PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556

สิ้น 'ศรีฟ้า ลดาวัลย์'นักเขียนนวนิยาย ดาวพระศุกร์ และ ดอกโศก


สิ้น 'ศรีฟ้า ลดาวัลย์' นักเขียนนิยายชื่อดัง-ศิลปินแห่งชาติ หลังป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ สิริอายุรวม 83 ปี พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 18 เม.ย. วธ.พิมพ์หนังสือเผยแพร่

เมื่อวันที่ 17 เมษายน นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ม.ล.ศรีฟ้า มหาวรรณ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ เสียชีวิตลงแล้ว เนื่องจากเส้นเลือดในสมองตีบ เมื่อเวล 17.45 น. วันที่ 16 เมษายน ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า สิริอายุ 83 ปี ขณะนี้ทายาทและลูกศิษย์ได้กำหนดจัดสวดพระอภิธรรมที่ศาลาภาณุรังษี วัดเทพศิรินทราวาส แขวงเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ตั้งแต่วันที่ 18-24 เมษายน โดยจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพเวลา 18.30 น. วันที่ 18 เมษายน และจะเก็บศพไว้บำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 100 วัน และจะขอพระราชทานเพลิงศพต่อไป

อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่สูญเสียบุคลากรผู้ทรงคุณวุฒิที่อุทิศตนทำงานเพื่อสังคม ทั้งในด้านวรรณศิลป์ อีกทั้งยังมีความคิดริเริ่ม มีคุณธรรม เสียสละเพื่อส่วนรวม ในการนี้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้จัดสวัสดิการช่วยเหลือเพื่อร่วมบำเพ็ญกุศลศพจำนวน 2 หมื่นบาท และเงินค่าช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเผยแพร่ผลงานเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1.5 แสนบาท

ประวัติของ ม.ล.ศรีฟ้า เกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ.2473 ที่วังมหาสวัสดิ์ เป็นธิดาของ ม.ร.ว.สนั่น ลดาวัลย์ กับ นางบัวจันทร์ ลดาวัลย์ ณ อยุธยา โดยมารดาเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 5 ขวบ ม.ล.ศรีฟ้า มีน้องสาวชื่อ ม.ล.ศรีทอง ลดาวัลย์ เป็นนักเขียนเช่นกัน ใช้นามปากกาว่า “ข.อักขราพันธ์” เป็นผู้เขียนนวนิยายเรื่อง ภาพอาถรรพณ์ ดาวพระศุกร์ และ ดอกโศก โดยชีวิตคู่นั้น ม.ล.ศรีฟ้า สมรสกับ นายบุญทัศน์ มหาวรรณ นักธุรกิจ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2504

ม.ล.ศรีฟ้า จบการศึกษาจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ และศึกษาต่อที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่เลิกเรียนเมื่ออยู่ชั้นปีที่ 3 แล้วไปเป็นครูสอนหนังสือที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟศรีราชา โรงเรียนพณิชยการพระนคร และโรงเรียนพณิชยการบพิตรพิมุข จนถึงปี พ.ศ.2516 จึงลาออกมาเป็นนักเขียนอาชีพจนถึงปัจจุบัน เป็นนักเขียนที่มีผลงานต่อเนื่องกว่า 4 ทศวรรษ โดยใช้นามปากกา “ภัฏฏินวดี” “จุลลดา ภักดีภูมินทร์” และ “ศรีฟ้า ลดาวัลย์” ผลงานที่โด่งดัง เช่น นวนิยายเรื่อง ขมิ้นกับปูน ข้าวนอกนา กนกลายโบตั๋น ปราสาทมืด

ช่วงหลังของการสร้างงานเขียน ม.ล.ศรีฟ้าใช้นามปากกา "จุลลดา ภักดีภูมินทร์" เขียนสารคดีเกี่ยวกับชีวิตของเชื้อพระวงศ์ในวังตีพิมพ์ในนิตยสารสกุลไทย และได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ.2539

มติเพื่อไทยยืนยันเลื่อนวาระพรบ.นิรโทษกรรมพิจารณาในสภาพรุ่งนี้


มติพรรคเพื่อไทย ชี้ศาลรธน.ไม่มีอำนาจรับพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.68

มติร่วมที่ประชุม

คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค คณะกรรมการประสานภารกิจ และที่ประชุม ส.ส.พรรค

………………………………

1)  กรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68  ที่ประชุมเห็นว่า...

1.   รัฐสภามีอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เป็นไปตามบทบัญญัติ มาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญ

     มาตรา 291 ...

                   ”ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการรับพิจารณาเรื่องนี้”

              รัฐสภาจึงไม่ต้องดำเนินการตามศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

2.   สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิก จะร่วมกันออกคำแถลงการณ์ชี้แจงต่อพี่น้องประชาชน   ถึงเหตุผลในการคัดค้านการกระทำของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ก้าวล่วงอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กำลังดำเนินการกันอยู่ในรัฐสภาปัจจุบัน              

3.   สมาชิกรัฐสภาที่ร่วมกันพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญกันอยู่ในขณะนี้ จะร่วมกันหารือเพื่อหาทางออกจากวิกฤตความขัดแย้งนี้ต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้กระบวนการทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างถูกต้อง และชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

4.   วันที่ 18 เม.ย.นี้ เวลา 09.30 น. รัฐสภาจะเปิดประชุมเพื่อลงมติในระเบียบวาระที่ยังค้างอยู่ โดยเฉพาะในประเด็นที่มีการเสนอญัตติให้มีการแปรญัตติเป็นเวลา 60 วัน  แต่ไม่ครบองค์ประชุม

              แต่เพื่อให้การดำเนินการในรัฐสภาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย  พรรคจึงสนับสนุนให้มีการพิจารณาระเบียบวาระดังกล่าวใหม่  เพื่อให้กระบวนการต่างๆ ในรัฐสภาเกิดความเรียบร้อยต่อไป

2)  การพิจารณาข้อเสนอเลื่อนระเบียบวาระการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม

ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยในระดับต่างๆ ได้พิจารณาอย่างกว้างขวางรอบคอบ ทั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์

พรรค / คณะกรรมการประสานภารกิจ / และที่ประชุม ส.ส.พรรค มีมติเห็นชอบร่วมกัน ดังนี้

              “พรรคมีมติ เห็นชอบ และสนับสนุน

                  ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของ ส.ส. วรชัย เหมะ

                  และขอให้มีการพิจารณาเลื่อนระเบียบวาระขึ้นมา เป็นวาระแรก

                  เพื่อสามารถพิจารณาให้ทันการเปิดสมัยประชุมหน้า

                  โดยให้มีการพิจารณาเลื่อนระเบียบวาระ ในการประชุมวันพฤหัสบดีที่ 18 เม.ย.นี้”

     ทั้งนี้ เห็นว่า ควรยึดหลักการที่จะช่วยนิรโทษกรรม และช่วยเหลือประชาชนทุกฝ่ายก่อน โดยยังไม่พิจารณา   นิรโทษกรรมแกนนำของทุกฝ่ายในขณะนี้ แต่จะนำเรื่องการนิรโทษกรรมแกนนำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนอีกครั้ง อย่างรอบคอบ ในโอกาสต่อไปในอนาคต

                                                                                                              17 เมษายน 2556

http://www.ptp.or.th/news/m-detail.aspx?news_id=4927


จับตาทึมกม.ไทยแถลงศาลโลกบ่ายนี้

ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล อดีตทนายผู้ประสานงานคณะทนายฝ่ายไทย ในคดีปราสาทพระวิหาร ในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ พ.ศ. 2502-2505 กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการแถลงด้วยวาจาของฝ่ายไทยเพื่อโต้คำแถลงด้วยวาจาของฝั่งกัมพูชา ในวันนี้ว่า ประเด็นสำคัญคือ ศาลต้องพิจารณาว่ามีอำนาจหรือไม่ ที่จะมาตีความเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ ที่ดูเหมือนทางไทยจะให้ความสำคัญเรื่องนี้ น้อยไป ซึ่งถ้าไทยค้านอำนาจศาลตั้งแต่แรก ศาลจะต้องตัดสินเรื่องนี้ก่อน ไม่ใช่ไปสันนิษฐานก่อนว่า ศาลมีอำนาจในการตีความ

ศ.ดร.สมปอง กล่าวต่อว่า ถ้าหากศาลพิพากษามาแบบไม่เป็นคุณต่อประเทศไทย คิดว่าชาวบ้านในพื้นที่คงไม่ได้มีปัญหาได้รับผลกระทบ เดือดร้อนอะไรมากนัก แต่คนไทยส่วนใหญ่อาจจะรู้สึกไม่พอใจ และตั้งข้อสังเกตได้ว่า เป็นเรื่องสมรู้ร่วมคิดของใครบางคน เพื่อประโยชน์ของพรรคพวกหรือไม่ อย่างไร



ทีมกม.ไทย ถกเข้มเช้าถึงบ่ายเตรียมพร้อมแจงศาลวันนี้

ความคืบหน้าของทีมคณะกฎหมายของไทย ที่จะขึ้นชี้แจงต่อศาลโลก ในวันนี้เวลา 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเตรียมการ นายวีรชัย และทีมทนายความ จึงใช้เวลาในช่วงเช้าถึงบ่ายเพื่อปรับแก้ร่างถ้อยคำที่เตรียมจะขึ้นชี้แจงด้วยวาจาต่อศาล จากนั้น จึงจะเข้าประชุมเพื่อหารือร่วมกับทีมไทยทั้งหมด เพื่อสรุปประเด็นอีก 2 รอบ ในช่วงบ่ายและช่วงเย็น เพื่อช่วยกันพิจารณาร่างเนื้อหาที่ปรับแก้ เพื่อให้ได้ร่างถ้อยแถลงสุดท้ายที่ทุกฝ่ายเห็นว่าดีที่สุดร่วมกัน

นอกเหนือจากการเตรียมการในส่วนของสารัตถะทั้งหมด อีกด้านหนึ่งของทีมงานฝ่ายไทยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้เรียกประชุมทีมแปลและทีมกฎหมายของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประเมินผลการทำงานในวันแรก จะได้นำข้อมูลมาใช้ปรับปรุงการทำงานให้การถ่ายทอดสดเหตุการณ์ในห้องพิจารณาคดี และการเตรียมเอกสารสรุปสาระสำคัญของการชี้แจงของฝ่ายไทย ที่เตรียมจะเผยแพร่ให้สาธารณชนได้ทราบมีความพร้อมสมบูรณ์ให้มากที่สุดอีกด้วย



'เกรียงศักดิ์' ปฏิเสธร่วมปักธงชาติไทยที่เขาพระวิหาร

นายเกรียงศักดิ์ เหล็กกล้า ตัวแทนประสานเครือข่ายภาคประชาชน และแนวร่วมคนไทยรักชาติ รักษาแผ่นดิน เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ในวันที่ 17 เม.ย.นี้ ที่ประชาชนผู้รักชาติกลุ่มหนึ่งจะเดินทางไปที่หมู่บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อปฏิบัติการเชิงสัญลักษณ์ โดยการปักธงชาติไทย ในพื้นที่พิพาทนั้น ทางกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชน ให้ความเคารพการกระทำดังกล่าว แต่ก็ขอปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้โดยสิ้นเชิง เพราะไม่อยากสร้างความกดดันให้กับกองทัพบก ที่ขณะนี้ตามชายแดน กองทัพบกกำลังซ้อมรบด้วยกระสุนจริงอยู่

ทั้งนี้ทางกลุ่มมุ่งหน้านำความจริงสู่ประชาชนและเดินทางไกลกอบกู้ราชอาณาจักรไทยเข้าสู่กรุงเทพมหานคร อันเป็นศูนย์กลางอำนาจรัฐในระยะเวลาไม่นานนี้



'ปณิธาน' ชี้ ทนายไทย แจงศาลโลกไม่น่าหนักใจ

นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เปิดเผยกับรายการ เปิดข่าวเด่น เจาะประเด็นดัง ถึงกรณีที่ ทนายไทย จะขึ้นแถลงวาจากับศาลโลกว่า ประเด็นที่ไม่น่าหนักใจคือเรื่องของกฎหมาย อำนาจของศาลและเรื่องแผนที่ เป็นเรื่องเก่าที่ไทยเตรียมตัวมาอย่างดี แต่ที่น่ากังวลคือเรื่องเชิงนโยบายที่กัมพูชา กล่าวหาไทยว่า ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ไม่เปิดให้เข้าไปพัฒนาพื้นที่และปัจจุบันไม่ได้มีความร่วมมือกัมพูชา ตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลที่ให้มีผู้สังเกตการณ์ตรงนั้น และกล่าวหาว่า ใช้กำลังต่อกัมพูชา โดยไทยได้ทำจดหมายชี้แจงไปยังสหประชาชาติ ว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายโจมตีไทยก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่กัมพูชา สร้างเงื่อนไขขึ้นมาเพื่อให้นานาชาติเห็นและเชื่อตามที่กัมพูชาคิดว่า ไทยรุกราน ซึ่งทีมไทยต้องปรับวิธีการชี้แจงและเปิดเผยข้อเท็จจริงมากขึ้นต่อศาลและต่อชาวโลกว่า กัมพูชา ได้ใช้กำลังโจมตีไทยก่อนอย่างรุนแรง ทำให้ราษฎรและทหารไทย บาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าฝ่ายนโยบายไม่ชัดเจน และไม่ให้แนวทางฝ่ายปฏิบัติและฝ่ายกฎหมายโจมตีและลดความน่าเชื่อถือของกัมพูชา เพราะอาจจะกระทบต่อความสัมพันธ์ในระยะสั้น



ม็อบพระวิหาร ทยอยรวมตัวศาลหลักเมือง

พ.ต.อ.มงคล ลิ้มสุวรรณ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผย ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ กลุ่มมวลชนคนไทยหัวใจรักชาติ ทวงคืนเขาพระวิหาร ได้ทยอยมารวมตัวกันที่หน้าศาลหลักเมือง ในตัวอำเภอกันทรลักษ์ ประมาณ 30-40 คนแล้ว โดยกลุ่มมวลชนนี้ มีจุดประสงค์จะเดินทางไปยัง บ้านภูมิซรอล เพื่อไปปักธงชาติไทย บริเวณพื้นที่พิพาท 4.6 ตร.กม. ที่กำลังอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลโลก ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่รับผิดชอบทฃของทหารกองกำลังสุรนารี ส่วนว่าจะอนุญาตให้มวลชนเข้าไปหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่จะใช้การเจรจาพูดคุยกันเป็นหลัก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น



ทหารยังเข้ม บริเวณชายแดน ไทย-กัมพูชา

ขณะนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ยังคงปกติดี ทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ตลอดแนวชายแดน ระยะ 90 กม. ตรึงกำลังเข้มในฐานที่มั่นปฏิบัติการ โดยเฉพาะที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม ทหารไทย กรมทหารราบที่ 23 กองพันทหารราบที่ 2 ชุดเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ยังควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด ห้ามไม่ให้ประชาชนคนไทย และนักท่องเที่ยวเข้าไปในบริเวณใกล้ที่ตั้งทหาร เขตห้ามเข้า และไม่มีประชาชนชาวกัมพูชา เดินทางเข้าเที่ยวในบริเวณปราสาทตาเมือนธมแต่อย่างใด มีแต่ทหารกัมพูชา 4-5 นาย เดินทางเข้ามาสังเกตการณ์ และที่บริเวณปราสาทตาควาย บ้านไทยนิยมพัฒนา หมู่ที่ 17 ต.บักได อ.พนมดงรัก ทหารพรานชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 ชุดเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 จัดเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เข้าดูแลพื้นที่ปราสาทตาควายร่วมกับทหารกัมพูชาจำนวน 5-6 นาย ซึ่งทหารกัมพูชาได้นำลูกเป็นเด็กเล็ก 3-5 ขวบ ขึ้นมาเล่นในบริเวณใกล้กับปราสาทตาควายด้วยขณะที่ ชาวบ้านตลอดแนวชายแดน หวั่นสงคราม

ที่มา : http://www.innnews.co.th

น้องเอย3ขวบครูลืมบนรถตู้สิ้นใจแล้ว-ตร.จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวอาชญากรรม17 เมษายน 2556 11:08:19 น.


น้องเอย3ขวบครูลืมบนรถตู้สิ้นใจแล้ว-ตร.จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม


สุดยื้อ! น้องเอย 3 ขวบ ลืมบนรถตู้ สิ้นใจแล้ว หลังระบบร่างกายล้มเหลว เมื่อเวลา 09.00 น. ส่งตรวจนิติเวช ก่อนบำเพ็ญกุศล - ตำรวจ จ่อแจ้งข้อหา คนขับรถตู้และครูพี่เลี้ยง เพิ่ม

นางรัตนา นครโสภา มารดาของ ด.ญ.มนัสนันท์ ทองภู่ หรือ น้องเอย วัย 3 ขวบ ที่ถูกลืมไว้บนรถตู้ ร.ร. ใน จ.สมุทรปราการ จนขาดอากาศหายใจ เปิดเผย ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. น้องเอย ได้สิ้นลมหายใจแล้ว ท่ามกลางความเสียใจของพ่อแม่และญาติพี่น้อง โดยแพทย์แจ้งว่า สาเหตุที่ลูกสาวเสียชีวิตคือ ระบบภายในร่างกายล้มเหลวทั้งหมด หลังนอนพักรักษาตัวในห้องไอซียู ร.พ.กรุงเทพ นานนับ 10 วัน ก่อนหน้านี้ โดยต่อจากนี้จะส่งร่างของน้องเอยไปที่ นิติเวชวิทยา ร.พ.ตำรวจ เพื่อทำการชันสูตรตามกฎหมายต่อไป และจากนั้น จะนำร่างไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

ด้าน พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผกก.สภ.บางปู เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เมื่อ น้องเอย เสียชีวิต รูปคดีจะเปลี่ยนไป โดยจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่คนขับรถตู้และครูพี่เลี้ยง ในข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คาดว่าจะให้งานศพของน้องเอย เรียบร้อยก่อน จะเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อหาเพิ่มเติม

ที่มา:http://www.innnews.co.th