PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ผมรับผิดชอบเอง

ผมรับผิดชอบเอง

"บิ๊กตู่" สายตรง จากตึกไทยฯ ประชุมทางไกลผ่านดาวเทียมกับผู้ว่าฯเชียงราย ติดตามการช่วยเหลือ"ทีมหมูป่าอะคาเดมี" รอให้พร้อม ก่อนนำเด็กๆออกมา  ชี้เป็น"บทเรียน"ที่ต้องนำมาศึกษา ใช้ปฏิบัติภารกิจในอนาคต ชี้หากมีอะไรผิดพลาด ผมรับผิดชอบเอง
 

เมื่อเวลา 08.45 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประชุมทางไกลผ่านดาวเทียมกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จากบนตึกไทยคู่ฟ้า

พันเอกอธิสิทธิ์ ไชยานุวัติ ผช.โฆษกรัฐบาล
เผยว่า นายกฯ ได้กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่ได้พระราชทานกำลังใจ และสิ่งของพระราชทาน ตลอดจนขอพระบารมีปกเกล้าฯ คุ้มครองเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครให้ประสบความสำเร็จในการทำงานด้วยความเรียบร้อย 

จากนั้นกล่าวขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ อาสาสมัคร เอกชน พี่น้องประชาชน ชาวต่างชาติและหน่วยงานจากต่างประเทศ 

รวมถึงสื่อมวลชน ที่มีส่วนร่วมในการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ 

ชมเชยการทำงานของทุกภาคส่วนว่าเป็นแบบอย่างการทำงานแบบบูรณาการ เป็นบทเรียนที่ต้องนำมาศึกษาในการปฏิบัติภารกิจในอนาคตต่อไป

นอกจากนั้นได้ฝากความห่วงใย ขอให้นำทั้ง 13 คนออกมาด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัย 

อีกทั้งให้พิจารณาดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยรอบที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะพื้นที่รับน้ำ และปรับให้คืนสภาพเดิมโดยเร็ว 

ด้านผู้ว่าฯ ได้รายงานสรุปสถานการณ์ที่สำคัญว่าหน่วยซีลได้เข้าไปในถ้ำตั้งแต่เวลาประมาณ 23.00 ของวันที่ 2 ก.ค. 61 เพื่อนำอาหาร น้ำ และยา เข้าไปดูแลผู้ประสบภัย ซึ่งในขณะนี้ก็ยังคงอยู่กับเด็กๆ และโค้ซในถ้ำ

สำหรับภารกิจต่างๆ ในวันนี้ยังคงดำเนินการต่อไป โดยจะมีการสูบน้ำออกจากถ้ำอย่างต่อเนื่อง ติดตั้งไฟฟ้าเพื่อให้แสงสว่างภายในถ้ำ และโทรศัพท์เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารได้ 

ก่อนจบการประชุม นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมและให้กำลังใจ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร และประชาชนทุกคน ขอให้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จสมบูรณ์ รวมทั้งเน้นย้ำขอให้การทำงานครั้งนี้เป็นบทเรียนในการบรรเทาภัยพิบัติในอนาคต ชี้หากเกิดอะไรผิดพลาด ผมรับผิดชอบเอง

หมัดบวกคนเป็นมวย

หมัดบวกคนเป็นมวย



สายตาทุกคู่ของผู้คนในสังคมเฝ้าจับจ้องอยู่ที่สถานการณ์ช่วยเหลือ 13 เยาวชนและโค้ชทีม “หมูป่าอะคาเดมี” ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย (ปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิต ถ้ำหลวงเชียงราย)
เรียกว่าเกาะติดกันแบบนาทีต่อนาที ลุ้นกันข้ามวันข้ามคืน
ความดังของข่าวทีมหมูป่าฯกลบกระแสเรื่องอื่นเงียบไปหมด
ตามฟอร์มที่ข่าวการเมืองจะถูกเบียดตกขอบไปชั่วคราว
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ “สคริปต์เก่า” วาทกรรม “2 มาตรฐาน” ถูกนำมาใช้ชิงพื้นที่ข่าวอีกรอบ
คราวนี้ลามจากกระบวนการยุติธรรมมาถึงกระบวนการชิงพื้นที่เลือกตั้ง
ตามท้องเรื่องอย่างที่พรรคเพื่อไทย ลูกข่าย “นายใหญ่” ออกมาโวยวายใส่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม และทีม คสช.ที่หลิ่วตาทำเป็นมองไม่เห็น
ปล่อยให้ทีมงาน “สามมิตรโปรโมชัน” เดินเครื่อง “พลังดูด” แบบออกหน้าออกตา
ว่ากันถึงขั้นที่ส่งนายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือร้องประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ระงับและไม่อนุญาตให้จัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ
พร้อมทั้งดำเนินคดีและตรวจสอบกรณีกลุ่มสามมิตร ที่นำโดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รวมถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ และ พล.อ.ประวิตร เนื่องจากมีการดูดอดีต ส.ส.ไปร่วมพรรคพลังประชารัฐ
เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
อ้างข้อมูลจากการแคปเจอร์ข้อความในไลน์เป็นหลักฐาน
เป้าหมายคือตีปี๊บฟ้องประจานให้ชาวบ้านได้เห็นถึงพฤติการณ์เอาเปรียบของทีมหนุน “ลุงตู่”
แต่อีกนัยหนึ่งมันก็สะท้อนภาวะ “ปากกล้าขาสั่น”
จับอาการพรรคเพื่อไทย ไล่ตั้งแต่ “นายใหญ่” อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่ขยับตัว
อย่างแรงในช่วงวันเกิดน้องสาว เบิร์ธเดย์อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ส่งสัญญาณต่อเนื่องมาถึงลูกข่ายพรรคเพื่อไทย ช่วยกันตีปี๊บเกมดูด
ต้องอุดภาวะเลือดไหลกันมือเป็นระวิง
ของจริงต่างพากันหวั่นไหวหนัก นับตั้งแต่ยี่ห้อ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” อดีต “พ่อบ้านใหญ่” ค่ายไทยรักไทย เปิดตัวออกมาเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของพรรคพลังประชารัฐ
รับมุกกับ “สมคิด” เป็นฐานให้ “นายกฯลุงตู่” ตีตั๋วต่อนายกรัฐมนตรี
กระตุ้นเรตติ้งยี่ห้อ “พลังประชารัฐ” ราคาหุ้นดีดขึ้นแบบทันตา
สถานการณ์แปรผันกับภาวะ “เลือดไหล” ไม่หยุดของพรรคเพื่อไทย หักมุมกับสิ่งที่ “นายใหญ่” และทีมงานพยายามปลอบขวัญปลุกใจลูกข่ายยี่ห้อ “ทักษิณ” ว่า ยังแรงไม่ตก
ประกาศเลือกตั้งรอบหน้าจะกวาดเสียงถล่มทลายในภาคอีสาน ภาคเหนือ
ที่แน่ๆสังเกตให้ดี ถึงตรงนี้ เหยื่อเป้าล่อของพรรคเพื่อไทย ไม่ยอมโดนล่อเป้าเหมือนช่วงแรกๆ
อารมณ์แบบที่ พล.อ.ประวิตร ไม่ใช่แค่ร้องฮู้ แต่ตอบโต้เป็นชุดๆ
ย้อนศรย้อนคอหอยกันเลยว่า ทีพรรคเพื่อไทยนัดไปตีกอล์ฟไปคุยกัน ไม่เห็นว่าอะไรเลย ทำไมไม่โจมตีกัน ทำไมถึงไม่บอกว่าไปดูด ส.ส.บ้าง
หรือที่บอกกลุ่มสามมิตรอยู่พรรคพลังประชารัฐ พรรคเกิดหรือยัง เป็นเพียงการจดแจ้งชื่อจัดตั้งพรรคกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เท่านั้น
“บิ๊กป้อม” ตั้งหลัก สวนหมัดกลับฝั่งนักการเมืองแบบเข้าจุดโฟกัส
เช่นเดียวกับอาการแบบที่นายสุริยะย้อนศรวาทกรรมดูดของพรรคเพื่อไทย บอกเลยว่า สมัยเป็นเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และมีนายทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค ก็เคยทำมาแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้น แต่พอตนเองมาอยู่จุดตรงนี้ กลับถูกโจมตี
แต่ยืนยันตนเองและคณะจะไม่หวั่นไหวขอทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองต่อไป
“สุริยะ” น้ำเสียงแข็งสวนกลับฝั่งคนแดนไกล จากที่หลบสงบนิ่งมาตลอด
นั่นไม่เท่ากับลีลาแสบๆคันๆแบบที่นายอนุชา นาคาศัย อดีต ส.ส.ชัยนาท แกนนำทีมงานสามมิตร ตอบโต้ “เสี่ยแดง” นายพิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ว่าด้วย “รัฐมนตรีบริจาค”
สอนเชิงกันเป็นนัย นายพิชัยเป็นนักการเมืองใหม่คงไม่รู้วิถีการเมืองในอดีตสมัยไทยรักไทยเคยไปกวาดต้อนนักการเมืองอื่นเข้าร่วมพรรค อย่างนั้นไม่เรียกดูดเรียกว่าอะไร
ตามรูปการณ์จากนี้ทีม “นายใหญ่” ต้องเจอหมัดสวนแบบ “คนเป็นมวย” ไม่ได้ด่าตีกินกันง่ายๆ
ในสถานการณ์ที่ทีมงานหนุน “นายกฯลุงตู่” เปิดหน้า หงายไพ่ แทงหวยเต็ง
รับสัญญาณคลื่นความถี่สูง ไม่ให้ “ทักษิณ” กลับมายึดประเทศ.
ทีมข่าวการเมือง