอาจเห็นเป็นรูปธรรมได้ภายใน 1-2 เดือน
///
อย่างไรก็ตาม มีสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักได้รายงานข่าวนี้ ไม่ว่าจะเป็น รอยเตอร์ และ บีบีซี.ว่าได้เกิดเหตุการณ์บล็อคเฟสบุ๊คด้วยเหตุผลที่เกี่ยวกับการควบคุมสถานการณ์
///
Wootthinan Nahim
13 วินาที ·
(สายข่าวรายงาน หาก คสช.) ลองยา! นี่คือบทเรียนครั้งสำคัญของไทย หากสังคมออนไลน์ถูกปิด เน็ตถูกตัด เหตุการณ์ครั้งนี้คุณคงเห็นพลังของโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้วใช่มั้ยครับ ยังไม่นับรวมผู้ทำมา

หากินบน facebook แค่ไม่ถึง 1 ชั่วโมง

ขอบคุณแหล่งข่าวจากกระทรวงไอซีที+คสช.+ผจก.ฝ่ายขายเฟซบุ๊ก และ Facebook Official Representative, Thailand คนเดียวในประเทศไทย ทีเป็นแหล่งข่าวให้เราเช็กก่อนนำเสนอสู่สาธารณะ
///////////////
ข้อสังเกต

ช่วงที่ facebook ใช้งานไม่ได้ข้อมูล address เป็นเช่นนี้
$ host www.facebook.com
www.facebook.com is an alias for t1.dyndns-at-home.com.
t1.dyndns-at-home.com has address 180.180.247.104
แต่ ณ ปัจจุบันที่ใช้ได้แล้ว
$ host www.facebook.com
www.facebook.com is an alias for star.c10r.facebook.com.
star.c10r.facebook.com has address 31.13.79.144
star.c10r.facebook.com has IPv6 address 2a03:2880:f00c:501:face:b00c:0:1
star.c10r.facebook.com mail is handled by 10 msgin.t.facebook.com.
จะเห็นได้ว่า
1. address มีการเปลี่ยนแปลงไปชั่วขณะ ซึ่งอาการนี้ไม่ได้เกิดจากการที่ gateway ล่มอย่างที่ให้ข่าว
2. ระหว่างที่เข้าไม่ได้นั้น เป็นพร้อมๆ กันทุก ISP ทุกค่ายมือถือ ซึ่งแต่ละเจ้าต่างก็มี link ออกไปต่างประเทศของตนเอง เป็นไปไม่ได้ที่ gateway ทุกแห่งจะล่มพร้อมกัน
3. ระหว่างที่เข้าไม่ได้นั้น ยังคงเข้าเว็บอื่นได้ตามปกติ ซึ่งถ้าหาก gateway ล่มจะต้องเข้าเว็บอื่นไม่ได้ด้วย
4. ระหว่างที่เข้าไม่ได้นั้นยังสามารถ VPN ไปต่างประเทศและใช้งานได้ ดังนั้นไม่ใช่ปัญหาจากฝั่ง facebook"

คสช.ปล่อยตัว “พิชิต ชื่นบาน–ไพวงศ์ โบนันซ่า-จรรยา สว่างจิต-วิมลรัตน์ กุลดิลก”

วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18:21 น.  ข่าวสดออนไลน์ 


คสช.ปล่อยตัว “พิชิต ชื่นบาน–ไพวงศ์ โบนันซ่า-จรรยา สว่างจิต-วิมลรัตน์ กุลดิลก” 

วันที่ 28 พ.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับความเคลื่อนไหวในส่วนของสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ถูก คสช.เรียกให้เข้ารายงานตัวนั้น ล่าสุดทราบว่าทาง คสช.ได้ปล่อยตัวนายพิชิต ชื่นบาน คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย นายไพวงศ์ เตชะณรงค์ เจ้าของรีสอร์ทโบนันซ่า นางจรรยา สว่างจิต นางวิมลรัตน์ กุลดิลก จากบ้านพักทหารใน จ.ราชบุรี เมื่อช่วงคืนวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา 

ทั้งนี้ ในระหว่างที่กลุ่มคนเหล่านี้ก็ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ทหาร ไม่ได้มีการกักขังหน่วงเหนี่ยวแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้ชี้แจงถึงความจำเป็นถึงเหตุที่ต้องเรียกเข้ามารายงานตัว ว่าบ้านเมืองเกิดปัญหาความขัดแย้งอย่างมาก จึงอยากให้เข้าใจในสิ่งที่ คสช.ดำเนินการไปทั้งหมดด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านนายอานันท์ วัชโรทัย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างเหตุผลว่าจะขอไปทำธุรกิจส่วนตัว

ปรากฏการณ์ ‪#‎FacebookDown

ตั้งแต่ 16:00 - 17:00 น. เก็บข้อมูลปรากฏการณ์ ‪#‎FacebookDown‬ จาก Twitter การรายงานข่าว ข่าวลือ ข่าวลึก ข่าวเม้าท์ เสียงบ่นก่นด่า อีโม ดราม่า ประชด วิพากษ์ รีทวีต เมนชั่น แฮชแทค จากทั้ง นักข่าวสำนักต่างๆ ทั้งไทย/เทศ ประชากรโซเชียลไทย พนักงานรัฐผู้กำกับดูแล ฯลฯ บรรยากาศช่างมาคุ... บ่ายคล้อยนี้จึงเก็บอีกหนึ่งกรณีศึกษาไว้แบ่งปัน
เรื่องนี้วิทยาศาสตร์น่าจะตอบได้มากกว่าระเบิดอีโมครับ ปิดจริงหรือเกตเวย์ล่ม พิสูจน์ทราบได้ในปี 2014 กระทรวง ICT กสทช. เกตเวย์/ผู้ให้บริการโครงข่ายอินเตอร์เน็ต FB officers นักวิชาการ/นักเทคโนโลยี ฯลฯ ตอบและแสดงหลักฐาน จบปิ๊ง สถานการณ์เช่นนี้งดอีโมกันบ้างเอาการพิสูจน์ตรวจสอบนำทางประเทศชาติบ้างดีไหมครับ


อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผย พร้อมปฏิบัติตามคำสั่ง คสช.นำผู้ต้องขังจากศาลทหาร เข้าสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผย พร้อมปฏิบัติตามคำสั่ง คสช.นำผู้ต้องขังจากศาลทหาร เข้าสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ หากมีการส่งตัวมา
วันนี้ 28 พ.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. มีคำสั่งที่ 44/2557 ให้เรือนจำกรมราชทัณฑ์ปฏิบัติตามหมายของศาลทหารว่า กรมราชทัณฑ์พร้อมปฏิบัติตามคำสั่ง คสช.หากมีการส่งตัวผู้ต้องขังจากศาลทหาร
โดยเตรียมส่งตัวผู้ต้องขังเข้าควบคุมตัวในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เบื้องต้นเชื่อว่ามีความสามารถในการรองรับผู้ต้องขังเหล่านี้เพราะน่าจะมีจำนวนไม่มาก ซึ่งเท่าที่เรียกไปรายงานตัวเพิ่งจะมีส่งตัวขึ้นศาลทหารเพียงรายเดียว คือนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ส่วนการจะย้ายตัวผู้ต้องขังในกลุ่มนี้ไปไว้ที่เรือนจำชั่วคราวหลักสี่ได้หรือไม่นั้น เบื้องต้นเรือนจำชั่วคราวหลักสี่ถือเป็นเรือนจำสาขาของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ การจะแยกไปคุมขังที่เรือนจำชั่วคราวหรือไม่ผบ.เรือนจำ จะเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม แต่ยังต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของ คสช.


ย้อนนาที 'ประยุทธ์' ทุบโต๊ะ ยึด'อำนาจ' สู่ 'รัฐประหาร'

โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 23 พ.ค. 2557 10:40


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หน.คสช.
ปิดฉากไปแล้วสำหรับปัญหาความวุ่นวายบ้านเมือง ความขัดแย้งทางการเมือง การแบ่งแยก แบ่งฝ่าย เมื่อ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ขี่ม้าขาว นำคณะผบ.เหล่าทัพ ประกอบด้วย "บิ๊กเข้" พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. "บิ๊กจิน" พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. "บิ๊กอู๋" พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และ"บิ๊กตี๋" พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รอง ผบ.สส. (ตัวแทน) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ออกมาทำการยึดอำนาจ "รัฐประหาร" ในนาม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แบบนิ่มนวล ไร้การสูญเสีย ท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องของเหล่าประชา...
ถือเป็นวิธีการที่แยบยล ของการสลายขั้ว ลดความขัดแย้ง หาทางออกประเทศ โดยที่ทุกฝ่ายไม่เสียเลือดเนื้อแม้แต่คนเดียว เพื่อนำความสงบสุขมาสู่ประเทศชาติ หยุดความบ้าคลั่งของนักการเมือง ที่ต่างทำเพียงเพื่อแสวงหาอำนาจ ผลประโยชน์ให้กับตัวเอง ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ ในการสร้างความสามัคคีให้กับประชาชน ขจัดความแตกแยกให้กลับสู่ความเป็นปึกแผ่น
ผบ.เหล่าทัพ
เพียงชั่วข้ามคืน ที่ทหารประกาศ "กฎอัยการศึก" โดย กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (กอ.รส.) แล้วนำไปสู่การตั้ง คสช. ก็ส่งผลให้อำนาจของรัฐบาลรักษาการจบลงทันที ด้วยปลายกระบอกปืนของทหาร จึงกลายเป็นเรื่อง "ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์" ดังไปทั่วโลก ทันที เพราะแม้แต่สำนักข่าวต่างประเทศเกือบทุกประเทศให้ความสนใจ เสนอข่าว คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ลงมือหยุดอำนาจของเหล่านักการเมือง หยุดความวุ่นวายของชาติ ถือเป็นการปิดฉาก "ลิเกการเมือง" ไทยลงด้วยดีโดยไม่มีการสูญเสีย
ย้อนเหตุการณ์ห้วงนาทียึดอำนาจ...

เร่ิมจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ได้ทำการ "ยึดอำนาจ" ด้วยการประกาศกฎอัยการศึก เมื่อวันที่ 20 พ.ค.57 โดยส่งกำลังทหารลงพื้นที่ตั้งแต่เวลา 02.00 (ตีสอง) ของวันที่ 20 พ.ค.57 โดยได้จัดตั้ง กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (กอ.รส.) แล้วประกาศ "พ.ร.บ.กฎอัยการศึก" ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทีวีพูล) ตั้งแต่ 03.00 (ตี 3) จากนั้นประกาศวัตถุประสงค์ ให้ หัวหน้าส่วนราชการเข้ารายงานตัวประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง รวมทั้งเชิญคู่ขัดแย้งทั้ง 7 ฝ่าย เข้าประชุมพร้อมกันที่สโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดี – รังสิต
หทารเตรียมพร้อม
แจกจ่ายการบ้าน ข้อคิด เพื่อหาทางออก...
โดย พล.อ.ประยุทธ์ ให้แต่ละฝ่ายเสนอทางออกจากปัญหาความขัดแย้งในประเทศ โดยบรรยากาศการประชุมทุกคนยังอยู่ในสภาวะที่ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ก็ยังตกลงร่วมกันไม่ได้ โดยมีการให้การบ้านสำคัญกลับไปให้ทุกฝ่ายกลับไปหารือ 5 ข้อ

1. ปฏิรูปก่อน หรือเลือกตั้งก่อน 2. ทำประชามติ ว่าจะเลือกข้อไหนก่อน
 3. การตั้งนายกฯ คนกลาง โดยยึดกรอบกฎหมายสามารถทำได้หรือไม่
 4. การตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล โดยวุฒิสภา 5. ให้ กปปส. กับ นปช. ยุติการชุมนุม
หลังจากนั้น เข้าสู่กระบวนการในวันที่ 2 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบหมายให้ทุกฝ่ายนำการบ้านที่ให้กลับไปคิดมาหารือต่อ โดยตัวแทน ทั้ง 7 ฝ่าย ที่ต่างฝ่ายถือว่ามีธงมาก่อนแล้ว ได้เข้าห้องประชุม พร้อมกับถูกยึดโทรศัพท์ของตัวแทนทั้ง 7 ฝ่าย ภายหลังที่มีตัวแทนจาก 7 ฝ่าย ได้โพสต์รูปภาพถ่ายในที่ประชุมผ่านทางเฟซบุ๊กนำออกสู่สาธารณะ
ที่ประชุมเร่ิมตึงเครียด ต่างฝ่ายต่างไม่ยอม...
ระหว่างการประชุม บรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด เพราะต่างฝ่ายต่างยึดมั่นในจุดยืนของแต่ละฝ่าย ทำให้ไม่สามารถหาข้อยุติในที่ประชุมได้ โดยคณะ กอ.รส. ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผบ.ตร. และ พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รอง ผบ.สส. พร้อมนายทหารระดับ 5 เสือ ทบ.เขาประจำที่ 
ขณะที่ตัวแทนฝ่ายรัฐบาล ประกอบด้วย นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม และนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง
ตัวแทน 7 ฝ่าย
ตัวแทนพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รองหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ 
ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายจุติ ไกรฤกษ์ นายศิริโชค โสภา นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์
ตัวแทน กปปส. ประกอบด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข
ตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์
ตัวแทน นปช. ประกอบด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นางธิดา ถาวรเศรษฐ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง 
ขณะที่ฝ่าย กกต. มีนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ เข้าหารือเพิ่ม โดยการหารือ กอ.รส.ยังไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน เข้าพื้นที่ภายในอาคารสโมสรทหารบก ซึ่งใช้เป็นสถานที่หารือ โดยให้สังเกตการณ์อยู่บริเวณภายนอกอาคาร
ผบ.ทบ.ทุบโต๊ะ ขอรับผิดชอบทุกประการ หากใช้อำนาจ...
ก่อนการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวก่อนการประชุมตอนหนึ่งว่า สิ่งหนึ่งที่ตนเป็นห่วง คือเราไม่สามารถปล่อยให้มีปัญหากันต่อไป หรือมีความขัดแย้งต่อไปโดยที่ไม่มีทางออกได้ ซึ่งต้องเริ่มที่ตัวของตนเองก่อน คือพร้อมทำทุกอย่างให้เกิดความสันติสุขโดยเร็ว ทุกท่านให้เกียรติกองทัพ และการประกาศกฎอัยการศึกนั้น คิดว่าหลายท่านมีข้อขัดแย้ง แต่เรียนว่าจะทำอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะให้เกิดความสงบสุข และไม่ต้องมากังวลแทนตนเพราะไม่ว่าจะผิดหรือถูกอย่างไร ผมรับผิดชอบทุกประการ เพราะผมเป็นคนที่เกิดในแผ่นดินนี้ เป็นหนี้แผ่นดินนี้ ก็จำเป็นจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมตรงนี้ และพยายามใช้อำนาจความมั่นคงเป็นหลัก แต่มีความเกี่ยวพันกันในหลายมิติ หากก้าวล่วงอะไรไปบ้างหรือใช้อำนาจอะไรไปบ้างต้องขออภัย อย่างไรก็ตาม ผมให้เกียรติทุกท่านเสมอ
ประยุทธ์ ทุบโต๊ะหลังหารือไร้ทางออก
การประชุมผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง พล.อ.ประยุทธ์ ได้หันมาหารือกับ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. กับ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.บ่อยครั้ง และได้สั่งให้หยุดพักการประชุมทันที เนื่องจากการพูดคุยกันในที่ประชุมมีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากแต่ละฝ่ายไม่ยอมรับความคิดเห็นของแต่ละฝ่าย โดยแต่ละฝ่ายต้องการข้อเสนอของตัวเองเป็นหลัก 
กลับ ร.1 รอ. หารือ เหล่าทัพ ก่อนสั่งทหารจับตัว …
ไม่นานนัก พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางออกจากสโมสรทหารบก ด้วยรถประจำตำแหน่ง ไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) จากนั้น พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และพล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รอง ผบ.สส. ตามขบวนกันออกไป
ณ สโมสร ทบ. ทหารพร้อมหน้า
กระทั่งเวลา 16.40 น. ทหารจาก พล.ม.2 รอ. ร.1 รอ.นำรถจีเอ็มซี จำนวน 3 คันมาปิดที่บริเวณถนนเข้าออกสโมสรทหารบก และอีก 2 คันปิดที่ทางแยกไปยังอาคารกำลังเอก ที่ใช้ทำงานของสื่อมวลชน จากนั้นก็มีทหารพร้อมอาวุธครบมือมายืนกันผู้สื่อข่าว และช่างภาพ ให้ออกห่างจากจุดดังกล่าว และให้ไปรวมตัวอยู่ที่อาคารกำลังเอก ให้รอฟังแถลงการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.  
ต่อมาได้เสริมกำลังทหารจาก พล.ม.2 รอ. และร.1 รอ. พร้อมรถบรรทุก เข้าปิดบริเวณทางเข้า-ออกสโมสรทหารบก โดยใช้รถบรรทุกจำนวน 4 คัน และรถฮัมวี่อีก 4 คัน โดยมีกำลังทหารนอกเครื่องแบบของ ร.21 รอ. ได้นำรถตู้จำนวน 5 คัน ขึ้นมาบริเวณด้านหน้าสโมสรทหารบก และเข้าล็อกตัวแกนนำแต่ละคนขึ้นรถ โดยมีทหารถือปืน นั่งประกบ จากนั้นได้นำตัวแกนนำทั้งหมดที่มาหารือในวันนี้ไปควบคุมตัวภายในบ้านพักรับรอง ร.1 รอ. โดยรถตู้ทหารทุกคันได้ปิดแผ่นป้ายทะเบียน โดยรถตู้คันแรก มีแกนนำ นปช. นั่งอยู่ภายในและสังเกตเห็นได้ว่ามีการนำผ้าสีดำมาปิดตา พร้อมมีทหารนั่งควบคุมตัวภายในรถด้วย คันถัดไปเป็นรถที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. แต่ไม่มีนำผ้าสีดำมาปิดตาแกนนำ กปปส. มีเพียงทหารพร้อมอาวุธครบมือนั่งควบคุมตัว

ทั้งนี้ ระหว่างที่ขบวนรถตู้นายสุเทพหยุดชะงักนั้น ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่านายสุเทพนั่งอยู่ภายในรถอย่างชัดเจน จึงกรูกันเข้าไปตะโกนสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้ทหารรีบใช้ตัวบังนายสุเทพเอาไว้ เพื่อไม่ให้ถ่ายภาพได้ โดยนายสุเทพโบกมือ ขณะเดียวกัน ทหารเข้ามาควบคุมพื้นที่ และใช้มาตรการควบคุมสูงสุด   
"ประยุทธ์" แถลงการณ์ "ยึดอำนาจ" ตั้ง คสช.
กระทั่งเวลา  17.07 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พร้อม พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และ พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รอง ผบ.สส. ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เรื่องการควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ
"ตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ กทม. เขตปริมณฑล และพื้นที่ต่างๆ ของประเทศในหลายพื้นที่เป็นผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บและเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง และเหตุการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มขยายตัวจนอาจจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม เพื่อให้สถานการณ์ดังกล่าวกลับเขาสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนในชาติเกิดความรักความสามัคคีเช่นเดียวกับห้วงที่ผ่านมา ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทุกพวกทุกฝ่าย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย กองทัพบก กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2557 เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป"
"ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนอยู่ในความสงบ ดำเนินวิถีชีวิตและประกอบอาชีพต่อไปตามปกติ ให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ปฏิบัติหน้าที่ ตามระเบียบแบบแผนของทางราชการดังที่เคยปฏิบัติ สำหรับข้าราชการ ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ส่วนราชการต่างๆ ที่ได้มีอาวุธเพื่อใช้ในราชการของหน่วย ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังและอาวุธโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะได้รับคำสั่งจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติแต่เพียงผู้เดียวสำหรับคณะทูตานุทูต สถานกงสุล องค์กรระหว่างประเทศ รวมทั้งชาวต่างประเทศที่พำนักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทย คณะรักษาความสงบแห่งชาติจะได้ให้ความคุ้มครอง และขอยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ยังเป็นไปตามปกติตามที่รัฐบาลชุดเดิมได้ดำเนินการไว้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติจะยึดมั่นในความจงรักภักดีและจะปกป้อง เทิดทูน ดำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวไทย และทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง ประกาศ ณ วันที่ 22 พ.ค. 2557"
และทั้งหมดคือภาพรวมเหตุการณ์ของ การ "ล้มอำนาจ" รัฐบาลรักษาการของพรรคเพื่อไทย จากประกาศ "กฎอัยการศึก" ถึง "รัฐประหาร" เพียง 4 วัน ด้วยปลายกระบอกปืนของทหารกล้า นามว่า "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นั่นเอง...

เปิดเบื้องหลัง นาทีต่อนาที จับตา"ประยุทธ จันทร์โอชา"

ที่มา : เวปแนวหน้า
วันพุธ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557, 06.00 น.
สถานการณ์การเมืองไทยเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในประกาศกองทัพบก ฉบับที่ 1/2557 เรื่องการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก ประกาศใช้เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 เวลา 03.00น. เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และนำความสงบสุขกลับคืนสู่ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายโดยเร็ว จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 2 และมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร
การประกาศใช้พระราชบัญญัติกฏอัยการศึกในครั้งนี้ มีขึ้นในระหว่างที่ประเทศไทยอยู่ในสภาวะตึงเครียด ผู้คนแบ่งออกเป็นสองฝ่ายแสดงท่าทีแข็งกร้าวใส่กัน ซึ่งส่อเค้าว่าอาจเกิดการปะทะ ประกอบกับในช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ได้มีมือมืดใช้อาวุธสงครามออกก่อเหตุหลายต่อหลายครั้ง และสถานการณ์ไม่มีทีท่าจะบรรเทาเบาบางลง มีแต่จะเขม็งเกลียวหนักขึ้นและนำไปสู่จุดแตกหัก
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่  15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์  ได้ออกแถลงการณ์ 7 ข้อ โดยระบุว่าพร้อมใช้กำลังทหาร เพื่อรักษาความสงบของบ้านเมือง ก่อนที่ในเวลาต่อมา คือช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 20 พฤษภาคม จะตัดสินใจลงนามในประกาศกฏอัยการศึก ซึ่งมีรายงานว่า ผบ.ทบ.ต้องคิดเรื่องนี้อย่างหนัก อดนอนมา 2  คืน และเก็บตัวใน ร.1 รอ. ริมถนนวิภาวดี รังสิต มาตลอด
ส่วนการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ทหาร เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 23.30 น. คืนวันที่ 19 พฤษภาคม โดยทางกองทัพบกได้มีคำสั่งให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามจุดตรวจความมั่นคง และประจำจุดเฝ้าระวังในสถานที่สำคัญต่างๆถอนกำลัง และ รื้อถอนบังเกอร์ กลับที่ตั้งหน่วยทหาร     
จากนั้น เวลา 02.30 น. ได้มีกำลังทหาร ชุดละ 30 นาย เข้าไปยังสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ โดยแจ้งให้เจ้าหน้าที่เชื่อมต่อสัญญาณจากสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง5  จนกระทั่ง เวลา 06.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้อ่านประกาศกฎอัยการศึกผ่านทางโทรทัศน์สถานีทุกช่อง พร้อมจัดห้องให้หัวหน้าส่วนราชการเข้ารายงานตัว ที่ สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต
หลังจากนั้น ได้มีการออกประกาศคำสั่งหลายฉบับ เริ่มจากการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก และมีคำสั่งให้ศูนย์อำนวยการรักษาความเรียบร้อย (ศอ.รส.) ยุติหน้าที่ในทันที โดยมีการจัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(กอ.รส.) ที่มี ผบ.ทบ.เป็นผู้อำนวยการ มีหน้าที่ป้องกันระงับยับยั้ง และแก้ไขสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความสงบและความมั่นคง มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายทุกมาตราใน พ.ร.บ.กฎอัยการศึก และมีอำนาจเชิญบุคคลมารายงานตัว
ต่อมา กอ.รส. ได้ออกประกาศเพิ่มเติม ประกอบไปด้วย ฉบับที่1 ควบคุมเรื่องการถ่ายทอดออกอากาศของสถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีวิทยุโทรทัศน์ และสถานีวิทยุชุมชน ฉบับที่ 2 ควบคุมให้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในพื้นที่กำหนด  ฉบับที่3 ห้ามเสนอข่าวที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ฉบับที่4 เชิญบุคคลสำคัญ ประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าฯ เข้าพบ ฉบับที่5 แต่งตั้งคณะที่ปรึกษา กอ.รส. ประกอบไปด้วย ผบ.สส. ผบ.ทุกเหล่าทัพ ผบ.ตร. และฉบับที่6 ขอความร่วมมือระงับการถ่ายทอดออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม และสถานีวิทยุชุมชน
การประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึก ทำให้ภาคส่วนต่างๆ ในวงจรการเมืองไทยต้องหารือปรับวิธีดำเนินการกันใหม่ โดยฝั่งรัฐบาลรีบนัดแนะประชุม ครม.ชุดเล็ก โดยด่วน ส่วนกลุ่มมวลชน กปปส.งดการเคลื่อนไหวในวันที่ 20 พฤษภาคม ที่มีแผนจะเคลื่อนมวลชนไป นางเลิ้ง  อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และย่านวรจักร เช่นเดียวกับ กลุ่ม นปช. คนเสื้อแดง ที่ถนนอักษะ  ก็อยู่ในสภาวะสงบนิ่งโดยแกนนำขอประเมินสถานการณ์ก่อนเคลื่อนไหวในขั้นต่อไป ซึ่งสิ่งที่เหมือนกันคือยังอยู่ในที่ตั้ง
ขณะที่คนที่เคยแสดงท่าทีขึงขังไม่หวั่นไม่เกรงใคร ก็ต้องหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กัน โดยเฉพาะ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ที่โดน ผบ.ทบ.เฉ่งยับ แทบจะต้องหามออกจากที่ประชุมเพราะก่อเรื่องเอาไว้หลายเรื่อง
อย่างไรก็ตาม สำหรับกฎอัยการศึกของไทย มีศักดิ์เทียบเท่ากับพระราชบัญญัติ ตราขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกว่า "กฎอัยการศึก ร.ศ.126" ต่อมาใน พ.ศ. 2457 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงยกเลิกกฎอัยการศึก ร.ศ. 126 และตรากฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 ขึ้นใช้แทน มีทั้งสิ้น 17 มาตรา และยังคงใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้
ทั้งนี้ กฏอัยการศึก ที่เกี่ยวเนื่องกับการรัฐประหารนั้น ถูกประกาศใช้มาแล้ว 8 ครั้ง โดยครั้งนี้ พล.ประยุทธ์ ประกาศภายใต้เงื่อนไขต้องการเห็นความสงบ และลดความขัดแย้ง ซึ่งไม่ได้แจ้งให้ทางฝั่งรัฐบาลรู้ก่อน จึงเป็นการแสดงออกกลายๆ ว่าไม่เกรงใจกันแล้ว
แม้ ผบ.ทบ.จะยืนยันว่าการประกาศกฏอัยการศึก ไม่ใช่การทำรัฐประหาร ประชาชนไม่ต้องกังวล แต่หากสถานการณ์ยังบานปลาย จนไม่สามารถควบคุมได้ ก็อาจยกระดับมาเป็นการรัฐประหารอันเป็นไม้สุดท้าย
แน่นอนว่านับจากนาทีนี้ไป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. จะต้องถูกจับจ้องในทุกย่างก้าวในฐานะผู้ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อประเทศไทย และจะเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศว่าจะมุ่งสู่ทิศทางใดต่อไป