PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ปริศนาราคารถไฟไทยจีน:สามารถราชพลสทธิ์

ปริศนาค่าก่อสร้างรถไฟไทย-จีน

ถึงเวลานี้โครงการก่อสร้างรถไฟไทย-จีนมีประเด็นซึ่งเป็นที่สนใจของสาธารณชนหลายประเด็น หนึ่งในนั้นก็คือค่าก่อสร้างที่ถีบตัวสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากเดิมเมื่อประมาณ 1 ปีเศษที่ผ่านมาค่าก่อสร้างอยู่ที่ประมาณ 400,000 ล้านบาท แต่ถึงวันนี้กระโดดขึ้นเป็น 530,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาจากการออกแบบของจีน เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น จึงเป็นปริศนาที่ประชาชนคนไทยอยากรู้

รถไฟไทย-จีนในส่วนที่อยู่ในประเทศไทยมีเส้นทางจากกรุงเทพฯ – หนองคาย และจากแก่งคอย – มาบตาพุด คิดเป็นระยะทางยาวรวม 873 กิโลเมตร วิ่งบนทางรถไฟกว้าง 1.435 เมตร (ทางรถไฟในปัจจุบันกว้าง 1 เมตร) ด้วยความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง จึงไม่ถือว่าเป็นรถไฟความเร็วสูงที่ต้องวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดตั้งแต่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมงขึ้นไป ด้วยเหตุนี้ รถไฟไทย-จีนจึงถูกจัดอยู่ในประเภทรถไฟความเร็วปานกลาง หากค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นเป็น 530,000 ล้านบาทดังกล่าวข้างต้นจริง จะทำให้ค่าก่อสร้างต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร เท่ากับ 607.1 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นค่าก่อสร้างที่สูงมาก 

ผมได้เปรียบเทียบกับค่าก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ – หนองคาย (เส้นทางเดียวกับรถไฟไทย-จีน) ซึ่งทำการออกแบบเบื้องต้นโดยจีนในนามของ The Third Railway Survey and Design Institute Group Corporation เมื่อเดือนตุลาคม 2555 พบว่ามีค่าก่อสร้างต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร เท่ากับ 388.2 ล้านบาทเท่านั้น หรือค่าก่อสร้างรถไฟไทย-จีนในปี 2558 ซึ่งออกแบบโดยจีนเช่นเดียวกันแพงกว่าค่าก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ – หนองคายในปี 2555 ถึง 218.9 ล้านบาทต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร หรือคิดเป็น 56%

การออกแบบเบื้องต้นรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ – หนองคายโดยจีนในปี 2555 มีปัจจัยซึ่งมีผลกระทบต่อค่าก่อสร้าง ดังนี้

1. ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ความเร็วสูงขึ้นทำให้ค่าก่อสร้างแพงขึ้น)
2. ระยะทางบนระดับพื้นดินคิดเป็น 73.7% ของระยะทางทั้งหมด (ระยะทางบนพื้นดินมากทำให้ค่าก่อสร้างถูกลง)
3. ระยะทางที่เป็นทางยกระดับคิดเป็น 22.8% ของระยะทางทั้งหมด (ระยะทางยกระดับมากทำให้ค่าก่อสร้างแพงขึ้น)
4. ระยะทางที่เป็นอุโมงค์คิดเป็น 3.5% ของระยะทางทั้งหมด (ระยะทางที่เป็นอุโมงค์มากทำให้ค่าก่อสร้างแพงขึ้น)
5. จำนวนสถานี 7 สถานี ประกอบด้วยสถานีบางซื่อ อยุธยา สระบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย (จำนวนสถานีมากทำให้ค่าก่อสร้างแพงขึ้น)

เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้รับผิดชอบโครงการนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่าเหตุใดรถไฟไทย-จีนซึ่งวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง จึงแพงกว่ารถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ – หนองคาย ซึ่งวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถึง 56% ทั้งๆที่ ทั้งสองโครงการนี้ออกแบบโดยจีน ในช่วงระยะเวลาที่ต่างกันเพียง 3 ปีเท่านั้น

เอไอเอส.แจงเหตุผลหยุดสู้ชิง4g900ราคาแพงไป


รายงานข่าวจากบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวิร์ค จำกัด หรือ เอดับบลิวเอ็น (AWN) ในเครือเอไอเอสระบุว่า การที่ตัดสินใจไม่ประมูลคลื่น 900 MHz ต่อถือเป็นการตัดสินใจที่บริษัทได้พิจารณามาแล้วอย่างรอบคอบ เนื่องจากเอไอเอสเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีผู้ถือหุ้นและนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการวางแผนในการดำเนินธุรกิจจึงต้องมีความรอบคอบ มีการศึกษาและพิจารณาถึงความเสี่ยง โอกาส ความน่าจะเป็นในหลายประการ เพื่อให้ได้มาซึ่งแนวทางการจัดการที่ดีที่สุด

ก่อนหน้าที่จะเข้าร่วมประมูลคลื่น 900 MHz เอไอเอสได้ศึกษาเพื่อกำหนดราคาประมูลที่เหมาะสมทางธุรกิจว่าควรเป็นเท่าไร อย่างไร รวมทั้งได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษามาร่วมคาดการณ์ถึงผลลัพธ์และความเป็นไปได้ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการประมูลทั้งในกรณีที่เอไอเอสชนะการประมูล หรือหากคู่แข่งชนะการประมูล ราคาที่ได้ไปมีความเหมาะสมหรือไม่ รวมถึงหากราคาในการประมูลสูงกว่าราคาเหมาะสมที่บริษัทได้ศึกษาไว้จะมีแผนรองรับอย่างไรต่อไป ซึ่งในกรณีนี้เมื่อราคาการประมูลขึ้นไปสูงเกินกว่าราคาเหมาะสมที่บริษัทกำหนดไว้จึงตัดสินใจไม่ประมูลต่อ

 

อีกทั้งอนาคตยังจะมีการประมูลคลื่นความถี่อื่น ๆ ตามที่ กสทช.ประกาศไว้ อาทิ คลื่นความถี่ 1800 MHz ซึ่งจะสิ้นสุดสัมปทานกับ บมจ.กสท.โทรคมนาคม หรือ แคท ในอีก 3 ปีข้างหน้า และคลื่นความถี่ 2300 MHz/2600 MHz และที่มีปริมาณ Bandwidth อีกมาก เป็นต้น

 

และเอไอเอสได้พิจารณาประเด็นต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน โดยคำนึงถึงความเพียงพอของคลื่นความถี่ต่อการแข่งขันในอนาคต การตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ยังคงใช้มือถือ 2G รวมถึง การคงความแข็งแกร่งในด้านการเงินของบริษัท ทั้งขอยืนยันว่ามีคลื่นความถี่มากเพียงพอสำหรับการบริหารจัดการเพื่อการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้าทั้งคลื่น 2100 MHz ที่สามารถให้บริการ-3G ได้ทั่วประเทศ และยังมี bandwidth ที่เพียงพอในการขยาย capacity ต่อเนื่อง และคลื่น 1800 MHz ที่ประมูลมาได้ในเดือนที่แล้ว ซึ่งจะเปิดให้บริการ 4G ต่อไป รวมถึงความร่วมมือระหว่างบริษัทกับ บมจ.ทีโอที (TOT) ที่อยู่ระหว่างการเจรจา

 

สำหรับลูกค้าของเอไอเอสที่ยังใช้งานในระบบ 2G บนคลื่นความถี่ 900 ปัจจุบันเหลืออยู่จำนวนไม่มาก และบริษัทเตรียมแผนงานและมั่นใจว่าจะสามารถดูแลลูกค้าทั้งหมดได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยปีที่ผ่านมาความสำเร็จของมือถือรุ่น LAVA หลากหลายรุ่นได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีทำให้มีลูกค้าจำนวนมากยังเปลี่ยนเครื่องจาก 2G มาเป็น 3G อย่างต่อเนื่อง

 

นอกจากนี้ เมื่อบริษัทตัดสินใจไม่ประมูลต่อจะทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดที่แข็งแรงสามารถนำเงินจำนวนนี้มาใช้ในการลงทุนโครงข่าย 4G ได้อย่างรวดเร็ว คล่องตัว และมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาปรับปรุงโครงข่าย 3G ที่ยังมีการเติบโตสูงให้ดียิ่งขึ้น และการลงทุนในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ AIS Fibre

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า AWN ในเครือเอไอเอสเสนอราคาสุดท้ายที่ 75,976 ล้านบาท ในไลเซนส์ที่ 2 ขณะที่ราคาเริ่มต้นประมูลอยู่ที่ 12,864 ล้านบาท อีกรายที่พลาดเช่นกันคือบริษัท ดีแทคไตรเน็ต จำกัด เสนอราคาสุดท้าย 70,180 ล้านบาท ในไลเซ่นส์ที่ 1 แพ้ทรูมูฟเอช และแจสที่ชนะไปในราคา 76,298 ล้านบาท และ 75,654 ล้านบาท ในไลเซ่นส์ที่ 1 และ 2 ตามลำดับ

ตุรกีหนาวรัสเซียเปิดกล่องดำโชว์เครื่องที่ถูกยิงตกไม่ได้ล้ำน่านฟ้า

        
       
       เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่รัสเซียในวันศุกร์(18ธ.ค.) เปิดกล่องดำที่อยู่ในสภาพได้รับความเสียหายของเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ถูกเอฟ-16ของตุรกียิงตกเมื่อเดือนก่อน ต่อหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ พร้อมให้สัญญาจะสืบสวนเหตุการณ์นี้ด้วยความโปร่งใส
       
       ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่าเจ้าหน้าที่รัสเซียเปิดกล่องบันทึกข้อมูลการบินสีส้ม โดยมีคณะผู้เชี่ยวชาญจากจีนและอังกฤษคอยเฝ้ามองขั้นตอนต่างๆ
       
       ช่างเทคนิคในชุดเสื้อคลุมปฎิบัติการใช้ไขควง สว่านและเครื่องดูดฝุ่นเปิดกล่องดำดังกล่าว โดยนอกเหนือจากคณะผู้เชี่ยวชาญจากต่างชาติแล้ว ยังมีบุคลากรทางทหารและผู้สื่อข่าวอีกหลายสิบคนที่เป็นสักขีพยานการตรวจสอบที่มีการถ่ายทอดสดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐด้วย 

ตุรกีหนาว!รัสเซียเปิดกล่องดำซู-24ที่ถูกยิงตกต่อหน้านานาชาติ ย้ำไม่เคยละเมิดน่านฟ้า
        ทั้งนี้ทางกองทัพอากาศเปิดเผยว่าจะมีการเปิดเผยผลการตรวจสอบในวันจันทร์(21ธ.ค.)
       
       เซอร์เก ดโรนอฟ รองผู้บัญชาการกองทัพอากาศรัสเซียบอกว่าวัตถุดังกล่าวจะได้รับการวิเคราะห์อย่างเปิดเผยต่อสาธารณชนรัสเซียและนานาชาติ หลังจากประธานาธิบดีวลาดิมี ปูติน สั่งให้เปิดกล่องดำต่อหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศเท่านั้น
       
       มอสโกและอังการาตกอยู่ท่ามกลางสงครามน้ำลายมาตั้งแต่ตุรกียิงเครื่องบินซู-24ของรัสเซียตกตามแนวชายแดนซีเรียเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ในนั้นเป็นหนึ่งในนักบิน ส่วนอีกคนเป็นกำลังพลที่ถูกสังหารระหว่างปฏิบัติการเข้าช่วยเหลือเขา
       
       ตุรกีอ้างว่าเครื่องบินรบของรัสเซียล่วงละเมิดน่านฟ้าและเพิกเฉยต่อคำเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่มอสโกยืนยันว่าเครื่องบินของพวกเขายังไม่ได้ข้ามไปจากน่านฟ้าซีเรีย และกล่าวหาอังการาว่าวางแผนยั่วยุ
       
       "เรามีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าเครื่องบินรัสเซียไม่ละเมิดน่านฟ้าตุรกี" ดโรนอฟกล่าว พร้อมระบุว่าเครื่องบินลำดังกล่าวกำลังบินอยู่ในน่านฟ้าซีเรีย ห่างจากแนวชายแดนติดกับตุรกีมากถึง 5.5 กิโลเมตร 

ตุรกีหนาว!รัสเซียเปิดกล่องดำซู-24ที่ถูกยิงตกต่อหน้านานาชาติ ย้ำไม่เคยละเมิดน่านฟ้า
        ดโรนอฟ บอกว่ากล่องดำที่นำมาแสดงต่อสาธารณชนในวันศุกร์(18ธ.ค.) ไม่เคยถูกใครสัมผัสมาตั้งแต่เก็บกู้มันมาจากจุดตก พร้อมระบุว่ามี 14 ประเทศที่ได้รับเชิญให้เข้ามาสังเกตการณ์การสืบสวน แต่มีเพียงจีนและอังกฤษที่ตอบรับข้อเสนอ ขณะที่สหรัฐฯแค่ส่งผู้เชี่ยวชาญมาเป็นสักขีพยานตอนเปิดกล่องดำ
       
       ปูติน บอกว่าผลวิเคราะห์กล่องดำจะช่วยสรุปถึงเส้นทางการบินและตำแหน่งของเครื่องบินที่ถูกยิงตก ซึ่งอังการาและมอสโกโต้เถียงกันอย่างรุนแรง พร้มเตือนว่าหากปราศจากผลการตรวจกล่องดำ ก็อาจไม่สามารถบรรเทาความโกรธแค้นของมอสโกต่อเหตุการณ์นี้
       
       เหตุยิงเครื่องบินตกดังกล่าวกระพือวิกฤตเลวร้ายที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกและอังการา นับตั้งแต่สิ้นสุดสงความเย็น ด้วยรัสเซียออกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจตอบโต้ตุรกี

เปิดตัวบริษัทแจส ผู้ได้4G

"...นายพิชญ์ โพธารามิก เป็นทายาทคนเดียวของ นายอดิศัย โพธารามิก นักธุรกิจผู้ก่อตั้งบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล และเคยนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร.."

ppeeeddddddsd

ผลการประมูล 4 จีคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ สิ้นสุดลงไปเป็นทางการแล้ว เมื่อเวลา 00.15 น.ของวันที่ 19 ธ.ค. 2558ที่ผ่านมา โดยผู้ที่ชนะการประมูลคลื่น 900 MHz ในชุดที่ 1 คลื่น 895-905 MHz คู่กับ คลื่น 940-950 MHz ได้แก่ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ภายใต้กลุ่มบริษัท จัสมิน ส่วนชุดที่ 2 คลื่น 905-915 MHz คู่กับ คลื่น 950-960 MHz ได้แก่ บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ภายใต้บริษัท ทรูมูฟ เอช ราคารวม 151,952 ล้านบาท (ดูรายละเอียดการประมูลท้ายข่าว)

เชื่อว่าหลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ภายใต้บริษัท ทรูมูฟ เอช เป็นธุรกิจของคนในตระกูล "เจียรวนนท์" นายศุภชัย เจียรวนนท์ ลูกชายของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นเจ้าของ 

แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ภายใต้กลุ่มบริษัท จัสมิน มาความเป็นมาอย่างไร?  และใครเป็นเจ้าของ?  

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด เพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2558 ทุนปัจจุบัน 350 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่  200 หมู่ที่ 4 อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 

แจ้งประกอบธุรกิจให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ นำเข้าและจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และให้บริการเช่าและบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้บริการสื่อสารข้อมูลผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ 

ปรากฎชื่อ นาย พิชญ์ โพธารามิก น.ส. สายใจ คีตสิน นาย สมบัติ พันศิริพัฒน์ และนาย ยอดชาย อัศวธงชัย เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ 

รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 27 สิงหาคม 2558 มี 4 ราย บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่สุด 34,998,950 หุ้น มูลค่า 349,989,500  นาย พิชญ์ โพธารามิก นาย สมบัติ พันศิริพัฒน์ นางสาว สายใจ คีตสิน ถืออยู่คนละ 350  หุ้น มูลค่าหุ้นที่ถือคนละ 3,500 บาท 

บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2537 ทุนปัจจุบัน 3,568,697,189 บาท ตั้งอยู่ที่เดียวกัน 

แจ้งประกอบธุรกิจให้บริการที่ปรึกษาด้านการจัดการ ให้เช่าพื้นที่และบริการในอาคารสำนักงาน 

ปรากฎชื่อ นายพิชญ์ โพธารามิก นายสมบุญ พัชรโสภาคย์  นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล นายธีรศักดิ์ จีรอัศวพงศ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ 

รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2558 นาย พิชญ์ โพธารามิก ถือหุ้นใหญ่สุด 1,844,046,870 หุ้น มูลค่า 922,023,435 บาท 

ล่าสุดนำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ปี 2557 แจ้งว่า มีรายได้รวม 2,399,653,565 บาท แยกเป็น รายได้ค่าจัดการ 498,000,000 บาท ดอกเบี้ยรับ 24,103,302 บาท เงินปันผลรับจากบริษัทย่อย 1,855,555,167 บาท รายได้อื่น 21,995,096 บาท รวมรายได้อื่น 2,399,653,565 บาท 

มีรายจ่ายรวม 426,469,976 บาท  กำไรสุทธิ 1,871,540,106 บาท 

ทั้งนี้ นายพิชญ์ โพธารามิก เป็นทายาทคนเดียวของ นายอดิศัย โพธารามิก นักธุรกิจผู้ก่อตั้งบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล และเคยนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  

นายพิชญ์ เคยปรากฎชื่อติดทำเนียบเศรษฐีเมืองไทยอันดับที่ 34 ของนิตยสารฟอร์บส์ ประจำปี 2554 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 245 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินบาทประมาณ 7,350 ล้านบาท (อัตราแลกคิดที่ 30 บาทต่อ 1 ดอลลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมาจากการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มบริษัท 'จัสมิน' และเจ้าของบริษัทในเครือ "โมโน กรุ๊ป"

ณ วันนี้ โมโน กรุ๊ป เป็นเจ้าของช่องทีวีดิจิทัล "ช่อง MONO 29" ขณะที่ แจส โมบาย บรอดแบนด์ เพิ่งประมูลประมูล 4 จีคลื่นความถี่ 900 900 MHz

บทบาทของ 'พิชญ์ โพธารามิก' นับจากนี้ไปจึงน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง! 

ในฐานะนักธุรกิจด้านการสื่อสารรุ่นใหม่ ที่มี 'อาวุธ' ครบมือ  

10409669 10206939265274601 2070626646200040634 n

 

สหรัฐเรียกร้องให้ตุรกีถอนกำลังจากอิรัค

สหรัฐฯเรียกร้องให้ตุรกีถอนทัพออกจากอิรัคหลังจอห์น แครี่และคณะเข้าพบปูติน, อิรัคขอบคุณในข้อเสนอของสหรัฐฯต้องการส่งฮ.โจมตีเข้าต่อสู้ในเมือง Ramadi แต่อิรัคปฏิเสธ, ทหางอิรัค 30 นายเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บอีก 20 นายจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯในอิรัค กรรม!
---------

1.) วันที่ 17 ธ.ค.58 RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "สหรัฐฯเรียกร้องให้ตุรกีถอนกองทัพ 'ที่ไม่ได้รับอนุญาต' ให้ออกไปจากอิรัค" (US calls on Turkey to withdraw ‘unauthorized’ troops from Iraq)

สหรัฐฯได้เรียกร้องให้ตุรกีถอนกองกำลังทหาร "ที่ไม่ได้รับอนุญาต" (unauthorized) ของตนเองให้ออกไปจากประเทศอิรัต โดยเรียกร้องให้กรุงอังการาเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศอิรัค [ว้าว! เกิดอะไรขึ้นกับสหรัฐฯหละนี่? ก่อนหน้านี้เห็นเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับตุรกีไม่ใช่รึ แล้วไฉนจู่ๆสหรัฐฯถึงออกมาพูดแบบนี้หละนี่? - ผู้แปล]

"รองประธานาธิบดีได้ยืนยันซ้ำอีกครั้งถึงพันธกรณีของสหรัฐต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของอิรัค และเรียกร้องให้ประเทศตุรกีกระทำในลักษณะเดียวกันนี้ ด้วยการถอนกองกำลังทหารออกไปจาดินแดนของอิรัค ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลของอิรัค" ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์

การโทรศัพท์คุยกันระหว่าง Biden และ al-Abadi เกิดขึ้นเพียงสองวันหลังจากที่รองประธานาธิบดีของสหรัฐฯได้คุยกันกับ Ahmet Davutoglu นายกรัฐมนตรีของตุรกี

การเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของกรุงวอชิงตันต่อความร่วมมือที่ใกล้ชิดกันระหว่างอิรัคและตุรกีทั้งสองประเทศในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายไอซิส นาย Biden ได้เรียกร้องให้กรุงอังการาเดินหน้าทำการเจรจากับกรุงแบกแดดต่อไป

แถลงการณ์จากทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมกล่าวว่า "รองประธานาธิบดี ได้เน้นย้ำถึงการแสดงตนทางกองทัพต่างชาติในอิรัคว่าจะต้องได้รับการยินยอมอย่างเต็มที่จากรัฐบาลของประเทศอิรัค"

ต่อกรณีนี้ที่ตุรกีละเมิดอธิปไตยของอิรัคนี้ กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียก็ออกแถลงการณ์ว่า "ปัจจัยอันตรายเพิ่มเติมและร้ายแรงที่สนับสนุนให้เกิดความตึงเครียดระหว่างประเทศก็คือการปรากฏตัวของกองกำลังติดอาวุธของตุรกีที่ผิดกฎหมายในดินแดนของอิรัคใกล้กับเมือง Mosul ซึ่งได้ไปถึงที่นั่นโดยปราศจารการร้องขอและการอนุมัติจากรัฐบาลที่มีความชอบธรรมทางกฎหมายของอิรัค"

คุณ Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวว่า "พวกเราจำเป็นต้องตรวจสอบว่ามีกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ - สาธารณรัฐตุรกี (the Republic of Turkey) - จำนวนเท่าไร ได้มีการกำหนดเป้าหมายโดยพันธมิตรไว้อย่างไรบ้าง ทำไมพวกเขาถึงไม่ทิ้งระเบิดใส่พวกผู้ก่อการร้ายเหล่านั้น แต่กลับไปทิ้งระเบิดใส่ชาวเคิร์ดแทน?"

2.) นั่นคือท่าทีของสหรัฐฯ ที่มีต่อตุรกีและอิรัค สหรัฐฯคาดหวังอะไรจากการแสดงออกประมาณว่ากดดันตุรกีให้ถอนกองทัพของตนเองออกไปจากดินแดนของอิรัค มาอ่านข่าวนี้กันดูนะครับ วันที่ 17 ธ.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ขอบคุณนะ แต่ไม่ดีกว่า: อิรัคปฏิเสธเฮลิค็อปเตอร์โจมตีของอิรัคในการต่อสู้ที่เมือง Ramadi" (Thanks But No Thanks: Iraq Rejects US Attack Helicopters in Ramadi Fight) [เปรี๊งงงง! ฟังดูเหมือนเสียงฟ้าผ่าลงกลางทำเนียบขาวนะครับ - ผู้แปล]

รายงานข่าวบอกว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯได้ประกาศแผนเพื่อสนับสนุนกองทัพอิรัคด้วยเฮลิค็อปเตอร์โจมตี Apache เพื่อให้กรุงแบกแดดใช้ในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายดาอิช

"สหรัฐฯกำลังเตรียมการเพื่อให้การสนับสนุนแก่กองทัพของอิรัคด้วยศักยภาพที่ไม่ซ้ำใครเพิ่มเติม [อูยส์ ฟังดูเหมือนจะเป็นรางร้ายมากกว่ารางดีนะนี่? - ผู้แปล] เพื่อให้ความช่วยเหลือพวกเขาให้ปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วง ซึ่งรวมทั้งเฮลิค็อปเตอร์โจมตี และที่ปรึกษาที่จะติดตามไปด้วย หากว่าสถานการณ์ต่างๆได้มีการกำหนดไว้ และหากได้รับการร้องขอจากนายกรัฐมนตรี Abadi (ของอิรัค)" คุณ Ashton Carter รมว.กลาโหมของสหรัฐฯกล่าวในการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการด้านอาวุธแห่งวุฒิสภาของสหรัฐฯเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

แต่ หลังจากที่ได้มีการประชุมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯกับอิรัค ปรากฎว่ากรุงแบกแดดไม่ได่มีความสนใจในแพ็กเกจอากาศยานของสหรัฐฯเลย [คาร์เตอร์คงจะกัดฟันกร๊อดๆ อยู่เป็นแน่ - ผู้แปล]

"นี่เป็นสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งพวกเรากำลังมีปฏิบัติการภายใน และพวกเราจะต้องใส่ใจกับข้อเท็จจริงทางการเมืองหลายอย่าง ซึ่งมีอยู่รอบตัวของพวกเราในทุกๆวัน" พล.ท. Sean MacFarland ผู้บัญชาการระดับสูงในกองทัพสหรัฐฯในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายดาอิชกล่าว อ้างโดยนิตยสาร Stars and Stripes ของสหรัฐฯ

"มันเป็นอะไรที่ยุ่งยากในการสร้างความเจ็บปวดในการสนับสนุนใครบางคน ดังนั้นพวกเราจึงพยายามที่จะให้การสนับสนุน" (It’s kind of hard to inflict support on somebody. So we try to provide support.) 

รายงานข่าวบอกว่า การปฏิเสธจากทางอิรัคได้เกิดขึ้นเนื่องจากความหวาดกลัวว่าการปรากฎของชาวอเมริกัน (ทหาร) ที่เพิ่มมากขึ้นอาจจะถูกมองในทางลบก็ได้ คาร์เตอร์ชี้แจงว่าความกังวลเหล่านี้มีตั้งแต่ในการเริ่มต้นประชุมกัน

[ไม่ใช่ความกังวลครับคุณคาร์เตอร์ อิรัคเคยพูดจนปากเปียกปากแฉะมาหลายครั้งแล้วว่าพวกเขาไม่ต้องการให้มีทหารของสหรัฐฯไปอยู่ในดินแดนของพวกเขา เขาพยายามขับไล่พวกคุณออกไปหลายครั้งแล้ว ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "หยะแหยง!" แต่พวกคุณก็ยังหน้าด้านที่จะอยู่ในประเทศของเขาต่อไป และยังพยายามที่จะหาทางส่งกองกำลงของตนเองเข้าไปเพิ่มในอิรัคด้วย ทางอิรัคเขาพูดเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะครับ สำนักข่าวต่างๆก็ลงข่าวตั้งมากมาย คุณคาร์เตอร์ได้อ่านอ่านข่าวบ้างหรือไง? - ผู้แปล]

"ทุกสิ่งอย่างที่พวกเรากระทำ... ในที่นี้ก็เป็นเรื่องที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลอิรัค" คาร์เตอร์กล่าว อ้างโดยนิตยสาร Stars and Stripes "และผมยังต้องการที่จะเน้นย้ำต่อพวกคุณอีกด้วย การให้ความเคารพต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของอิรัคเป็นหลักการสำคัญที่สหรัฐฯสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกบริบท"

[แล้วในกรณีของอธิปไตยของและบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรียหละครับคุณคาร์เตอร์ คุณจะพูดแบบเดียวกับที่คุณพูดถึงอิรัคต่อหน้าคณะกรรมาธิการหรือไม่? จำได้ว่าสหรัฐฯส่งหน่วยรบพิเศษและเครื่งอบินรบของตนเองเข้าไปโจมตีในซีเรียโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลซีเรียที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนชาวซีเรียเลยนะครับ นี่หรือเปล่าที่เขาพูดกันว่า "อเมริกันสแตนดาร์ด = ดับเบิลสแตนดาร์ด"? 

ไม่น่าเชื่อว่า รมว.กลาโหมของสหรัฐฯยังรู้จักคำว่า "เคารพในอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศอื่น" ด้วย แต่ก็อย่างว่าแหละ ก็เสรีภาพของสหรัฐฯอยู่เหนือเสรีภาพของประเทศอื่นอยู่แล้วนี่ จะไปสนใจทำไปกับคำกล่าวอ้างเหล่านั้น มันก็แต่ข้ออ้างที่เลือกที่จะยกมาอ้างในบางเวลาเพื่อทำให้ตัวเองดูดี ในขณะที่ภาพพจน์ของตัวเองกำลังตกต่ำในสายตาชาวโลกเท่านั้นเอง - ผู้แปล]

คุณคาร์เตอร์ พูดปลอบใจตัวเองและคณะกรรมธิการฯว่า ในขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี Haidar al-Abadi ของอิรัคซึ่งในที่สุดแล้ว "อาจจะ" ข้อเสนอในบางจุดในอนาคตก็ได้ แต่สำหรับตอนนี้ กรุงแบกแดดได้ "ปฏิเสธ" (Baghdad has refused.) ไปเสียแล้ว คาร์เตอร์กล่าว [พร้อมกับร้องไห้ขี้มูกโป่งออกมาท่ามกลางการประชุม รายงานข่าวไม่ได้บอก แอ็ดินมโนเอาเอง คริๆ - ผู้แปล]

3.) หลังจากที่สหรัฐฯล้มเหลวในความพยายามที่จะสนับสนุนเฮลิค็อปเตอร์โจมตี Apache ให้กับกองทัพอิรัคไปหยกๆ วันที่ 18 ธ.ค.58 สำนักข่าว Sputnik new ก็พาดหัวข่าวว่า "มีทหารอิรัค 30 กว่านายเสียชีวิตในการโจมตีจากกองทัพอากาศของสหรัฐฯ คนอื่นๆได้รับบาดเจ็บอีก 20 คน" (Over 30 Iraqi Soldiers Killed in US Air Force Strike, 20 Others Injured)

[กรรม! ก่อนหน้านี้ก็ถล่มโรงพยาบาลในอัฟกานิสถาน ต่อมาก็ถล่มกองทัพซีเรียในจังหวัด Deir ez-Zor แต่รีบออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่ฝีมือตน คราวนี้ก็ซัดกองทัพภาคพื้นดินของอิรัคไปถึง 30 กว่านาย ก็อีแค่เขาไม่สั่งซื้อฮ.โจมตีของสหรัฐฯแค่นี้ถึงกับลงมือกันขนาดนั้นเลยรึ? นี่ไม่ใช่ครั้งแรกครับ ก่อนหน้านี้กองทัพของอิรัคก็เคยโดนสหรัฐฯลอบกัดแบบนี้มาแล้วด้วย - ผู้แปล]

อย่างน้อยมีทหารอิรัคเสียชีวิต 30 กว่านาย ได้ได้รับบาดเจ็บอีก 20 คน ในการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ Hakim al-Zamili ประธานคณะกรรมาธิการด้านความปลอดภัยและความมั่นคงแห่งรัฐสภาอิรัคกล่าว

"ทหารจำนวน 30 นายจากกองพลน้อยที่ 55 แห่งทหารบกของอิรัคถูกสังหาร และอีก 20 นายได้รับบาดเจ็บในการโจมตีทางอากาศที่เมือง al-Naimiya ในจังหวัด  al-Fallujah" แถลงการณ์จาก al-Zamili ที่ส่งมาให้สำนักข่าว Sputnik news กล่าว

นักการเมือง (ของอิรัค) กล่าวว่าตนได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีของอิรัคทำการตรวจสอบการโจมตีทางอากาศใส่กองพลน้อที่ 55 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการต่อสู้พวกผู้ก่อการร้ายดาอิช

เพจ: ปอกเปลือก ทรราช 
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
--------------
https://www.rt.com/news/326172-us-turkey-troops-iraq/
http://sputniknews.com/us/20151217/1031929858/iraq-rejects-us-helicopters.html
https://www.rt.com/news/326420-iraq-us-air-strike/
http://sputniknews.com/middleeast/20151218/1031964714/iraq-us-airstrike-casualtie.html
http://en.farsnews.com/newstext.aspx?nn=13940927000659

หักปากกาเซียนทรู-แจ๊สชนะประมูล4G

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ในที่สุดหลังจากเปิดประมูลคลื่น 900 MHz มาตั้งแต่ 9.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. 2558 ก็ได้สิ้นสุดลงในการเคาะราคารอบที่ 199 เวลา 00.15 น. ของวันที่ 19 ธ.ค. 2558

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) เปิดเผย ว่า บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ เป็น ผู้เสนอราคาสูงสุดในการประมูลคลื่นใบอนุญาตแรก ในราคา 75,654 ล้านบาท ขณะที่ บริษัท ทรูมูฟเอช ยูนิเวอร์แซล จำกัด เป็นผู้เสนอราคาสูงสุดในใบอนุญาตที่ 2 ในราคา 76,298 ล้านบาท  

ส่วนบริษัทที่พลาดการประมูล  บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค (AWN) ในเครือเอไอเอส เสนอราคาสุดท้ายที่ 75,976 ล้านบาทในไลเซนส์ที่ 2  บริษัท ดีแทคไตรเน็ต จำกัด เสนอราคาสุดท้ายไว้ที่  70,180 ล้านบาท ในชุดไลเซนส์ที่ 1

ขณะที่การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz แบ่งออกเป็น 2 ใบอนุญาต แต่ละใบอนุญาตมีแถบคลื่น 10 MHz แบ่งเป็นไลเซนส์แรก แถบคลื่นระหว่าง  895 – 905 MHz คู่กับ 940 – 950 MHz  และไลเซนส์ที่ 2 แถบคลื่น  905 – 915  MHz คู่ 950 – 960 MHz  อายุใบอนุญาต 15 ปี โดยราคาขั้นต่ำของการประมูลครั้งนี้อยู่ที่ 12,864 ล้านบาท

ด้านนายฐากร  ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า  การประชุมบอร์ด กทค. เพื่อรับรองผลประมูลน่าจะเป็นวันจันทร์ หรือ วันอังคาร และหากมีการรับรองผลการประมูลแล้วลูกค้าของเอไอเอสที่คงเหลือในระบบ 900 MHz จะต้องซิมดับทั้งหมด