PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ปีใหม่บ้านป๋า.....


ปีใหม่บ้านป๋า.....
บ้านสี่เสาเทเวศร์ ได้รับการตกแต่งประดับไฟ รับงาน "ปีใหม่บ้านป๋า" เช้า 30ธค. นึ้ นายกฯประยุทธ์ จะนำครม.-คสช.-ผบ.เหล่าทัพ เข้าอวยพรและรับพรปีใหม่ จากพลเอกเปรม โดยมีบรรดาลูกป๋า ในทุกวงการ นัดแนะกันมาอวยพรป๋าในวันเดียวกัน

นายกฯวางศิลาฤกษ์ "หอประชุมทบ.ใหม่"2,260ล้าน

นายกฯวางศิลาฤกษ์ "หอประชุมทบ.ใหม่"2,260ล้าน เผยต้องการให้เป็นศูนย์ประชุมนานาชาติ เผย สร้าง พิพิธภัณฑ์ ไม้มีค่า พะยูง-สัก หลุดคดี 1,600 ล้าน ใช้เวลา 3-4ปี หวังรองรับการท่องเที่ยว เกาะรัตนโกสินทร์ การประชุมระดับโลก
บริเวณพื้นที่หอประชุมกองทัพบก สี่เสาเทเวศร์) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์หอประชุมกองทัพบกแห่งใหม่
โดยมี พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพบกให้การต้อนรับ
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า การก่อสร้างหอประชุมทบ.แห่งใหม่นี้ ความจริงคิดกันมานานแล้วตั้งแต่ผมเป็นผบ.ทบ.ว่าทำอย่างไร เราจะมีหอประชุมระดับชาติ สามารถรับแขกบ้านแขกเมืองได้ ที่ผ่านมาบ้านเราไม่มีจัดงานแต่ละครั้งต้องไปเช่าโรงแรม
จากนี้ไปเราจะมีสถานที่ในการต้อนรับแขกทั้งระดับชาติ กองทัพบกเป็นหอประชุมที่ร่วมสมัยมีการออกแบบที่ดี แบบร่วมสมัย แบบไทยๆ
และที่ต้องทำต่อในพื้นทีนี้ก็เพราะเชื่อมต่อกับการท่องเที่ยวในเกาะรัตนโกสินทร์ เราต้องคิดก้าวหน้าถ้าคิดต่ำเตี้ยก็จะต่ำเตี้ยเหมือนเดิม เราต้องคิดถึงอนาคต และแก้ไขปัจจุบันประคับประคองทุกอย่างให้เดินไปให้ได้ อดีตเราไม่ว่ากันแต่ต้องเอาอดีตและประวัติศาสตร์มาเป็นบทเรียน ทำวันนี้เพื่อเป็นอนาคต ส่วนจะดีหรือไม่ดีก็ถือเป็นประวัติศาสตร์ของลูกหลานในวันข้างหน้า แต่อย่าเอาประวัติศาสตร์มาเป็นเรื่องขัดแย้ง หรือเอาเขตแดนมาขัดแย้ง ถ้ามัวแต่ขัดแย้งเรื่องนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรต้องรบการอยู่ และถ้ายังรบการอยู่ทุกอย่างจะไม่มีทางแข็งแรง ศักยภาพก็ลดลง
แหล่งข่าว ในทบ. เผยว่า หอประชุมทบ.ใหม่ นี้ ใช้วบประมาณ"2,260ล้าน บาท เริ่มสร้าง เมย.2559 ใช่เวลาสร้าง 3ปี6 เดือน เพื่อให้เป็นศูนย์ประชุมนานาชาติ ตามแนวคิด นายกฯ หวังรองรับการท่องเที่ยว เกาะรัตนโกสินทร์ การประชุมระดับโลก
นอกจากนี้ยังจะ สร้าง พิพืธภัณฑ์ ไม้มีค่า ที่นำไม้พะยูง-สัก ที่หลุดคดี มาสร้าง โดยใช้งบฯ 1,600 ล้าน ใช้เวลา 4ปี
โครงการก่อสร้างหอประชุมกองทัพบกและอาคารสวัสดิการทหารบก ก่อสร้างภายใต้โครงการก่อสร้างอาคารหอประชุมกองทัพบกแห่งใหม่ เป็นการดำเนินการเพื่อทดแทนหอประชุมกองทัพบกเดิม ที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2500 โดยเปิดใช้งานมาแล้ว 58 ปี
โดยหอประชุมแห่งใหม่เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ซึ่งได้มีการปฎิบัติตามขั้นตอนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการก่อสร้าง เนื่องจากอยู่ใกล้เขตพระราชฐานสวนจิตรลดา
อาคารหอประชุมมีรูปแบบภายนอกที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและตะวันตก ทั้งการจัดภูมิทัศน์ที่อ้างอิงเรื่องราวตามประวัติศาสตร์เพื่อให้สอดคล้องกับอาคารพิพิธภัณฑ์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
โดยเป็นอาคารขนาดใหญ่ มีความสูง 3 `ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น รวม 4 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยโดยรวมทั้งอาคาร 62,994 ตารางเมตร ซึ่งเป็ฯการออกแบบสำหรับรองรับร้านอาหารที่จุคนได้ 600 คน โดยชั้นล่างจะเป็นห้องออดิทอเรี่ยมรองรับได้ 500 คน สำนักงาน ห้องแถลงข่าว และห้องโถงพักคอย ชั้นที่ 1 ประกอบด้วยห้องประชุมจัดเลี้ยงจุดคนได้ 500 คน ห้องคันทรีรูม จำนวน 11 ห้อง ห้องพักผ่อน 7 ห้อง และพื้นที่ใต้ดินถึงชั้นล่างมีอาคารจอดรถอยู่ด้านหลังจะรองรับการจอดรถได้ถึง 400 คัน ชั้นสองเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ จุคนได้ 3,000 คน และห้องโถงพักคอยด้านหน้า
งานก่อสร้างได้รับอนุม้ติงบประมาณ - 2,260,000,000 บาท และจะเริ่มก่อสร้างภายในเดือนเมษายน 2559 โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี 6 เดือน ส่วนพิพิธภัณฑ์ ใช้เวลา4ปี งบ1,600 ล้าน

บิ๊กตู่" แนะ กองทัพ ให้ใช้ทั้ง รัฐศาสตร์-นิติศาสตร์ แต่คนเลว ทำผิดซ้ำซาก ใช้นิติศาสตร์

อ่าน เมื่อนายกฯ คว้าไมค์ คุยกับทหาร
บิ๊กตู่" แนะ กองทัพ ให้ใช้ทั้ง รัฐศาสตร์-นิติศาสตร์ แต่คนเลว ทำผิดซ้ำซาก ใช้นิติศาสตร์ ระบุเรารังเกียจใครไม่ได้เลย แม้จะทำผิดหรือถูกก็เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม เหมือนนักโทษเมื่อรับโทษทัณฑ์แล้วก็กลายเป็นคนดี กลับคืนสู่สังคมแต่ทำผิดใหม่ก็ต้องติดคุกใหม่ เราต้องให้อภัยคนเช่นกัน แต่ถ้าใครไม่เข้าในระบบไม่ได้ ทุกคนต้องเข้าในระบบกระบวนการยุติธรรม /ให้ เป็น ผู้นำที่มีความแตกต่าง แนะ ทบ.วางแผนปฏิรูป 20 ปี ปรับวิธีการรบ “รุก-รับ-ร่น-ถอย รบตามแบบ อย่าเน้นรบพิเศษ มาก /ทุกอย่างเป็นชะตากรรม อยู่ที่ฟ้าลิขิต ทำความดี อย่าขอพรพระ ยัน ไม่มีปัญหากับใคร แต่ให้ยึดกระบวนการยุติธรรม/คิดถึงทหาร คว้าไมค์พูด ในงานวางศิลาฤกษ์หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์แห่งใหม่ เผยยังรู้สึกเหมือนเป็น ผบทบ.อยู่ เผยที่สั่งตอนเป็นผบทบ.มากมาย ก็เพื่อวันนี้ แต่ไม่ใช่เตรียมการปฏิวัติ ไม่เคยเตรียม เผยเป็นทหารมา38ปี เกิดชาติหน้า ก็เป็นทหาร ตายไปก็เป็นผีทหาร ใจดี ช่วยคน
บริเวณพื้นที่หอประชุมกองทัพบก สี่เสาเทเวศร์) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์หอประชุมกองทัพบกแห่งใหม่
โดยมี พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพบกให้การต้อนรับ
ภายหลังเป็นประธานวางศิลาฤกษ์ หอประชุมกองทัพบกเทเวศร์แห่งใหม พลเอกประยุทธ์ ได้เพิ่มกำหนดการ ด้วยการกล่าวกับ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ และกำลังพลที่มาร่วมพิธี
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ตนยังรู้สึกว่ายังเป็นผบ.ทบ.อยู่เลย แต่บังเอิญว่าเรามีผบ.ทบ. 2 คนไม่ได้ แต่ใจก็ยังอยู่กับพวกเราเสมอ เพราะรับราชการยาวนานมาถึง 38-39 ปี ชีวิตผูกพันกับการเป็นทหารมาโดยตลอด บางครั้งเจอหน้าพวกเรา ก็ไม่สามารถที่จะทักทายได้เพราะถูกจับตาและจับจ้องโดยตลอด
"ยืนยันว่าจะทำทุกอย่างให้กับทุกคน สิ่งไหนทำได้ก็จะทำ ผ่านมาเราพูดกันโดยตลอดว่ากองทัพบกเป็นของ ของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ วันนี้เราต้องร่วมกันรับผิดชอบเราต้องทำเพื่อประชาชนทุกคน เพราะทหารก็ถือเป็นประชาชน
"ที่ผ่านมาอาจจะรู้สึกว่าทำไม ผมถึงสั่งงานมากมายหลายเรื่อง ยืนยันว่าที่ทำมาทุกอย่างก็เพื่อวันนี้ ไม่ใช่ทำเพื่อการปฏิวัติ มันไม่ใช่ ผมไม่เคยเตรียมการ แต่เราทำงานเพื่อสนับสนุนทุกรัฐบาล และเป็นการทำเพื่อให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์ จะต้องดูแลทั้งทหารและประชาชน"
"วันนี้ดีใจที่ได้กลับมา และไม่ต้องห่วงใครเป็นผบ.ทบ.ก็จะทำงานต่อทำเพื่อประชาชน ทำเพื่อพวกเราทุกคน เพราะทหารก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง วันนี้ผมมาในฐานะนายกฯ ทำงานในฐานะนายกฯก็เอาทุกอย่างที่ได้จากกองทัพบกมาบริหารให้เกิดผลสัมฤทธิ์ สิ่งสำคัญเราต้องอธิบายเนื่องจากคนไทยไม่ค่อยชอบฟังการอธิบายมักจะฟังจากต้นเรื่องและปรายเรื่อง ตรงกลางไม่รับรู้ยกเว้นเรื่องของละคร
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ต้องพูดมากกว่าเดิมอีกนิด แต่ตนจะพูดลดลงแล้วให้พวกท่านพูดมากขึ้นให้ตนว่าเรากำลังปฏิรูปประเทศ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามเดิมเราก็ปฏิรูปไม่ได้
ในเรื่องของประชาธิปไตยไม่ว่าจะเป็นอย่างไรเราสนับสนุนการเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว สนับสนุนการเลือกตั้ง แต่ต้องเป็นการเลือกตั้งที่เป็นการประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เป็นอนาคตของประเทศ เรารังเกียจใครไม่ได้เลย แม้ใครจะทำผิดหรือถูกก็เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม
“เหมือนนักโทษเมื่อรับโทษทัณฑ์แล้วก็กลายเป็นคนดี กลับคืนสู่สังคมแต่ทำผิดใหม่ก็ต้องติดคุกใหม่ เราต้องให้อภัยคนเช่นกัน แต่ถ้าใครไม่เข้าในระบบไม่ได้ ทุกคนต้องเข้าในระบบกระบวนการยุติธรรม
ต่อไปนี้เราต้องสอนให้ลูกหลานเคารพกฎหมาย ผู้บังคับบัญชาต้องดูแลชั้นผู้น้อย แต่ต้องยอมรับว่าคนมันเยอะก็ต้องช่วยกันดูแลให้ทั่วถึง เหมือนทุกวันนี้ รัฐบาลหนักใจ เพราะไม่ใช่รัฐบาลดูแลคนเพียงสิบกว่าล้านคนที่เลือกมา แต่วันนี้ผมต้องดูแลคน 70 ล้านคนที่ไม่ได้เลือกผมมา ซึ่งมันกลับกัน ไม่ใช่เลือกผมเลย แต่ผมก็จะทำงานให้เขา ลูกหลานเราก็อยู่ 70 ล้านคนด้วย จะทำให้ใครมากหรือน้อยไปไม่ได้” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า อยากให้ทหารช่วยดูแลเกษตรกร ชาวนาซึ่งไม่สามารถจะห้ามไม่ให้เขาทำนาได้เพราะเป็นความเคยชิน ถือเป็นศักดิ์ศรีของชาวนาเหมือนที่ทหารมีศักดิ์ศรีเช่นกัน จะไปให้เขาทำอย่างอื่นเป็นเรื่องยาก แต่ก็ต้องค่อยๆ อธิบายให้เขาเข้าปรับเปลี่ยน ต้องอาศัยระยะเวลาในการเรียนรู้ รัฐบาลเพียงแต่คิดและนำร่องให้ แต่ไปบังคับกันไม่ได้
บางคนไม่เข้าใจว่ารัฐบาลไปบังคับให้เลิกทำนา เรื่องแบบนี้เราใจร้อนไม่ได้ บางเรื่องต้องอาศัยเวลาถึง 20 ปี วันนี้เราต้องหัดคิดให้เป็นเหมือนกับการที่เป็นผบ.ทบ.หรือทหารตนก็ต้องคิดว่าผู้บังคับบัญชาต้องการอะไรแล้วคิดต่อว่ามันจะไปตรงโน้นได้อย่างไร มันต้องหาวิธีการแล้วมองไปถึงอนาคต
ถ้าเราสามารถเริ่มต้องร่วมกันได้ทุกอย่างจะไม่เสียเวลาทุกวันนี้การประชุมต่างๆ ตนก็ใช้วิธีการเดียวกับสมัยเป็นผบ.ทบ.แต่เปลี่ยนมาประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล
“อยากให้ทหารทุกคนร่วมกันภูมิใจว่าสิ่งที่กองทัพบกสอนมานั้นมากมายมหาศาลทำให้เรามีวินัย เคารพกฎหมายช่วยเหลือคนอื่น มีจิตสาธารณะ เสียสละ อดทน กล้าหาญ ไม่ว่าตำแหน่งจะใหญ่หรือเล็กถือว่ามีความเท่ากัน และทุกคนมีครอบครัวมีความลำบาก
สมัยเด็กลำบากมีหนี้สินต้องผ่อนธนาคารเหมือนกันเมื่อโตขึ้นก็มีความเข้มแข็งตามลำดับ
จึงถือเป็นเรื่องธรรมดาว่าไม่มีอะไรเท่าเทียมกันได้ บนโลกใบนี้อย่างเดียว ที่มีคือวินัยทหาร และภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน
"ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรก็ขอให้ระมัดระวังให้ดี ผมมีความเป็นห่วง โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่ทำเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณขอให้ทำอะไรให้เกิดมีระบบและเรียบร้อย ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ผมก็รักกองทัพบกอยู่แล้วไม่เคยอะไรกับใครทั้งสิ้น มีอะไรก็ดูแลกันทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน และทุกคนต้องพร้อมที่จะรับการตรวจสอบทั้งหมด
เรื่องนี้ยอมรับว่า ผมมีความกังวลว่าจะเข้าใจกันหรือเปล่า"
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้อยากจะอารมณ์ดี ตื่นเช้ามาอารมณ์เสียทุกวัน โมโหยิ่งกว่าตอนเป็นผบ.ทบ.อีก ไม่รู้ว่าเป็นอะไร อยากจะทำให้เร็ว ถ้าไปเห็นแบบที่ผมเห็น
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ซึ่งตนไปเฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีสมโภชพระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ณ วัดทิพย์สุคนธาราม ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ก็มีประชาชนมารับเสด็จเยอะมากเป็นร้อย เป็นพันคน
"พอส่งเสด็จแล้ว ผมก็เดินไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ชาวบ้านก็มาส่ง ผมก็ถามเขาว่าเกณฑ์กันมาไหม เขาก็บอกว่าไม่ได้เกณฑ์ เขาก็ปรบมือต้อนรับยิ่งเขาเชียร์ตนเท่าไหร่ ผมยิ่งกดดัน เพราะภาระเยอะขึ้น และพวกชาวบ้านก็ใจร้อน เพราะลำบาก เขายากจนและต้องใช้เงินทุกวัน แต่ตนทำให้ไม่ทัน เป็นสิ่งที่กดดัน ผมทุกวัน แต่ก็มีกำลังใจ"
นายกฯ กล่าวว่า อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เป็นพื้นที่ที่เขตชลประทานไปไม่ถึง การส่งน้ำจากแม่น้ำใน จ.กาญจนบุรีไปไม่ถึงอำเภอนี้ จะทำอย่างได้ เพราะชาวบ้านทำนาเป็นอย่างเดียว นาในวันนี้มีนาในเขตและนอกเขตชลประทาน เราจะต้องไปเรียนรู้ ซึ่งชาวบ้านก็ทำนาไม่ได้ก็ต้องไปรับจ้าง หนี้สินก็มากขึ้น จะให้เลิกปลูกข้าวก็ทำไม่ได้ เพราะทำอย่างอื่นไม่เป็น ให้ไปทำอย่างอื่นก็บอกว่าทำลายเกียรติยศศักดิ์ศรีของชาวนา เมื่อฝนตกน้อยลง น้ำในเขื่อนก็น้อยลง
วันนี้เราต้องน้ำไปใช้หลายอย่างทั้งอุปโภค บริโภค การเกษตร และการนำจืดดันน้ำเค็มออก ถ้าทุกคนมุ่งจะทำการเกษตรอย่างเดียว มันไปไม่ได้ ท้ายที่สุดจะอดน้ำทั้งประเทศ
แต่ผมห้ามไม่ได้ ห้ามไม่ให้ส่งน้ำไม่ได้ เพราะทุกคนต้องปลูกข้าว ปีนี้ขุดทั้ง 4-5 พันแห่งในพื้นที่ที่ไม่เคยขุด สร้างความเชื่อมโยงเพราะฝนไม่ตก เลยมีแต่บ่อเปล่า ซึ่งชาวบ้านก็ยังไม่เข้าใจว่าน้ำในเขื่อนเอาไปทำอะไรบ้าง นอกจากเอามาใช้อุปโภค บริโภค ผมอยากให้หน่วยบริหารไปสำรวจพื้นที่ในประเทศทั้งหมด ว่าเขื่อนไหนที่น้ำไม่มีจะไปทำอย่างไร หาพื้นที่ขุดบ่อน้ำเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้คราวหน้า บางแห่งก็ต้องขุดน้ำบาดาล ทุกครอบครัวอยากได้บ่อน้ำบาดาลหมด ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก เพราะมีกว่า 40 ล้านครอบครัว และต้องทำบ่อบาดาลบ่อละประมาณ 1 แสนบาทก็ไม่รู้ต้องใช้เงินเท่าไหร่ แต่ทุกคนอยากได้พร้อมกันหมด
จะทำอย่างไรให้เขาเข้าใจ ช่วยไปดูให้ผมหน่อย น้ำที่มีแน่ๆ คือน้ำในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา พอไม่มีน้ำก็เริ่มที่จะมีปัญหา ต้องแก้ตรงนี้ด้วย ลุ่มแม่น้ำแม่กลองก็เหมือนกัน ไม่มีอ่างเก็บน้ำอื่นเสริม มีน้ำแค่จากเขื่อนเท่านั้น แล้วน้ำในเขื่อนก็น้อย วันนี้เราเก็บน้ำได้ประมาณ 3,000-4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ต้องใช้ถึง 7,000-8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ตรงนี้ก็ต้องเปลี่ยนวิธีการไปปลูกพืชน้ำน้อย
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้กองทัพบกต้องทำอะไรที่แตกต่างจากที่ผ่านมา อนาคตคืออะไร วันนี้ทำได้เท่าไหร่ที่เขียนมา กองทัพบกมีแผนพัฒนากองทัพอยู่แล้ว ว่า 20 ปีต้องการอะไร ตรงนี่คือพื้นฐานการปฏิรูปทั้งหมด อะไรทำเสร็จก็ทำ ทำตรงนี้ อะไรทำไม่เสร็จส่งให้รัฐบาลหน้าทำต่อ ตนทำให้ได้ไม่หมดหรอก เพราะปัญหาหมักหมมมานานแล้ว
“หลายอย่างต้องทบทวน หากเราเน้นการรบพิเศษมากเกินไป วันหน้าอาจจะมีปัญหาในการรบก็ได้ เพราะเราเป็นทหาร จะต้องรบเป็นทั้ง รบรุก รับ ร่น ถอย และการฝึกเป็นทหารมาดเล็ก เพราะขณะนี้มีภัยรูปแบบเก่า และรูปแบบใหม่เข้ามา และช่วยเหลือประชาชนเมื่อประสบภัยพิบัติ ทั้งที่ได้เบี้ยเลี้ยง 200 บาท เขาเรียกว่าทหารที่แท้จริง และเป็นผู้ที่เสียสละ
"ชาติหน้าเกิดมาก็เป็นทหาร ตายไปก็เป็นผีทหาร แต่เป็นผีที่ใจดี ช่วยคน
"ผมคิดถึง เห็นบางทีก็ทักไม่ได้ เพราะอยู่ในอีกบทบาทหนึ่ง แต่ใจคิดถึงพวกเราอยู่แล้วทุกเหล่าทัพ รู้ว่าทุกคนทำงานอยู่แต่บางทีก็ต้องเข้าใจกัน อยากให้ฟังเวลาผมพูด จะได้รู้ว่าพี่คิดอะไร ถ้าไม่รู้ว่าพี่คิดอะไร ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
การเปลี่ยนผู้บังคับบัญชาก็ต้องมีความแตกต่าง เป็นผู้นำที่มีความแตกต่างที่ไม่ทำลายของเดิมสืบทอดกันมา
พลเอกประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า หน้าที่รปภ. และ ทส.คืออะไร 1.ทำหน้าที่รปภ. 2.ทำให้นายมีเวลาคิด และ 3. ไว้ระบายความโมโหของนาย ด่าไปก็ทำให้อารมณ์ยิ้มแย้มแจ่มใส คนที่เป็น รปภ.และทส.ต้องอดทน มีความรัก ความซื่อสัตย์ให้กันก็เท่านี้”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพลงที่แต่งมาก็เป็นความรู้สึกของเรา ที่อยากให้ทุกคนรู้สึกร่วมกันเรา ฉัน คือทุกคน ไม่ใช่ ฉันคนเดียว แก้คนเดียวจะทำอะไร วันนี้ก็มีชาวบ้านแต่งเพลงมาให้เดี๋ยวจะลองไปเกิดดู ขอร้องสื่อมวลชน บ้านเมืองวันนี้จะสงบและสันติได้เพราะพวกเราช่วยกัน เพราะตอนนี้ไม่ใช่เวลาปกติ สร้างความขัดแย้งเพิ่มไม่ได้ ของเก่ายังแก้ไม่ได้ ตีกันทุกวัน วันนี้ต้องตนแก้ทุกอย่าง อยู่ในหัวเต็มไปหมด ช่วยไม่ได้ก็มาเป็นหัวหน้า คสช.เอง แต่ทุกคนต้องชวยกันแก้ปัญหาให้ได้ อย่าสร้างปัญหา ใหม่ขึ้นมา ให้ใช้ทั้งรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ไปด้วยกัน ส่วนคนจนต้องใช้รัฐศาสตร์ก่อน ถ้าคนเลว คนทำผิดซ้ำซาก ก็ใช้นิติศาสตร์
“ขอบคุณทุกคน ขอให้ความสุข ฝากความระลึกถึงจากใจนายกฯ อดีตผบ.ทบ. อดีตทหารแก่คนหนึ่ง อายุ 62 ปีแล้ว "
พอถึงช่วงนี้นายกฯ ได้หันไปถามพล.อ. ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ว่าอายุ เท่าไหร่แล้ว ยังไม่ 60 ใช่ไหม
พลเอกประยุทธ์ เผยว่า วันนี้ ผมเตือน พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้ช่วย ผบทบ. หน้าที่หน้าย่น เป็นอย่างนี้ตั้งแต่ผบ.หน่วยรบพิเศษแล้ว มันเครียด
" ทุกคนช่วยกันเน้อ ทุกอย่างเป็นชะตากรรม เป็นฟ้าลิขิตอยู่แล้ว ใครจะทำบุญเท่าไหร่ ก็เป็นแค่นั้น แต่อย่าทำให้ต่ำลงก็แล้วกัน ไม่ใช่ขอพระตลอด อย่าไปขอเยอะพระปวดหัว ทำความดีเดี๋ยวพระก็เห็นและฟ้าก็เห็นเอง “พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯเผย สมเด็จพระเทพฯ ห่วงเกษตรกร ฝากทหารดูแล ทำความเข้าใจ เรื่องทำนา ปลูกพืช น้ำน้อย


นายกฯเผย สมเด็จพระเทพฯ ห่วงเกษตรกร ฝากทหารดูแล ทำความเข้าใจ เรื่องทำนา ปลูกพืช น้ำน้อย ดีใจ ไปตจว. ชาวบ้านมารอพบ แต่กดดัน เพราะเป็นความหวัง ต้องช่วยเขา
พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนหนึ่ง กับ ผบทบ.และ กำลังพล ทบ. ว่า สมเด็จพระเทพฯทรงห่วงใยเกษตรกร ผมก็อยากให้ทหารช่วยดูแลเกษตรกร ชาวนาซึ่งไม่สามารถจะห้ามไม่ให้เขาทำนาได้เพราะเป็นความเคยชิน ถือเป็นศักดิ์ศรีของชาวนาเหมือนที่ทหารมีศักดิ์ศรีเช่นกัน จะไปให้เขาทำอย่างอื่นเป็นเรื่องยาก แต่ก็ต้องค่อยๆ อธิบายให้เขาเข้าปรับเปลี่ยน ต้องอาศัยระยะเวลาในการเรียนรู้ รัฐบาลเพียงแต่คิดและนำร่องให้ แต่ไปบังคับกันไม่ได้
บางคนไม่เข้าใจว่ารัฐบาลไปบังคับให้เลิกทำนา เรื่องแบบนี้เราใจร้อนไม่ได้ บางเรื่องต้องอาศัยเวลาถึง 20 ปี วันนี้เราต้องหัดคิดให้เป็น
เหมือนกับการที่เป็นผบ.ทบ.หรือทหาร ตนก็ต้องคิดว่าผู้บังคับบัญชาต้องการอะไรแล้วคิดต่อว่ามันจะไปตรงโน้นได้อย่างไร มันต้องหาวิธีการแล้วมองไปถึงอนาคต
ถ้าเราสามารถเริ่มต้องร่วมกันได้ทุกอย่างจะไม่เสียเวลาทุกวันนี้การประชุมต่างๆ ตนก็ใช้วิธีการเดียวกับสมัยเป็นผบ.ทบ.แต่เปลี่ยนมาประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล
“อยากให้ทหารทุกคนร่วมกันภูมิใจว่าสิ่งที่กองทัพบกสอนมานั้นมากมายมหาศาลทำให้เรามีวินัย เคารพกฎหมายช่วยเหลือคนอื่น มีจิตสาธารณะ เสียสละ อดทน กล้าหาญ ไม่ว่าตำแหน่งจะใหญ่หรือเล็กถือว่ามีความเท่ากัน และทุกคนมีครอบครัวมีความลำบาก
สมัยเด็กลำบากมีหนี้สินต้องผ่อนธนาคารเหมือนกันเมื่อโตขึ้นก็มีความเข้มแข็งตามลำดับ
จึงถือเป็นเรื่องธรรมดาว่าไม่มีอะไรเท่าเทียมกันได้ บนโลกใบนี้อย่างเดียว ที่มีคือวินัยทหาร และภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน
"ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรก็ขอให้ระมัดระวังให้ดี ผมมีความเป็นห่วง โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่ทำเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณขอให้ทำอะไรให้เกิดมีระบบและเรียบร้อย ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ผมก็รักกองทัพบกอยู่แล้วไม่เคยอะไรกับใครทั้งสิ้น มีอะไรก็ดูแลกันทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน และทุกคนต้องพร้อมที่จะรับการตรวจสอบทั้งหมด
เรื่องนี้ยอมรับว่า ผมมีความกังวลว่าจะเข้าใจกันหรือเปล่า"
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้อยากจะอารมณ์ดี ตื่นเช้ามาอารมณ์เสียทุกวัน โมโหยิ่งกว่าตอนเป็นผบ.ทบ.อีก ไม่รู้ว่าเป็นอะไร อยากจะทำให้เร็ว ถ้าไปเห็นแบบที่ผมเห็น
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ซึ่งตนไปเฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีสมโภชพระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ณ วัดทิพย์สุคนธาราม ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ก็มีประชาชนมารับเสด็จเยอะมากเป็นร้อย เป็นพันคน
"พอส่งเสด็จแล้ว ผมก็เดินไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ชาวบ้านก็มาส่ง ผมก็ถามเขาว่าเกณฑ์กันมาไหม เขาก็บอกว่าไม่ได้เกณฑ์ เขาก็ปรบมือต้อนรับยิ่งเขาเชียร์ตนเท่าไหร่ ผมยิ่งกดดัน เพราะภาระเยอะขึ้น และพวกชาวบ้านก็ใจร้อน เพราะลำบาก เขายากจนและต้องใช้เงินทุกวัน แต่ตนทำให้ไม่ทัน เป็นสิ่งที่กดดัน ผมทุกวัน แต่ก็มีกำลังใจ"
นายกฯ กล่าวว่า อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เป็นพื้นที่ที่เขตชลประทานไปไม่ถึง การส่งน้ำจากแม่น้ำใน จ.กาญจนบุรีไปไม่ถึงอำเภอนี้ จะทำอย่างได้ เพราะชาวบ้านทำนาเป็นอย่างเดียว นาในวันนี้มีนาในเขตและนอกเขตชลประทาน เราจะต้องไปเรียนรู้ ซึ่งชาวบ้านก็ทำนาไม่ได้ก็ต้องไปรับจ้าง หนี้สินก็มากขึ้น จะให้เลิกปลูกข้าวก็ทำไม่ได้ เพราะทำอย่างอื่นไม่เป็น ให้ไปทำอย่างอื่นก็บอกว่าทำลายเกียรติยศศักดิ์ศรีของชาวนา เมื่อฝนตกน้อยลง น้ำในเขื่อนก็น้อยลง
วันนี้เราต้องน้ำไปใช้หลายอย่างทั้งอุปโภค บริโภค การเกษตร และการนำจืดดันน้ำเค็มออก ถ้าทุกคนมุ่งจะทำการเกษตรอย่างเดียว มันไปไม่ได้ ท้ายที่สุดจะอดน้ำทั้งประเทศ
แต่ผมห้ามไม่ได้ ห้ามไม่ให้ส่งน้ำไม่ได้ เพราะทุกคนต้องปลูกข้าว ปีนี้ขุดทั้ง 4-5 พันแห่งในพื้นที่ที่ไม่เคยขุด สร้างความเชื่อมโยงเพราะฝนไม่ตก เลยมีแต่บ่อเปล่า ซึ่งชาวบ้านก็ยังไม่เข้าใจว่าน้ำในเขื่อนเอาไปทำอะไรบ้าง นอกจากเอามาใช้อุปโภค บริโภค ผมอยากให้หน่วยบริหารไปสำรวจพื้นที่ในประเทศทั้งหมด ว่าเขื่อนไหนที่น้ำไม่มีจะไปทำอย่างไร หาพื้นที่ขุดบ่อน้ำเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้คราวหน้า บางแห่งก็ต้องขุดน้ำบาดาล ทุกครอบครัวอยากได้บ่อน้ำบาดาลหมด ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก เพราะมีกว่า 40 ล้านครอบครัว และต้องทำบ่อบาดาลบ่อละประมาณ 1 แสนบาทก็ไม่รู้ต้องใช้เงินเท่าไหร่ แต่ทุกคนอยากได้พร้อมกันหมด
จะทำอย่างไรให้เขาเข้าใจ ช่วยไปดูให้ผมหน่อย น้ำที่มีแน่ๆ คือน้ำในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา พอไม่มีน้ำก็เริ่มที่จะมีปัญหา ต้องแก้ตรงนี้ด้วย ลุ่มแม่น้ำแม่กลองก็เหมือนกัน ไม่มีอ่างเก็บน้ำอื่นเสริม มีน้ำแค่จากเขื่อนเท่านั้น แล้วน้ำในเขื่อนก็น้อย วันนี้เราเก็บน้ำได้ประมาณ 3,000-4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ต้องใช้ถึง 7,000-8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ตรงนี้ก็ต้องเปลี่ยนวิธีการไปปลูกพืชน้ำน้อย

บิ๊กตู่ แนะนำน้องๆใน ทบ.ให้ เป็น "ผู้นำที่มีความแตกต่าง"


บิ๊กตู่ แนะนำน้องๆใน ทบ.ให้ เป็น "ผู้นำที่มีความแตกต่าง" แนะ วางแผนปฏิรูป 20 ปี ปรับวิธีการรบ “รุก-รับ-ร่น-ถอย รบตามแบบ อย่าเน้นรบพิเศษ มาก /ทุกอย่างเป็นชะตากรรม อยู่ที่ฟ้าลิขิต ทำความดี อย่าขอพรพระ
พลเอกประยุทธ์ นายกฯ กล่าวกับ ผบทบ.และกำลังพลในทบ.ว่า วันนี้กองทัพบกต้องทำอะไรที่แตกต่างจากที่ผ่านมา อนาคตคืออะไร วันนี้ทำได้เท่าไหร่ที่เขียนมา กองทัพบกมีแผนพัฒนากองทัพอยู่แล้ว ว่า 20 ปีต้องการอะไร ตรงนี่คือพื้นฐานการปฏิรูปทั้งหมด อะไรทำเสร็จก็ทำ ทำตรงนี้ อะไรทำไม่เสร็จส่งให้รัฐบาลหน้าทำต่อ ตนทำให้ได้ไม่หมดหรอก เพราะปัญหาหมักหมมมานานแล้ว
“หลายอย่างต้องทบทวน หากเราเน้นการรบพิเศษมากเกินไป วันหน้าอาจจะมีปัญหาในการรบก็ได้ เพราะเราเป็นทหาร จะต้องรบเป็นทั้ง รบรุก รับ ร่น ถอย และการฝึกเป็นทหารมาดเล็ก เพราะขณะนี้มีภัยรูปแบบเก่า และรูปแบบใหม่เข้ามา และช่วยเหลือประชาชนเมื่อประสบภัยพิบัติ ทั้งที่ได้เบี้ยเลี้ยง 200 บาท เขาเรียกว่าทหารที่แท้จริง และเป็นผู้ที่เสียสละ
"ชาติหน้าเกิดมาก็เป็นทหาร ตายไปก็เป็นผีทหาร แต่เป็นผีที่ใจดี ช่วยคน
"ผมคิดถึง เห็นบางทีก็ทักไม่ได้ เพราะอยู่ในอีกบทบาทหนึ่ง แต่ใจคิดถึงพวกเราอยู่แล้วทุกเหล่าทัพ รู้ว่าทุกคนทำงานอยู่แต่บางทีก็ต้องเข้าใจกัน อยากให้ฟังเวลาผมพูด จะได้รู้ว่าพี่คิดอะไร ถ้าไม่รู้ว่าพี่คิดอะไร ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
การเปลี่ยนผู้บังคับบัญชาก็ต้องมีความแตกต่าง เป็นผู้นำที่มีความแตกต่างที่ไม่ทำลายของเดิมสืบทอดกันมา
พลเอกประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า หน้าที่รปภ. และ ทส.คืออะไร 1.ทำหน้าที่รปภ. 2.ทำให้นายมีเวลาคิด และ 3. ไว้ระบายความโมโหของนาย ด่าไปก็ทำให้อารมณ์ยิ้มแย้มแจ่มใส คนที่เป็น รปภ.และทส.ต้องอดทน มีความรัก ความซื่อสัตย์ให้กันก็เท่านี้”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพลงที่แต่งมาก็เป็นความรู้สึกของเรา ที่อยากให้ทุกคนรู้สึกร่วมกันเรา ฉัน คือทุกคน ไม่ใช่ ฉันคนเดียว แก้คนเดียวจะทำอะไร วันนี้ก็มีชาวบ้านแต่งเพลงมาให้เดี๋ยวจะลองไปเกิดดู ขอร้องสื่อมวลชน บ้านเมืองวันนี้จะสงบและสันติได้เพราะพวกเราช่วยกัน เพราะตอนนี้ไม่ใช่เวลาปกติ สร้างความขัดแย้งเพิ่มไม่ได้ ของเก่ายังแก้ไม่ได้ ตีกันทุกวัน วันนี้ต้องตนแก้ทุกอย่าง อยู่ในหัวเต็มไปหมด ช่วยไม่ได้ก็มาเป็นหัวหน้า คสช.เอง แต่ทุกคนต้องชวยกันแก้ปัญหาให้ได้ อย่าสร้างปัญหา ใหม่ขึ้นมา ให้ใช้ทั้งรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ไปด้วยกัน ส่วนคนจนต้องใช้รัฐศาสตร์ก่อน ถ้าคนเลว คนทำผิดซ้ำซาก ก็ใช้นิติศาสตร์
“ขอบคุณทุกคน ขอให้ความสุข ฝากความระลึกถึงจากใจนายกฯ อดีตผบ.ทบ. อดีตทหารแก่คนหนึ่ง อายุ 62 ปีแล้ว "
พอถึงช่วงนี้นายกฯ ได้หันไปถามพล.อ. ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ว่าอายุ เท่าไหร่แล้ว ยังไม่ 60 ใช่ไหม
" ทุกคนช่วยกันเน้อ ทุกอย่างเป็นชะตากรรม เป็นฟ้าลิขิตอยู่แล้ว ใครจะทำบุญเท่าไหร่ ก็เป็นแค่นั้น แต่อย่าทำให้ต่ำลงก็แล้วกัน ไม่ใช่ขอพระตลอด อย่าไปขอเยอะพระปวดหัว ทำความดีเดี๋ยวพระก็เห็นและฟ้าก็เห็นเอง “พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ประวิตรมอบนโยบายผบ.หน่วยทหาร ตร.ผู้ว่าฯ26จ.ภาคกลาง ให้ดูแลเข้มความสงบช่วงปีใหม่ ใช้ "ราชประสงค์" เป็นโมเดล

พลเอกประวิตร เรียกประชุม ผบ.หน่วยทหาร ตร.ผู้ว่าฯ26จ.ภาคกลาง มอบนโยบาย ให้ดูแลเข้มความสงบช่วงปีใหม่ ใช้ "ราชประสงค์" เป็นโมเดล เป็นบทเรียน สั่งการเข้ม ให้หน่วยงานความมั่นคงทั่วประเทศ ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งอำนวยความสะดวกการสัญจรของประชาชน มอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ตรวจเยี่ยม และ มอบ นโยบาย ให้กับ กองทัพภาคที่ 1 ในฐานะเป็น "กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 ผบ.หน่วยทหาร ตั้งแต่ระดับ ผบ.พล.ผู้การกรม ผบ.พัน ผบ.ตำรวจ ผู้ว่าฯ26 จ.ภาคกลาง กทม.
รวมทั้ง ศูนย์ปรองดอง สมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูป( ศปป) 7ซึ่งทำทน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย และสนับสนุนการปฏิบัติงานของศูนย์ดำรงธรรมเพื่อช่วยเหลือ และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน 26 จังหวัดในภาคกลาง ซึ่งมีกำลังพลที่ออกมาปฏิบัติงาน เกือบ 1หมื่นคน ซึ่งช่วงเดือนตุลาคม ถึงปัจจุบัน ได้ปฏิบัติงานเป็นไปตามเป้าหมาย ในการดูแล และสกัดกั้นไม่ให้เกิดการกระทำผิดกฏหมายทำให้เกิดความปลอดภัย ร่วมไปถึง การบังคับใช้กฏหมาย ในการควบคุมการเคลื่อนไหวของการชุมนุม
นอกจากนี้ยังเสริมสร้างความเข้าใจกีบประชาชนให้เข้าใจนโยบายของ คสช ในการทำงาน เพื่อแก้ไข้ปัญหาภัยแล้งการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ธุรกันดาร
พลเอกประวิตร ได้มอบนโยบายในการปฏิบัติงาน ให้ กกล.รส. ในเรื่องการดูแลช่วยเหลือประขาชน โดยได้สั่งการเรื่องการบูรณาการร่วมกันในการเอาปัญหาต่างๆมาคุยเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในแต่ละพื้นที่ ซึ่งผู้รับผิดชอบในพื้นที่ ก็ทราบว่าจะทำอะไรให้ประชาชนเพื่อลดความเลื่อมล้ำ การบังคับใช้กฏหมาย
โดยวันนี้เน้นในทุกเรื่องเรื่องความปลอดภัยในช่วงปีใหม่เพื่อเป๋นของขวัญให้ประชาชน ยอมรับเป็นห่วง การเคาท์ดาวน์ ในหลายพื้นที่
โดยให้มีการตั้ง วอร์รูมในแต่ละพื้นที่
ส่วนกรณี การยึดพาหนะโดยเฉพาะ จักรยายนต์ ซึ่งเป็นแนวทางไม่ให้ไปก่อความเดือดร้อน ซึ่งเมื่อหายเมาก็รับรถกลับไป ทั้งการเมาและขับเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย
พลเอกประวิตร ยังกล่าวถึงดารดำเนินการกับผู้มีอืทธิพล ว่า ได้รับรายชื่อ จากผู้ว่าราชการจังหวัด คสช ตำรวจ ซึ่ง จะเปิดรายชื่อดูพร้อมคณะกรรมการ เชื่อจะดำเนินการได้ใน 2 เดือน
พลเอกประวิตร ยืนยันไม่ได้ละเมืดสิทธิของนักศึกษา ในการนั่งรถไฟไปตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ เพราะหากเดินทางไปสักการก็สามารถทำได้ แต่หากไม่มีกน้าที่ในการตรวจสอบ แต่มองว่าจะเป็นการแสดงออกทางสัญญลักษณ์ ซึ่งขณะนี้ กระทรางกลาโหมดำเนินการตรวจสอบอยู่
โดยจะมีการแถลงผลสอบ 30 ธค.นึ้
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กห. กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. และ รมว.กห. ได้ประชุมศูนย์แก้ปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ ที่ ศาลาว่าการกลาโหม โดย VTC ร่วมกับ หัวหน้าส่วนราชการของ กห. มท. กทม. สตช.และหน่วยอื่น ๆ ทั่วประเทศ ในการเตรียมการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งอำนวยความสะดวกการสัญจรของประชาชนในเทศกาลปีใหม่
โดยหลังจากรับฟังการบรรยายสรุปถึงความพร้อมในภาพรวมแล้ว รอง นรม. และ รมว.กห. ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ที่ได้เตรียมการและวางแผนดูแลประชาชนเป็นอย่างดี
พลเอกประวิตร ได้มอบเป็นนโยบายว่า “ทุกหน่วยงานความมั่นคง โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ต้องร่วมกันดูแลอำนวยความสะดวกการสัญจรและดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
เพื่อมอบเป็นของขวัญ คืนความสุขให้กับประชาชนในห้วงเทศกาลปีใหม่”
โดยกำชับมอบนโยบายที่สำคัญ ดังนี้
การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน : ได้กำชับสั่งการให้ทุกหน่วยงาน มีความตื่นตัว เฝ้าระมัดระวังในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่จัดงานที่สำคัญๆ ให้ความสำคัญกับมาตรการเชิงป้องกันให้มากขึ้น เพื่อมิให้เกิดปัญหา ซึ่งต้องดำเนินการ ทั้งงานด้านการข่าว การเพิ่มการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ และความพร้อมของกล้องวงจรปิดรวมทั้งแสงสว่างในทุกจุดเสี่ยง
พร้อมทั้งให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมในพื้นที่จัดงานใหญ่ๆ ทุกพื้นที่ เพื่อบูรณาการทำงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองและอาสาสมัครพลเรือน โดยต้องเตรียมแผนเผชิญเหตุรองรับ ทั้งการรักษาความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย และการช่วยเหลือทางการแพทย์ ควบคู่ไปกับการสร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนถึงความร่วมมือกันดูแลความสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่
การอำนวยความสะดวกในการสัญจรและความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยว ต่างชาติ: ได้กำชับสั่งการให้อำนวยความสะดวกการจราจรและร่วมกันลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยให้กระทรวงคมนาคมเพิ่มระบบการขนส่งมวลชนให้เพียงพอ พร้อมทั้งคุมเข้มมาตรฐานสภาพความปลอดภัยของยานพาหนะและผู้ขับขี่ที่จะให้บริการ ทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ
ขณะเดียวกันให้ตำรวจบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเข้มข้นและจริงจังในทุกพื้นที่ ควบคู่ไปกับการใช้ประโยชน์สื่อ สร้างการรับรู้และความเข้าใจของประชาชน
พล.อ.ประวิตร กล่าวฝากประชาชนด้วยความห่วงใยว่า. “ ขอให้เหตุการณ์ที่ "ราชประสงค์" เป็นบทเรียนของคนไทยร่วมกัน ที่จะช่วยกันป้องกัน เฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อความเชื่อมั่น ความรู้สึก และการสูญเสียของคนไทยด้วยกัน เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ขณะเดียวกันเราได้เห็นถึงความร่วมมือ ร่วมใจ ความมีนำ้ใจเป็นหนึ่งเดียวกันของคนไทย ที่ร่วมกันเสียสละ ช่วยเหลือผู้ที่ประสบเคราะห์กรรมในเหตุการณ์วิกฤตที่ผ่านมา
ในห้วงปีใหม่ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งความสุขนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงทุกฝ่าย มีความพยายามและตั้งใจทำงานร่วมกันอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ประชาชนคนไทยและนักท่องเที่ยว ได้เดินทางสัญจรด้วยความสะดวก ปลอดภัย ทุกคนได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับครอบครัวในห้วงเวลาแห่งความสุข ด้วยความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันก็ต้องขอความร่วมมือประชาชนทุกคนได้เข้าใจและให้ความร่วมมือกับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ
พร้อมทั้งใช้ชีวิตในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างมีสติ ร่วมกันเฝ้าระวัง ดูแลความปลอดภัยทั้งตนเองและสังคมร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อลดการสูญเสียและสร้างสังคมปลอดภัยที่ยั่งยืนร่วมกัน"
////
Sent from my iPhone

นายกฯแจง คำขวัญวันเด็ก เพื่อเด็กใน21ปีมข้างหน้า

นายกฯแจง คำขวัญวันเด็ก เพื่อเด็กใน21ปีมข้างหน้า ส่วน ลายเซนต์ ไม่เหมือนเดิม ขึ้นอยู่กับอารมณ์ว่าจะเซนต์แบบไหน และไม่ให้ปลอมแปลงได้ ถ้าขยันก็เซนต์สวย ถ้างานเยอะก็เซนต์แบบรีบๆ
พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคำขวัญวันเด็ก ปี 2559 ว่า ผมเป็นคนเขียนเอง ทำไมจะจำไม่ได้ "เด็กดี หมั่นเพียร เรียนรู้ สู่อนาคต"
โดยความหมายคือ เด็กคืออนาคตของชาติ ประเทศไทยต้องเริ่มสร้างจากเด็กรุ่นใหม่ และเราต้องสร้างคนรุ่นใหม่ในอีก 21 ปีข้างหน้า คือ 20 ปียุทธศาสตร์ชาติ และบวกกับอีก 1 ปี 6 เดือนที่รัฐบาลนี้จะอยู่ นั้นคือเด็กรุ่นใหม่ที่อยู่ในท้อง จนเรียนจบปริญญา
ส่วนในปีนี้ที่ใช้ปากกาหมึกสีทองนั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่นำปากกาหมึกสีทองมาให้เขียน
ส่วนลายเซนต์ที่ไม่เหมือนเดิมนั้น ก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ว่าจะเซนต์แบบไหน เพื่อไม่ให้ปลอมแปลงได้ โดยบางที ถ้าขยัน ก็เซนต์สวย เพราะตนเป็นคนมีระเบียบ ถ้างานเยอะก็จะเซนต์แบบรีบๆ แต่แบบไหนก็ตั้งใจ

คำพิพากษาคดีเกาะเต่า

.....กรณีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คนคือ นายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ อายุ 24 ปี และ นางสาวฮันนาห์ วิคตอเรีย วิทเอธอริดจ์ อายุ 24 ปี ถูกฆ่าถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2557 นั้น
.....ต่อมาพนักงานอัยการได้เป็นโจทก์ฟ้องนายซอ ลิน หรือโซเรน ไม่มีนามสกุล เป็นจำเลยที่ 1 และนายเวพิวหรือวิน ไม่มีนามสกุล เป็นจำเลยที่ 2 ตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2040/2557 ว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันฆ่านายเดวิด วิลเลี่ยมมิสเลอร์ ผู้ตายที่ 1 และร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรานางสาวฮันน่าห์ วิคตอเรีย วิทเทอร์ริคจ์ หรือฮันน่าห์ วิคตอเรีย วิทเอธอริดจ์ ผู้ตายที่ 2 อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง แล้วร่วมกันฆ่าผู้ตายที่ 2 เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน และจำเลยที่ 2 ลักโทรศัพท์เคลื่อนที่และแว่นตากันแดดของผู้ตายที่ 1ไปโดยทุจริต เหตุเกิดที่ ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,91,276,288,289,334,33 พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 4,5,7,11,12,18,58,62,81 ฯลฯ
.....จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
.....วันนี้ที่ 24 ธันวาคม 2558 ศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้อ่านคำพิพากษาคดีนี้แล้ว ศาลได้วินิจฉัยโดยสรุปว่า ผลการตรวจดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสองพบว่าดีเอ็นเอที่ตรวจพบจากคราบอสุจิบริเวณช่องคลอดผู้ตายที่ 2 ตรงกับดีเอ็นเอของจำเลยที่ 2 ส่วนดีเอ็นเอที่ตรวจพบจากครอบอสุจิบริเวณช่องทวารหนักผู้ตายที่ 2 ตรงกับดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสอง ซึ่งรายงานผลการทดสอบเปรียบเทียบอีเอ็นเอของคนร้ายกับดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสอง ตามเอกสาร จ.17 มีค่าตำแหน่งดีเอ็นเอตรงกันทั้ง 16 ตำแหน่ง จึงสามารถพิสูจน์เอกลักษณ์ของบุคคลได้อย่างแน่ชัดตามมาตรฐานสากล 
 .....พยานโจทก์ผู้ทำการตรวจเก็บและนำเนื้อเยื่อของจำเลยทั้งสองส่งตรวจพิสูจน์เบิกความยืนยันว่า ได้จัดส่งไปตรวจพิสูจน์ทันทีทันใด ดังนั้นย่อมไม่มีโอกาสที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ผู้ตรวจผ่าศพและนักวิทยาศาสตร์ผู้ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของคนร้ายจะสามารถนำอสุจิหรือสารประกอบน้ำอสุจิซึ่งอยู่ในร่างกายส่วนลึกของจำเลยทั้งสองไปใส่ไว้ในช่องคลอและช่องทวารหนักของผู้ตายที่ 2 ได้ ทั้งยังมีพยานบุคคลยืนวันว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้นำโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางของผู้ตายที่ 1 มามอบให้ในช่วงเวลาหลังเกิดเหตุไม่นาน อันเป็นหลักฐานยืนยันได้ส่วนหนึ่งว่าจำเลยที่ 2 ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุคดีนี้ พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบทั้งในส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสอง ที่ตรงกับดีเอ็นเอของคนร้าย วัตถุพยานของกลางในที่เกิดเหตุ รวมทั้งพยานแวดล้อมกรณีก่อนและหลังเกิดเหตุ ล้วนมีน้ำหนักพิสูจน์เชื่อมโยงให้เห็นและรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยเชื่อได้ว่า จำเลยทั้งสองได้กระความผิดตามโจทก์จริง
.....พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามโจทก์ฟ้อง ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มตรา 289 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง

จีนประกาศยุบกระทรวงการรถไฟ เหตุทุจริตคอรัปชันแพร่หลายในการก่อสร้าง จนเกิดอุบัติเหตุรถไฟความเร็วสูงชนกัน




จีนประกาศยุบกระทรวงการรถไฟ เหตุทุจริตคอรัปชันแพร่หลายในการก่อสร้าง จนเกิดอุบัติเหตุรถไฟความเร็วสูงชนกัน มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก...

นายหม่า ไค เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจีน ประกาศยุบกระทรวงการรถไฟและโอนย้ายเจ้าหน้าที่และโครงการต่างๆ ไปอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกระทรวงคมนาคม ระหว่างการประชุมประจำปีของสภาประชาชนแห่งชาติจีน เมื่อ 10 มี.ค. พร้อมแต่งตั้งให้บริษัทไชน่า เรลเวย์ คอร์ปอเรชั่น กิจการของรัฐบาลรับผิดชอบงานของกระทรวงการรถไฟในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารธุรกิจ โดยหวังจะช่วยแก้ไขปัญหาการทุจริตงบประมาณในโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟทั่วจีน หลังเกิดอุบัติเหตุรถไฟความเร็วสูงชนกันที่เมืองเหวินโจวในปี 2554 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 40 ศพ และนายหลิว จื้อจุน อดีต รมว.การรถไฟ ถูกกล่าวหาว่ารับเงินสินบนและโดนปลดออกจากตำแหน่ง

วันเดียวกัน นายตง เฉิงเว่ย ทนายความชาวจีน ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลในนครเซี่ยงไฮ้ เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงสิ่งแวดล้อมของจีนเปิดเผยข้อมูลการสำรวจมลพิษในดินทั่วประเทศ ซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อปี 2549-2553 และนายตงระบุว่าได้ยื่นเรื่องขอข้อมูลจากรัฐบาลแล้วครั้งหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมนครเซี่ยงไฮ้ปฏิเสธคำร้อง โดยอ้างว่าเป็นความลับของทางราชการ แต่นายตงยืนยันว่าข้อมูลชุดดังกล่าวมีอายุเกิน 2 ปี ประชาชนจึงมีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลได้ตามกฎหมาย โดยเฉพาะข้อมูลด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนโดยตรง.

นักเคลื่อนไหวผิวสีในเขตมิดเวสต์ ประท้วงขอความยุติธรรมให้ชายผิวสีที่ถูกตำรวจสังหาร

นักเคลื่อนไหวผิวสีในเขตมิดเวสต์ ประท้วงขอความยุติธรรมให้ชายผิวสีที่ถูกตำรวจสังหาร
เมื่อบ่ายวันพุธที่ผ่านมา นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันประมาณ 100 คนรวมตัวประท้วงกันที่ศูนย์การค้าในเมืองมินนีแอโพลิสรัฐมินนิโซตารวมถึงมีการปิดถนนที่มุ่งไปสู่สนามบินในท้องถิ่น
ผู้ประท้วงจัดการชุมนุมโดยมีหัวข้อการเรียกร้องว่า "Black Lives Matter" หรือชีวิตคนผิวดำก็มีความสำคัญ และขอคืนความยุติธรรมให้กับชายผิวสีที่เสียชีวิตด้วยน้ำมือของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เมื่อเดือนก่อน
การประท้วงเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้พิพากษาได้ออกคำสั่งควบคุมห้ามไม่ให้องค์กรสามแห่งมีส่วนร่วมในการชุมนุม แต่ผู้พิพากษากล่าวว่าเธอไม่ได้มีอำนาจที่จะปิดกั้นการประท้วงของผู้ประท้วงรายอื่นที่ไม่ได้ระบุชื่อ
การประท้วงในลักษณะนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อนโดยกลุ่มผู้เคลื่อนไหว"Black Lives Matter" ที่ห้างสรรพสินค้าเดียวกันเพื่อประท้วงที่รัฐไม่มีการจ่ายเงินชดใช้ให้กับชายผิวสีผู้ไร้อาวุธที่ถูกตำรวจสังหารในนครนิวยอร์กและในเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี่
การประท้วงเมื่อวันพุธที่ผ่านมาที่ทำให้ห้างสรรพสินค้าต้องปิดทำการนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับนาย Jamar Clark ชายผิวสีวัย 24 ปีที่ ถูกยิงโดยตำรวจเมืองมินนีแอโพลิสเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีต่อมากลุ่มผู้ประท้วงต้องสลายตัวลงเพราะตำรวจท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าได้ออกคำสั่งให้ผู้ประท้วงกระจายตัวออกไปจากห้างโดยมีการจับกุมตัวผู้ประท้วงบางรายด้วยข้อหาขัดขวางการจราจร แต่ผู้ที่ให้ข้อมูลไม่ขอกล่าวว่ามีผู้ถูกจับกุมกี่ราย
ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุตำรวจยิงคนผิวสีบ่อยครั้งในสองปีที่ผ่านมา กลุ่มผู้เข้าร่วมการประท้วงBlack Lives Matterในสหรัฐฯก็เพิ่มมากขึ้นรวมถึงเป็นที่รู้จักมากขึ้น

จักรพรรดิญี่ปุ่นวอนรำลึกเหตุสงครามโลกครั้งที่สอง

จักรพรรดิญี่ปุ่นวอนรำลึกเหตุสงครามโลกครั้งที่สอง
อากิฮิโตะ จักรพรรดิของญี่ปุ่นทรงได้ประกาศเรียกร้องความเข้าใจและการใคร่ครวญที่มากขึ้น ในประเด็นเรื่องสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งยังตรัสว่านี่เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากต่ออนาคตของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ประชากรญี่ปุ่นมีการเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่ได้รับความรู้ที่แน่ชัดเกี่ยวกับสงครามที่สิ้นสุดไปเมื่อ 70 ปีที่ผ่านมา
ในวันนี้ (23 ธ.ค.) จักรพรรดิได้ตรัสในการแถลงข่าวเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษาของพระองค์ ทั้งยังทรงตรัสว่าพระองค์ทรงได้ใช้เวลาในปีที่ผ่านมาคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับสงคราม
โดยก่อนหน้านี้ ข้อความในแถลงการณ์ของจักรพรรดิในพิธีรำลึกครบรอบ 70 ปี ยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 15 ส.ค. ของปีนี้ ก็นับเป็นครั้งแรกที่จักรพรรดิทรงได้แสดงความเสียใจอย่างลึกซึ้งต่อเหตุสงคราม
สื่อทั่วโลกต่างวิเคราะห์ว่าแถลงการณ์ของจักรพรรดิได้แสดงความขอโทษที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าสุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ที่ได้กล่าวในพิธีรำลึกสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม เช่นกัน
สิ่งที่เรียกว่า "สุนทรพจน์ของอาเบะ" ได้จบลงอย่างสั้นๆ ด้วยการกล่าวขอโทษของนายกรัฐมนตรีต่อการกระทำที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลก การพูดให้ความรับผิดชอบของญี่ปุ่นดูเบาบางลงไป สำหรับความก้าวร้าวป่าเถื่อนของตนที่เคยได้กระทำไว้ต่อบรรดาประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชีย ทั้งยังได้กล่าวว่าเยาวชนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่นไม่ควรที่จะ "กล่าวขอโทษไปก่อน" สำหรับความผิดที่ผ่านมาของชนชาติ
สุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรีได้ล้มเหลวในการพัฒนาความไว้วางใจซึ่งกันและกันต่อประเด็นทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นเองและประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งตกเป็นเหยื่อของการสังหารโหดของญี่ปุ่นในช่วงสงคราม
จักรพรรดิยังทรงได้แสดงถึงความเห็นอกเห็นใจของพระองค์ต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระเบิดของภูเขาไฟทางทิศตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น และพายุฝนที่บุกรุกเข้าประเทศมาเมื่อเดือนกันยายน
ขณะเดียวกัน จักรพรรดิก็ได้ทรงแสดงความยินดีต่อสองนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่ชนะรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์และฟิสิกส์ และชื่นชมการทดสอบการบินที่ประสบความสำเร็จของเครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์ลำแรกที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น