PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

คลิป"ฐิติ ชัยนาม"เสรีไทยรุ่น3






ผลการประชุม "องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน" นัดแรก

ผู้อำนวยการกองเก็บขยะครับ !!
ผลการประชุม "องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน" นัดแรก พลตรีเหรียญทอง แน่นหนา สั่งขจัดพวกหมิ่นสถาบันกษัตริย์ให้หมดสิ้น ยันใช้มาตรการทางสังคมกดดัน เผยผู้มีอำนาจทางกฏหมายไร้น้ำยา ไม่กลาจัดการอย่างจริงจัง ซัดพวกโลกสวยจาบจ้วงอ้างประชาธิปไตยโดนด้วย

ความเคลื่อนไหวของ"พล.อ.เปรม"และ"2ป."


การเข้าเฝ้าฯของพล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ เมื่อเย็นวันพุธ กำลังเป็น talk of the town แม้จะเป็นการร่วมคณะสมเด็จพระวันนะรัตเพื่อถวายพระ ก็ตาม

เพราะพล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ ถูกพาดพิงตลอดว่า เกี่ยวข้องกับ กำนันสุเทพ และมีชื่อเป็นนายกฯคนกลาง มาตลอด แต่ครั้งนึ้เข้าเฝ้าฯเพื่อถวายพระ

นายทหารคนสนิท เผยว่า เป็นการเข้าเฝ้าในนามมูลนิธิGolden Place ใช้เวลาแค่ไม่กีนาที เท่านั้นก็ออกมา ไม่ได้มีการเฝ้าฯเป็นการส่วนพระองค์

แต่ในสถานการณ์แบบนี้ก็ทำให้คนที่จับตามอง 2ป.บูรพาพยัคฆ์ ต้องจ้องเขม็ง แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ได้ร่วมคณะกับพี่เลิฟ เขัาเฝ้าฯด้วยก็ตาม

นี่ไม่ใช่การแก้ข่าวค่ะ เป็นการสะทัอนว่า เรื่องนี้ถูกจับตามอง วาส เองก็สนใจ และตรวจสอบอยู่ เพราะทั้ง 2ป.เงียบ เลยคุยได้แต่ทส.บอกวาคณะใหญ่

ทส.ป๋าเปรม ยืนยันว่า ป๋าไม่ได้เข้าเฝ้าฯด้วยเมื่อวาน ค่ะ อยู่บ้านสี่เสาฯแต่งเพลงอยู่ ยังไม่มีกำหนดการเข้าเฝ้าฯ ค่ะ

ส่วนที่ไม่ออกข่าวราชสำนัก นั้น วาส ไม่ทราบ แต่ ทส. พล.อ.อนุพงษ์ บอกว่า เป็นการเข้าเฝ้าฯส่วนพระองค์ แต่คณะใหญ่ ไม่ได้เฝ้าฯส่วนพระองค์

Fb วาสนา นาน่วม
///////////////
Fb กูต้องได้ 10 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ

อันนี้ขอบใจ วาสนา นาน่วม ที่เขียนข่าวยืนยันจาก ทส. ของเปรม ที่บอกว่า เปรมอยู่สี่เสาเทเวศน์ แต่งเพลง ไม่มีหมายเข้าเฝ้า น้องก็รายงานตามที่ได้ข่าว ทำดีแล้ว

แต่ น้องวาส (เล็ก) จ๋า

เอาข่าวอีกด้านไปนะน้อง เมื่อวานนี้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ

ไปเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ ทส.ของ พล.อ.เปรม ก็ไปด้วย

ทั้งนี้ การเข้าเฝ้าของ พล.อ.เปรม มีรายละเอียดคร่าวๆ เพื่อให้ท่าน และหน่วยต่างๆ ประเมินสถานการณ์ ดังนี้

เมื่อวานนี้ พล.อ.เปรม เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการล้มรัฐบาล รวมถึงไปเล่าสถานการณ์บ้านเมืองถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบ โดยที่ พล.อ.เปรม พยายาม convince พระองค์ท่าน อ้างความเห็นเรื่องชาติบ้านเมือง พร้อมไปอ้างว่า ตามข้อกฎหมายแล้ว การล้มรัฐบาล และปลดนายก เป็นเรื่องทำได้ แล้วจะแต่งตั้ง เชี่ยไรของพวกแม่ง เป็นเรื่องทำได้

อันนี้เป็นรายละเอียดคร่าวๆ ส่วนผลจะเป็นอย่างไร คงจะขึ้นอยู่กับพระราชวินิจฉัยของพระองค์ท่าน

แต่กู ขอประนาม พล.อ.เปรม ณ ที่นี้เลยว่า ไปเพ็ดทูล ให้ข้อมูลผิดๆ แก่พระองค์ท่านทำไม

และคำถามถึง พล.อ.เปรม อีกอย่าง คือ ให้ ทส. ไปโกหกน้องเล็ก วาสนา ทำไม อย่างปิดข่าวอย่างนั้นหรือ มึงแก่ขนาดนี้แล้ว ทำตัวเป็นเด็กโป้ปดมดเท็จ (ฟันแท้จะหลุดหมดปาก เหมือนเด็กผลัดฟันน้ำนมแล้ว) มึงยังคิดว่า จะไม่มีคนรู้ เรื่องที่มึงไปไกลกังวลหรือ

เค้ารู้กันทั้งกรมราชองครักษ์ นี่มันไม่ใช่มหาอำมาตย์ แต่เป็น #หมาอำมาตย์แก่

#ตูดนั่งทับขี้แต่ไม่ล้างกลิ่นขี้ก็หึ่งไปทั่ว

มึงอาจหลอกคนทั่วไป ที่ไม่รู้เรื่องได้ แต่กลิ่นขี้ ที่โชยมามันปิดไม่ได้ดอก #ท่านเปรมทวารบาน

ปล. กูถึงมิวนิคแล้วนะ มามะ มาหากันได้
///////////

Kittipong Kittayarak
22 ชม. ·

ในห้วงเทศกาลสงกรานต์มีผู้สอบถามผมเข้ามาเป็นจำนวนมากว่าผมจะเดินทางไปร่วมประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงที่ศอ.รส.จัดขึ้นในวันที่ ๑๗ เมษายนนี้หรือไม่ มีหลายท่านได้กรุณาแสดงทัศนะและแนะนำต่างๆด้วยความปราถนาดี ซึ่งผมต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ

ผมขอเรียนว่าหลังจากที่ผมได้พิจารณาข้อมูลต่างๆอย่างรอบด้านแล้วผมตัดสินใจจะเข้าร่วมประชุมในวันที่ ๑๗ เมษายนนี้ตามที่ทาง ศอ.รศ.ได้เชิญมาครับ

ที่ผ่านมาผมยังไม่เคยมีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงชองเรื่องที่เกิดขึ้นกับศอ.รส.โดยตรงเลย ในการประชุมคราวนี้หากได้รับโอกาสผมจะได้แจ้งให้ที่ประชุมได้ทราบถึงข้อเท็จจริงในส่วนของผมที่นำมาสู่เหตุการณ์ในวันที่ ๘ เมษายน

นอกจากนี้ การที่ศอ.รศ.ได้เชิญเพื่อนๆปลัดกระทรวงของผมมาประชุมในคราวนี้ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการกระทำของผม ผมคิดว่าผมควรจะถือโอกาสนี้แจ้งให้เพื่อนๆปลัดกระทรวงได้ทราบถึงความเป็นมาของเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยตนเองด้วย

จากการที่ผมเป็นอดีตกรรมการ คอป.และทำงานเกี่ยวข้องกับการสร้างความปรองดองและการปฏิรูปมายาวนาน ผมเป็นผู้หนึ่งที่เชื่อในการพูดคุย รับฟังและหารือกันต่อหน้าอย่างตรงไปตรงมา แทนที่จะต่างตนต่างพูดโดยหลีกเลี่ยงการที่จะได้พบปะพูดคุยและรับฟังกัน ผมคิดว่าผมควรยึดถือหลักการนี้ไว้

ผมเชื่อว่าผมและเพื่อนข้าราชการทุกคนตระหนักดีถึงความสำคัญของบทบาทของข้าราชการในสถานการณ์ความขัดแย้งนี้

ข้าราชการนั้นหมายถึง ผู้ที่ทำกิจการของพระราชา ซึ่งในที่นี้หมายถึงการเป็นผู้รับผิดชอบใน "งานของแผ่นดิน" อันเป็น งานของส่วนรวม เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับทุกข์สุขของประชาชน และเกี่ยวข้องกับความเจริญขึ้น หรือเสื่อมลงของบ้านเมืองโดยตรง

ความภาคภูมิใจในความเป็นข้าราชการคือการที่ได้ทำงานเพ่อส่วนรวมให้ประชาชนชื่นใจ มิใช่การทำงานให้พรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองใด

ในท่ามกลางความขัดแย้งนี้ ข้าราชการต้องมีความหนักแน่น อดทนที่จะปฏิบัติหน้าที่ราชการ อันเป็นงานของแผ่นดินให้ดีที่สุด โดยรักษาความเป็นกลางทางการเมือง และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของบ้านเมืองครับ

'อดีตปธ.ศาลรธน.'ชี้ศาลมีอำนาจชี้ขาดสถานะนายกฯ


โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์" อดีตปธ.ศาลรธน. ระบุ ศาลรธน.มีอำนาจชี้ขาดสถานภาพนายกฯ พร้อมยกเทียบเคียงคดีสถานภาพ "อภิสิทธิ์"

ที่สำนักงานศาลรธน.นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยตั้งข้อสังเกตว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับวินิจฉัยสถานะนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182(7) จากกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เนื่องจากสถานะของนายกรัฐมนตรีได้สิ้นสุดลงนับแต่มีพ.รฎ.ยุบสภาแล้ว ว่า

ต้องถามว่า แล้วน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอยู่ต่อไปจนมีรัฐบาลใหม่เข้ามาใช่หรือไม่ และยังรับเงินเดือน ใช้รถประจำตำแหน่งอยู่ อีกทั้งยังคงทูลเกล้าฯการออกพระราชกฤษฎีกาต่างๆ ได้อยู่ รวมทั้งยังมีอำนาจสั่งการข้าราชการได้อยู่ เพียงแต่อำนาจถูกจำกัดลงโดยรัฐธรรมนูญมาตรา 181 เท่านั้นเอง

ดังนั้นจึงถือว่าเหตุแห่งการวินิจฉัยยังมีอยู่ และอยู่ในอำนาจศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัย อย่างกรณีที่ก่อนหน้านี้ส.ส.พรรคเพื่อไทยเข้าชื่อเสนอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งปลดร.ต.อภิสิทธิ์ ออกจากราชการทหาร ศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำสั่งรับวินิจฉัย แต่เมื่อมีการยุบสภา ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องสั่งจำหน่ายคดี เพราะเหตุแห่งการวินิจฉัยคดีหมดไปแล้ว ไม่ได้เป็นส.ส.ไม่ได้รักษาการส.ส. ที่ยังรับเงินเดือน หรือได้รับสิทธิพิเศษของการเป็นส.ส.อยู่

รวมทั้งกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยในขณะนั้น ขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส.หรือไม่

จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ชี้มูลว่ามีการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และมติอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) ของกระทรวงมหาดไทย มีมติให้ไล่ออกจากราชการ จากเหตุทุจริตที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ เมื่อส่งเรื่องมายังศาลรัฐธรรมนูญ นายยงยุทธ ลาออกจากทุกตำแหน่งทางการเมือง ศาลรัฐธรรมนูญก็มีมติไม่รับคำร้อง เพราะหมดเหตุแห่งการวินิจฉัยแล้ว ดังนั้นมีการกล่าวหาว่าศาลรัฐธรรมนูญสองมาตรฐานรับวินิจฉัยเรื่องของนายกรัฐมนตรี แต่กลับไม่พิจารณาเรื่องของนายอภิสิทธิ์ จึงไม่ถูกต้อง เพราะถ้าจะบอกว่าสองมาตรฐาน รายละเอียดของเรื่องทั้งสองเรื่องต้องเหมือนกันทุกกรณี แต่ตัดสินต่างกัน ซึ่งกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ กับนายอภิสิทธิ์นั้นต่างกัน

นายวสันต์ ยังกล่าวด้วยว่า แม้กรณีนี้ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิลไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเป็นเรื่องที่ผู้ร้องๆ ว่านายกรัฐมนตรีใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปแทรกแซง ก้าวก่าย เพื่อเอื้อประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งจะผิดไม่ผิดยังไม่รู้ ไม่เหมือนกับกรณียุบพรรคพลังประชาชนที่เมื่อศาลฎีกาตัดสินว่าผู้สมัครซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคกระทำผิดฐานทุจริตเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญมาตรา 237 กำหนดไว้ให้ต้องยุบพรรค ศาลรัฐธรรมนูญจึงวินิจฉัยเป็นอย่างอื่นไม่ได้

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีระบุว่าได้คืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติให้แก่นายถวิล ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดแล้ว นายวสันต์ ถามกลับว่า กรณีมีคนขโมยของในห้างสรรพสินค้า แล้วต่อมาเอาของไปคืนโดยวางไว้ในที่เดิม ถือว่าความผิดที่ได้ทำหมดไปหรือไม่ ในทางกฎหมายถือว่า ความผิดสำเร็จไปแล้ว แต่การนำของมาคืนถือเป็นเหตุให้บรรเทาโทษเท่านั้น และส่วนตัวเห็นว่าถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์กระทำขัดรัฐธรรมนูญจริง ความเป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องสิ้นสุดลงทันที เพราะตามรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นการสิ้นสุดลงเฉพาะตัวจะอยู่รักษาการก็ไม่ได้ และแม้โดยปกติ เมื่อนายกพ้นจากตำแหน่งก็จะมีผลให้คณะรัฐมนตรีพ้นไปทั้งคณะด้วย แต่กรณีนี้เป็นการสิ้นสุดลงเฉพาะตัว คณะรัฐมนตรีจะพ้นไปทั้งคณะด้วยหรือไม่ ก็ต้องไปดูรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ที่บัญญัติให้คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง ต้องอยู่ตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ รวมถึงก่อนหน้านี้ที่มีการยุบ 3 พรรคการเมือง ซึ่งมีผลให้นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นต้องพ้นจากตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นก็ทำหน้าที่รักษาการแทน ส่วนจะเทียบเคียงหรือไม่ก็ขอให้ลองคิดดู ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าบ้านเมืองไม่ควรเกิดสุญญากาศไม่มีฝ่ายบริหาร แต่ก็อาจจะไม่ถูกใจใครหลายๆคน

นายวสันต์ ยังกล่าวกรณีศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เรียก ปลัดกระทรวงต่างๆเข้าพบเพื่อทำความเข้าใจกรณีเปิดกระทรวงรับฟังความคิดเห็นของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ว่า หากการพบนายสุเทพ ที่มีหมายจับถือว่าผิด แล้วเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหนีคดีที่ต่างประเทศทำไมไม่มีการดำเนินการทางวินัยบ้าง จะถือเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่

Alibaba Group ของจีนกำลังเข้าจดทะเบียนในจลาดสหรัฐฯด้วยมูลค่าIPOสูงสุดรองแค่กูเกิ้ล


ในขณะที่บ้านเรากำลังเถียงกันระหว่างจะเอา “ถนนลูกรัง” หรือ “รถไฟความเร็วสูง” ที่ตลาดหุ้นของสหรัฐฯ กำลังจะมีบริษัทด้านเทคโนโลยีที่มีมูลค่า IPO สูงสุดเข้าจดทะเบียน มีขนาดใหญ่แซงหน้า IPO ของ Facebook เมื่อปี 2012 นักวิเคราะห์ประเมินมูลค่าบรรษัทแห่งนี้อยู่ที่ 136 -245 พันล้านเหรียญ ใหญ่สุดเป็นรองแค่ Google และคาดว่าจะขายหุ้น IPO บางส่วนคงได้เงินมาไม่น้อยกว่า 20 พันล้านเหรียญแล้ว
บริษัทแห่งนี้ไม่ได้มาจากสหรัฐฯ ครับ แต่มาจากจีน “Alibaba Group” ถามคนไทยส่วนใหญ่คงส่ายหัวว่าไม่รู้จัก แม้แต่คนอเมริกันก็ไม่รู้จัก เพราะเขาขายสินค้าผ่านเน็ตให้กับผู้บริโภคเกือบ 700 ล้านคนในจีนเป็นหลัก ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 1999 หรือ 15 ปีที่แล้วนี่เอง ภายในวันโปรโมชันประจำปีวันเดียว (11/11/56) บริษัทแห่งนี้ทำยอดขาย 5.75 พันล้านเหรียญ มีกำไรสุทธิและยอดขายสูงกว่า Ebay กับ Amazon รวมกัน รายได้เพิ่มจาก 4.1 เป็น 7.9 พันล้านเหรียญระหว่างปี 2555-2556
ผู้ก่อตั้ง Alibaba คือนาย Jack Ma อายุแค่ 49 ปี ตอนเป็นวัยรุ่น เขาสอบเอ็นทรานซ์สองครั้งไม่ติด เลยไปเรียนวิทยาลัยครู จบออกมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ จากนั้นก็เริ่มเข้าสู่วงการไอที เริ่มจากทำเว็บ Yellow Pages ทำเว็บขายสินค้าให้ฝรั่ง แต่ปัจจุบันเขาเป็นประธานบริษัท Alibaba และถือหุ้น 7.4% ใน Alibaba ซึ่งเป็นเว็บ e-commerce ใหญ่สุดในโลก ขายตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ
แจ็ค หม่ารวยได้อย่างไร? เขารวยเพราะเข้าใจ “รากหญ้า” ดีมาก ธุรกิจจำนวนมากที่ขายของผ่านหน้าเว็บเขาเป็นพวก SME ทั้งนั้น มีคนเคยถามเขาว่าทำไมหากินกับรากหญ้าจนได้ดี แจ็ค หม่าตอบว่า “ผมเคยเห็นแต่คนรวยขึ้นมาได้ เพราะจับกุ้งตัวเล็ก ๆ ไปขาย ไม่เคยเห็นใครรวยจากการจับปลาฉลามหรือปลาวาฬสักคน เหมือนที่ฟอเรสต์ กัมพ์บอกไง”
บางคนขนานนามเขาว่าเป็น China's Forrest Gump หนังซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับเขา เขาพูดถึงกัมพ์ว่า “ฟอเรสต์ กัมพ์ไม่ใช่คนฉลาด แต่แน่วแน่ ไม่ใช่คนเก่ง แต่ขยันมาก ๆ เป็นคนเรียบง่ายและมองหาโอกาสเสมอ” เขาบอกต่อว่า "EBay อาจเป็นเหมือนปลาฉลามในมหาสมุทร แต่ผมเป็นจระเข้ในแม่น้ำแยงซี ถ้าไปสู้ในมหาสมุทร เราแพ้ แต่ถ้าสู้กันในแม่น้ำ เราชนะ”
โลกยุคนี้ถ้าเอาใจรากหญ้าเป็น ทุกคนก็มีโอกาสรวยเหมือนแจ็ค หม่า (เสี่ยตัน เสี่ยเจริญ เสี่ยธนินท์ ฯลฯ) แต่ถ้าเขาอยู่เมืองไทยแล้วเล่นการเมือง เขาต้องป่วยเป็นโรคภูมิแพ้รถถังเหมือนคนที่หน้าคล้าย ๆ เขาแน่นอน เพราะบ้านเรามีพวกอำมาตย์ที่ไม่ชอบเล่นตามกติกา ไม่เคยมองเห็นหัวคน เอาใจรากหญ้าไม่เป็น พวกนี้รวยเพราะมรดก เกาะแต่รถถังกับทหารแก่ ๆ เพื่อรั้งอำนาจเอาไว้ น่าเศร้าใจแทนประเทศไทย

เปิดโครงสร้าง ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ กับภารกิจขจัด “คนหมิ่นสถาบันฯ”

เปิดโครงสร้าง ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ กับภารกิจขจัด “คนหมิ่นสถาบันฯ”

เขียนวันที่
วันพฤหัสบดี ที่ 17 เมษายน 2557 เวลา 15:46 น.
เขียนโดย
ณัฐพร วีระนันท์
หมวดหมู่
“…เบื้องต้นคือต้องจับพวกตัวเล็ก ๆ ต้องเล่นให้หนัก ออกข่าวให้หนัก จะได้ไม่มีการกระทำแบบนี้อีก โดยพวกตัวใหญ่ที่รู้กันอยู่แล้วมันเล่นยาก ส่วนพวกที่มีพฤติกรรมกำกวมนั้น จะต้องใช้มาตรการต่อต้านทางสังคมกดดันเข้าไปอีก…”
PIC-เหรยญทอง-องคกรเกบขยะแผนดน
“เราทำในสิ่งที่ประชาชนคนหนึ่งที่ทำตามหน้าที่ เพื่อถวายอารักขา และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้องค์กรเก็บขยะแผ่นดินเป็นองค์กรเปิดเผย ไม่ใช่องค์กรลับ จัดตั้งเป็นองค์กรมหาชน ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีวาระซ่อนเร้นหรือแอบแฝง”
เป็นถ้อยคำบางส่วนของ “พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ในฐานะแกนนำ ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ ที่กล่าวระหว่างการประชุมองค์กรครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2557 ที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เพื่อเฟ้นหาทีมงานและทนายความอาสามาจัดการกับกรณี “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” ทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก
อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าสนใจคือ องค์กรเก็บขยะแผ่นดินที่ว่านี้ มีรูปแบบการทำงาน – ภารกิจหลักเป็นอย่างไร โครงสร้างเป็นอย่างไร
และมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ?
เพื่อความกระจ่างชัด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ขอนำผลการประชุมดังกล่าวมานำเสนออย่างละเอียด ดังนี้
“เราจะเก็บขยะ และทำให้สังคมไทยกลับมาสะอาดอีกครั้ง แม้อาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีก็ตาม เราจะรณรงค์และปลูกฝังในทุกชุมชนให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก แม้จะทำสำเร็จแล้วก็จะทำต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะอีกกี่เดือนหรือกี่ปีก็ตาม”
เป็นภารกิจหลักของ ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ ที่ “พล.ต.เหรียญทอง” กล่าวย้ำในการประชุม ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติมว่า การระดมพลังแผ่นดิน ไม่ได้ทำเพียงคนไม่กี่คน แต่ทำด้วยหัวใจของคนที่รักในสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแท้จริง
“วิธีการขององค์กรไม่มีนโยบาย เนื่องจากแต่ละคนมีดุลยพินิจที่แตกต่างกันไป ไม่สามารถควบคุมหรือสั่งใครได้ และในเมื่อแต่ละคนมีความสามารถในการจัดการที่แตกต่างกันไป แต่โดยหลักขององค์กร ต้องทำให้เกิดเครือข่าย ให้เกิดการแทรกซึมเข้าไปในทุกอณูของสังคม”
“วันนี้คนที่มีความคิดจงรักภักดีในสถาบันกษัตริย์เหมือนกับเรา ได้แทรกซึมอยู่ในทุกชุมชน ทุกหมู่บ้าน เพียงแต่เขายังไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไร แต่หลาย ๆ คนก็ทราบว่าต้องทำอย่างไร และเราจะใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อกดดันหน่วยงานที่มีหน้าที่ทางกฎหมายให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริง ต่อเนื่อง และไม่ชักช้าเอื่อยเฉื่อยเหมือนที่ผ่านมาอีก”
นอกจากนี้ “พล.ต.เหรียญทอง” ยังระบุถึงวิธีการสำคัญที่จะได้ตัวการคนหมิ่นสถาบันฯคือ “เงินมีพลังอำนาจอย่างหนึ่ง เงินเหล่านั้นจะทำให้เราได้ตัวคนเหล่านี้” พร้อมกล่าวสำทับว่า ต้องเริ่มด้วยรูปแบบบูรณาการ ซึ่งการเข้าถึงกลุ่มก่อการเหล่านี้ บางทีต้องใช้เงินเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลและพฤติกรรม เพราะคนเหล่านี้อยู่ด้วยความไม่จริงใจต่อกัน ผลประโยชน์บางอย่างสามารถทำให้ขายกันเองได้ ส่วนอีกรูปแบบคือใช้มาตรการกดดันทางสังคม ให้คนเหล่านี้อยู่ร่วมกับคนอื่นด้วยความยากลำบาก เป็นต้น
โดยโครงสร้างองค์กร แบ่งออกเป็น
1.หน่วยงานบริหารกองทุนและการสนับสนุน ทำหน้าที่เป็นกองทุนเก็บขยะ ประกอบด้วย นักบัญชีและนักการเงิน โดยรวบรวมอาสาสมัครเบื้องต้นก่อนเป็นจำนวน 11 คน เพื่อคิดการจัดการระบบบัญชี
“หน่วยงานบริหารกองทุนและการสนับสนุน จำเป็นต้องมีกองทุนขยะ ซึ่งจะไม่มีนโยบายขอ แต่ประเมินได้ว่าถ้าเกิดขึ้นมาจริงเมื่อไหร่จะมีเงินจำนวนเยอะมาก เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องรอบคอบ เปิดบัญชีไม่ยาก แต่ปัญหาคือองค์กรนี้ต้องบริหารด้วยความโปร่งใสจริง ไม่ใช่ว่าทำขึ้นมาแล้วผู้บริหารไปซี้ซั้วกัน อย่างนี้ทำไม่ได้”
2.หน่วยปฏิบัติงานสำรวจขยะ ทำหน้าที่เป็น ชุดประมวลข่าวกรอง ประกอบด้วย
2.1 เจ้าหน้าที่เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่สามารถสืบค้นได้ถึงข้อมูล ชื่อ – นามสกุลจริง ที่อยู่จริง ทำหน้าที่ตรวจเช็คในขั้นเก็บหลักฐาน เพราะบางทีอาจมีการกลั่นแกล้งกัน ซึ่งอาจทำให้เสียรูปคดีได้
2.2 ชุดสืบค้น ประกอบด้วย จิตอาสาสืบค้น คอยรวบรวมข้อมูลทั้งจากสื่อวิทยุ สื่อโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์ โดยรวบรวมข้อมูล ชื่อ – นามสกุล ภาพถ่าย และพฤติกรรมการหมิ่นของผู้กระทำ โดยหน่วยงานนี้สำคัญมาก และต้องการเครือข่ายเยอะมากในด้านเว็บไซต์ โดยเฉพาะในเฟซบุ๊ก (Facebook)
“เบื้องต้นคือต้องจับพวกตัวเล็ก ๆ ต้องเล่นให้หนัก ออกข่าวให้หนัก จะได้ไม่มีการกระทำแบบนี้อีก โดยพวกตัวใหญ่ที่รู้กันอยู่แล้วมันเล่นยาก ส่วนพวกที่มีพฤติกรรมกำกวมนั้น จะต้องใช้มาตรการต่อต้านทางสังคมกดดันเข้าไปอีก”
3.หน่วยปฏิบัติงานเก็บขยะ ทำหน้าที่เป็น ชุดเจรจา และชุดปฏิบัติการจับกุมและดำเนินคดี ซึ่งประกอบด้วย อัยการ ทนายความ และตำรวจ โดยบางส่วนจะเป็นการเจรจา และมีการพูดคุย ไม่มีการข่มขู่ แต่จะมีการเก็บภาพไว้เป็นหลักฐาน กับอีกส่วนที่ต้องทำหน้าที่ส่งฟ้อง แจ้งความดำเนินคดี และเร่งรัดจับกุม
โดยในการแจ้งความมีการเสนอให้ทนายผู้รับคดีเป็นผู้ยื่นแจ้งความ เพราะการให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวน ถ้าไม่ลงในรายละเอียดว่า เห็นพฤติกรรมมาเป็นอย่างไร จากไอพีแอดเดรส (IP Address) อะไรให้ดีแล้วนั้น เมื่อเรื่องเข้าสู่ศาลอาจถูกยกฟ้องได้
“ส่วนใหญ่เมื่อตรวจสอบเจอ และส่งไอพีแอดเดรสให้กับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ไอซีที) จะได้รับคำตอบกลับมาว่า “เซิร์ฟเวอร์อยู่ต่างประเทศ ไม่สามารถตรวจสอบได้” ศาลจะยกฟ้องทันที ดังนั้นต้องแม่นในด้านข้อเท็จจริง โดยเฉพาะเลขบัตรประชาชน เพราะในโลกออนไลน์ไม่สามารถตรวจสอบได้ ฉะนั้นคนในองค์กรต้องพร้อมเข้าให้ปากคำในชั้นศาลด้วย”
4.หน่วยรณรงค์ป้องกัน ทำหน้าที่เป็น ชุดคิดค้นมาตรการต่อต้านทางสังคม และชุดพัฒนาเครือข่ายชุดชม ประกอบด้วย หน่วยงานและบุคคลที่มีความสัมพันธือันดีกับผู้นำชุมชน
ก่อนที่ “พล.ต.เหรียญทอง” จะเอ่ยถึงบุคคล “เบื้องหลัง” ที่คอยช่วยเหลืออยู่วงนอกว่า มีเพื่อนและลูกศิษย์ที่เป็นทหารในกองทัพหลายคนที่คอยดูแลตรวจสอบเรื่องเหล่านี้อยู่
“ถึงแม้ว่าฉากหน้าเราจะเห็นว่าเขาไม่ได้ทำอะไรกับเรื่องเหล่านี้เท่าไหร่นัก แต่เบื้องหลังนั้นเขากำลังขะมักเขม้นทำกันอย่างแข็งขัน พยามสืบค้นบุคคลที่หมิ่นสถาบันฯอย่างเต็มที่ แต่จะบอกให้คนอื่นรู้มากไม่ได้”
ทั้งหมดนี้คือโครงสร้างองค์กร และรูปแบบการทำงานของ ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ ที่มีเป้าหมายเพื่อ “กำจัด” ผู้หมิ่นพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
อย่างไรก็ดี ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าองค์กรที่ว่านี้ จะสามารถทำได้สำเร็จจริงหรือไม่ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากบุคคลบางกลุ่ม รวมถึงหน่วยงานเอกชนต่างประเทศบางองค์กรว่า มาตรา 112 ละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่ในขณะนี้ !

จุฬาฯเชือดอาจารย์แดง ประเมินไม่ผ่านไม่จ้างต่อ

จุฬาฯเชือดอาจารย์แดง ประเมินไม่ผ่านไม่จ้างต่อ


จุฬาสุดา
เมื่อวันที่ 16 เม.ย. น.ส.สุดา รังกุพันธ์ นักวิชาการที่เป็นหนึ่งในแนวร่วมของกลุ่มนปช. เปิดเผยว่า คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่ต่อสัญญาจ้างพนักงาน (หมวดเงินอุดหนุน) ของตน ซึ่งหมดสัญญาไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค. โดยให้เหตุผลว่าผลการประเมินของตนอยู่ในระดับปานกลาง และคาดว่าจะเป็นเช่นนี้ในการประเมินครั้งต่อไป ซึ่งถือเป็นการตัดสินตนล่วงหน้าว่า ตนจะไม่สามารถปรับปรุงผลการปฏิบัติงานให้ดีขึ้นได้
ทั้งนี้ แม้ว่าเหตุผลทางการเมืองจะไม่ถูกระบุไว้ในเหตุผล แต่ก่อนหน้าที่จะมีการแจ้งไม่ต่อสัญญา ก็มีสัญญาณบางอย่างที่ไม่ดี คือ ผู้บริหารแจ้งตนมาว่า อธิการบดีถูกกรรมาธิการวิสามัญวุฒิสภาเรียกเข้าไปสอบสวน โดยอ้างถึงกรณีที่ตนไปเล่นงิ้วธรรมศาสตร์ ร่วมกับอีกหลายคน ในงานรำลึกเหตุการณ์ 14 ต.ค. อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากสภามหาวิทยาลัยว่าจะเลิกจ้าง แต่ทราบจากทางคณะอักษรศาสตร์ว่า คณะกรรมการพิจารณาต่อสัญญาไม่ต่อสัญญาจ้างงานเท่านั้น
น.ส.สุดากล่าวต่อว่า หลังจากนี้ จะทำเรื่องอุทธรณ์เรื่องการต่อสัญญา เพราะอยากเห็นความเป็นธรรมในระบบการจ้างงานในมหาวิทยาลัย ที่ผ่านมา ตนมองว่ามีบรรทัดฐานการจ้างงานพนักงานในมหาวิทยาลัยที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมมาโดยตลอด ซึ่งเป็นผลมาจาก พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ในสมัยสภาที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 

โดยกรณีที่หนักกว่าของตน คือ การจ้างอาจารย์เป็นรายโครงการ หรือการจ้างงานแบบเอาต์ซอร์ส ขณะที่อาจารย์ระดับสูงในระบบราชการ สามารถต่ออายุการจ้างงานของตัวเองต่อไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ได้ทั้งเงินเกษียณอายุ เงินบำนาญ และเงินเพิ่มจากการเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยด้วย หลังจากนี้ ตนตั้งใจจะสานงานต่อเรื่องสิทธิมนุษยชนของนักโทษการเมืองต่อไป
ที่มา ข่าวสดออนไลน์

กองทัพ โต้ข่าวลือ ทหารจะปฏิวัติ 19เม.ย.


โฆษกกองทัพบก ชี้แค่ข่าวลือทหารไม่ปฏิวัติ 19เม.ย. หลังถูกแชร์สนั่นในอินเทอร์เน็ต วอนประชาชนใช้วิจารณญานในการรับข่าวสาร

วันนี้ (16 เม.ย. 57) กองทัพได้ออกมาตอบโต้ ภายหลังมีข่าวลือตามโลกออนไลน์ ว่า กองทัพเตรียมทำรัฐประหารในวันที่ 19 เมษายน 2557 เวลา 04.00น. โดย พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก เผยว่า ขอปฏิเสธว่ากระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงและเป็นเพียงข่าวลือตามโซเชียลมีเดียเหมือนที่ผ่านมาเท่านั้น ขณะนี้ทางกองทัพยังไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงจากงานที่ปฏิบัติอยู่ คือ

1.การดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยและภัยพิบัติต่าง ๆ
2.การดูแลพื้นที่ชายแดนเพื่อตรวจจับผู้ที่กระทำผิดลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดนแล
และ3.การดูแลรอบบริเวณพื้นที่ชุมนุมต่างๆและสถานที่สำคัญตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ดังนั้นขอให้พี่น้องประชาชนได้ใช้วิจารณญาณในการรับฟังข่าวสารดังกล่าวด้วย


ยกฟ้อง คดีคนขายหนังสือกงจักรปีศาจ

ยกฟ้อง คดีคนขายหนังสือกงจักรปีศาจ
17 เมษายน 2557 ที่ห้องพิจารณาคดี 406 ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษายกฟ้องคดีคนขายหนังสือเร่ เอาหนังสือ "กงจักรปีศาจ" มาวางขาย ถูกดำเนินคดีมาตรา 112
ศาลพิเคราะห์ว่า ข้อความทั้งหกตามฟ้องที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ เมื่อผู้เขียนได้กล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชด้วยแล้ว ย่อมแสดงให้เห็นได้ว่าผู้เขียนมีเจตนาให้พระองค์ต้องเสื่อมเสียพระเกียรติยศชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
ส่วนข้ออ้างของจำเลยที่บอกว่าต้องอ่านหนังสือทั้งเล่มจึงจะบอกได้ว่าหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์หรือไม่นั้น เห็นว่า ข้อความทั้งหกตามฟ้องอ่านแล้วได้ใจความมีความหมายเข้าใจได้โดยไม่ต้องอ่านหนังสือทั้งเล่ม
จำเลยเป็นคนขายหนังสือ "กงจักรปีศาจ" ที่มีข้อความหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ เมื่อจำเลยไม่ใช่คนเขียนหนังสือหรือคนแปลหนังสือจากภาษาต่างประเทศเป็นภาษาไทย การจะฟังว่าจำเลยมีความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์นั้น จำเลยต้องรู้ข้อเท็จจริงว่ามีข้อความหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ทั้งหกข้อความตามฟ้องอยู่ในหนังสือที่จำเลยขาย
จากคำเบิกความของตำรวจผู้จับกุม ไม่อาจยืนยันหรือรับฟังได้ว่าจำเลยได้รู้ถึงข้อเท็จจริงอันได้แก่ข้อความทั้งหกข้อความ พยานโจทก์ปากอื่นๆ ไม่มีใครรู้เห็นอีก และทางนำสืบของโจทก์ไม่ปรากฏพฤติการณ์ใดของจำเลยอันจะทำให้เชื่อได้ว่าจำเลยได้รู้ถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว เมื่อยังไม่แน่ชัดว่าจำเลยรู้ถึงข้อเท็จจริงอันเป็นข้อความหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ การที่จำเลยนำหนังสือกงจักรปีศาจมาวางจำหน่าย ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนากระทำความผิด
คดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด คดีอาญาโจทก์มีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาสืบให้ได้ความชัดแจ้ง ปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง พยานหลักฐานที่นำสืบมายังไม่อาจรับฟังได้โดยปราศจากความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง จึงต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 227 วรรคสอง
หนังสือ "กงจักรปีศาจ" มีข้อความบางตอนหมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ จึงให้ริบ
อ่านรายละเอียดคดีได้ที่ http://freedom.ilaw.or.th/case/485#detail และอ่านเรื่องราวได้ที่ http://freedom.ilaw.or.th/node/126

รับสมัครทหารมหาดเล็กหญิงราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ


สุภาพสตรี ที่อายุ 20-28 ปี จบ ม.6-ป.ตรี และมีสถานะ *โสด*  ต้องนับถือศาสนาพุทธ* มีส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 165 ซม. และ *พ่อ-แม่*ให้ความยินยอม ..สามารถ สมัครเป็นทหารมหาดเล็กหญิงระหว่างวันที่1สิงหา-26 กันยา2557 นี้ ถือเป็นครั้งแรกที่จะเปิดรับสมัคร *ทหาร*มหาดเล็กราชวัลลภหญิง เงินเดือน 11800.- สามารถไปเรียนโดดร่มได้ เรียนหลักสูตรทางทหารอื่นได้ ถ้าอยากเรียน


จับตาสัญญาณอันตราย! ตัดโอที-จ่ายเงินเดือนช้า นักธุรกิจชี้โรงงาน"กลาง-ย่อย"กระทบแล้ว

จับตาสัญญาณอันตราย! ตัดโอที-จ่ายเงินเดือนช้า นักธุรกิจชี้โรงงาน"กลาง-ย่อย"กระทบแล้ว

วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 18:52:22 น.


นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ร้านค้าย่อย (โชห่วย) ทั่วประเทศ เริ่มได้รับผลกระทบจากการที่โรงงานผลิตสินค้าระดับล่างและโรงงานขนาดกลางและย่อย (เอสเอ็มอี) ลดเวลาทำงานจากปกติ (โอที) ลดสวัสดิการของพนักงาน และจ่ายเงินเดือนล่าช้า เพื่อลดภาระผู้ประกอบการและลดความเสี่ยงทางธุรกิจ หลังเริ่มได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ซบเซา และการส่งออกยังไม่ฟื้นตัวอย่างที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการซ้ำเติมยอดขายของร้านค้าโชห่วยให้ลดลงอีก จากที่กำลังได้รับผลกระทบอยู่แล้ว จากกรณีรัฐบาลจ่ายชำระเงินค่าจำนำข้าวให้ชาวนาล่าช้าและยอดเงินที่ได้รับยังค่อนข้างน้อย และความเดือดร้อนของเกษตรกรกับสินค้าราคาเกษตรตกลง โดยเฉพาะข้าวฤดูกาลใหม่นาปรัง 2557 ราคารับซื้อต่ำเหลือแค่ตันละ 5,000 บาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนขายอย่างต่ำๆ ก็เกินตันละ 7,000-8,000 บาท และราคายางพารายังต่ำลงต่อเนื่อง รวมถึงปัญหาจากภัยแล้ง ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะกระทบต่อผลผลิตที่เสียหายไปเท่าไหร่

"กังวลว่ากำลังซื้อจากกลุ่มผู้ใช้แรงงานระดับล่างลดลง หรือเกิดการตกงาน ร้านค้าริมถนนจะได้รับผลกระทบเป็นด่านแรก เหมือนร้านค้าเล็กๆ ในต่างจังหวัด เริ่มเจอปัญหายอดขายลดลง ทำให้ต้องลดการสั่งซื้อสินค้าจากค้าส่ง ซึ่งยี่ปั๊วซาปั๊วอย่างเรา ก็ต้องลดการสั่งซื้อสินค้าจากผู้ผลิตสินค้า ทำให้โรงงานก็ต้องลดเวลาทำงาน จ่ายเงินล่าช้า ยังไม่รวมปัญหาการเลิกจ้างและบัณฑิตใหม่ตกงาน เงินรายได้ที่จะหมุนเวียนในระบบ 3-4 รอบเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยก็หายไป เห็นได้จากการปรับลดตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของหน่วยงานต่างๆ" นายสมชายกล่าว

นายสมชายกล่าวว่า สัญญาณเตือนภัยต่อระบบเศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก คือ การแข่งขันจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย จัดรายการลด แลก แจก หรือแถมกันรุนแรงในขณะนี้ เพื่อเป็นการรักษาลูกค้าและพยุงรายได้บริษัท จึงอยากให้ปัญหาการเมืองจบลง เพราะเป็นต้นเหตุของปัญหาอื่นๆ โดยเฉพาะการบริโภคลดลง การท่องเที่ยวน้อยกว่าปกติ เงินฝืดเพราะคนระมัดระวังการใช้จ่ายกลัวรายได้อนาคตลดลงและตกงาน ตอนนี้ที่ดูว่าการค้าปลีกค้าส่งยังเดินได้ แต่ไม่ได้ขายได้ขายดีในทุกพื้นที่

น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบภาวะการประกอบการของผู้ประกอบการธุรกิจ พบว่าภาคบริการในต่างจังหวัดมีการหดตัวบ้างแล้ว ซึ่งปัจจุบันสัดส่วน 70-80% เป็นธุรกิจต่างจังหวัด และส่วนใหญ่ยังใช้แรงงานในการผลิตอยู่จำนวนมาก หากได้รับผลกระทบย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ ซึ่งกรมกำลังเฝ้าติดตามและเตรียมหาแนวทางช่วยเหลือธุรกิจที่มีปัญหา โดยธุรกิจที่น่าห่วงคือธุรกิจที่ใช้แรงงานมาก เช่น การผลิตสิ่งทอ เครื่องเรือน เป็นต้น

จีนสนใจลงทุนขุดคลอง ‘คอคอดกระ’ ตั้งคณะทำงานแล้ว

จีนสนใจลงทุนขุดคลอง ‘คอคอดกระ’ ตั้งคณะทำงานแล้ว

คอคอดกระ
สำนักข่าวในประเทศจีนรายงานข่าวว่า จีนสนใจลงทุนขุดคลองตัดภาคใต้ของประเทศไทย (ที่คนไทยเรียกกันในชื่อ “คอคอดกระ”) เพื่อเชื่อมอ่าวไทยกับทะเลอันดามันด้วยกัน
ข้อมูลตอนนี้ยังมีเพียงเล็กน้อย โดยคาดว่าจีนจะลงทุนในนามบริษัทร่วม เบื้องต้นมีบริษัทจีน 3 รายที่รวมตัวกันเพื่อตั้งกลุ่มผลักดันโครงการขุดคลองไทย
  • LiuGong Machinery Co. Ltd บริษัทก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดยรัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ
  • XCMG บริษัทเครื่องจักรกลอันดับ 5 ของดลก โดยรัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ
  • Sany Heavy Industry Co Ltd บริษัทเครื่องจักรกลอันดับ 6 ของโลก

ไมเคิล ยอน:คนที่เฉลิม จับมาไม่ใช่ !

คนที่เฉลิม จับมาไม่ใช่ !
ไมเคิล ยอน ชี้ มือปืนป๊อปคอร์น
เปรียบเหมือนแบทแมน เชื่อเป็นทหาร

ไมเคิล ยอน นักข่าวอิสระชาวอเมริกัน ได้โพสข้อความถึงชาวต่างชาติ อธิบายเกี่ยวกับปรากฎการณ์มือปืนป๊อปคอร์น โดยนักข่าวอิสระรายนี้ ได้ยกให้มือปืนป๊อปคอร์น ยิ่งใหญ่เทียบเท่าแบทแมน และเป็นกระแสดังจนมีผู้เลียนแบบในเทศกาลสงกรานต์ โดยบทความของไมเคิล ยอน แปลเป็นภาษาไทยดังนี้
สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ติดตาม “ป็อปคอร์น”เป็นทีนิยมในประเทศไทย นี้คือวิธีที่ มันเกิดขึ้น : ประมาณเมื่อสองเดือนที่แล้ว ผู้ประท้วงที่สงบสันติบางส่วนถูกโจมตีในกรุงเทพฯ พวกเขาเป็นผู้สนับสนุน กปปส. พระภิกษุสงฆ์ที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลโน้มน้าว นามว่า พระพุทธอิสระ ผู้ประท้วงไม่มีอาวุธ แต่ การ์ดของพวกเขาอาวุธซ่อนไว้ มีความเชื่ออย่างสูงว่าการ์ดเหล่านี้เป็นทหารหรืออดีตทหาร (ท่านพุทธอิสระเองก็เป็นทหารมาก่อน – และขอบอกอย่างเปิดเผยว่า ผมเห็นว่าท่านพุทธอิสระ เป็นคนดี)

ดังนั้นเมื่อฝ่ายก่อความรุนแรงของเสื้อแดง เริ่มยิงผู้ประท้วงที่สงบสันติ อย่างน้อยการ์ดหนึ่งคนได้ออกมาพร้อมกับอาวุธแบบทหาร ที่ซ่อนอยู่ในถุงข้าวโพดคั่ว Kolk เราสามารถบอกได้ว่ามันคือลักษณะแบบทหาร เพราะ ส่วนของอาวุธก็ควรจะเผยแค่ให้เห็นได้แค่นั้น หากมีการถ่ายภาพการ์ดตอบโต้กลับ คนเสื้อแดงที่ต้องหนีกระเจิงเมื่อมีการยิงสวน คนทั่วไปยังไม่ใครทราบว่า “ป็อปคอร์น” เป็นใคร มีชายผู้น่าสงสารผู้หนึ่งโดนจับในข้อหานี้ แต่คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเขาโดนใส่ความ โดยส่วนตัวผมคิดว่า ป็อปคอร์นเป็นทหารบกหรือหน่วยซีลของกองทัพเรือ ถ้าไม่มีพวกเค้าในวันนั้น คนจำนวนไม่น้อยอาจจะถูกฆ่าตาย

จะเป็นกรณีใดตาม “ป็อปคอร์น” ได้กลายเป็นเหมือน แบทแมน หรือ ฮีโร่ผู้พิทักษ์ ที่มีชื่อเสียงดังมากในชั่วข้ามคืน เสื้อยืดขายดีเป็นเทน้ำเทท่า คุณสามารถเห็นคนในกรุงเทพฯ สวมเสื้อยืดป็อปคอร์น และเทศกาลเล่นน้ำสงกรานต์ ผู้คนจะแต่งตัวเหมือนป็อปคอร์นแลัวเอาปืนฉีดน้ำใส่ไว้ในกระสอบ


เฉลิม ! เตรียมออกแถลงการณ์เตือนองค์กรอิสระ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความสงบ(ศอ.รส.) กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ด้านความมั่นคงของประเทศพบว่ากำลังเกิดความไม่สงบจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(ปปช.) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ โดยยืนยันว่าไม่ใช่เพราะนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่เคารพคำตัดสินของศาล แต่เป็นเพราะมวลชนพรรคเพื่อไทยและนายกรัฐมนตรีที่ไม่ยอมรับเพราะเห็นว่าสองมาตรฐาน เพราะคดีที่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์กลับไม่ถูกดำเนินการใดๆ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะนำไปสู่หายนะ

"อยากเตือนศาลรัฐธรรมนูญว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญ 309 มาตรา ไม่มีสักมาตราที่ให้ลงโทษคดีอาญา เพราะศาลรัฐธรรมนูญเป็นศาลการเมือง ไม่มีอำนาจลงโทษ และถ้ากระตุกหรือเหนี่ยวรั้งกันแล้วศาลรัฐธรรมนูญไม่ฟัง ไปเชื่อพวก กปปส.ที่ยุให้พิจารณาคดีเดินหน้าให้บ้านเมืองเป็นสุญญากาศ เชื่อได้บ้านเมืองหายนะเกิดกุลียุคแน่เพราะรัฐบาลยังรักษาการได้ตามมาตรา 181 ต้องรักษาการต่อไป" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่ายืนยันว่าการเสนอมาตรา 7 ขอนายกรัฐมนตรีพระราชทานมิอาจกระทำได้ เพราะจะระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท แต่ในขั้นต้นเท่านั้น สำหรับขั้นตอนต่อไปในสัปดาห์หน้าต้องติดตามว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคดีการสิ้นสภาพตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากการมีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี โดยมิชอบอย่างไรจากนั้นจึงจะมาพิจารณาอีกครั้ง โดยในวันนี้จะออกแถลงการณ์เตือน ปปช.คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)และศาลรัฐธรรมนูญ ต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้นรวมถึงทางออกของรัฐบาลด้วย

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าข้อเสนอของคณะบุคคลนำโดยพล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีต ผบ.ทหารสูงสุด เสนอให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เสนอร่างพระบรมราชโองการ ขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ทรงลงพระปรมาภิไธย เพื่อหาทางออกให้ประเทศ เชื่อว่าคนไทยทุกคนมีสิทธิ์คิดที่จะเสนอทางออกประเทศ แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ

ทั้งนี้การเรียกประชุมระดับปลัดกระทรวงที่ ศอ.รส.หากปลัดคนใดไม่มาร่วมประชุมย่อมทำได้ แต่สำหรับกรณีนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข น่านับถือที่กล้าหาญ เพราะบ้านเมืองต้องการบุคคลแบบนี้ เพื่อจะให้การเมืองมีสีสัน แต่การแสดงออกดังกล่าวว่าเลือกข้าง กปปส.และประกาศไม่เอารัฐบาล แต่หากรัฐบาลตั้งหลักได้เมื่อไร จะสั่งโยกย้ายทันที จึงอยากเตือนว่า นพ.ณรงค์ แทงหวยผิดข้าง

"วันนี้ที่ศอ.รส.เรียกประชุมปลัด ใครไม่มาก็ไม่ต้องมา อย่าซีเรียสเอาเป็นเอาตาย ไม่ว่างก็ไม่ต้องมา เพราะวันนี้แค่อยากเรียกมาพูดคุยปรับทุกข์ อยากจะเล่าให้ท่านปลัดฟังว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร เพราะไม่มีใครไปขู่ปลัดกระทรวงได้ ยกเว้นภรรยาที่บ้านของท่าน" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว