PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

มาแบบนี้....ในเวลานี้....ใครๆ ก็ต้องคิดว่า เป็น "ม็อบจัดตั้ง"!!??

มาแบบนี้....ในเวลานี้....ใครๆ ก็ต้องคิดว่า เป็น "ม็อบจัดตั้ง"!!??
แม้ ชาวบ้าน ที่มา จะยืนยันว่า ไม่มีใครสั่ง นัดแนะให้มา แต่ นัดกันเอง หลังอ่านข่าว ดูข่าว แล้ว เห็นว่า พลเอกประวิตร น้อยใจ จนประกาศว่า ถ้าประชาชน ไม่ต้องการ ก็พร้อมจะลาออก... จึงพากันมา ให้กำลังใจ เพราะ มองว่า เรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องเล็กนิดเดียว เรื่องส่วนตัว ขอให้ประเทศชาติ มาก่อน ทำเพื่อบ้านเมือง ขอให้กำลังใจ ทำงานต่อไป อย่าลาออก
"ถ้าจัดตั้ง จะมามากกว่านี้"
"มากันเอง ขึ้นแท็กซี่ มา"
"มาเอง กว่าจะถึง ยังหลง เลย"
"มัน เรื่องการเมือง"
มาให้กำลังใจ กันแบบนี้ ในขณะนี้ ...ยิ่งจะทำให้ เกิดผลเสีย มากกว่าผลดี ต่อ พลเอกประวิตร

เปล่าจัดตั้งมวลชนเชียร์บิ๊กป้อม

ไม่เกี่ยว ไม่เกี่ยว!!
"บิ๊กปื๊ด" พลเอกรุ่งโรจน์ จำรัสโรมรัน ผช.รมว.กลาโหม และเพื่อนรัก ตท.6 ของ บิ๊กป้อม ลงมาพบ มวลชน 30 คน ให้กำลังใจ พลเอกประวิตร จากวิกฤตินาฬิกา ที่หน้ากลาโหม .....ยัน ไม่ใช่ มวลชนจัดตั้ง ไม่เกี่ยวๆ ส่วนผม มาเป็นตัวแทน พลเอกประวิตร มาขอบคุณแทน และจะนำไปแจ้งให้พลเอกประวิตร รับทราบ

มาแล้ว! กองเชียร์บิ๊กป้อม โผล่ชุมนุมหน้ากห. ชี้ โดนการเมืองเล่นงาน วอนให้อยู่ต่อ

มาแล้ว! กองเชียร์บิ๊กป้อม โผล่ชุมนุมหน้ากห. ชี้ โดนการเมืองเล่นงาน วอนให้อยู่ต่อ


“กลาโหม” เปิดรับ มวลชน แห่ให้กำลังใจ “ประวิตร”

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่หน้ากระทรวงกลาโหม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้านคลองลาดพร้าว กลุ่มชาวบ้านตลิ่งชัน กลุ่มพ่อค้า อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ชาวบ้าน จ.สมุทรปราการ ราว 40 คน เดินทางมาให้กำลังใจพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ภายหลังกรณีที่กล่าวเปิดใจว่า หากประชาชนไม่ต้องการตนเองก็พร้อมจะออกจากตำแหน่งโดยมี พล.อ.รุ่งโรจน์ จำรัสโรมรัน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นตัวแทนพล.อ.ประวิตรมา ต้อนรับ

โดย พล.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า ท่านรัฐมนตรีติดภารกิจ จึงมอบหมายให้ตนมาเป็นตัวแทน ซึ่งตนจะนำเรียนท่านประวิตร ว่ามีประขาชนหลายจังหวัดมาให้กำลังใจ และขอขอบคุณทุกกลุ่มที่มาในวันนี้

ขณะที่ประชาชนที่ให้กำลังใจ พูดเสียงเดียวว่า ที่มาวันนี้ไม่ได้นัดแนะมา หรือจัดตั้งกลุ่มมาให้กำลังใจ พร้อมทั้งเชื่อมั่นในตัวพล.อ.ประวิตร เพราะที่ผ่านมาท่านทำประโยชน์ให้มากมาย แต่ที่ผ่านมามองว่าเป็นเรื่องการเมือง และอยากให้ท่านสุขภาพแข็งแรง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหว ของ พล.อ.ประวิตร ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ต้อนรับคณะ นาย Song Young-moo (ซง ยอง-มู) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ เข้าเยี่ยมคำนับ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย และเกาหลีใต้ อันจะนำไปสู่การเสริมสร้างความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้ก่อนการเข้าเยี่ยมคำนับ จะมีพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศผสมสามเหล่าทัพ ณ ลานอเนกประสงค์ ในศาลาว่าการกลาโหม

ขณะที่ช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตร เดินทางไปประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเตรียมปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศครั้งใหญ่ ควบคู่กับการปราบปรามผู้มีอิทธิพล

ยุคท็อปบูตไม่ได้ใช้ปืน

ยุคท็อปบูตไม่ได้ใช้ปืน


จับอาการห้วง 2-3 วันที่ผ่านมา จะสังเกตได้เลยว่า “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. พยายามผ่องถ่ายแรงเสียดทาน

ประคองกระแสในโหมดสถานการณ์เลื่อนเลือกตั้ง

ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยมุกวัดใจ “เลือกเอาแล้วกันว่าจะเอาแบบผม หรือจะให้กลับมาที่เดิม” ถามใจประชาชนส่วนใหญ่ แก้ลำที่ถูกไล่ต้อนทวงถามสัญญาที่ประกาศไว้

ต่อเนื่องกับลีลาอารมณ์ศิลปินที่ยกเอาท่อนฮุกสำคัญของเพลงคืนความสุข ที่โดนมัดคอตรงท่อน “ขอเวลาอีกไม่นาน” โดย “ลุงตู่” ขอเน้นบ้างตรงท่อน “แผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา”

โน้มน้าวให้พลังเงียบในสังคมอดใจรอเป้าหมายปลายทางสุดท้าย

ที่แน่ๆกับประโยคที่ผู้นำรัฐบาล คสช.พูดกันเป็นนัย “ศึกหนักยังไม่จบ” ในช่วงสนทนากับตัวแทนมูลนิธิทหารผ่านศึกฯที่เข้ามอบดอกป๊อปปี้ที่ทำเนียบรัฐบาล

สัญญาณชัดเจนว่า “ลุงตู่” ต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่

อย่างน้อยตามโรดแม็ปเดิมบวกกับอีก 90 วัน ที่กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.เลื่อนการบังคับใช้ออกไป ในการประคองเกมอำนาจช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ก่อนที่จะมีกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนออกมา

มันเป็นเงื่อนไขสถานการณ์ที่หนีไม่ออก

บอกล่วงหน้าก็ไม่ได้ เพราะถ้าพลาดอีก เครดิตความเชื่อมั่นในคำพูดจะยิ่งถูกบั่นทอนหายไป

ท่ามกลางปัจจัยแทรกมากมาย ทั้งการส่อตีความร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา และยังมีเรื่องของพระราชพิธีสำคัญ

ภายใต้ภาวะกดดัน ฝ่ายต้านยังโหมประโคมสถานการณ์ “อ่อนไหว”

“เซ็ตฉาก” ให้ปัญญาชน นักศึกษา นักวิชาการ ประจันหน้ากับทหาร

โดยมีนักการเมืองอาชีพพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ จ้องแหย่ไฟ พยายามลากบรรยากาศกลับไปวนเวียนประวัติศาสตร์เดือนตุลา ล้อพฤษภาทมิฬ

ดักคอ ดักทาง เตะตัดขา “ลุงตู่” ตีกินกระแส
แห่เกมทวงสัญญาเลือกตั้ง

แต่อย่างไรก็ดี ประเมินจากการที่ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมายส่วนงานการรักษาความสงบแห่งชาติ ได้รับมอบอำนาจจาก คสช.เข้าร้องทุกข์ที่ สน.ปทุมวัน

เพื่อดำเนินคดี 1.นายรังสิมันต์ โรม 2.นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ 3.น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา 4.นายอานนท์ นำภา 5.นายเอกชัย หงส์กังวาน 6.นายสุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ 7.นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล
ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ในการออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการเลื่อนเลือกตั้ง ที่บริเวณสกายวอล์ก แยกปทุมวัน
นั่นก็สะท้อนว่า คสช.ไม่ได้กลัว “น้ำผึ้งหยดเดียว”

ตามรูปการณ์รัฐบาลไม่ได้หวั่นว่าจะเข้าเหลี่ยมฝ่ายต้าน “ลุงตู่” ที่พยายามก่อไฟ กระพือควัน “เซ็ตฉาก” ให้ปัญญาชนเผชิญหน้ากับทหาร

งานนี้เหมือนปล่อยให้ “ขาป่วน” เคลื่อนไหว ล่อให้เข้าเหลี่ยมคดีที่ฝ่ายความมั่นคงเคยดำเนินการไว้ ต่างคนต่างมีชนักปักหลัง โดนศาลคาดโทษ มีคดีโดนภาคทัณฑ์

ถึงวันนำตัวขึ้นศาลนั่นแหละ พวกที่บอกเป็นเกียรติที่โดนคดีจะรู้ว่าประเมินผิด

ในเมื่อท็อปบูตยุคนี้ไม่ได้ใช้อำนาจปลายปืน แต่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ

ถ้าหือก็ไปคุยกับศาลเอง

โดยรูปการณ์ที่ประเมินได้ “นายกฯลุงตู่” และทีม คสช.ไม่ฝ่อง่ายๆ

เพราะถ้าขืนปล่อยให้ขบวนการเคลื่อนไหวกดดันท้าทายกันได้สบายๆ ต่อไปกระแสก็จะลุกลามจากนักศึกษาหน้าซ้ำๆชื่อเดิมๆ

จะเพิ่มเติมด้วยพวกแฝงประโยชน์ในเกมมวลชน

แบบที่ม็อบเอ็นจีโอต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาสงขลาที่ขยับมาปักหลักข้างทำเนียบรัฐบาล ได้เก้าจะเอาสิบ ไม่ยอมแค่นายกฯสั่งชะลอโครงการเท่านั้น แต่บีบให้ต้องสั่งยกเลิกโครงการเลย

นั่นไม่เท่ากับนักการเมืองที่รอกระโดดร่วมวงผสมโรง

ลุ้นจังหวะปลุกม็อบล้มรัฐบาล พลิกขั้วอำนาจ.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน