PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ระเบิดสังหาร “ลีโอเนล เมสซี” ปากีสถานดับขณะแข่งฟุตบอล

วันพุธที่ 7 สิงหาคม 2556 เวลา 21:44 น. เดลินิวส์

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากนครการาจี ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ว่า อับดุล บาซิต เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ผู้ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ มีความฝันว่าจะเป็น “ลีโอเนล เมสซี” แห่งปากีสถาน แต่ความปรารถนาของเขามีอันต้องดับวูบลงในเหตุการณ์โจมตีด้วยระเบิด ซึ่งทำให้หนุ่มน้อยผู้มีอนาคตไกลผู้นี้ เสียชีวิต และคนอื่น ๆ อีก 7 คน ระหว่างการแข่งขันฟุตบอล 4 คนในนครการาจีวันนี้ นับเป็นการก่อเหตุร้ายพุ่งเป้าโจมตีการกีฬาครั้งล่าสุดในประเทศ ซึ่งไม่เคยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติอีกเลย ตั้งแต่กลุ่มหัวรุนแรงโจมตีทีมกีฬาคริกเก็ตของศรลังกา ในเมืองลาฮอร์ ทางตะวันออกของประเทศ ในเดือนมี.ค. 2552
เหตุการณ์โจมตีครั้งนี้ เกิดขึ้นขณะที่มีแฟนบอลหลายพันคน ทะลักเข้ามาชมเกมการแข่งขันนัดสุดท้ายของรายการนี้ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างเทศกาลถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ในเมืองละยารี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อันตรายที่สุดของการาจี เมืองใหญ่อันดับ 2 ของปากีสถาน เนื่องจากเมืองนี้ มีแก๊งก่ออาชญากรรมที่มีชื่อเสียง ซึ่งเคยฆ่าประชาชนมาแล้วหลายร้อยคนในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา และยังเป็นพื้นที่ที่ยากลำบากในการสร้างนักฟุตบอลที่ดีที่สุดของประเทศด้วย
เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นใกล้กับรถยนต์ของนายจาเวด นาโกรี มุขมนตรีของจังหวัดซินด์ ซึ่งเป็นแขกรับเชิญ ซึ่งนายนาโกรี รอดชีวิต แต่บาซิต และแฟนบอลวัยรุ่นอีก 5 คน เสียชีวิต ในจำนวนเหยื่อ 8 คน ซึ่งรวมทั้งผู้จัดด้วย ชีวิตไม่เคยง่ายสำหรับบาซิต เขาต้องออกจากโรงเรียนก่อนวัยอันควร และทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์แห่งหนึ่ง ห่างจากจุดที่เขาถูกโจมตีเสียชีวิตประมาณ 500 เมตร
ออรังเซบ ชาห์มีร์ อดีตนักฟุตบอลปากีสถาน ซึ่งเคยเล่นในศึกเอเชีย คัพ ปี 2546 และเข้าชมการแข่งขันครั้งนี้กับลูกชายของเขา กล่าวว่า “ต้องสูญเสียนักฟุตบอลดี ๆ อย่างบาซิต เขาอาศัยอยู่ในที่ของผม เขาบ้าฟุตบอลเหมือนเมสซี เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นเหมือนเมสซี ผู้เล่นอัจฉริยะชาวอาร์เจนตินาผู้นี้ แต่มันไม่สามารถเกิดขึ้นได้แล้ว

พีนัยกรรม ของ อ.สุรชัย ฉบับจริง

พีนัยกรรม ของ อ.สุรชัย ฉบับจริง ผมเอาออกมาจากเรือนจำด้วย.. ท่าน สส. นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ที่เคารพครับ.. มันมีตรงไหนครับ ที่เอ่ยถึง พรรคเพื่อไทย..

"พินัยกรรม สุรชัย แซ่ด่าน" (เขียนหลังจาก อากง เสียชีวิต 6 วัน)

หมอนัดผ่าตัดต่อมลูกหมากเร็วๆ นี้ และเวลานี้ อาการไขมันอุดตันในเส้นเลือด เริ่มมีอาการ หลังผ่าตัด ทำบายพาสผ่านมา 8 ปี จึงอาจตายในคุก ต่อจากอากง เพราะอายุ 70 ปีแล้ว

ก็ขอทำพินัยกรรมเอาไว้ว่า ถ้าตายใครอย่าเผา ใครเผาขอสาปแช่ง ให้แห่ศพไปสวดทุกที่ ที่มีคนเป็นเจ้าภาพ เพื่อรณรงค์ให้แก้ไข หรือยกเลิก ม.112

สำเร็จเมื่อไหร่ ค่อยเผาศพ

ลงชื่อ สุรชัยแซ่ด่าน
14 พฤษภาคม 2555

คำจารึกประวัติศาสตร์ .ในสถานการณ์

คำจารึกประวัติศาสตร์ ที่ทหารตำรวจ ข้าราชการต้องอ่าน

....ถ้ารัฐบาลและพรรคการเมือง ผ่านนิรโทษกรรมให้กลุ่มนี้จริง พวกเราคนในราชตระกูล และประชาชนคนรัก ในสถาบันพระมหากษัตริย์จะถือว่า รัฐบาลและนักการเมืองผู้นั้น มันทรยศต่อคำถวายสัตย์ปฏิญาณ มันตระบัดสัตย์ต่อพระพักตร์ มันหยามย่ำยีความเป็นยุติธรรม มันอกตัญญู รู้เช่นเห็นชาติแลถือหางให้สถุลเหล่านี้ บดขยี้ราชวงศ์จักรี เพื่อให้นายมันและตระกูลมัน เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสยามจริงตามคำพูดของมัน

มันด่าพ่อกู โดยใช้พวกนักวิชาการชั่วๆ เช่นไอ้สมศักดิ์ และอีกหลายๆตัว อย่างไร้เหตุผล มันรู้ มันตั้งใจ มันอกตัญญูเพื่อเรียกราคาให้ตัวเอง ข่มเหงพ่อกู แล้วรัฐบาลกลับเข้าข้างมัน วางแผนชั่วเพื่อเป็นใหญ่ พวกมึงนิรโทษได้ ก็แต่ในสภาของพวกมึง แต่กูและพวกรักพ่อกู จะบัญญัติกรรมให้พวกมึงเอง ถ้ามึงนิรโทษกลุ่มนี้จริง พวกกูเอามึงแน่...
พล.ต.ม.จ.จุลเจิม โพสต์ข้อความถึงนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 25 หรือ จปร.36 ว่า พวกท่านอาจจะเป็นถึงระดับ ผู้การ หรือระดับผู้บังคับกองพันที่ทนายถุงขนมของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี เข้ามาจัดแถวเป็นทหารระบบทักษิณ พวกผู้พันผู้การทั้งหลาย เคยจำหรือเคยสำนึกในความดี ความรัก ที่พระอาจารย์ คือ พล.อ.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่พระองค์ทรงเสียสละเวลาส่วนพระองค์ เสด็จฯจาก กทม. มาสอน ทั้งที่ทรงมีพระราชกรณียกิจมากมาย เคยสำนึกบ้างไหม พอระบบทุนสามานต์เข้ามาก็ละทิ้งศักดิ์ศรีของความเป็นทหารของประชาชน และของพระมหากษัตริย์ไป

ข้อความที่ พล.ต.ม.จ.จุลเจิมโพสต์บนเฟซบุ๊ค รักในหลวงต้องช่วยแชร์


"ชวน" กรีด "บรรหาร" หน้าหงาย -หลังย้อนรัฐบาลแห่งชาติ (ชาติไหน)

07-08-13 17:54  
   "ชวน" อัด"ยิ่งลักษณ์" พูดอย่างทำอย่าง นายกฯบอกปรองดอง ลูกพรรคกลับทำสวนทาง  -ตอก "บรรหาร" ตั้งรัฐบาลแห่งชาติว่าชาติไหน


          วันนี้ ( 7 ส.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มวลชนที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์แสดงความไม่พอใจ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้มวลชนเข้าไปภายในรัฐสภาว่า มวลชนคงเข้าใจได้ว่าเป็นวิธีการประชาธิปไตยที่สงบไม่มีปะทะ ทำลายข้าวของเผาบ้านเผาเมือง เป็นกระบวนการตัวอย่างที่รัฐบาลควรดูไว้ด้วย ส่วนที่หลายฝ่ายวิจารณ์ว่าพรรคประชาธิปัตย์เล่นเกมการเมืองนอกสภามากเกินไปนั้น เห็นว่าหลายคนยังไม่เข้าใจกฎหมาย ผู้ใหญ่หลายคนก็ยังไม่ทราบรายละเอียดของการนิรโทษกรรม ซึ่งข้อเท็จจริงพรรคประชาธิปัตย์อยากให้บ้านเมืองปกครองด้วยหลักและอยู่ได้ และการออกกฎหมายเพื่อช่วยพรรคพวกตัวเอง ไม่ใช่หลักนิติธรรมที่ถูกต้องในการปกครอง และการค้านกฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่เพราะเราเป็นฝ่ายค้าน แต่เห็นว่าขัดต่อหลักกฎหมายบ้านเมืองเท่านั้น ดังนั้นอะไรที่ขัดต่อหลักนี้ก็ไม่สามารถให้ผ่านไปได้


          ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เสนอแนวคิดปฏิรูปการเมือง ประธานสภาที่ปรึกษาฯ กล่าวว่า ต้องดูว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดนั้นใครสั่งให้พูด ใครสั่งหรือเขียนให้พูดและนายกฯเองรู้เรื่องนั้นๆ หรือไม่ เพราะหลายเรื่องที่นายกฯพูด สวนทางกับการปฏิบัติ สังเกตได้ว่าการพูดกับการปฏิบัติไม่ตรงกัน นายกรัฐมนตรี บอกว่าปรองดอง แต่คนของตัวเองกลับก่อปัญหาทุกเรื่อง

          เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการทาบทาม ให้เข้าร่วมแนวทางปฏิรูปการเมืองด้วยหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า พวกเราเป็นนักการเมืองอยู่แล้ว และยังอยู่ในสภา จึงมีความเห็นไม่แตกต่างจากพรรค ส่วนผู้ใหญ่คนอื่นที่ได้รับการทาบทาม ไม่ได้มีบทบาทในการเมืองแล้ว และเป็นอดีตนักการเมืองไปแล้ว แต่ตนยังเป็นส.ส.อยู่ เมื่อจุดยืนของพรรคเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีแนวคิดที่จะให้ส.ส.ลาออก เหมือนที่มีกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้ ซึ่งภายในพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยคุยกันเรื่องนี้


          ผู้สื่อข่าวถามว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เสนอว่า ฝ่ายค้านและหลายฝ่ายมาร่วมกันบริหารประเทศเพื่อความปรองดอง ประธานสภาที่ปรึกษาฯ กล่าวว่า ฝ่ายค้านและรัฐบาลเป็นสิ่งที่คู่กับระบอบประชาธิปไตย ส่วนความขัดแย้งไม่ได้มาจากรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่มาจากคนของรัฐบาลที่สร้างปัญหา และฝ่ายค้านไม่ได้เป็นผู้สร้างปัญหาจึงไม่มีเหตุผลอะไร ที่รัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ ฝ่ายค้านจะไม่ทำอย่างที่รัฐบาลทำ เพราะปัญหาทั้งหมดอยู่ที่รัฐบาล ซึ่งเราเข้าใจว่าการแสดงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณเป็นการส่วนตัวโดยการเอาประเทศไปตอบแทนบุญคุณ แต่พวกเราไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเป็นรัฐบาลแห่งชาติหรือไม่เป็น แต่ปัญหาคือทุกฝ่ายทำหน้าที่ตัวเอง


          เมื่อถามย้ำว่า ถ้ามีการตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมา ปัญหาความขัดแย้งในประเทศจะจบหรือไม่ นายชวน ย้อนถามผู้สื่อข่าวพร้อมกับยิ้มๆว่า "ชาติไหนครับ"
ผบช.ภ.4 สั่งการตรวจสอบกรณีนายขวัญชัย สาราคำ ปธ.ชมรมคนรักอุดรฯแต่งชุดตำรวจอุดร

ที่มาTnews

พนักงาน Lacoste โดนไล่ออกจากงานเหตุโพสต์รูปสลิปเงินเดือนลง Instagram


Social อัพเดทข่าวล่าสุดกับ ป๋าเอก TechXcite เป็นอุทาหรณ์สำหรับ Salary Man หรือมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายว่าเวลาทำอะไรในโลก Social ก็อาจจะต้องคิดหน้าคิดหลังกันบ้าง ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวได้ซ้ำรอยพนักงานร้านLacoste รายนี้ที่ถูกไล่ออกจากงานเหตุเพราะไปโพสต์รูปสลิปเงินเดือนตัวเองลงใน Instagram นี่แหละ
โดยนาย Wade Groom พนักงานร้าน Lacoste สาขา Manhattan ในอเมริกาได้ถ่ายรูปสลิปเงินเดือนของตัวเองแล้วนำไปโพสต์ใน Instagram ส่วนตัวพร้อมข้อความประกอบภาพอารมณ์ประมาณว่า "ไม่อยากจะคิดเลยว่าโตมาแล้วจะต้องทำงานงกๆรับสลิปเงินเดือนกับเขาแบบนี้ด้วย ยิ่งค่าจ้างแค่นี้มันก็พอจ่ายได้แค่ค่าอพาร์ตเมนต์รูหนูในNew York แต่แทบไม่พอยาไส้เสียด้วยซ้ำ บ่องตง" โดยไม่ได้คิดอะไรมากนักเหมือนแค่จะมาระบายความในใจแบบที่มนุษย์ปกติเขาทำกัน
ปรากฏว่าเวลาผ่านไป 2 อาทิตย์ทางฝ่าย HR ของ Lacoste ได้เรียกตัวนาย Wade ไปคุยว่ารูปดังกล่าวที่โพสต์ออกไปสู่สาธารณะถือได้ว่าเป็นการผิดสัญญาที่ว่าข้อตกลงระหว่างนายจ้างและลูกจ้างถือเป็นความลับอย่างที่สุดของบริษัท แล้วก็ขอเชิญนาย Wade ออกไปเก็บข้าวของลงกล่องได้เลยเพราะคุณถูกไล่ออกแล้วครับ!!!
เบื้องต้นนาย Wade สงสัยว่าคนที่จะเอาภาพนี้ไปบอกเจ้านายของเขาก็น่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานในร้าน Lacosteของเขาเองนี่แหละที่มาฟอลโลว์ Instagram ของพี่แกอยู่หลายคนทีเดียว ส่วนเงินเดือนก่อนถูกไล่ออกของนายWade นั้นอยู่ที่ชั่วโมงละ $15 (450 บาท) พร้อมรับค่าคอมมิชชั่น 3% จากยอดขายในร้านด้วยครับ
บทความโดย: ป๋าเอก TechXcite
ที่มาข่าวและภาพ: gothamist

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง อาการสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ขณะประัทับ ณ วังไกลกังวล ฉบับที่ ๑๕


ถกนิรโทษกรรมป่วน"วรชัย"ถูกโห่ไล่ ด้าน"จ่าประสิทธิ์"ยกรองเท้าตอบโต้ปชป.

ถกนิรโทษกรรมป่วน"วรชัย"ถูกโห่ไล่ ด้าน"จ่าประสิทธิ์"ยกรองเท้าตอบโต้ปชป."ขุนค้อน"เอาไม่อยู่สั่งพักประชุมชั่วคราว

เมื่อวันที่ 7 ส.ค.การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีวาระการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งได้เปิดประชุมตั้งแต่เวลา 13.00 น. ยังไม่สามารถเริ่มเข้าสู่การพิจารณาได้ โดยเมื่อเวลา 14.20 น.นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้อนุญาตให้นายวรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เสนอหลักการและเหตุผลในร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ต่อที่ประชุมสภาฯแต่ปรากฏว่าระหว่างนายวรชัยได้อ่านหลักการและเหตุผลได้มีสส.พรรคประชาธิปัตย์ส่งเสียงโห่ตลอดเวลา

นายถาวร เสนเนียม สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เข้าข่ายเป็นกฎหมายเงินตามรัฐธรรมนูญ143ที่นายกรัฐมนตรีต้องลงนามรับรองก่อนเสนอให้สภาฯพิจารณา ประกอบกับ ในมาตรา 4 ของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวกำหนดให้ระงับการไต่สวนคดีกับผู้ต้องหาและในกรณีที่มีบุคคลถูกศาลพิพากษาให้มีความผิดแล้วหากกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ก็ให้ถือว่าไม่เคยต้องคำพิพากษา
นายถาวร กล่าวว่า ดังนั้น ในอนาคตหากมีการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ก็เท่ากับว่ารัฐจะผลผูกพันในด้านงบประมาณทันที เช่น การคืนค่าปรับให้กับผู้ต้องคำพิพากษาของศาลในหลายคดี หรือ รัฐจะไม่สามารถเรียกฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมจากผู้กระทำความผิดคดีเผาศาลากลางจังหวัดตามที่ศาลพิพากษาได้ และที่สำคัญที่สุด คือ ต้องคืนเงิน4.6 หมื่นล้านบาทให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า ในประเด็นนี้ได้มีฝ่ายกฎหมายและนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯคนที่ 1 ได้ให้ความเห็นแล้วว่าไม่ได้เป็นกฎหมายการเงิน อย่างไรก็ตาม ในประเด็นนี้ผู้ที่มีความเห็นแตกต่างสามารถเสนอให้ประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาฯ 35 คนพิจารณาให้ความเห็นได้
จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้อนุญาตให้นายวรชัยกล่าวเสนอหลักการและเหตุผลของร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯได้ต่อที่ประชุมสภาฯ แต่ถูกสส.พรรคประชาธิปัตย์ส่งเสียงโห่ตลอดเวลา จนเป็นผลให้นายสมศักดิ์ต้องสั่งพักการประชุมเป็นเวลา 5 นาที
ทั้งนี้จากการระหว่างบันทึกภาพของสื่อมวลชนพบว่าจ.ส.ต.ประสิทธิ์ ชัยศีรษะ สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้ชูกรองเท้าขึ้นมาบนโต๊ะด้วย ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่นายวรชัยกำลังอ่านหลักการและเหตุผลในเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมและถูกสส.พรรคประชาธิปัตย์ส่งเสียงโห่

บช.ภ.4 สั่งสอบ "ขวัญชัย" แต่งชุดตำรวจอุดรโผล่!หน้าสภา

ผบช.ภ.4 สั่งการตรวจสอบกรณีนายขวัญชัย สาราคำ ปธ.ชมรมคนรักอุดรฯแต่งชุดตำรวจอุดร

วันนี้ (7ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเพจ Dislike Yingluck For Concentration Citizen ได้มีการเผยแพร่ภาพของนายขวัญชัย สาราคำ ปธ.ชมรมคนรักอุดรฯ  แต่งกายในชุดตำรวจอยู่บริเวณหน้ารัฐสภา โดยตรงหน้าอกเสื้อระบุหน่วยงานว่ามาจากตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี  ทั้งที่ไม่ได้เป็นตำรวจ โดยเจ้าตัวได้ยืนยันว่า"ไม่ผิด เพราะไม่ได้ติดยศ" ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด  พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผบช.น. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ตำรวจตรวจสอบภาพดังกล่าวแล้ว และหากใส่เครื่องแบบจริงจะถือว่ามีความผิดชัดเจน และจะสั่งการให้ดำเนินคดี อย่างไรก็ตามยังไม่ทราบว่าภาพนี้ถ่ายวันนี้ตอนเข้ารัฐสภาหรือเปล่า ขอเวลาตรวจสอบก่อน

ขณะที่ พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 ได้สั่งการตรวจสอบกรณีดังกล่าวเช่นกันโดยระบุนายขวัญชัย เคยมาช่วยงาน แต่ไม่ได้เป็นตำรวจ

สื่อต่างชาติมอง ร่างพรบ.นิรโทษกรรม เอื้อ "ทักษิณ"กลับประเทศโดยไม่ต้องติดคุก

สำนักข่าวบีบีซีและอัล จาซีรานำเสนอรายงานเมื่อวันที่ 7 ส.ค. เกาะติดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ( ส.ส. ) ของไทย ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนารอบอาคารรัฐสภา เนื่องจากประเด็นการอภิปรายคือเรื่องร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ซึ่งทำให้เกิดกระแสโต้แย้งอย่างหนักในสังคมไทยว่า มีความเกี่ยวข้องกับวิกฤตการเมืองในประเทศที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 2549 นักวิเคราะห์และนักวิจารณ์การเมืองแสดงความหวั่นเกรงว่า หากกฎหมายผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา นั่นหมายความว่าจะเป็นการเปิดทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาตุภูมิได้โดยไม่ต้องรับโทษจำคุก

เมื่อ 7 ปีก่อน กองทัพทำการปฏิวัติยึดอำนาจพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปี 2544 พร้อมกับตั้งข้อกล่าวหาคอร์รัปชั่นและปลุกระดมลัทธิอำนาจนิยม หลังจากนั้นศาลสูงมีคำพิพากษาเมื่อปี 2551 ให้พ.ต.ท.ทักษิณรับโทษจำคุก 2 ปีในข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบ ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณปฏิเสธข้อกล่าวหา ด้วยเหตุผลว่า เป็นคำพิพากษาที่มีเรื่องการเมืองแอบแฝง และเดินทางออกไปลี้ภัยในต่างประเทศนับแต่นั้นเป็นต้นมา

ปัจจุบันประเทศไทยมีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเธอและพรรคได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปที่เกิดขึ้นหลังการสลายชุมนุมครั้งนี้ ขณะที่สำนักข่าวอัล-จาซีรารายงานว่า รัฐสภาไทยมีกำหนดอภิปรายเรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นครั้งแรกในวันนี้ ( 7 ส.ค. ) ซึ่งมีเนื้อหาหลักเกี่ยวกับการอภัยโทษผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อความรุนแรงทางการเมือง หลังการรัฐประหารเพื่อโค่นอำนาจพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ตาม หากกฎหมายผ่านความเห็นชอบ ผู้ชุมนุมในระดับแกนนำหรือหัวหน้าจะไม่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าว

ข่าว : ศูนย์ข่าว แปซิฟิค

ศาลรธน.ไม่รับคำร้อง'กวป.'ขอให้ม็อบแช่แข็งยุติชุมนุม!ชี้เป็นเสรีภาพ

7 ส.ค.56 ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณาวินิจฉัยคำร้องของ นายมาลัยรักษ์ ทองชัย แกนนำกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ว่า พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ กับคณะ ได้จัดจ้างมวลชนมาร่วมชุมนุมโค่นล้มรัฐบาล และได้จัดให้มีการชุมนุมที่ไม่ได้เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งจะมีการเคลื่อนมวลชนไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา ในวันที่ 7 ส.ค.เพื่อไม่ให้สมาชิกรัฐสภาเข้าร่วมประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถือเป็นการกระทำที่ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้กลุ่มกองทัพประชาชนยุติการชุมนุมเพื่อล้มล้างรัฐบาล

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า การชุมนุมของกลุ่มดังกล่าวเป็นการใช้เสรีภาพในการชุมนุม ที่รัฐธรรมนูญรับรองและคุ้มครองไว้ ยังไม่ปรากฏเหตุว่าเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพตามเพื่อล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคหนึ่ง จึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคสอง และข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาและการทำคำวินิจฉัย 2550 ข้อ 17 (2) จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย

(แนวหน้า)