PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556

ความรัก เวลา การรอคอย และความทรงจำ


ความรัก เวลา การรอคอย และความทรงจำ
////
ความทรงจำ เป็นสิ่งที่มีค่ามาก สำหรับคนบางคน
โดยเฉพาะคนที่มีเวลาดี ๆ ที่ใช้กับคนรัก
ยิ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายคนหวงแหน
ต้องระลึกไว้ในความทรงจำ ต้องถนอม ดูแลให้ดี

หลายคนจึงไม่อาจตัดใจจากวันเก่า ๆ ได้เสียที
เพราะว่ามีความสุข กับการได้คิดถึงอะไรดี ๆที่ผ่านไป
โดยลืมนึกไปว่า สิ่งที่ผ่านไปแล้ว จะไม่มีวันย้อนกลับคืนมาได้อีก
หากจะต้องตัดใจลืม หรือเดินจากอดีตมาก็ไม่ได้อีก
เพราะเหตุผลที่ว่า "เสียดายเวลา" ที่คบกันมา

บางคนคบกันมานาน จนแทบจำไม่ได้ว่า
เคยยิ้มให้กับความรักครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
เพราะหลัง ๆ มาก็อยู่แต่กับความทุกข์
จนนึกภาพความสุขไม่ออก แต่ที่ไม่กล้าเลิก เพราะยังคิดถึงวันเก่า ๆ
แค่เสียดายเวลาที่คบกันมาเนิ่นนาน
โดยไม่คิดเลยว่า ทุก ๆ วันของวันนี้ พรุ่งนี้ และวันต่อ ๆ ไป
ก็จะกลายเป็นเพียงวันเก่า ๆ ที่น่าเสียดาย
และ...เวลาที่น่าเสียดายก็จะเพิ่มขึ้น ๆ
///////////////////
ในวันนั้น ผมตั้งใจจะบอกสิ่งที่ผมปกปิดเธอมานานให้เธอได้รับรู้
แต่บางทีคำๆ นั้นอาจจะทำร้ายจิตใจของเธอหรือใครหลายๆ คน แต่ผมก็อยากจะพูดออกไป
ก่อนจะสายเกินไปก่อนที่…จะไม่ได้พูดอะไรตอนจากกัน

ผมรู้จักเธอมาตั้งนานแล้วตั้งแต่ผมยังเป็นเด็กมัธยม เราไม่เคยมีความลับต่อกัน
ถึงมันอาจจะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ว่าผมไม่เคยมีความลับกับเธอเลย
พอจบมัธยมเราต่างก็แยกย้ายกันไป เธอเป็นคนเรียนเก่ง ฉลาด น่ารัก
ใครๆ ก็รักเธอโดยเฉพาะหนุ่มๆ ที่คอยตามเอาใจเธอไม่เว้นแต่ละวัน

ผมไม่มีอะไรจะเด่นเท่ากับเธอซักอย่าง ผมเป็นแค่คนธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ
แต่เธอคอยดูแลผมเมื่อผมมีปัญหา
ทุกครั้งที่ผมคิดถึงเธอ ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่เกินเอื้อม
ทุกครั้งที่ผมคิดถึงเธอ ผมก็ได้แต่นั่งเขียนเรื่องราวของเธอ
เพราะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะเทียบกับเธอ

ผมไม่ได้ต้องการให้เธอมาสนใจผมแล้วเข้าใจความรู้สึกของผม
สำหรับผมแล้วการที่ได้เฝ้าคิดถึงเธอมันก็พอแล้ว

แต่แล้ววันหนึ่ง เธอก็เดินมาพร้อมกับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา แนะนำกับผมว่า
นี่แหละชายในฝันของเธอ
หัวใจของผมเหมือนโดน มีดกรีด เป็นทางยาว...
ผมไม่ต้องการให้เธอรู้หรอกว่าวันนั้นที่ผมพูดอวยพรในความรักของเธอผมเสียใจขนาดไหน

แต่ผม ผมไม่อยากให้เธอรู้สึกผิดเพราะผม

นับจากวันนั้นผมมองโลกเป็นความมืด
ไม่ต้องการจะทำกิจกรรมใดๆ ของผมเหมือนอย่างเคย
ไม่ต้องการ... ผมต้องการแต่เพียงเธอ
ซึ่งผมรู้มาตลอดว่าเป็นไปไม่ได้ นี่เองที่เค้าเรียกว่าอกหัก... “ผมอกหัก”
ในหัวผมมีเพียงคำๆ นี้ดังอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมา

หลังจากนั้นไม่นานพ่อผมบอกให้ผมไปศึกษาต่อที่อเมริกา ผมคิดถึงเพียงแต่เธอ
แต่ถึงผมบอกเธอไป เธออาจจะไม่สบายใจ ผมไม่ต้องการให้เธอรู้สึกไม่ดีใดๆ กับผม
อย่างน้อยแค่เธอยังยิ้มเหมือนทุกครั้งที่เธอคุยกับผม แค่นั้น...ก็พอแล้วสำหรับผม

วันเวลาผ่านไปอย่างไร้ความหมาย ผมใกล้จะไปอเมริกาแล้ว ผมอยากจะเจอเธออีกครั้ง
ผมคิดมาตลอดว่าวันที่ผมเจอเธอก่อนไป ผมอยากจะบอกเธอในบางสิ่ง แม้ว่าเธอจะมีใคร
แค่เธอรู้ว่าผมก็คือคนหนึ่งที่อยากดูแลเธอ

ระหว่างที่ผมนั่งเขียนเรื่องราวของเธอ
โทรศัพท์ดังขึ้นจากข้างๆ โต๊ะเขียนหนังสือของผม
เรื่องที่ผมได้รู้จากโทรศัพท์ทำให้ผมต้องลุกจากโต๊ะและต้องไปพบเธอ เดี๋ยวนี้

....เธอโทรมาบอกว่าเธอเลิกกับแฟนผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมไปบ้านของเธอ
ผมตั้งใจจะไปบอกเธอเพียงแค่ปลอบใจเธอ และบอกกับเธอว่าจะไม่มีผมคอยดูแลแล้ว
ให้เธอดูแลตัวเองดีๆ แทนผมด้วย





ผมไปถึงหน้าบ้านของเธอ ผมพยายามทำตัวปกติที่สุดให้เหมือนทุกครั้งที่เจอเธอ
เมื่อผมเปิดประตูเข้าไปหาเธอ
ผมสังเกตใบหน้าของเธอ ใบหน้าของคนที่ผมเป็นห่วงมาตลอดผมปลอบเธอจนเธอได้สติ
เธอบอกผมถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ในตอนนี้เธอคงไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากชายคนนั้น...
ผมอยากบอกเธอ อยากโอบกอดเธอ อยากบอกเธอว่าความห่วงใยที่ผมมีให้เธอไม่ได้แพ้ใครเลย
ผมอยู่กับเธอจนเธอสบายใจ
เธอบอกผมว่าผมเป็นคนที่เข้าใจเธอมากที่สุด ...
ผมอยากอยู่กับเธอให้นานกว่านี้ แต่ตอนนี้ผมต้องไปแล้ว
ผมรู้..ว่าตอนนี้ผมไม่ควรบอกเธอ แค่เธอเป็นอย่างที่เป็นตอนนี้
ผมคิดว่าผมทำหน้าที่ “เพื่อน” ได้ดีแล้ว

ผมบอกกับเธอก่อนไป “ ผมต้องไปเรียนอเมริกา”
น้ำตาของเธอไหลออกมา ผมรู้ว่าเธอเสียใจแต่เธอไม่ได้เหนี่ยวรั้งผม
เธออยากให้ผมมีอนาคตที่ดี เธออยากให้ผมทำในสิ่งที่ผมต้องการ..
ทั้งๆ ที่ผมรู้ว่าตอนนี้เธอต้องการคนปลอบใจ
แต่ผมต้องไปแล้ว

ตลอดระยะเวลาที่ผมจากเธอมา ผมไม่เคยมีวันไหนที่ตื่นมาแล้วไม่คิดถึงเธอ
ไม่มีคืนไหนที่ผมไม่เห็นเธอในความฝัน จนกระทั่งผมสำเร็จการศึกษา
ผมกำลังจะกลับไปหาเธอ กลับไปหาสิ่งที่ผมคิดถึงมาตลอด กลับไปหาความฝันของผม

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ”
เสียงที่ผมต้องการได้ยินมาตลอด ภาพที่ผมปราถนาจะเห็นมากที่สุด
เธอไม่เปลี่ยนไปเลย เธอยังคงน่ารักมีเสน่ห์เหมือนน้ำหล่อเลี้ยงใจของผมเช่นเคย

เธอพาผมไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ที่เราเคยไปกัน ที่ๆ เรามีอดีตที่สนุกสนานด้วยกัน
ที่ๆ เราเคยยิ้มเคยหัวเราะด้วยกัน เราเที่ยวด้วยกันจนดวงอาทิตย์จางหายไป
เธอมองผมแล้วพูดว่า “เรารักเธอนะ”

มันเป็นคำพูดที่ผมใฝ่ฝันอยากได้ยินมาตลอดชีวิต
เรากอดผมไว้แน่นเหมือนกับอยากบอกว่าอย่าจากเธอไปไหน
เวลานี้ผมไม่ต้องการอะไรนอกจากเธอ แค่เธอรักผมผมไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากนี้

ความลับที่ผมอยากบอกเธอมานานแสนนาน
“เราก็รักเธอ และเราจะรักเธอตลอดไป”
ผมตอบอย่างไม่ลังเลเพราะคำๆ นี้ที่ค้างใจของผม เตือนผมเสมอว่าต้องกลับมาบอกกับเธอ

เธอบอกผมในทุกเรื่อง เธอบอกผมว่าเธอคิดถึงผมมาตลอดเวลาสี่ปีที่ผมจากเธอไป
ผมได้แต่ย้ำกับเธอว่าผมจะไม่ทำให้เธอเสียใจ ผมจะอยู่กับเธอจะเป็นคนที่อยู่กับเธอทุกเวลา
เธอกอดผมพร้อมทั้งพูดเรื่องราวทุกอย่าง เสียงของเธอค่อยๆ เบาลง
แต่ผมยังคงจดจำทุกคำพูดของเธอ
“เราจะรักเธอมาตลอดนะเราดีใจที่วินาทีนี้เราได้อยู่กับเธอ”

นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ดวงตาของเธอจะหลับลงพร้อมกับน้ำตาหยดเล็กๆ ที่ไหลลงมา
..กว่าที่ผมจะรู้สึกตัวนั้นมันก็สายเกินไป

ระยะเวลาหลายปีที่ผมนั่งมองรูปของเธอ
ผมพยายามจะเก็บความรู้สึกทุกครั้งที่ผมมองรูปเธอ
แต่..ทุกครั้งที่ผมมองเธอภาพเธอละเลือนลาง เพราะน้ำตาของผมมันออกมาตลอดเวลาที่ผมมองเธอ

เธอคนเดียวที่ผมรัก เธอคนเดียวที่ผมคิดถึง
เธอคนเดียวที่ผมอยากบอกเธอทุกวันว่า ผมรักเธอมากแค่ไหน
แต่เธอไม่เคยบอกผมเลยว่าเธอ เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว กว่าจะรู้สึกตัวก็สายเกินไปแล้ว
นี่คงเป็นสาเหตุที่แฟนเก่าของเธอของเลิกกับเธอ
แต่เธอไม่เคยบอกเหตุผลนั้นให้ผมได้รับรู้

เธอคงอยากให้ผมไปเรียนอย่างไม่ต้องกังวล
โดยเก็บความทรงจำดีๆ ของเราเอาไว้ก่อนที่เธอจะจากไป
ผมยังคิดถึงเธอตลอดเวลา และนับจากวันนั้นผมยังไม่เคยหยุดเขียนเรื่องราวของเธอ
เธอ...เธอผู้ที่ผมรัก

“เราจะรักเธอมาตลอดนะเราดีใจที่วินาทีนี้เราได้อยู่กับเธอ”

คำๆ นี้จะสถิตย์อยู่ในใจของผมตลอดไป ตลอดไป...ตลอดไป

----------------------------------------

ปล.-ถ้ารักใครอย่ารอจนเวลาของคุณใกล้หมด
บอกเธอว่ารักอาจจะทำให้เธอลำบากใจ
แต่มันช่วยให้รู้ว่าคุณก็ยังเป็นคนที่ห่วงใยเค้า
แค่นั้นก็พอแล้วถ้าคุณเชื่อมั่นว่ารักของคุณคือรักแท้

ที่มา : http://icgag.com/gw

ฮีโร่..ยังไม่ตาย


เนิ่นนานสักครั้งที่จะได้เห็นภาพวีรกรรมของ "ฮีโร่"หรือ"พระเอกตัวจริง"ในชีวิตจริงที่สัมผัสจับต้องได้ และยังมีอยู่ในสังคมที่กำลังโหยหา"สังคมดี คนดี มีน้ำใจ"ในเมืองใหญ่ ในขณะที่คนไทยโดยรวม กำลังเพรียกหา ทวงถาม ความกล้าหาญจาก"นักการเมือง"ในสภาวะสถานการณ์ภัยคุกคามประเทศ

เช้าวันหนึ่ง โลกออนไลน์ สังคมโซเชียลมีเดีย มีการพูดถึง คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บนเรือโดยสารที่วิ่งในลำน้ำเจ้าพระยา กับวีรกรรมของหนุ่มใหญ่การบินไทย ที่ไม่ลังเลที่จะกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อช่วยหลือเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกที่เขาไม่เคยรู้จัก ในท่ามกลางเสียงหวีดร้องโกลาหลของผู้คนบนเรือที่ตะโกนว่ามีผู้หญิงตกน้ำ

"พิษณุ หงษ์คำแสง" หนุ่มการบินไทย ฝ่ายช่าง สนามบินสุวรรณภูมิ เล่า ถึงนาทีชีวิตที่ เขาตัดสินใจ กระโดดลงไปช่วยหญิงสาวที่กำลังจะจมน้ำที่เชี่ยวกรากกลางเจ้าพระยา ใกล้ท่าเรือเกียกกาย จนเกือบเอาชีวิตไม่รอดว่า  ก่อนเกิดเหตุ พิงเสาเรือหลับอยู่ แต่พอถึงท่าเกียกกายสะดุ้งตื่น เสียงคนตะโกนมีผู้โดยสารตกน้ำ เมื่อมองไป เห็นคนตกน้ำ มีคนโยนห่วงให้ผู้หญิงคนดังกล่าว แต่ไปคนละทาง จึงตัดสินใจ
กระโดดไปช่วย โดย พุ่งลงไปในน้ำพร้อมห่วงยาง 1 อัน พยายามใกล้ผู้หญิงรายดังกล่าว มากสุด แต่น้ำเชี่ยวมาก ตนใส่กางเกงยีนส์และมีเศษตังค์เหรียญในกระเป๋าจำนวนมาก ทำให้ใกล้หมดแรง
แต่ได้ตะโกนบอกผู้หญิงว่า อีกนิดเดียวทนรอพี่หน่อย พอได้จังหวะก็เหวี่ยงห่วงยางให้ผู้หญิง

หลังเหวี่ยงห่วงให้แล้ว ตนเองก็หมดแรง จมน้ำ แต่ตะกายขึ้นมา ตะโกนให้น้องเอาห่วงมาทางตนด้วย ไม่ไหวแล้ว จังหวะที่จมไปหลังเหวี่ยงห่วงให้ผู้หญิง ทะลึ่งตัวขึ้นอีกครั้งคว้าห่วงไว้ได้ แล้วพาผู้หญิงรายนี้ขึ้นเรือ และ คุยกับเขาว่า  ถ้าพี่จะจมน้ำหนูเห็นมั้ย พี่ช่วยทั้งที่ไม่รู้จัก หนูทำอย่างนี้มันไม่ดี ปัญหาทุกอย่างแก้ได้ ถ้าพี่จมน้ำตายหนูจะทำไง

พระเอกตัวจริงที่ ไม่มีใครผลักหรือถีบเขาลงไปในน้ำแล้วค่อยมารับสมอ้าง ยอมรับว่า วินาทีตัดสินใจช่วยไม่ได้คิดถึงตัวเองคิดแต่เพียงต้องช่วยคน ต่อเมื่อตัวเองจะจมน้ำ จึงมาฉุกคิดภายหลังว่ายังมี
ครอบครัวที่อยู่ข้างหลังรออยู่..

นี่อาจเป็นอีกครั้งที่ผู้คนที่จะเกิดรอยยิ้มเล็กๆกับความวาดหวังอนาคต ว่าสังคมไทยหาใช่ไม่มี "ฮีโร่"คนดี และ ผู้กล้า ที่เป็นประชาชนคนธรรมดา..ในขณะที่ ยุคปัจจุบันที่มีแต่ข่าวฆ่าฟันจี้ปล้น คลิปทำลายศีลธรรมแพร่กระจายในโลกออนไลน์ "พิษณุ"หนุ่มการบินไทย นอกจากเป็น"พระเอก"ในชีวิตจริง ยังแสดงให้เห็นว่าสังคมไทยยังมีคนดี และต้องการคนแบบนี้เพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง ที่จะพัฒนาสังคมของเราให้น่าอยู่ ต่อไป.

คลิป "นาทีชีวิต" : http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=LgL5fhNWmkk
///
คำบอกเล่าจากผู้ถ่ายคลิป 

"เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้เองเวลา ตรงเกือบถึงท่าเกียกกาย หากใครเคยนั่งเรือด่วนเจ้าพระยาจะรู้จักดี เราอยู่ประมาณเกือบท้ายเรือได้ยินเสียงคนตะโกนว่ามีคนตกเรือ คนบนเรือก็อื้ออึงเลยทีนี้ กระเป๋าเรือก็ตะโกน คนบนเรือก็พยายามโยนห่วงยางลงไปให้ แต่คือมันไกลจากเรือมาก เลยไม่ถึง แล้วนี้มันกลางแม่น้ำเจ้าพระยาเลยนะ ก็มีพี่คนนี้แหละแกเป็นผู้โดยสารนะ กระโดดลงไปช่วยคนที่ตกเรือ แต่คลื่นจากเรือมันซัดแกทำให้เกือบหมดแรง ทำท่าจะจมน้ำอยู่หลายที ในที่สุดก็ช่วยขึ้นมาได้ คนที่ตกลงไปเป็นผู้หญิง รู้อีกทีตอนกระเป๋าเรือ บอกว่าเค้ากระโดดลงมาเองจากหัวเรือ ไม่ได้พลัดตกลงไป นาทีชีวิตมาก น้องเค้าจะฆ่าตัวตาย เป็นเหตุการณ์ที่ให้ข้อคิดว่าชีวิตมันมีค่ามาก จงใช้ทุกนาทีที่เหลือให้มีสตินะคะ ส่วนพี่คนนี้รู้แค่ว่าแกทำงานอยู่การบินไทย ไม่ทราบชื่อ เพราะแกเวียนหัว ให้แกนั่งนิ่งๆพี่พยาบาลบอก คนดีแบบนี้สมควรได้รับคำชื่นชมและยกย่องจากสังคมเราค่ะ"