PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

เกินกว่าเหตุไหม?

Subpatpoj Patr Nitisasathorn

ถึงกับตั้งโต๊ะแถลง..กันเลยทีเดียว.....
...กองปราบปรามจับกุมคุณสุกิจ..ตามหมายจับของศาล..
..ระหว่างแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ..คุณสุกิจ..พูดสอดแทรก..งืมงำ..กวนส้นเท้า...ตลอดเวลา.............
..หลังจากที่แจ้งข้อกล่าวหา..แจ้งสิทธิผู้ต้องหาเสร็จสิ้น..หน้าที่ของผู้จับคือ..ต้องนำตัวผู้ถูกจับไปลงบันทึกประจำวัน..แล้วนำตัวส่งพนักงานสอบสวน...โดยเร็ว....
...ภายหลังแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับและแจ้งสิทธิของผู้ต้องหาเสร็จสิ้น..คุณสุกิจจึงอยู่ในการควบคุมตัวของผู้จับ...
...ระหว่างนำตัวคุณสุกิจไปลงประจำวันกับพนักงานสอบสวน....คุณสุกิจเกิดอาการ..ง๊องแง้ง..ได้ยินเสียงเล็ดลอดมาว่า..
....ไม่ให้จับ...”...ฟาดงวง..ฟาดงา..............
..ผู้จับจึงต้องใช้วิธีการ..ตามสมควรแก่เหตุ..โดยไม่มีอาวุธ....
..ท่านนายกสภาฯ ..ตั้งโต๊ะแถลงข่าว..เป็นเรื่องเป็นราว...อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน...ตำหนิผู้จับ..ทำเกินกว่าเหตุ....
..ผู้ต้องหาเป็นถึงทนายความ..สถานที่จับเป็นโรงพัก..ผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี..จับแบบนั้น..ได้อย่างไร.....
..อีกท่านแถลงว่า..กองปราบกระทำผิดต่อเสรีภาพ..ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ..จะนำเรื่องเข้าที่ประชุม..เอาผิดผู้จับกุม..
...ผมถือว่า..ท่านนายกและคณะ..แถลงในนามส่วนตัว...ไม่เกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่..ในสภาทนายความ..
..ผมขอชี้แจงด้วยความเคารพ..ตามเหตุและผล.อันจะพึงมี..ในฐานะสมาชิกทนายความคนหนึ่ง..ที่เลือกท่านเข้ามาเป็นผู้บริหารสภาทนายความ.....
..ตามท้องเรื่องคุณสุกิจเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล...ภายหลังคุณสุกิจถูกจับกุมแล้ว..จึงอยู่ในการควบคุมตัวของผู้จับ...
...เมื่อผู้ต้องหาเกิดการ..ง๊อง..แง๊ง...ไม่ให้เกียรติผู้จับ..ไม่เคารพสถานที่....
.
..กรณีเช่นนี้. ผู้จับจะมีทางเลือกอะไร..นอกจากปฎิบัติการ..ให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่....
...การจับตัว...ให้นอนราบกับพื้น..โดยไม่ใช้อาวุธ..เพื่อใส่กุญแจมือ...จึงเป็นเหตุเป็นผลที่ผู้จับพึงปฏิบัติ....
..แล้วมันเกินกว่าเหตุ..ตรงไหน...
...ถ้าจะบอกว่าการจับกุมเช่นนี้..เกินกว่าเหตุ...
...แล้วการจับกุมพระพุทธอิสระ..พังประตู..ปืนจ่อ..อ่านหมายจับด้วยเสียงดุดัน..ไม่เกินไปกว่านี้หรือ.....
...ก็ไม่เห็นท่านนายกสภาฯ จะว่ากระไร.....
.....ท่านนายกสภาฯบอกว่า..เสียเกียรติวิชาชีพทนายความ....
..แล้วถ้ามองในมุมกลับ..ทนายความที่เป็นถึงผู้เชียวชาญด้านกฎหมาย..ทำไมไม่ให้เกียรติผู้จับ..ทำไมไม่เคารพสถานที่....
...ใครกันแน่ครับ..ที่ทำให้วิชาชีพทนายความเสื่อมเกียรติ..
..ผู้ต้องหาที่เป็นทนายความ..มีพฤติกรรมแบบนี้..จะเป็นแบบอย่างกับประชาชนทั่วไป..และทนายความรุ่นหลังหลัง...ได้อย่างไร....
..ทนายความ..มีสิทธิ..มีหน้าที่..หรือมีอภิสิทธิ...มากว่าคนทั่วไปอย่างนั้นหรือ........
...ที่ถูก..ท่านควรตั้งโต๊ะแถลงข่าว..ตำหนิพฤติกรรมของคุณสุกิจ...ไม่ใช่ตำหนิ..เจ้าพนักงานผู้จับกุม...
..ทุกหน่วยงาน..ทุกองค์กร..เขาก็มีเกียรติ..มีศักดิ์ศรี..ไม่ต่างกัน....
..จะลองทำแบบสอบถามมั้ยครับ..ทนายความทั่วประเทศ..ประชาชนทั่วไป...
...ใครเห็นด้วย...กับคำแถลงของท่าน......

ภ.4ยืนยันเป็นทหาร ร.15ค้ายาบ้าว้าแดงในพท.ชายแดนใต้

Sermsuk Kasitipradit
ตรวจสอบกับกองทัพภาคที่ 4 ยืนยันเป็นทหารในหน่วยกองร้อยลาดตระเวนระยะไกล กองพลทหารราบที่ 15 หารายได้พิเศษจากการเป็นตัวแทนว้าแดงขายยาบ้าในพท.จังหวัดชายแดนภาคใต้
เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดอำเภอหาดใหญ่ และทหารชุดกองข่าวภัยแทรกซ้อน เข้าจับกุมตัว จ.ส.อ. สุทธิดล แสงใสแก้ว สังกัดกองร้อยลาดตระเวนระยะไกล กองพลทหารราบที่ 15 กองทัพภาคที่ 4 พร้อม น. ส. ญาณัตถ์รายา บุญสนิท อายุ 43 ปี ภรรยา เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังถูกเจ้าหน้าที่วางแผนล่อซื้อยาบ้าจำนวน 100,000 เม็ด พร้อมรถโตโยต้า แคมรี่ สีขาว 1 คัน และเงินสด 2,750,000 บาท ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยมีสายส่งนำยาบ้าทั้งหมดมาส่งที่โรงแรมในเขตอ.เมืองสงขลา จ.ส.อ.สุทธิดล เปิดเผยยาบ้าทั้งหมดเป็นของกลุ่มว้าแดงในรัฐฉานประเทศเมียนมา ยอมรับเคยเดินทางไปยังฝั่งเมียนมาเพื่อทำความรู้จักกับเอเย่นต์ยาบ้าของกลุ่มว้าแดงก่อนมาเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดในจังหวัดชายแดนภาคใต้...นิว18

เล่นของแพง

เล่นของแพง



วันนี้ (20 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หน.คสช.จะบินสะเวิบไปเยือนอังกฤษ และฝรั่งเศสรวมเวลา 5 วัน
โดยมี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ และใครต่อใครร่วมขบวนกฐินสามัคคีไปด้วยอีกหลายคน
เป้าหมายของทริปเยือนยุโรปของ “นายกฯบิ๊กตู่” ครั้งนี้มีนัดสำคัญ 2 คิว
1,การได้เข้าพบหารือกับ นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ (ที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย)
2,ได้เข้าเยี่ยมคารวะกระชับความสัมพันธ์กับ นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส (ซึ่งมาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเช่นกัน)
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าการที่ “พล.อ.ประยุทธ์” นายกรัฐมนตรีไทยได้รับไฟเขียวให้เข้าพบผู้นำรัฐบาลอังกฤษ และผู้นำรัฐบาลฝรั่งเศส 2 ประเทศทูอินวัน ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของรัฐบาล คสช.
เพราะโดยปกติ กลุ่มประเทศอียู จะไม่ สังฆกรรมกับผู้นำรัฐบาลรัฐประหารทุกกรณี
แต่สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ผู้นำรัฐบาลทหารของไทย ได้รับยกเว้นเป็นพิเศษ เนื่องจากได้ประกาศโรดแม็ปชัดเจนว่าจะคืนอำนาจให้ประชาชน และจะมีการเลือกตั้งใหญ่ตามระบอบประชาธิปไตย (ครึ่งใบ) ในต้นปีหน้าแน่นอน
ข้อสำคัญ น่าจะเป็นผลพลอยได้จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับเชิญไปจับเข่าคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีอเมริกา ถึงทำเนียบขาว
จึงทำให้กลุ่มอียู กลับมาเริ่มฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัฐบาลทหารของไทยหลังจากติดไฟแดงมา 4 ปี
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าเป้าหมายอีก อย่างของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะในการเดินทางไปเยือนยุโรป 5 วัน
คือการไปเดินสายโรดโชว์นักธุรกิจกลุ่มอียู เพื่อชักชวนให้เข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออกหรือ “อีอีซี” ซึ่งเป็น “จุดขายใหม่” ของไทย
ไฮไลต์สำคัญ คือจะเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาร่วมทุน ระหว่างการบินไทยกับบริษัทแอร์บัส เพื่อพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นศูนย์ซ่อมบำรุงเครื่องบินโดยสารระดับอินเตอร์ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
เมื่อศูนย์ซ่อมเครื่องบินแห่งใหม่เกิดขึ้นในสนามบินอู่ตะเภาจะดึงให้มีการจัดตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์เครื่องบินตามมา
และจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกให้แห่เข้ามาตั้งโรงงานอุตสาห-กรรมขนาดใหญ่ๆในเขตเศรษฐกิจอีอีซี อีกมากมาย
โดยรัฐบาล คสช.เสนอสิทธิประโยชน์ ล่อใจอย่างจั๋งหนับบุเรงนอง
ฝันหวานจะกลายเป็นจริงหรือไม่...โปรดติดตามต่อไป
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าการเดินทางไปเยือนอังกฤษ และฝรั่งเศสครั้งนี้ ไม่ใช่ไทยจะได้ประโยชน์อย่างเดียว
เพราะรัฐบาลจะเซ็นสัญญาซื้อ “ดาวเทียมธีออส 2” จากบริษัทแอร์บัสเป็นเงินกว่า 6,900 ล้านบาท ตามแผนพัฒนาเทคโนโลยีสำรวจอวกาศ สำรวจภูมิอากาศ และสำรวจทรัพยากร ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล คสช.
โอ้แม่เจ้า...ราคาดาวเทียมธีออส 2 ที่รัฐบาล คสช.ตกลงสั่งซื้อมาใช้พัฒนาเทคโนโลยีอวกาศเป็นเงินเกือบ 7 พันล้านบาทเชียวนะโยม
คำถามคือ จำเป็นขนาดไหนที่ต้องสั่งซื้อดาวเทียม??
จะได้ประโยชน์คุ้มค่าหรือไม่กับรายจ่ายก้อนโต??
“แม่ลูกจันทร์” จนปัญญาไม่สามารถหาคำตอบได้เหมือนกัน
เอาไว้มีข้อมูลชัดเจนก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที.
“แม่ลูกจันทร์”

'สุริยะ' ลูกศรดอกที่สาม

'สุริยะ' ลูกศรดอกที่สาม



ดัชนีหุ้นการเมือง ยี่ห้อ “พลังประชารัฐ” คึกคักขึ้นมาทันตา
หลังการเฉลยปริศนาที่ “เสี่ยแฮงค์” นายอนุชา นาคาศัย บอกนักข่าวเป็นนัยระหว่างไปต้อนรับ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้า คสช. ประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดนครสวรรค์
รอลุ้นจะมีข่าวใหญ่ เรื่องของการมีงานทำ
ตามฉากการเปิดตัวกลุ่ม “สามมิตร” ที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา บินไปทาบทาม “ติงลี่” นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต รมว.ทรัพยากรฯ แกนนำ ส.ส.อีสานพรรคเพื่อไทย ถึงถิ่นจังหวัดเลย
จุดเริ่มต้นปฏิบัติการ “รีเทิร์น” สนามการเมืองของ “สุริยะ” อย่างเป็นทางการ
ในฐานะคีย์แมนของค่าย “พลังประชารัฐ”
สถานการณ์ชัดๆ แบบที่นายปรีชาประกาศตัวเลยว่า นายสุริยะกับนายสมศักดิ์มาเชิญให้เข้าร่วมงานกับพรรคใหม่ และพร้อมแถลงเปิดตัวเลยถ้าทุกอย่างเคลียร์
ถึงเวลาผู้เล่น “ตัวจริง” กระโดดลงสนาม
ตามรูปการณ์ที่มีการเชื่อมโยง “ก๊วนก๋วยเตี๋ยวเนื้อ” ในอดีตพรรคไทยรักไทย นั่นคือ “สุริยะ-สมศักดิ์” และอีกหนึ่งก็คนนั่งหัวโต๊ะอย่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ
ที่มาของเครือข่าย “สามมิตร”
แต่งานนี้ “สมคิด” ไม่ได้เข้าไปยุ่งแบบคลุกวงใน การขับเคลื่อนเป็นเรื่องของนายสุริยะกับนายสมศักดิ์ที่เคลื่อนไหว เดินกระบวนการทาบทามดึงอดีต ส.ส.เกรดเอมาร่วมงาน
โดยติดเอายี่ห้อ “สมคิด” เป็นตัวเพิ่มพลังดึงดูดทางการเมือง
ตามท้องเรื่องที่ “จอมยุทธ์กวง” คือคนปล่อยลูกศรธนู ส่งสัญญาณทางการเมืองให้แปรรหัส
ปฏิบัติการก่อกำเนิดป้อมค่าย “พลังประชารัฐ”
เริ่มตั้งแต่ลูกศรดอกแรก “สมคิด” เปิดไพ่สนับสนุน “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ตีตั๋วต่อ เพราะเป็นคนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ประเทศไทย ณ ห้วงปัจจุบันมากสุด
ทำให้ประเทศสงบ เอื้อต่อการวางพื้นฐานการพัฒนาระยะยาว
ต่อด้วยธนูดอกสอง ดึง “แป๊ะนั่งเรือแป๊ะ” ปฏิบัติการเซอร์ไพรส์ ตั้งบิ๊กเนมการเมืองระดับ “เสี่ยแป๊ะ” นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
เปิดพื้นที่เขตทหารให้นักการเมืองได้เข้ามาจูนคลื่นกับ “ลุงตู่”
ก่อนนำมาซึ่งธนูดอกที่สาม อีเวนต์การเปิดตัวนายสุริยะ รีเทิร์นสนามการเมืองอย่างเป็นทางการ เป็นคีย์แมนหลักของพรรคพลังประชารัฐ
กระตุกแรงสั่นสะเทือนการเมืองระดับ 5-6 แมกนิจูด
ปรากฏการณ์แบบที่ “หัวเขียง” นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม ต้องออกมายอมรับวิกฤติ “เอาไม่อยู่แล้ว” แนวโน้มพื้นที่อีสานและภาคเหนือของพรรคเพื่อไทย
“เลือดไหล” ออกไม่หยุดแน่
นั่นก็เพราะยี่ห้อ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ในสายตาของนักการเมืองอาชีพ คือความมั่นคงทางการเงิน
“หัวจ่าย” พลังสูงที่ทรงประสิทธิภาพสมัยพรรคไทยรักไทย
ใครบอกไม่หวั่นไหว ไอ้นั่นแหละโกหก
หรือพวกที่ท่องประโยคนกแก้วนกขุนทอง ขู่ใครย้ายออกจากอ้อมอก “ทักษิณ” มีแต่สอบตก
ลึกๆก็หวิวในดวงหทัย กระแสดี แต่ไม่มีกระสุน ก็ร่วงเหมือนกัน
แถมสถานการณ์ “กลวงใน” อาการแบบที่ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง ให้เด็กในสังกัดออกมาบอกปัด “ข่าวปล่อย” วัดดวงวัดใจคนดูไบ
จะอนุมัติตั๋ว “นอมินี” แม่ทัพเพื่อไทยอย่างเป็นทางการหรือไม่
ตามรูปการณ์ที่ “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ กับ “เฮียเพ้ง” นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล แกนนำสายตรง “นายใหญ่” ต่างนิ่ง ส่ออาการลึกๆ ไม่เต็มที่กับเจ้าแม่เมืองกรุง
อีกด้าน นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ ทีมงานเสื้อแดง นปช.ก็ออกมาล็อกสเปก แม่ทัพตัวจริงต้องเป็นคนที่มีบทบาทต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมากับพรรคเพื่อไทย ยอมตายเพื่อ “ทักษิณ” ได้
ที่สำคัญต้องมีภาพความเชี่ยวเศรษฐกิจที่เป็น “จุดขาย” ยี่ห้อ “ทักษิณ”
มาถึงตรงนี้ ถ้าไม่มีความชัดเจนว่าได้เป็นหัวหน้าพรรค “เจ๊หน่อย” น่าจะอยู่ลำบาก
จะเอาคนใหม่สดก็ยาก เลือกใช้คนเก่าก็ขาดเอกภาพ.
ทีมข่าวการเมือง

นายกเปิดแฟลตดินแดง9ก.ค.

"บิ๊กตู่" ถือฤกษ์ 9กค.9โมง เปิด "แฟลตดินแดง" เฟสแรก ชี้ เป็น ผลงานที่เป็นรูปธรรมที่สุดของรัฐบาล คสช. หลัง บิ๊กป้อม วางศิลาฤกษ์ไว้แล้ว

 ร.ท.หญิง พรชนก อ่ำพันธุ์ ผู้ช่วยโฆษกกลาโหม แถลงหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินคณะที่ 5 ครั้งที่ 5/2561 ว่า ผลงานที่เป็นรูปธรรมของรัฐบาลมากที่สุดคือโครงการฟื้นฟูเมืองดินแดง ตามแผนแม่บทโครงการฟื้นฟู พ.ศ.2559-2567 โดยความคืบการดำเนินก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยแปลง Gแล้วเสร็จตั้งแต่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา

 ส่วนการดำเนินโครงการส่วนต่อไป เพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยเดิมในระยะที่ 2-4 แปลง A, B1 และC อีก 6,212 หน่วย อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติก่อสร้างของครม.

การบูรณาการพัฒนาที่ยั่งยืนในการอยู่อาศัยในอาคารแปลง G นั้น จะมีเงินช่วยเหลือค่าเช่า ค่าขนย้าย โดยกองทัพบกจะสนับสนุน ซึ่งเริ่มดำเนินการแล้ว และจะได้จัดเตรียมงาน

ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.จะมาเป็นประธานเปิดโครงการที่พักอาศัยแปลง G ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ ในเวลา 09.00 น.