PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2557

"ป.ป.ช." หวนจับมือ"อัยการ"นัดถกใหม่สำนวน คดี"สรยุทธ-ไร่ส้ม" 20 มิ.ย.

"ป.ป.ช." หวนจับมือ"อัยการ"นัดถกใหม่สำนวน คดี"สรยุทธ-ไร่ส้ม" 20 มิ.ย.
"ป.ป.ช."หวนจับมือ"อัยการ" นัดถกคดี "สรยุทธ-ไร่ส้ม" รอบใหม่ หาข้อยุติปมความไม่สมบูรณ์สำนวน ที่มีปัญหาขัดแย้ง 20 มิ.ย.นี้
นายนันทศักดิ์ พูลสุข โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ คณะทำงานร่วมฝ่ายอัยการและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีนัดหมายประชุมหารือร่วมกัน เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด พนักงานบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน), บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดังกับพวก ในคดียักยอกเงินโฆษณาจากบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กว่า 138 ล้านบาท ในการร่วมผลิตรายการ คุยคุ้ยข่าว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถหาข้อยุติเกี่ยวกับความเห็นที่แตกต่างกันเรื่องความไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดีนี้ได้
"ได้รับรายงานจากคณะทำงานฝ่ายอัยการว่า ทางเลขาฯ คณะทำงานร่วมฝ่าย ป.ป.ช. ได้นัดหมายขอประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อพิจารณาประเด็นความเห็นที่แตกต่างในสำนวนการไต่สวน ซึ่งต้องรอฟังผลการประชุมว่าจะออกมาอย่างไร แต่ในส่วนอัยการยืนยันว่าพร้อมที่จะฟ้องร้องคดีให้ เพราะหลักฐานหลายส่วนมีความชัดเจนเพียงพอ แต่ขอให้มีการพิจารณาข้อเสนอเกี่ยวกับความไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดี 4-5 ประเด็นเพิ่มเติม ตามที่ฝ่ายอัยการเสนอแนะไปก่อนเท่านั้น"
เมื่อถามว่า หลักฐานใดที่ทางอัยการเห็นว่ายังไม่สมบูรณ์เพียงพอ นายนันทศักดิ์ ตอบว่า "มันมีประเด็นบางส่วน ที่ฝ่ายอัยการต้องการให้ดูข้อมูลเพิ่มเติม อาทิ ในส่วนของหลักฐานเช็คการโอนเงินต่างๆ ที่มีความชัดเจนอยู่ในระดับหนึ่งแล้ว เพียงแต่ให้ดูข้อมูลเพิ่มเติมว่า เงินจากเช็คเข้าไปถึงใคร และใครได้รับประโยชน์บ้าง เป็นต้น"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ทาง ป.ป.ช. ได้ออกมายืนยันจุดยืนชัดเจนว่าเตรียมที่จะฟ้องร้องคดีนี้เอง ภายหลังจากที่ในการประชุมคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการ กับ ป.ป.ช. นัดสุดท้าย เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา ไม่สามารถหาข้อยุติได้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันในจุดยื่นของตนเอง โดย ป.ป.ช.เห็นว่าสำนวนการสอบสวนมีความสมบูรณ์เพียงพอแล้ว แต่อัยการต้องการให้มีการพิจารณาประเด็นเพิ่มเติมใน 4-5 ประเด็นหลัก
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา นายนายนันทศักดิ์ ได้เดินทางเข้าพบนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. เพื่อหารือทำความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งในสำนวนสอบคดีนี้ไปแล้ว
ข่าว - สำนักข่าวอิศรา

คสช.ประกาศ ใช้มาตรการชั่วคราวในการดำเนินการต่อแรงงานต่างด้าว

วันที่ 16 มิ.ย. เมื่อเวลา 22.30 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออก ประกาศฉบับที่ 67/2557 เรื่องมาตรการชั่วคราวในการดำเนินการต่อแรงงานต่างด้าว โดยมีสาระสำคัญดังนี้

ตามที่ปรากฎเป็นข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อการจ้างแรงงานต่าวด้าวในประเทศไทย จนเป็นเหตุให้แรงงานต่างด้าวอพยพ และละทิ้งงานกลับไปภูมิลำเนาของตนเอง ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ คสช. มีความกังวลต่อผลกระทบดังกล่าว จึงแจ้งมาตรการชั่วคราวในการดำเนินการต่อแรงงานต่างด้าว ดังนี้

1. คสช.ยังไม่มีนโยบายที่จะเร่งรัดจับกุมกวาดล้างแรงงานต่างด้าวตามที่ปรากฏเป็นข่าว

2.การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวในขณะนี้ คสช. กำหนดให้มีมาตรการควบคุมแรงงานต่างด้าว โดยให้ผู้ประกอบการ นายจ้าง ที่ประกอบกิจการบนบก และทางทะเลจัดเตรียมรายชื่อลูกจ้างในสังกัดให้ครบถ้วน เพื่อให้พร้อมรับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวในห้วงต่อไป ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย ปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรม การจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม การประทุษร้าย รวมทั้งเพื่อให้แรงงานได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม ตามหลักสิทธิมนุษยชน และหลัมนุษยธรรม ตลอดจนสามารถชี้แจงต่างประเทศได้ โดยไม่ถูกลดระดับความน่าเชื่อถือ

3. สำหรับมาตรการ/กระบวนการ และการปรับปรุงกฎหมาย ตลอดจนระเบียบต่างเพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวนั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคสช. เพื่อให้ปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ มีความยั่งยืน และไม่ให้เกิดผลกระทบดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ทั้งคสช.มุ่งหวังที่จะได้ดูแลแรงงานของทุกชาติที่อยู่ในประเทศไทย อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม ให้สมกับที่ประเทศต้นทางของแรงงานเหล่านั้นให้ความเป็นห่วง

4.ให้ระมัดระวัง กรณีที่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคล แอบอ้างเป็นตัวแทนเจ้าหน้าที่ มาปล่อยข่าวให้แรงงานเกิดความหวาดกลัว ซึ่งกลุ่มที่กระทำการดังกล่าว อาจเป็นกลุ่มที่มุ่งหวังผลประโยชน์ในการจัดระเบียบแรงงานผิดกฎหมายกลุ่มใหม่ หรือ ไม่ต้องการจ่ายค่าจ้างให้ครบถ้วนตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา ทั้งนี้ หากตรวจพบการกระทำดังกล่าวให้แจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ และคสช. เพื่อดำเนินการตรวจสอบและลงโทษตามกฎหมายต่อไป

5.ให้ผู้ประกอบการ นายจ้าง ฯลฯ ที่มีลูกจ้างเป็นแรงงานต่างด้าว ทำความเข้าใจกับลูกจ้างและให้ความร่วมมือกับคสช. ในการดำเนินงานแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมทั้งระบบ โดยระยะนี้ให้ถือเป็นมาตรการชั่วคราวในการดำเนินการต่อแรงงานต่างด้าว

6.หากผู้ประกอบการ นายจ้าง แรงงานต่างด้าว และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานมีข้อสงสัย ในการดำเนินการเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าว ขอให้แจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และคสช.ทราบ ตลอดจนสอบถามข้อสงสัยดังกล่าวโดยทันทีก่อนที่จะดำเนินการใดๆ ต่อไป

7.ประเทศไทย ถูกกดดันจากองค์กรสิทธฺมนุษยชน และสังคมโลกในประเด็นเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเถื่อน แรงงานทาส การใช้กำลังประทุษร้ายต่อแรงงาน ฯลฯ ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่ประการใด ดังนั้น การเผยแพร่ประเด็นดังกล่าวจึงทำให้ประเทศไทยขาดความน่าเชื่อถือ และส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติภารกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

8. คสช. ขอประชาสัมพันธ์ให้สื่อต่างประเทศ/องค์กรระหว่างประเทศต่างๆ เข้าใจโดยทั่วกัน เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกเสียหายต่อเศรษฐกิจโโยรวม ตลอดจนการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดกับประเทศต้นทาง โดยเฉพาะกรณีที่มีการปล่อยข่าวว่าเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธต่อแรงงานจนเสียชีวิต หรือมีการจับกุมกวาดล้าง ฯลฯ ซึ่งไม่เป็นความจริงตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. 2557 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

9.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กองกำลังป้องกันชายแดนของกองทัพบก และกองทัพเรือ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ตลอดจนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ยึดถือการดำเนินการตามข้อ 1-8 เป็นแนวทางในการปฏิบัติโดยทั่วกัน


เปิดเงินเดือน 31 ที่ปรึกษาบอร์ด กสทช. "เสธ.อ้าย-จอน อึ๊งฯ" หยิบแสน จ่ายทั้งเดือนรวม 3.6 ล้าน

เปิดเงินเดือน 31 ที่ปรึกษาบอร์ด กสทช. "เสธ.อ้าย-จอน อึ๊งฯ" หยิบแสน จ่ายทั้งเดือนรวม 3.6 ล้าน
เผยที่ปรึกษาบอร์ด กสทช. 31 คน รับเงินเดือน 1-1.2 แสน รวมกันแล้วจ่ายเหนาะๆ 3.63 ล้าน ไม่รวมเงินเดือนประธาน 3.3 แสน กรรมการ 2.69 แสน พบ "เสธ.อ้าย" เป็นที่ปรึกษา "มาร์ช-เศรษฐพงศ์" ด้าน "สุภิญญา" ตั้ง "จอน อึ๊งภากรณ์" มีเพียง "หมอลี่" ไม่ได้ตั้งที่ปรึกษา ชี้ทุกเดือนต้องจ่ายค่าบุคลากร 76 ล้าน
วันนี้ (16 มิ.ย.) เว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา ได้เปิดเผยบุคคลที่เป็นที่ปรึกษาประจำตัวที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้แต่งตั้ง รวม 31 คน กำหนดอัตราค่าตอบแทนคนละ 100,000 -120,000 บาท ต่อเดือน ได้แก่
1.พลอากาศเอกธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. มีที่ปรึกษา 4 คน คือ นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ พลเอกชิตศักดิ์ ประเสริฐ นายสุเจตน์ จันทรังษี รับค่าตอบแทนคนละ 110,000 บาท และ นายประสพสุข บุญเดช (อดีตประธานวุฒิสภา) รับค่าตอบแทน 120,000 บาท
2.พ.อ. ดร. เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. มีที่ปรึกษา 3 คน คือ พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายณกฤช เศวตนันทน์ และนายวรรณชัย สุวรรณกาญจน์ รับค่าตอบแทนคนละ 120,000 บาท
3.พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. มีที่ปรึกษา 3 คนคือ พลตำรวจเอกชาญชิต เพียรเลิศ (อดีตรอง ผบ.ตร.) นายสวัสดิ์ โชติพานิช (อดีตประธานศาลฎีกา) และ พลเอกสุเจตน์ วัฒนสุข รับค่าตอบแทนคนละ 120,000 บาท
4.รศ.ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กสทช. มีที่ปรึกษา 3 คน คือ นายไพรัช วรปาณิ นายเชิดชัย ขันธ์นะภา และนายเหรียญชัย เรียววิไลสุข (อดีตกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ) รับค่าตอบแทนคนละ 100,000 บาท
5.พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร กสทช. มีที่ปรึกษา 3 คน คือ พลอากาศเอกอาคม กาญจนหิรัญ นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร (อดีตเลขาฯ กทช.) พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ รับค่าตอบแทนคนละ 120,000 บาท
6. พลโท ดร. พีระพงษ์ มานะกิจ กสทช. มีที่ปรึกษา 3 คน คือ พล.อ.ธงชัย เกื้อสกุล นางอรพินธ์ บุญชูเศรษฐ์ และนายธงชัย ตรีพิพัฒน์กุล รับค่าตอบแทนคนละ 120,000 บาท
7. พันตำรวจเอก ทวีศักดิ์ งามสง่า กสทช. มีที่ปรึกษา 3 คน คือ นายสถิตย์ สิริสวัสดิ์ พ.ต.อ. (พิเศษ)ชัยทัศน์ รัตนพันธุ์ และนายวิศาล วุฒิศักดิ์ศิลป์ รับค่าตอบแทนคนละ 120,000 บาท
8. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กสทช. มีที่ปรึกษา 3 คน คือ นายสวัสดิ์ รัฐพิทักษ์สันติ นายวิษณุ ตัณฑวิรุฬห์ และนายทศพร ซิมตระการ รับค่าตอบแทนคนละ 120,000 บาท
9. ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กสทช. มีที่ปรึกษา 3 คนคือ นายกิตติน อุดมเกียรติ นายธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ และนายสงขลา วิชัยขัทคะ รับค่าตอบแทนคนละ 120,000 บาท
10.น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช. มีที่ปรึกษา 3 คนคือนายจอน อี๊งภากรณ์ นายต่อพงศ์ เสลานนท์ และนายนคร ชมพูชาติ รับค่าตอบแทนคนละ 120,000 บาท
รวมที่ปรึกษา 31 คน รับค่าตอบแทนจากสำนักงาน กสทช. 3,630,000 บาท ต่อเดือน และเป็นที่น่าสังเกตว่า นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. ไม่มีปรากฏว่ามีที่ปรึกษา
นอกจากนี้ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ได้ตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ กสทช. ระบุถึงค่าตอบแทนตาม พ.ร.ฎ.ค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ของประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. 2556 พบว่า พลอากาศเอกธเรศ ได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายเป็นรายเดือน 335,850 บาท ส่วนรองประธานกรรมการ และกรรมการ กสทช. ได้รับค่าตอบแทนเหมาจ่ายเป็นรายเดือน 269,000 บาท
ส่วนรายได้-รายจ่ายของ กสทช. พบว่าในเดือนพฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา กสทช. มีรายได้รวม 3,405,899,223.24 บาท และรายได้สะสมนับตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงพฤษภาคม 2557 จำนวน 4,756,595,254.13 บาท โดยมีรายได้มาจากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการตามมาตรา 42 วรรคสอง และมาตรา 45 วรรคสามมากที่สุด
ขณะที่รายจ่ายสำหรับการดำเนินงานของ กสทช. และสำนักงาน กสทช. พบว่าในเดือนพฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา กสทช. มีรายจ่าย 246,644,024.06 บาท และรายจ่ายสะสมนับตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงพฤษภาคม 2557 จำนวน 1,538,596,685.63 บาท โดยพบว่ามีรายจ่ายบุคลากรมากที่สุด เฉพาะเดือนพฤษภาคม 2557 จำนวน 76,373,546.10 บาท ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงพฤษภาคม 2557 ได้มีรายจ่ายบุคลากรทั้ง กสทช. และสำนักงาน กสทช. รวม 448,051,647.57 บาท
ข่าว - ASTV

ศาลทหารอนุมัติหมายจับ 7 ราย ไม่รายงานตัว คสช. “จารุพงศ์- สมศักดิ์ เจียมฯ-วิสา-ไพจิตร”

16/6/57 ...( 18.55 น. )
ไม่รอด! ศาลทหารอนุมัติหมายจับ 7 ราย ไม่รายงานตัว คสช. “จารุพงศ์- สมศักดิ์ เจียมฯ-วิสา-ไพจิตร”
เมื่อเวลา 18.15 น. ศาลทหารอนุมัติหมายจับผู้ที่ไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่งของ คสช. 7 ราย
1. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
2. นายจรัล ดิษฐาอภิชัย
3. นายวิสา ครรทัพ
4. นายสงวน พงษ์มณี
5. นางไพจิตร อักษรณรงค์
6. พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์
7. นายสมศักดิ์ เจียมธีระสกุล

สัญญาน สงครามโลก?

หนุมานลิงกัง ผงาด เพิ่ม 5 รูปภาพใหม่
ฟิตซ้อมร่างกายให้แข็งแกร่ง ไม่เป็นภาระแก่คนอื่นๆ และเตรียมปัจจัยสี่ได้แล้ว โดยเฉพาะ กล้วย เผือก มัน ถั่ว ฟักทอง แตงโม มะละกอ มะพร้าว มะม่วง มะขาม มะนาว หน่อไม้ไผ่ เครื่องกรองน้ำดื่ม เสื้อผ้าชุดหนาๆ ยาปฐมพยาบาล เต้นท์นอน อุปกรณ์เดินป่า เครื่องมือช่าง แบ็ตเตอรี่ ไฟฉาย อาวุธที่พอคุ้มครองตนเองและญาติๆได้ พระเครื่อง หนังสือสวดมนต์ เงินและทองคำจำนวนหนึ่ง เรายังมีเวลาเตรียมตัวอีกไม่เกินสามเดือน ก่อนที่เหตุการณ์จะ "พลิกโลก"
จบ ข่าว