ขอให้ทุกคนยึดมั่นตามกระแสพระราชดำรัสที่พระราชทานไว้
“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวกับคณะรัฐมนตรี ภายหลังนำ ครม.ร่วมพิธีรับพระราชดำรัส พร้อมลายพระราชหัตถ์ เพื่อเป็นสิริมงคล เครื่องกำกับสติเตือนใจ เนื่องในโอกาสเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562
พล.อ.ประยุทธ์และ ครม.ทั้ง 35 คน ต้องอัญเชิญใส่กรอบแขวนข้างฝาห้องทำงาน
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งกับรัฐบาล “ประยุทธ์ภาค 2”
ตามภาพของ “พิธีกรรม” ถวายสัตย์ฯที่เพิ่มกระบวนการ “พิเศษ” มากกว่ารัฐบาลที่ผ่านๆมา
ขณะที่ล่าสุดผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงร้องเรียน พล.อ.ประยุทธ์นำ ครม.ถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญและเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของบุคคล
ปัดสำนวนของ “นักร้องอาชีพ” อย่างนายศรีสุวรรณ จรรยา ตกไป
ชงปมข้อสงสัยทางกฎหมายไปจบที่ปลายทาง โดยคำตัดสินของรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สุด
และตามรูปการณ์ก็น่าจะจบภายในเร็ววัน
เพราะโดยเงื่อนไขสถานการณ์ ณ ห้วงเวลานี้ ถือเป็น “เคราะห์กรรม” ของประเทศไทยที่ต้องมาเจอจังหวะสะดุดเหลี่ยมเทคนิคข้อกฎหมาย ทำรัฐบาลเป๋ตั้งแต่เริ่มออกเรือตั้งลำ
ท่ามกลางข่าวร้ายทางเศรษฐกิจกระหน่ำแบบรายวัน
หุ้นตกทะรูดทะราดล้อไปกับสงครามการค้าสหรัฐอเมริกากับจีน ผวาสถานการณ์วิกฤติทั่วโลก
จากฤทธิ์เดชของคาวบอยตัวแสบที่ชื่อ “โดนัลด์ ทรัมป์”
แบบที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กระบี่มือหนึ่งด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ต้องรีบประคองสถานการณ์ความมั่นใจ ปลอบขวัญนักลงทุนอย่าตกใจ
ควบคุมภาวะ “แพนิค” ไม่ให้ตลาดหุ้นตื่นตระหนก ลามเตลิดไปกันใหญ่
แต่ตามอาการรัฐบาลเองก็นั่งไม่ติด ครม.เศรษฐกิจประชุมถี่ยิบ
โดยนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ครม.เศรษฐกิจ แจ้งคิวการประชุม ครม.เศรษฐกิจในวันที่ 30 สิงหาคมนี้
มีวาระพิจารณา 2 เรื่อง คือ การผลักดันการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ให้ขยายตัว 3 เปอร์เซ็นต์ จากที่ติดลบ 4 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงครึ่งปีแรก และมาตรการสนับสนุนการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อรองรับผลจากสงครามการค้าสหรัฐฯกับจีนทำให้เกิดการย้ายฐานการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี
วิ่งสู้ฟัด หาเงินเข้าประเทศกันมือหัวหมุน
ขณะที่นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ได้มอบนโยบายให้ผู้บริหารระดับสูงกรมสรรพากร วางแผนการเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 2.11 ล้านล้านบาทให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อให้ประเทศมีเงินรายได้เพียงพอรองรับการลงทุนในด้านต่างๆจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวนอยู่ในขณะนี้
อุดรูรั่วจัดเก็บภาษี ประกันภาวะรัฐ “ถังแตก”
ครม.เศรษฐกิจของรัฐบาล “งานเข้า” หนักสุด
ไฟต์บังคับต้อง “กันไฟ” ไม่ให้ลามถึงจุดที่ชาวบ้านเดือดร้อนปากท้อง
ลามผสมอารมณ์ป่วนการเมือง เข้าเหลี่ยมฝ่ายค้านที่จ้องเจาะยางเตะตัดขารัฐบาลทุกจังหวะ ไม่ว่าจะเป็นคิวเดินหน้าไล่บี้ปมถวายสัตย์ฯ ที่ยื่นญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปในต้นเดือนกันยายนนี้
“เตะฟรีคิก” ด่ากินเปล่า “บิ๊กตู่” ตามฟอร์ม
ส่วนแผนการใหญ่ตามยุทธศาสตร์จาก “ดูไบ” มันอยู่ที่เกมรื้อรัฐธรรมนูญ
เผลอแป๊บเดียวเดินหมากล่วงหน้าถึงขั้นเปิดพิมพ์เขียว ลงลึกในรายละเอียด จะให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งทั่วประเทศจำนวน 200 คน โดยต้องเป็นผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป
ส่วนคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญกำหนดให้มี 35 คน มาจาก ส.ส.ร.20 คน นักวิชาการด้านกฎหมายมหาชน 5 คน
นักรัฐศาสตร์ 5 คน และผู้มีประสบการณ์อีก 5 คน ต้องใช้ระยะเวลาในการยกร่างประมาณ 8 เดือน หรือ 240 วัน จากนั้นจะนำไปสู่การทำประชามติ
เร่งคิวเดินหน้าทำลายมนตร์สะกด ล้าง “ยันต์กันทักษิณ”
ไฟต์บังคับ ต้องเปิดทาง “นายใหญ่” กลับสู่เกมอำนาจก่อนหมดฤทธิ์.
