PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561

จะยอมรับกันหรือเปล่า!'บิ๊กตู่'ชักหวั่นไหวฝ่าด่านสภาฯไปนั่งนายกฯต่อไม่ง่าย

“ประยุทธ์” ลีลายั่วสื่อยิ่งอยากรู้ยิ่งไม่บอก จะมีชื่ออยู่พรรคไหน แต่แย้ม“พปชร.”ตัวเต็งอ้างนโยบายสอดคล้อง”เดินหน้าประเทศอย่างมียุทธศาสตร์”ท้าพรรคไหนมีของดี ควักออกมาโชว์ เปรียบนักการเมืองเหมือนนักกีฬา ลงสนามต้องรับกติก
4 ธ.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถึงความชัดเจนในการเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯในบัญชีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ว่าพรรคพลังประชารัฐ เขาชัดเจนแล้วทำไมตนจะต้องไปชัดเจนกับเขาด้วย
“ทำไมอยากจะรู้เหลือเกิน ทุกพรรคก็เสนอชื่อผมทั้งนั้น แต่ไม่เห็นมีใครมาเชิญผมซักที เขาจะพูดก็พูดไป ผมยังไม่ตัดสินใจ ทำไมจะเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้กันหรืออย่างไร อยากรู้กันหรือ แต่ผมยังไม่ให้รู้ ถ้ายิ่งอยากรู้ก็ไม่ให้รู้ ถ้าไม่อยากรู้ เดี๋ยวผมจะพูดเอง”
เมื่อถามว่า มันคืออนาคตของประเทศ ประชาชนก็อยากรู้ นายกฯ กล่าวด้วยน้ำเสียงล้อเลียนคำถามผู้สื่อข่าวว่า “แหม่ อนาคตของประเทศ ไม่ต้องมาพูด” ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกหรือไม่ว่าทำไมพรรคการเมืองถึงเสนอชื่อท่าน เป็นนายกฯ  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่รู้ซิ ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่อาจจะพิจารณาตัวเองได้ว่าเก่งหรือไม่เก่ง และเขาเลือกผมเพราะอะไรก็ยังไม่รู้เหมือนกัน คงอาจเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อยดีมั้ง เขาเห็นแค่นั้นหรือเปล่าผมไม่รู้ หรือจะหมายความอย่างอื่นด้วย”
เมื่อถามว่า รู้สึกดีใจหรือไม่ที่ถูกเลือก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาเรียกว่าบารมี 10 ประการ ขันติบารมี คือไม่ยินดี ยินร้ายต่อคำชมและคำติฉินนินทา เข้าใจหรือยัง ตนกำลังใช้อยู่ เมื่อถามว่า แสดงว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายที่ถูกเลือก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่สนใจ เพราะถือว่านี่ไงพระพุทธเจ้าสอนไว้ รู้จักหรือไม่บารมี 10 ประการ รู้หรือไม่พระพุทธเจ้าประสูติที่ไหน ตนไม่ได้ดูถูกเพียงแต่ทุกคนต้องสนใจรากฐาน รากเหง้าของเราเอง
เมื่อถามว่า 4 รัฐมนตรีที่อยู่ในพปชร.จะมีส่วนในการตัดสินใจหรือไม่ หากมีการทาบทาม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมว่า “เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา ถ้าพรรคใดก็ตามที่ทำงานแล้วสอดคล้องกับสิ่งที่ทำอยู่ในวันนี้ ถ้าผมตัดสินใจเข้าไปการเมือง ผมก็ต้องสนับสนุนพรรคเหล่านี้เพราะทำงานให้ผมทำต่อ แต่การที่ผมจะเป็นนายกฯหรือเปล่า ผมยังไม่รู้เหมือนกันเพราะกลไกไม่ใช่ว่าเลือกผมแล้วจะได้เป็นเลย มันต้องมีการพิจารณาในสภา จะยอมรับกันหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เหมือนกัน”
เมื่อถามว่า ตัวของพล.อ.ประยุทธ์ มีธงหรือคำตอบในใจอยู่แล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ธงของผมคือสนับสนุนพรรคการเมืองที่เดินหน้าประเทศอย่างมียุทธศาสตร์ เอาอย่างนี้แล้วกัน พรรคอื่นก็ว่ามาซิยุทธศาสตร์ว่าอย่างไร อาจจะดีกว่าพรรคพลังประชารัฐก็ได้ เสนอยุทธศาสตร์มาซิ ดีกว่ามาติฉินกันมาเรื่อยๆ อย่างนี้แต่ไม่เคยพูดมาว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร มีแต่จะบอกว่าจะทำตรงนั้นตรงนี้ให้ราคาสูงขึ้นทั้งยางและข้าว แต่จะทำอย่างไร แต่ผมพูดทุกอย่างว่าจะทำอย่างไร เขาก็ต้องพูดกับผมว่าจะทำอย่างไรด้วย ประชาชนจะได้เกิดข้อเปรียบเทียบถ้าพูดไม่ได้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร”
เมื่อถามว่า ไม่สงสารประชาชนที่เขารอฟังคำตอบจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ หรืออย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า สงสารเพราะเขารอฟังหรือ ตนอยากให้ฟังคนอื่นก่อน แล้วค่อยมาฟังตน ตอนนี้ให้เวลาฟังคนอื่น เดี๋ยวหาว่าตนปิดกั้นอีก ลองเปิดดูทุกพรรคพูดกันโครมๆ ทุกวัน เดินสายกันทุกวันทั้งที่ยังไม่ปลดล็อก แล้วมาบอกว่าไม่ปลดล็อกเดินกันจนขรมแล้ว
เมื่อถามว่า จะทำโพลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ทำ จะทำทำไม ประชาชนเป็นคนแสดงออกมาอยู่แล้ว ประชาชนจะยอมรับหรือไม่ยอมรับใครก็ว่ากันมา วันนี้กระแสโพลก็ออกมาอยู่แล้ว จะเลือกพรรคนู้นพรรคนี้ เลือกคนคุ้นเคย เลือกตามตัวบุคคล ไม่เลือกพรรคอะไรก็แล้วแต่ ก็ว่ากันไป แต่เราให้ความรู้ในสิ่งที่ถูกต้องว่าถ้าทำแบบนี้จะได้อะไร จะดีกว่าหรือไม่ดีกว่า แต่ต้องบอกว่าสิ่งที่ทำวันนี้เข้าใจหรือยังและทำอย่างไร การแก้ปัญหาเกษตรครบวงจรหรือเปล่า
เมื่อถามว่า ให้เวลาตัวเองที่จะบอกความชัดเจนได้เมื่อไหร่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ปลดล็อกเมื่อไหร่ค่อยว่ากันตอนนั้น เดี๋ยวค่อยว่ากัน เดี๋ยวก็ปลดล็อกแล้ว พอปลดล็อกขึ้นมาทุกคนก็จะพูดได้เต็มปากเต็มคำ ตนก็จะฟังว่ามีประโยชน์ตรงไหน พรรคนี้เสนออะไรมา ถ้าเสนอเหมือนคราวก่อนๆ จะทำอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วทำไม่ได้ จะทำให้ราคายางสูงขึ้น 3-4 เท่า ถามว่าโลกขายเท่านั้น คุณจะไปขายใคร ”
เมื่อถามว่า การนัดพูดคุยกับพรรคการเมือง 7 ธ.ค.นี้ มีหลายพรรคประกาศไม่เข้าร่วม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครจะไม่มาก็แล้วแต่ท่าน ตนคิดว่าการจะทำงานเพื่อชาติเพื่อประชาชนมันต้องเอากติกาต่างๆ มา ไม่ใช่มาสู้กับกติกา มันไม่ใช่เหมือนนักมวยจะขึ้นชก ก็ต้องฟังกติกา ซึ่งกติกาวันนี้อาจมีความแตกต่างอยู่บ้าง วันนี้กติกามวย กอล์ฟ กีฬาอะไรต่างๆ ก็เปลี่ยนไป หลายอย่างไม่เคยทำได้ ก็ทำได้ หลายอย่างเคยทำได้ ก็ทำไม่ได้ ไม่เห็นมีใครไฟต์เรื่องพวกนี้เลย ตัวเองก็เตรียมตัวให้พร้อมที่จะเข้ามาสู่การเลือกตั้ง ให้ประชาชนตัดสินดีกว่า อย่ามาอะไรกันเลย มันเสียเวลา ประเทศชาติเดินหน้าลำบาก

ไม่มีความคิดเห็น: