PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561

มันคืออาการ 'หมั่นไส้'

“ไอ้ซังกะบ๊วย” รวมหัวกันแก้เผ็ด

เหตุต่อเนื่องจากปม กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งที่ “จะตายห่ากันหมด”

ตามท้องเรื่อง เลยเถิดมาถึงคิวแท็กทีมหักหน้า “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะหัวหน้า คสช. ส่งเทียบเชิญพรรคการเมืองร่วมวงถกเลือกตั้งกับทีมงานแม่น้ำ 5 สาย ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้

“ขาใหญ่” ออกฤทธิ์ออกเดช แสดงอาการไม่ยี่หระ

ในอารมณ์แบบที่พรรคประชาธิปัตย์ “ยึกยัก” ตั้งแง่ความเหมาะสมของสถานะ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มี 3 สถานะในขณะนี้คือ หัวหน้า คสช. นายกรัฐมนตรี และว่าที่ผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง มีความเหมาะสมหรือไม่ หากนั่งเป็นประธานการประชุมแม่น้ำ 5 สาย

อาการเดียวกับลูกข่าย “ทักษิณ” ทั้งพรรคเพื่อไทย ค่ายไทยรักษาชาติ ที่ประกาศไม่ร่วมวงถกเลือกตั้งกับ พล.อ.ประยุทธ์ และทีมงานแม่น้ำ 5 สาย เพราะ คสช.ไม่มีความชอบธรรมในการจัดเลือกตั้ง

ประชาธิปัตย์ ลูกข่าย “ทักษิณ” แท็กทีมโชว์เขี้ยวใส่ “บิ๊กตู่”

ยกระดับเกมเฮี้ยวใส่ฝ่ายคุมเกมอำนาจพิเศษ

ส่อแข็งข้อตั้งแต่ยังไม่ปลดล็อกกฎเหล็ก เข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ

สัญญาณที่ “ลุงตู่” จะต้องเผชิญโจทย์ยากในสนามการเมือง สวนทางกับ “ภูมิคุ้มกัน” มาตรา 44 ลดความแรงลงไป เตรียมรับมือกับลูกเขี้ยวของขาใหญ่เจ้าถิ่นได้เลย

แต่เบื้องต้น เฉลยตามเงื่อนไขสถานการณ์ตรงหน้า กับอาการประชาธิปัตย์ ลูกข่าย “ทักษิณ” แท็กทีมเชิดใส่ “ลุงตู่” ไม่ร่วมวงถกเลือกตั้งกับแม่น้ำ 5 สาย

อ่านไต๋ง่ายๆ ปมเหตุมันมาจากอาการ “หมั่นไส้”

โทษฐานยี่ห้อ “พลังประชารัฐ” ตีกินอยู่เจ้าเดียว

ทีมหนุน “ลุงตู่” ได้สารพัดปัจจัยเกื้อหนุน “น้องใหม่เส้นใหญ่” เดินหน้าโกยแต้มแบบเป็นกอบเป็นกำ

ในขณะที่ป้อมค่ายอื่นยังแต่งตัวไม่เสร็จด้วยซ้ำ

อย่าว่าแต่ฝั่งตรงข้าม แม้แต่แนวร่วมพวกเดียวกันเองยังอดเขม่นไม่ได้

ตามเหตุที่โยงกับปรากฏการณ์แปร่งๆ “สูตรรัฐบาล” ที่มาไวเกินเหตุ

แกะรอยกระแสข่าวลือสะพัดตามสื่อ อ้าง “พี่ใหญ่” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะโต้โผใหญ่ดันหลัง “นายกฯลุงตู่” ตีตั๋วต่อ

“เปิดดีลข้ามช็อต” ต่อสายเสนอเก้าอี้กระทรวงเกรดเอให้พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของ “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค

แลกกับการเทเสียงโหวตหนุน “นายกฯลุงตู่” ในสภา

และนั่นก็เป็นสถานการณ์ให้ “เดอะมาร์ค” ได้โชว์หล่อ ยักไหล่เบิ้ลบลัฟใส่พลังประชารัฐที่ประกาศได้ 350 เก้าอี้ ไม่เห็นต้องมาคุยอะไรกับพรรคประชาธิปัตย์

ทุกอย่างต้องผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ประชาชนต้องให้คำตอบก่อน

สวนมวย อย่ามาพูดเรื่องตำแหน่ง เพราะไม่ใช่จุดประสงค์ของพรรค เป้าหมายแท้จริงของประชาธิปัตย์คือนำพาประเทศไปในทิศทางที่ถูกต้อง

เรื่องของเรื่อง พูดไป “อภิสิทธิ์” เองก็ยังงงๆกับ “ข่าวลอยลม” ที่ออกมา

และน่าสังเกต มันโผล่ในจังหวะไล่หลังที่ “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขาใหญ่ กปปส. ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ออกอาการเฮี้ยว

หันมาแว้งใส่ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล

อ้างเดินสายคารวะแผ่นดิน รับเสียงด่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ยากจน ไม่มีอันจะกิน

“เทพเทือกโพล” ปล่อยข้อมูลดิบแข่งกับโพลสถาบันการศึกษา นัยแฝงเหลี่ยมเตะสกัด “รัฐมนตรี 4 กุมาร” พลังประชารัฐ เบรกความร้อนแรงของมาตรการที่ทีมเศรษฐกิจของ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์”

เดินหน้าอัดฉีดเพิ่มวงเงินบัตรคนจน แจกเงินปีใหม่ ช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน เพิ่มบำนาญข้าราชการ

ดันแต้มต่อยี่ห้อ “พลังประชารัฐ” เกินหน้าเกินตาคู่แข่ง

โอกาสกวาดที่นั่งตามเป้า 150 เก้าอี้ เห็นอยู่ใกล้ๆแค่เอื้อม

มันก็ไม่แปลกถ้าความรู้สึก “เหลื่อมล้ำ” จะจูงใจ “เทพเทือก” ต้องล่อเป้าคนกันเอง

แต่แน่นอน เมื่อฝ่ายคุมเกมอำนาจ คสช.เบนหัวเรือมาเปิดดีลตรงกับทีม “อภิสิทธิ์” นั่นเท่ากับวัดใจทีม “เทพเทือก” ที่ถือแต้ม

“ติดก้นหม้อ” ของยี่ห้อ รปช. บวกงูเห่าที่แฝงอยู่ใน ปชป.

เกมนี้เป็นการเอาเหยื่อล่อประชาธิปัตย์ให้ฟัดกันเอง.

ทีมข่าวการเมือง

คสช.คาดปชป.มีทาางเลือกเดียวร่วมพปชร.

5 ธ.ค.61 - รายงานข่าวจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เปิดเผยว่าจากกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้โทรศัพท์ติดต่อกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อช่วยประสานไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชารัฐ

แม้พล.อ.ประวิตร และนายเฉลิมชัย จะปฏิเสธ รวมทั้งท่าทีของนายอภิสิทธิ์ วันนี้ก็ปฏิเสธที่จะร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐ อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวอ้างว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง ว่าพรรคไหนจะมาร่วมรัฐบาลแล้วจะแบ่งโควต้ารัฐมนตรีกันอย่างไร

แหล่งข่าว บอกว่าระหว่างที่มีการเลือกตั้ง ทางพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีการเจรจากับคสช. จนกว่าการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ เพราะช่วงเลือกตั้งก็เหมือนการเปิดศึกระหว่างกัน จะไม่มีการอ่อนข้อให้กัน แต่หลังเลือกตั้งค่อยมาว่ากันอีกครั้ง 

"ทางคสช.ทราบดีว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถที่จะไปร่วมทำงานกับพรรคเพื่อไทยได้ ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงมีทางเลือกเดียวที่จะไปร่วมทำงานได้ ก็คือพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น"แหล่งข่าว อ้าง.

สมศักดิ์มั่นใจลุงตู่นอนมานายกสองสมัย

5 ธ.ค.61 -  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวช่วงหนึ่งระหว่างเป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐและรับสมัครสมาชิก ที่จังหวัดนครสวรรค์ ว่า เวลานี้มีการกล่าวให้ร้าย เพื่อให้ตัวเองได้คะแนนเสียงไปจัดตั้งรัฐบาล และประชาชน คงเห็นว่า การหาเสียงเมื่อ 2 ครั้งที่ผ่านมา มีคนพูดจะเอานายทักษิณ กลับบ้านซึ่งก็ยังไม่สามารถจะทำได้ เมื่อมีการพยามความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นในบ้านเมืองอย่าง

นายสมสัมศักดิ์ กล่าวต่อว่าเช่นในสมัยของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เคยจะออกกฎหมายนิรโทษกรรม จึงเกิดการประท้วงของกลุ่ม กปปส.จนท้ายสุด ลุงตู่ ต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ และถ้าไม่เข้ามาในวันนั้นประเทศเราจะเป็นอย่างไร และเมื่อลุงตู่เข้ามา ก็มาทำสำเร็จในเรื่องความสงบเรียบร้อย และปัจจุบัน ก็มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ช่วยเหลือประชาชนอีกด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่าจากประการณ์ทางการเมืองเวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีโอกาสง่ายกว่าคนอื่นที่จะเป็น นายกฯอีกสมัย เพราะ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีอำนาจในการแต่งตั้ง สมาชิกวุฒิภา (ส.ว.)ตามรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดในบทเฉพาะกาล และส.ว.เป็นผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกนายกฯร่วมกับ ส.ส.

'บิ๊กตู่'จัดทัพใหญ่ลุยอีสาน! ครม.สัญจร'บึงกาฬ-หนองคาย' ไหว้พระ3วัดดัง-คิวแน่นพบปะปชช.

"บิ๊กตู่"เตรียมทัวร์อีสาน ครม.สัญจร"บึงกาฬ-หนองคาย" ไหว้พระ3วัดดัง-คิวแน่นพบปะประชาชน
4 ธ.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีกำหนดการตรวจราชการที่ จ.บึงกาฬ และประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ จ.หนองคาย ระหว่างวันที่ 12 - 13 ธ.ค.นี้
โดย พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ มีกำหนดการไปมอบอาคารน้ำดื่มให้แก่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 จ.บึงกาฬ ก่อนตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำหนองเบ็นเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย ที่ ต.บึงกาฬ อ.เมือง จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังวัดโพธาราม เพื่อสักการะหลวงพ่อพระใหญ่ ก่อนต่อไปยังสวนสาธารณะหนองบึงกาฬ และบึงสรรค์ เพื่อพบปะประชาชน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดให้การต้อนรับ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้โอกาสนี้เปิดโครงการบูรณาการแพทย์เคลื่อนที่เพื่อดูแลประชาชนของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมเยี่ยมชมผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล เช่น เกษตรแปลงใหญ่ ข้าวครบวงจร โอทอป เป็นต้น
พ.อ.หญิง ทักษดา กล่าวว่า ช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปพบปะประชาชนชาวหนองคาย ที่สถานีผลิตน้ำปะโค การประปาส่วนภูมิภาคหนองคาย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดให้การต้อนรับ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จะเปิดโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค อ.เมือง - อ.สระใคร ก่อนเดินทางไปยังวัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) เพื่อสักการะหลวงพ่อพระใส และไปเยี่ยมชมหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ ต.บ้านเดื่อ โดยจะสักการะหลวงพ่อใหญ่อุทุมพร วัดอุทุมพร ชมการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้าน ก่อนเข้าที่พักในช่วงเย็น
จากนั้นเช้าวันที่ 13 ธ.ค.61 พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดอีสานตอนบน 1 ประกอบด้วย จ.บึงกาฬ , จ.เลย , จ.หนองคาย , จ.หนองบัวลำภู , จ.อุดรธานี 
ก่อนจะมีการประชุม ครม.สัญจร ในเวลาต่อมา ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย

นายกฯเตรียมพร้อม'พระราชพิธีบรมราชาภิเษก'หลังเลือกตั้ง วอนทุกฝ่ายทำบ้านเมืองให้สงบ

เมื่อเวลา 14.40 น.วันที่ 4 ธ.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถึงพระราชพิธีสำคัญที่จะเกิดขึ้นว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนรัชกาล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับครองราชย์ เหลือพิธีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมี 2 ช่วงคือ การทำงานของรัฐบาลเพื่อเตรียมงานเข้าสู่ช่วงพระราชพิธี และช่วงที่ 2 เมื่อโปรดเกล้าฯกำหนดลงมาแล้ว
นายกฯกล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลจะต้องเตรียมการในส่วนของโบราณราชประเพณี ซึ่งเกี่ยวกับหลายๆเรื่องและหลายจังหวัด จำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควร ต้องมีพิธีมากกว่า 10 อย่าง ทั้งหมดคือความร่มเย็นของประเทศ จะต้องนำน้ำจากแหล่งน้ำทั่วประเทศ สายน้ำที่สำคัญ ดินทุกจังหวัด มาประกอบพิธีที่กำหนดไว้ในโบราณราชประเพณี หรือเรียกว่าจารีตประเพณี โดยในช่วงที่ 2 นี้ใช้เวลาหลายวันเป็นหมายกำหนดการของสำนักพระราชวังที่จะมีลงมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เริ่มเตรียมการในส่วนนี้แล้วหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า ต้องรอห้วงเวลาที่จะทรงโปรดเกล้าฯลงมาก่อน คิดว่าคงไม่นานนักพระองค์ท่านจะทรงพิจารณาโปรดเกล้าฯลงมา ซึ่งพิธีสำคัญนี้เป็นเรื่องของเหนือหัวขอให้จำไว้
เมื่อถามว่า ช่วงนี้รัฐบาลจะต้องมีการจัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อยก่อนใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องดูว่าจะทำอย่างไร ถ้าเวลาเกิดพอดีกัน จะทำอย่างไรให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย รวมถึงการเลือกตั้ง ช่วยกันได้หรือไม่ เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศ ต้องเข้าใจกลไก ต้องเข้าใจนายกฯทำเพียงคนเดียวไม่ได้ บางอย่างไม่ควรไปยุ่ง หลายอย่างแก้ไม่ได้ จะให้ใช้อำนาจมาตรา 44 ก็ต้องพิจารณาก่อนว่าควรหรือไม่ควร  ไม่ใช่มีอำนาจแล้วอยากจะใช้ก็ใช้ กฎหมายเสียหมด
เมื่อถามย้ำว่า ถ้าเป็นเช่นนี้แสดงว่าต้องจัดเลือกตั้งก่อนใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า"ยังไงก็ต้องเลือกตั้งก่อนอยู่แล้วล่ะ"

จะยอมรับกันหรือเปล่า!'บิ๊กตู่'ชักหวั่นไหวฝ่าด่านสภาฯไปนั่งนายกฯต่อไม่ง่าย

“ประยุทธ์” ลีลายั่วสื่อยิ่งอยากรู้ยิ่งไม่บอก จะมีชื่ออยู่พรรคไหน แต่แย้ม“พปชร.”ตัวเต็งอ้างนโยบายสอดคล้อง”เดินหน้าประเทศอย่างมียุทธศาสตร์”ท้าพรรคไหนมีของดี ควักออกมาโชว์ เปรียบนักการเมืองเหมือนนักกีฬา ลงสนามต้องรับกติก
4 ธ.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถึงความชัดเจนในการเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯในบัญชีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ว่าพรรคพลังประชารัฐ เขาชัดเจนแล้วทำไมตนจะต้องไปชัดเจนกับเขาด้วย
“ทำไมอยากจะรู้เหลือเกิน ทุกพรรคก็เสนอชื่อผมทั้งนั้น แต่ไม่เห็นมีใครมาเชิญผมซักที เขาจะพูดก็พูดไป ผมยังไม่ตัดสินใจ ทำไมจะเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้กันหรืออย่างไร อยากรู้กันหรือ แต่ผมยังไม่ให้รู้ ถ้ายิ่งอยากรู้ก็ไม่ให้รู้ ถ้าไม่อยากรู้ เดี๋ยวผมจะพูดเอง”
เมื่อถามว่า มันคืออนาคตของประเทศ ประชาชนก็อยากรู้ นายกฯ กล่าวด้วยน้ำเสียงล้อเลียนคำถามผู้สื่อข่าวว่า “แหม่ อนาคตของประเทศ ไม่ต้องมาพูด” ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกหรือไม่ว่าทำไมพรรคการเมืองถึงเสนอชื่อท่าน เป็นนายกฯ  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่รู้ซิ ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่อาจจะพิจารณาตัวเองได้ว่าเก่งหรือไม่เก่ง และเขาเลือกผมเพราะอะไรก็ยังไม่รู้เหมือนกัน คงอาจเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อยดีมั้ง เขาเห็นแค่นั้นหรือเปล่าผมไม่รู้ หรือจะหมายความอย่างอื่นด้วย”
เมื่อถามว่า รู้สึกดีใจหรือไม่ที่ถูกเลือก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาเรียกว่าบารมี 10 ประการ ขันติบารมี คือไม่ยินดี ยินร้ายต่อคำชมและคำติฉินนินทา เข้าใจหรือยัง ตนกำลังใช้อยู่ เมื่อถามว่า แสดงว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายที่ถูกเลือก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่สนใจ เพราะถือว่านี่ไงพระพุทธเจ้าสอนไว้ รู้จักหรือไม่บารมี 10 ประการ รู้หรือไม่พระพุทธเจ้าประสูติที่ไหน ตนไม่ได้ดูถูกเพียงแต่ทุกคนต้องสนใจรากฐาน รากเหง้าของเราเอง
เมื่อถามว่า 4 รัฐมนตรีที่อยู่ในพปชร.จะมีส่วนในการตัดสินใจหรือไม่ หากมีการทาบทาม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมว่า “เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา ถ้าพรรคใดก็ตามที่ทำงานแล้วสอดคล้องกับสิ่งที่ทำอยู่ในวันนี้ ถ้าผมตัดสินใจเข้าไปการเมือง ผมก็ต้องสนับสนุนพรรคเหล่านี้เพราะทำงานให้ผมทำต่อ แต่การที่ผมจะเป็นนายกฯหรือเปล่า ผมยังไม่รู้เหมือนกันเพราะกลไกไม่ใช่ว่าเลือกผมแล้วจะได้เป็นเลย มันต้องมีการพิจารณาในสภา จะยอมรับกันหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เหมือนกัน”
เมื่อถามว่า ตัวของพล.อ.ประยุทธ์ มีธงหรือคำตอบในใจอยู่แล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ธงของผมคือสนับสนุนพรรคการเมืองที่เดินหน้าประเทศอย่างมียุทธศาสตร์ เอาอย่างนี้แล้วกัน พรรคอื่นก็ว่ามาซิยุทธศาสตร์ว่าอย่างไร อาจจะดีกว่าพรรคพลังประชารัฐก็ได้ เสนอยุทธศาสตร์มาซิ ดีกว่ามาติฉินกันมาเรื่อยๆ อย่างนี้แต่ไม่เคยพูดมาว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร มีแต่จะบอกว่าจะทำตรงนั้นตรงนี้ให้ราคาสูงขึ้นทั้งยางและข้าว แต่จะทำอย่างไร แต่ผมพูดทุกอย่างว่าจะทำอย่างไร เขาก็ต้องพูดกับผมว่าจะทำอย่างไรด้วย ประชาชนจะได้เกิดข้อเปรียบเทียบถ้าพูดไม่ได้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร”
เมื่อถามว่า ไม่สงสารประชาชนที่เขารอฟังคำตอบจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ หรืออย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า สงสารเพราะเขารอฟังหรือ ตนอยากให้ฟังคนอื่นก่อน แล้วค่อยมาฟังตน ตอนนี้ให้เวลาฟังคนอื่น เดี๋ยวหาว่าตนปิดกั้นอีก ลองเปิดดูทุกพรรคพูดกันโครมๆ ทุกวัน เดินสายกันทุกวันทั้งที่ยังไม่ปลดล็อก แล้วมาบอกว่าไม่ปลดล็อกเดินกันจนขรมแล้ว
เมื่อถามว่า จะทำโพลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ทำ จะทำทำไม ประชาชนเป็นคนแสดงออกมาอยู่แล้ว ประชาชนจะยอมรับหรือไม่ยอมรับใครก็ว่ากันมา วันนี้กระแสโพลก็ออกมาอยู่แล้ว จะเลือกพรรคนู้นพรรคนี้ เลือกคนคุ้นเคย เลือกตามตัวบุคคล ไม่เลือกพรรคอะไรก็แล้วแต่ ก็ว่ากันไป แต่เราให้ความรู้ในสิ่งที่ถูกต้องว่าถ้าทำแบบนี้จะได้อะไร จะดีกว่าหรือไม่ดีกว่า แต่ต้องบอกว่าสิ่งที่ทำวันนี้เข้าใจหรือยังและทำอย่างไร การแก้ปัญหาเกษตรครบวงจรหรือเปล่า
เมื่อถามว่า ให้เวลาตัวเองที่จะบอกความชัดเจนได้เมื่อไหร่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ปลดล็อกเมื่อไหร่ค่อยว่ากันตอนนั้น เดี๋ยวค่อยว่ากัน เดี๋ยวก็ปลดล็อกแล้ว พอปลดล็อกขึ้นมาทุกคนก็จะพูดได้เต็มปากเต็มคำ ตนก็จะฟังว่ามีประโยชน์ตรงไหน พรรคนี้เสนออะไรมา ถ้าเสนอเหมือนคราวก่อนๆ จะทำอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วทำไม่ได้ จะทำให้ราคายางสูงขึ้น 3-4 เท่า ถามว่าโลกขายเท่านั้น คุณจะไปขายใคร ”
เมื่อถามว่า การนัดพูดคุยกับพรรคการเมือง 7 ธ.ค.นี้ มีหลายพรรคประกาศไม่เข้าร่วม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครจะไม่มาก็แล้วแต่ท่าน ตนคิดว่าการจะทำงานเพื่อชาติเพื่อประชาชนมันต้องเอากติกาต่างๆ มา ไม่ใช่มาสู้กับกติกา มันไม่ใช่เหมือนนักมวยจะขึ้นชก ก็ต้องฟังกติกา ซึ่งกติกาวันนี้อาจมีความแตกต่างอยู่บ้าง วันนี้กติกามวย กอล์ฟ กีฬาอะไรต่างๆ ก็เปลี่ยนไป หลายอย่างไม่เคยทำได้ ก็ทำได้ หลายอย่างเคยทำได้ ก็ทำไม่ได้ ไม่เห็นมีใครไฟต์เรื่องพวกนี้เลย ตัวเองก็เตรียมตัวให้พร้อมที่จะเข้ามาสู่การเลือกตั้ง ให้ประชาชนตัดสินดีกว่า อย่ามาอะไรกันเลย มันเสียเวลา ประเทศชาติเดินหน้าลำบาก