PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

'สุริยะ' ลูกศรดอกที่สาม

'สุริยะ' ลูกศรดอกที่สาม



ดัชนีหุ้นการเมือง ยี่ห้อ “พลังประชารัฐ” คึกคักขึ้นมาทันตา
หลังการเฉลยปริศนาที่ “เสี่ยแฮงค์” นายอนุชา นาคาศัย บอกนักข่าวเป็นนัยระหว่างไปต้อนรับ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้า คสช. ประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดนครสวรรค์
รอลุ้นจะมีข่าวใหญ่ เรื่องของการมีงานทำ
ตามฉากการเปิดตัวกลุ่ม “สามมิตร” ที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา บินไปทาบทาม “ติงลี่” นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต รมว.ทรัพยากรฯ แกนนำ ส.ส.อีสานพรรคเพื่อไทย ถึงถิ่นจังหวัดเลย
จุดเริ่มต้นปฏิบัติการ “รีเทิร์น” สนามการเมืองของ “สุริยะ” อย่างเป็นทางการ
ในฐานะคีย์แมนของค่าย “พลังประชารัฐ”
สถานการณ์ชัดๆ แบบที่นายปรีชาประกาศตัวเลยว่า นายสุริยะกับนายสมศักดิ์มาเชิญให้เข้าร่วมงานกับพรรคใหม่ และพร้อมแถลงเปิดตัวเลยถ้าทุกอย่างเคลียร์
ถึงเวลาผู้เล่น “ตัวจริง” กระโดดลงสนาม
ตามรูปการณ์ที่มีการเชื่อมโยง “ก๊วนก๋วยเตี๋ยวเนื้อ” ในอดีตพรรคไทยรักไทย นั่นคือ “สุริยะ-สมศักดิ์” และอีกหนึ่งก็คนนั่งหัวโต๊ะอย่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ
ที่มาของเครือข่าย “สามมิตร”
แต่งานนี้ “สมคิด” ไม่ได้เข้าไปยุ่งแบบคลุกวงใน การขับเคลื่อนเป็นเรื่องของนายสุริยะกับนายสมศักดิ์ที่เคลื่อนไหว เดินกระบวนการทาบทามดึงอดีต ส.ส.เกรดเอมาร่วมงาน
โดยติดเอายี่ห้อ “สมคิด” เป็นตัวเพิ่มพลังดึงดูดทางการเมือง
ตามท้องเรื่องที่ “จอมยุทธ์กวง” คือคนปล่อยลูกศรธนู ส่งสัญญาณทางการเมืองให้แปรรหัส
ปฏิบัติการก่อกำเนิดป้อมค่าย “พลังประชารัฐ”
เริ่มตั้งแต่ลูกศรดอกแรก “สมคิด” เปิดไพ่สนับสนุน “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ตีตั๋วต่อ เพราะเป็นคนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ประเทศไทย ณ ห้วงปัจจุบันมากสุด
ทำให้ประเทศสงบ เอื้อต่อการวางพื้นฐานการพัฒนาระยะยาว
ต่อด้วยธนูดอกสอง ดึง “แป๊ะนั่งเรือแป๊ะ” ปฏิบัติการเซอร์ไพรส์ ตั้งบิ๊กเนมการเมืองระดับ “เสี่ยแป๊ะ” นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
เปิดพื้นที่เขตทหารให้นักการเมืองได้เข้ามาจูนคลื่นกับ “ลุงตู่”
ก่อนนำมาซึ่งธนูดอกที่สาม อีเวนต์การเปิดตัวนายสุริยะ รีเทิร์นสนามการเมืองอย่างเป็นทางการ เป็นคีย์แมนหลักของพรรคพลังประชารัฐ
กระตุกแรงสั่นสะเทือนการเมืองระดับ 5-6 แมกนิจูด
ปรากฏการณ์แบบที่ “หัวเขียง” นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม ต้องออกมายอมรับวิกฤติ “เอาไม่อยู่แล้ว” แนวโน้มพื้นที่อีสานและภาคเหนือของพรรคเพื่อไทย
“เลือดไหล” ออกไม่หยุดแน่
นั่นก็เพราะยี่ห้อ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ในสายตาของนักการเมืองอาชีพ คือความมั่นคงทางการเงิน
“หัวจ่าย” พลังสูงที่ทรงประสิทธิภาพสมัยพรรคไทยรักไทย
ใครบอกไม่หวั่นไหว ไอ้นั่นแหละโกหก
หรือพวกที่ท่องประโยคนกแก้วนกขุนทอง ขู่ใครย้ายออกจากอ้อมอก “ทักษิณ” มีแต่สอบตก
ลึกๆก็หวิวในดวงหทัย กระแสดี แต่ไม่มีกระสุน ก็ร่วงเหมือนกัน
แถมสถานการณ์ “กลวงใน” อาการแบบที่ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง ให้เด็กในสังกัดออกมาบอกปัด “ข่าวปล่อย” วัดดวงวัดใจคนดูไบ
จะอนุมัติตั๋ว “นอมินี” แม่ทัพเพื่อไทยอย่างเป็นทางการหรือไม่
ตามรูปการณ์ที่ “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ กับ “เฮียเพ้ง” นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล แกนนำสายตรง “นายใหญ่” ต่างนิ่ง ส่ออาการลึกๆ ไม่เต็มที่กับเจ้าแม่เมืองกรุง
อีกด้าน นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ ทีมงานเสื้อแดง นปช.ก็ออกมาล็อกสเปก แม่ทัพตัวจริงต้องเป็นคนที่มีบทบาทต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมากับพรรคเพื่อไทย ยอมตายเพื่อ “ทักษิณ” ได้
ที่สำคัญต้องมีภาพความเชี่ยวเศรษฐกิจที่เป็น “จุดขาย” ยี่ห้อ “ทักษิณ”
มาถึงตรงนี้ ถ้าไม่มีความชัดเจนว่าได้เป็นหัวหน้าพรรค “เจ๊หน่อย” น่าจะอยู่ลำบาก
จะเอาคนใหม่สดก็ยาก เลือกใช้คนเก่าก็ขาดเอกภาพ.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: