PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

แด่ ... สนธิ ลิ้มทองกุล

แด่ ... สนธิ ลิ้มทองกุล
จากข่าว ไทยโพสต์ หน้า 3 เมื่อวันวาน...อธิบดีกรมราชทัณฑ์ คุณ วิทยา สุริยะวงศ์ ท่านได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คุณ สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ในเครือผู้จัดการและอดีตแกนนำคนสำคัญของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต้องเข้าไปอยู่ในคุกเกือบจะร่วมๆ สัปดาห์เข้าไปแล้ว ทำนองว่า...อยู่ๆ ไปก็น่าจะชินๆ ไปเอง อะไรประมาณนั้น...
--------------------------------------------
ถ้าแกะประโยคออกมาแบบคำต่อคำ ท่านบอกเอาไว้ยังงี้ว่า “นายสนธิได้ถูกจำคุกมานานเกือบสัปดาห์แล้ว จึงเชื่อว่าน่าจะทำใจและปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมภายในเรือนจำได้ และทางญาติก็ไม่เคยมาขอร้องอะไรเป็นพิเศษ ส่วนอาการเจ็บป่วยโรคประจำตัวของนายสนธิก็ไม่น่าห่วง หากเกิดกรณีฉุกเฉิน ทางเรือนจำมีทีมแพทย์พร้อมให้การช่วยเหลือทันที” คือเป็นการแสดงความคิด ความเห็น แบบกว้างๆ ไปตามภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย และก็ไม่ได้มีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อคุณ สนธิ หรือญาติ มิตร มากมายซักเท่าไหร่นัก...
-----------------------------------------------
แต่ที่อดไม่ได้ที่จะต้องหยิบเอามาพูดถึงก็คือว่า...อันที่จริงถ้าหากคุณ วิทยา ท่านเป็น ลูกหม้อ กรมราชทัณฑ์ เคยรับรู้เรื่องราวต่างๆ ในคุกมาโดยตลอด ท่านน่าจะพอรับทราบได้ว่า คนอย่างคุณ สนธิ ลิ้มทองกุล นั้น ถือเป็นผู้ที่คุ้นเคยกับคุก กับเรือนจำ มาในชนิดที่แทบไม่ต้องเสียเวลาปรับตัวใดๆ เอาเลยก็ว่าได้ แค่ถอดกางเกงขายาวใส่กางเกงขาสั้น หิ้วถุงเสื้อผ้าไม่กี่ชุด ก็สามารถบินปร๋อเข้าไปเรือนจำ ทักทายกับคนโน้น คนนี้ ได้สบายๆ แถมอาจหันมาสั่งสอนให้คนที่เป็นห่วง เป็นใย รู้จัก ทำใจ และ ปรับตัว รับอารมณ์ความรู้สึกที่หดหู่ เจ็บปวดรวดร้าวแทนตัวเองได้ซะอีกต่างหาก...
-------------------------------------------------
เพราะตั้งแต่กว่า 30 หรือเกือบจะ 40 ปีมาแล้ว...คุณ สนธิ ท่านก็เคยเข้าไปนอนเขลงในเรือนจำ นับเป็นเดือนๆ หรือเกือบครึ่งปีเห็นจะได้ แถมยังเป็นเรือนจำดั้งเดิมที่ทุกวันนี้ถูกรื้อทิ้งไปแล้ว เรียกว่า...ทั้งโทรม ทั้งน่าหดหู่ น่าทุเรศเวทนาเป็นอันมาก แต่ สนธิ ลิ้มทองกุล นั้นก็ยังคงเป็น สนธิ ลิ้มทองกุล ตามแบบฉบับของแท้และดั้งเดิมตั้งแต่เล็กจนโต หรือตั้งแต่หนุ่มจนแก่นั่นแหละ เท่าที่ ท่านขุนน้อย มีโอกาสแวะไปเยี่ยมท่านมาตั้งแต่ครั้งนั้น แทนที่จะได้สีหน้าแววตาของคนที่กำลัง ทำใจ หรือคนที่กำลัง ปรับตัว ท่านกลับออกอาการเอิ๊กๆ อ๊ากๆ หัวร่อร่วนเป็นไข่เค็ม พร้อมที่จะยืนหยัดอยู่กับจุดยืนในแบบ ไม่มี-ไม่หนี-ไม่จ่าย ไปโดยตลอด...
-----------------------------------------------------
พูดง่ายๆ ว่า...ถ้าหากย้อนอดีตกลับไปแค่ไม่กี่สิบปี ความเป็น นักหนังสือพิมพ์ กับ การติดคุก นั้น ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาจนแทบอาจเรียกว่าเป็น คนละเรื่องเดียวกัน เอาเลยก็ว่าได้ แม้ว่าบางครั้ง บางครา อาจไม่ใช่การติดคุกอันเนื่องมาจากข้อหาทางการเมืองไปซะทั้งหมด หรือไม่ใช่คดีหมิ่นประมาท ที่เกิดจากการวิพากษ์ วิจารณ์ ใครต่อใครในหนังสือของตน แต่การทำหนังสือพิมพ์ หรือการประกอบ ธุรกิจทางปัญญา ภายใต้สังคมที่เต็มไปด้วยความอับตันปัญญามานานนับเป็นศตวรรษๆ นั้น โอกาสที่จะเจริญรุ่งเรือง มีเงิน มีทอง มีอำนาจ จนแทบไม่ต้องเสียเวลามาติดคุกนั้น ยังไงๆ มันย่อมเป็นไปได้อยู่แล้วแน่ๆ...
-----------------------------------------------------
โดยเฉพาะถ้าหากนักหนังสือพิมพ์เหล่านั้น ไม่คิดจะหาเศษ หาเลย ไม่คิดจะเอารัด-เอาเปรียบสังคม ด้วยการจำหน่ายจ่ายแจก ยาพิษ ภายใต้ยี่ห้อความเป็นหนังสือพิมพ์ หรือความเป็นสื่อมวลชนใดๆ ก็แล้วแต่ โอกาสที่คว้าเงิน คว้าทอง มาได้เป็นกอบเป็นกำ คว้าอำนาจ บารมี จนนักการเมือง ทหาร ตำรวจ ฯลฯ ต้องหันมาศิโรราบ ยอมอ่อนน้อม ค้อมหัว หอบของขวัญ ช่อดอกไม้ ไปให้ทุกๆ วันเกิด วันแต่งงาน วันโกนจุกของลูกๆ หลานๆ ต้องเรียกว่า...แทบเป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด ...!!!
---------------------------------------------------
และเผอิญว่า...ตั้งแต่เล็กจนโต หรือตั้งแต่หนุ่มจนแก่ นักหนังสือพิมพ์อย่างคุณ สนธิ ลิ้มทองกุล ท่านไม่ค่อยเป็นมวยเป็นเอาซะเลย ในเรื่องการหันมาทำมาหารับประทานด้วยการออกหนังสือประเภทหนังสือโป๊ หนังสือแหกตา หนังสือประเภทมอมเมาผู้คนในสังคมที่เดิมทีก็เมาๆ อยู่แล้ว ให้เมาหนักยิ่งขึ้นไปอีก คือท่านโตมาจากหนังสือประเภทที่เรียกว่า แนวคุณภาพ ยังไงๆ ก็ต้องหาทางสอดแทรกสติ ปัญญา ความรู้สึกนึกคิดในด้านที่เป็นประโยชน์ให้แก่ผู้คนในสังคมมาโดยตลอด เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะเจ๊ง...กับ...เจ๊ง ทุนหายกำไรหด เดี๋ยวกำไร เดี๋ยวขาดทุน ล้มลุกคลุกคลานมาตั้งแต่เล็กจนโต พลาดท่าติดคุกตอนหนุ่มแล้วยังต้องมาติดคุกตอนแก่ซะอีก ก็ด้วยเหตุที่ท่านยังคงยืนหยัดอยู่ในจุดเดิมๆ ของตัวเอง อย่างไม่คิดจะเปลี่ยนแปรเอาเลยแม้แต่น้อยนั่นเอง...
---------------------------------------------------
ถึงแม้ว่าโดยบุคลิกส่วนตัวของท่านนั้น...จะก่อให้เกิดความหวาน ความเปรี้ยว สำหรับใครต่อใครไปตามรสนิยมของใครก็ของมัน มีทั้งคนรัก คนเกลียด มีทั้งผู้ชื่นชมและชิงชังอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย แต่ถ้ามองถึง ภาพรวม ในความเป็นตัวตนของท่านแล้ว สิ่งที่ท่านได้ทำไว้ให้กับชาติ บ้านเมือง กับสังคม หรือแม้แต่ปัจเจกบุคคลในแต่ละรายแล้ว ล้วนนำมาซึ่ง ประโยชน์ ที่เหนือกว่า โทษ ใดๆ อย่างชนิดแทบนำมาเทียบกันไม่ได้ พูดง่ายๆ ว่า...ถ้าหากไม่มี ความกล้า หรือ ลูกบ้า ของคนอย่าง สนธิ ลิ้มทองกุล เป็นตัวจุดประกายแล้ว ป่านนี้...เราทั้งหลายคงต้องตกอยู่ใน ทศวรรษแห่งความมืดมน ไปอีกนาน...
---------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...ถึงแม้ว่า กฎหมายย่อมต้องเป็นกฎหมาย แต่ภาพของผู้ซึ่งมุ่งมั่นจะทำประโยชน์ และเคยทำประโยชน์ให้กับสังคมครั้งแล้ว ครั้งเล่า กลับต้องมาติดคุก ติดตะราง ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ถูกลอบฆ่า ถูกข่มขู่ คุกคาม ครั้งแล้ว ครั้งเล่า จนแทบหาความสงบในชีวิตแทบไม่เจอ แม้กระทั่งแก่ๆ ใกล้จะแง้มฝาโลงเข้าไปทุกที อันนี้...ต้องยอมรับว่า ออกจะเป็นอะไรที่น่าหดหู่เอามากๆ ยิ่งไม่รู้ว่าตั้งแต่ชาติปางก่อนคุณ สนธิ ท่านได้กระทำกรรมอะไรเอาไว้ ชาตินี้...เลยต้องเจอกับทั้ง กฎหมู่ และ กฎหมาย โดยแทบไม่ได้รับอานิสงส์จาก “กฎแห่งกรรม” ตามกรรมดีที่ท่านได้เคยกระทำเอาไว้ไม่น้อย...
------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก Sanskrit saying... “When thou go away from here, no one will follow thee. Only the good and thy evil deeds, they will follow thee wherever thou goes.- เมื่อท่านลาจากโลกนี้ไป ไม่มีผู้ใดจะไปกับท่าน มีแต่กรรมดีและกรรมชั่วเท่านั้นที่จะติดตามท่านไปทุกหนทุกแห่ง...”.
----------------------------
ท่านขุนน้อย ไทยโพสต์
Friday, 15 August, 2014

15ส.ค.1945วันจักรพรรดิ/องค์เทพ/เทนโนะ ฮิโรฮิโตะ ประกาศยอมแพ้สงคราม

Charnvit Ks ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 3 รูป
Tomorrow 15 August 1945 = Japanese Surrender.
ปวศ นอกตำรา จากเมืองหลวงเก่าเกียวโต
หนึ่ง)
วันจักรพรรดิ/องค์เทพ/เทนโนะ ฮิโรฮิโตะ ประกาศยอมแพ้สงคราม
หลังจาก ประธานาธิบดี ทรูแมน ส่งปรมาณูสองลูก ไปถล่มฮิโรชิมา/นากาซากิ
นายพล แมคอาเธอร์ เข้ายึดครองญี่ปุ่น
เชิญให้จักรพรรดิไปเฝ้า ยืนถ่ายรูป คู่กัน
แมคอาเธอร์ กำหนดให้จักรพรรดิยอมรับ ดังนี้
ก. มิได้เป็นองค์เทพ/เทนโนะ อีกต่อไป
ข. ยกเลิก กม หมิ่นฯ ที่ใช้รุนแรงโดยทหาร ยุคสงคราม
ค. ห้ามมีกองทัพ
ง. ห้ามเกณฑ์ทหาร
จ. จับผู้นำทหาร ขึ้นศาลอาชญากร ตัดสินแขวนคอ นรม โตโจ (ที่ชิงฆ่าตัวตายไม่ทัน)
ฉ. ให้มีรัฐธรรมประชาธิปไตย มีพรรคการเมือง มีเลือกตั้ง
(ญี่ปุ่น เป็นประเทศ และ เป็นมนุษย์ไม่ธรรมดา
สามารถฟื้นตัวได้โดยไม่ยากนัก
และกลายเป็นหนึ่งในประเทศ อารยะ ประชาธิปไตย สมัยใหม่)
(สอง)
หนึ่งวันหลังจากนั้น ในสยามประเทศไทย ของเรา
16 สิงหาคม 2488/1945
ประเทศไทย โดย ฯพณฯ ปรีดี พนมยงค์ ผุ้สำเร็จราชการฯ
"ประกาศสันติภาพ" Declaration of Peace
นำประเทศเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร และสหประชาชาติ
(สาม)
ปวศ นอกตำรานี้
ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทย ไม่ถูกยึดครอง ไม่ถูกยุบกองทัพ
ไม่ถูกยกเลิกการเกณฑ์ทหาร
ไม่ถูกให้ปฏิเสธฐานะองค์เทพ/เทนโนะ/จักรพรรดิ
ไม่มีอาชญากรสงคราม ถูกประหารชีวิตแขวนคอ ฯลฯ
ก็เพราะ คุณูปการของ "ขบวนการเสรีไทย"
แต่ "วันสันติภาพ" 16 สิงหา
ก็เป็นวันที่รัฐไทย รัฐบาลไทย ผู้นำ/อีลีตไทย
ไม่ลืม ก็ทำเป็นลืม (ครับ)

ปฏิรูปรัฐราชการ คอลัมน์ ใบตองแห้ง

นที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 00:01 น.  ข่าวสดออนไลน์ 


ปฏิรูปรัฐราชการ คอลัมน์ ใบตองแห้ง

ไชโย ดีใจจัง ที่ได้เห็นการ "คิกออฟ" ปฏิรูปประเทศไทย "วันประวัติศาสตร์" ไม่เคยมีตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 นับเป็นบุญวาสนาได้เกิดมายุคนี้

แต่จะว่า 82 ปี ไม่เคยมีปฏิรูปคงไม่ใช่มั้ง เราปฏิรูปประเทศปฏิรูปการเมืองมาทุกสมัย ประวัติศาสตร์ยุคใกล้ก็ 14 ตุลา พฤษภา 35 รัฐธรรมนูญ 40 แม้กระทั่งสงครามสี มองแง่ดีคือพัฒนาประชาธิปไตยครั้งยิ่งใหญ่ คนเกินครึ่งประเทศเอาเป็นเอาตายอยากมีส่วนร่วมทางการเมือง นี่สิไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ

กระนั้นก็จริงว่ามีบางสิ่งไม่ เคยปฏิรูป ตั้งแต่ก่อตั้งรัฐชาติสมัย ร.5 นั่นคือระบบบริหารราชการแผ่นดิน กับทางรถไฟ 2 อย่างนี้อยู่มาร้อยกว่าปีไม่เคยเปลี่ยน

บางคนอาจเถียงว่าเราปฏิรูประบบราชการตั้งหลายครั้ง จริงๆ แล้วไม่ใช่ เป็นแค่การเพิ่มส่วนราชการให้สอดคล้องกับสังคมที่เปลี่ยนไป แต่โครงสร้าง หลักคิด วิถีปฏิบัติ วัฒนธรรม ไม่เคยเปลี่ยน "ระบบราชการ" ยังไงก็ยังงั้น ยังรวมศูนย์อำนาจไว้ส่วนกลาง ยังสั่งการจากบนลงล่าง ยังอยู่ใต้ทัศนะความมั่นคงแบบหนึ่งเดียว ยังติดกรอบประเพณี ระเบียบหยุมหยิม เทอะทะ ปรับตัวยาก และท้ายที่สุดก็เน่าใน

อ้าวก็ที่ประณามคอร์รัปชั่นระบาดทุกวงการ จะโทษนักการเมืองฝ่ายเดียวข้าราชการไม่เกี่ยวหรือ

รัฐราชการสร้างขึ้นสมัยร.5 เพื่อความเข้มแข็งของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในช่วงเพิ่งก่อตั้งรัฐชาติและ ต้องปกป้องตัวเองจากนักล่าอาณานิคม ร้อยกว่าปีผ่านไปการเมืองการปกครองเปลี่ยนแต่โครงสร้างนี้ไม่เปลี่ยน หลัง 2475 คณะราษฎรมีอำนาจสั้นๆ แล้วปกครองโดยรัฐทหาร ซึ่งยิ่งรวมศูนย์อำนาจในยุคสงครามเย็น เมื่อนักการเมืองจากเลือกตั้งขึ้นมามีอำนาจ ก็รับช่วงรัฐ Bureaucracy ไปสั่งซ้ายหันขวาหัน โครงสร้างอำนาจจากศูนย์กลางทำให้ผู้ชนะเลือกตั้งกินรวบเป็น Zero Sum Game เสียงข้างน้อยหรือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ แทบไม่มีโอกาสทัดทานการตัดสินใจ

ทิศทางปฏิรูปประเทศไทยวันนี้ จึงต้องปฏิรูประบบราชการและกระจายอำนาจ ลดการรวมศูนย์อำนาจ นี่ไม่ได้จำขี้ปากนักวิชาการเสื้อแดงที่ไหน แต่ ศ.จรัส สุวรรณมาลา ผู้อยู่ข้างเวที กปปส.ท่านเรียกร้องตลอดมา เสียดายพวกเรียกหา "สภาประชาชน" คนอื่นๆ ไม่รู้หายไปไหน หรือมัวดีใจที่ได้ สนช.

ทิศทางปฏิรูปประเทศไทยวันนี้ต้องลดอำนาจนักการเมือง ใช่ แต่พูดให้ถูกก็คือลดอำนาจรัฐ กระจายอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจ ไม่ใช่ Retro กลับไปเพิ่มอำนาจให้รัฐราชการ

มันประหลาดที่คนส่วนหนึ่งคิด สวนทาง เกลียดนักการเมืองแล้วเห็นข้าราชการสัตย์ซื่อเสียสละ เห็นเป็นระบบคุณธรรมมีความรู้ความสามารถ ขอเพียงขจัดอำนาจจากเลือกตั้ง ประเทศชาติจะวัฒนาสถาพร

การขจัดอำนาจนักการเมืองในมิติ ประชาธิปไตยก็คือขจัดอำนาจประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ขจัดอำนาจตัวเอง ไม่ว่าห้ามนักการเมืองเสนอนโยบาย ห้ามแต่งตั้งโยกย้าย แม้ในความเป็นจริงนักการเมืองใช้อำนาจโดยมิชอบ แต่ทำไมไม่คิดไปข้างหน้า ออกแบบหาวิธีให้นักการเมืองเป็นตัวแทนผลประโยชน์ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ทำไมคิดถอยหลัง โค่นนักการเมืองให้ระบบราชการเป็นใหญ่

ระบอบการปกครองเมื่อ 40-50 ปีที่แล้วไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์ Vintage ที่จะกลับไปบ้าเห่อกันได้ นี่มันเรื่องโครงสร้างไม่ใช่ของแต่งบ้านให้ดู "เป็นไทย"

ทิศทางปฏิรูปประเทศจึงต้องกระจายอำนาจให้องค์กร ปกครองท้องถิ่น ไม่ใช่แช่แข็งองค์กรปกครองท้องถิ่น ต้องเพิ่มอำนาจให้ดูแลบริการพื้นฐาน การศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม บรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ โดยไม่คิดแบบราชการว่า นักการเมืองท้องถิ่นซื้อเสียงโกงกิน "ประชาชนผู้โง่เขลา" ดูแลตัวเองไม่ได้ เพราะประชาธิปไตยจะเห็นผลทันตาเมื่อเป็นผลประโยชน์ใกล้ตัว เมื่อเป็นโรงเรียนลูก ค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่ บ่อขยะข้างบ้าน ฯลฯ จะไม่รู้จักใช้สิทธิเลือกตั้งก็ให้รู้ไป

ทิศทางปฏิรูปประเทศ จึงต้องปฏิรูประบบราชการ ไม่ใช่มัวปลูกฝัง "คุณธรรม" แต่ต้องสร้าง "ประชาธิปไตยในองค์กร" ปฏิรูปโครงสร้างและวัฒนธรรมขุนนาง "นายสั่ง" จากบนลงล่าง ให้มีการมอบอำนาจ แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ สามารถตรวจสอบจากล่างขึ้นบน คิดความดีความชอบจากผลงาน ไม่อย่างนั้น ขจัดอำนาจนักการเมืองแต่งตั้งโยกย้าย แต่ "นาย" ยังเล่นเส้นสายอุปถัมภ์ จะมีประโยชน์อะไร

ทัศนะ "เจ้าคนนายคน" อาจลดลงไม่เหมือนสมัยผมเป็นเด็ก แต่ระบบราชการก็ยังมี "นาย" มี "ท่าน" ไปตรวจงานต่างจังหวัดต่างกับนักการเมืองตรงไหน ลูกน้องยังต้องแห่มาต้อนรับหัวคำนับมือกุมไข่ นี่ไม่ใช่ประชาธิปไตย

ประชาธิปไตย ไม่ต้องการรัฐที่ใหญ่โต รวบอำนาจ ตัดสินแทนประชาชนแทบทุกอย่างแบบ "คุณพ่อรู้ดี" อันนี้ไม่ควร อันนั้นไม่เหมาะ ทีหลังอย่าทำ ประชาธิปไตยต้องการรัฐที่กะทัดรัด มีประสิทธิภาพ บริการประชาชนให้ตัดสินผลประโยชน์ วิถีชีวิต อนาคต ของตัวเอง

เราพัฒนาประชาธิปไตยมาไกลจนประชาชนนับสิบๆ ล้านคน ลุกฮือขึ้นมาขัดแย้งกันทางการเมือง ต่างฝ่ายต่างอยากมีอำนาจตัดสินใจ แล้วอยู่ๆ จะกลับไปเป็น "ผู้ถูกปกครอง" อย่างมีความสุข อย่างนั้นหรือ
 

สรุปรายชื่อผู้เสียชีวิตจากตึก 6 ชั้นถล่ม @ คลองหก ปทุมฯรวม 14 ราย

สรุปรายชื่อผู้เสียชีวิตจากตึก 6 ชั้นถล่ม @ คลองหก ปทุมฯ
15 ส.ค.57 - 00.45 น. ยอดผู้เสียชีวิตรวม 14 ราย
วันที่ 11 ส.ค. 57
1.น.ส.ณัฐมน โคกแปะ อายุ 17 ปี
2.ด.ช.สิทธิพันธ์ อายุ 4 ปี(บุตร น.ส.ณัฐมน)
วันที่ 12 ส.ค. 57
3.นายเชษฐา กำพูชาติ อายุ 39 ปี
วันที่ 13 ส.ค.57
4.นายใกล้รุ่ง ทับครบุรี
5.นางเพียบ มงคล
6.นายสิทธิโชค แกมมะณี อายุ 18 ปี
7.นายธนากร ตรีเมฆ อายุ 16 ปี
วันที่14 ส.ค. 57
8.นางสุนีย์ เหล่าว่าน
9.นายดนัย สุขสม อายุ 32 ปี (พี่ชายนายธวัชชัย)
10.นายอิมเฮือ อายุ 32 ปี ชาวกัมพูชา
11.นายพี (ยะเพ่ง) อายุ 20 ปี ชาว กัมพูชา
12.นายโอ้ยอุย ชาวกัมพูชา อายุ 27 ปี
13.นายธวัชชัย สุขสม อายุ24 ปี (สามีน.ส.ณัฐมน)
14. นายพุฒ โคกแปะ อายุ45ปี (บิดาน.ส.ณัฐมน)

ข่าวน่าสนใจ 14 ส.ค. 57

ข่าวน่าสนใจ 14 ส.ค. 57

08.40 น.คนร้ายลอบวางระเบิดรถสายตรวจตำรวจ สภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ขณะลาดตระเวน รปภ.เส้นทาง ส่วนอีกจุด ที่ อ.สายบุรี คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง บนถนนเจาะกือแย-สายบุรี ส่งผลให้ทหารพรานที่เดินลาดตระเวนอยู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

09.12 น.จนท. สนธิกำลังรวบ 3 ผู้ต้องหาพร้อมอาวุธปืน-ระเบิด เตรียมก่อเหตุป่วนภาคใต้ ในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี หลังได้รับรายงานมีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเข้าหลบซ่อน

10.18 น.กกต. เปิดรับสมัครสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) วันแรก ผู้สมัครทยอยมาต่อเนื่อง อดีตส.ส. เพื่อไทย ประเดิมสมัคร ย้ำไม่เกี่ยวกับพรรค “ลีน่าจัง” โผล่แจม อ้างต้องการเงิน

10.51 น.ศาลฎีกา พิพากษายกฟ้อง คดีที่"ทักษิณ-พจมาน” ฟ้อง “นาม ยิ้มแย้ม-คตส. อีก11 คน” ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ สาเหตุชี้มูลความผิดทุจริตซื้อที่ดินย่านรัชดา

11.22 น. “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” โต้ “ทนายปู” จี้หยุดชี้นำ ปมทุจริตจำนำข้าว ชี้เจตนาปากอ้างขอความเป็นธรรม แต่ขอเพิ่มพยานกว่า 60 ปาก ยื้อคดี วอนยิ่งลักษณ์เคารพกระบวนการยุติธรรม

11.53 น.รายการคืนความสุขให้คนในชาติ ศุกร์นี้ เลื่อนเวลา จาก 17.00 น. กลับไปเป็น 20.15 น. เหมือนเดิม เปิดทางถ่ายถอดสดวอลเลย์บอลหญิงเวิลด์กรังด์ปรีซ์

12.15 น.กระทรวงศึกษาธิการ สั่งปรับลดเวลาเรียนตามโรดแมป คสช. เตรียมเปิดวิชาเลือกเพิ่มขึ้นแก้ปัญหาเด็กกวดวิชา-ขาดผู้เรียนสายอาชีพ-นศ.ตกงาน

12.40 น. สหภาพTOT ร้อง คสช. ทบทวนตั้งคณะกรรมการบอร์ด 3 ราย หวั่นซ้ำรอยทุจริต

12.50 น.“รสนา-วีระ” เตรียมร้อง “บิ๊กตู่” ปตท. ตั้งบริษัทจัดการท่อก๊าซ “ดาราดัง” โผล่สนับสนุน

13.00 น. ประยุทธ์ฯ เข้าประชุมซุปเปอร์บอร์ด ถกแผนฟื้นฟูกิจการ 5รัฐวิสาหกิจขาดทุนหนัก

13.37 น.เพจ “เสรีไทย USA” แชร์คลิปว่อน “คอร์รัปชั่น=ทักษิณ”

13.50 น. ข่าวลือ ชื่อ ครม.ว่อนLINE.

14.57 น.มติ ปปช. ให้ สนช. ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์แสดงต่อสาธารณะใน 30 วัน ชงเสนอชื่อ “วิชา-สรรเสริญ” เข้าสรรหาเป็นสมาชิก สนช.

15.37 น.คสช. ขีดเส้นตาย รื้อร้านค้า “หาดหัวหิน” เล็ง ตั้งป้ายโชว์ราคาอาหารชัดเจนหลังมีคนกินส้มตำถูกเรียกเก็บจานละ500บาท

15.49 น.“พระพุทธอิสระ” ห่วง “พล.อ.ประยุทธ์ฯ-คสช.” ตั้งคณะกรรมการสรรหา สปช.ทำภาพลักษณ์แย่ เตือนระวังถูกต่อต้าน

16.10 น.จนท.เร่งค้นหาร่างเหยื่อคอนโดฯ ฉาวถล่ม ยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 14ศพครบตามท่ีญาติร้องเรียนแล้ว

16.25 น.อธิบดีDSI มีคำสั่งยุติ คดี ส.ส.ประชาธิปัตย์บริจาคเงินเข้าพรรค หลังกกต.วินิจฉัยว่าไม่มีความผิด แต่ไม่บอกว่า อธิบดีเก่าท่ีสั้งว่าผิด จะถูกด่าหรือไม่