PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561

มันคืออาการ 'หมั่นไส้'

“ไอ้ซังกะบ๊วย” รวมหัวกันแก้เผ็ด

เหตุต่อเนื่องจากปม กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งที่ “จะตายห่ากันหมด”

ตามท้องเรื่อง เลยเถิดมาถึงคิวแท็กทีมหักหน้า “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะหัวหน้า คสช. ส่งเทียบเชิญพรรคการเมืองร่วมวงถกเลือกตั้งกับทีมงานแม่น้ำ 5 สาย ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้

“ขาใหญ่” ออกฤทธิ์ออกเดช แสดงอาการไม่ยี่หระ

ในอารมณ์แบบที่พรรคประชาธิปัตย์ “ยึกยัก” ตั้งแง่ความเหมาะสมของสถานะ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มี 3 สถานะในขณะนี้คือ หัวหน้า คสช. นายกรัฐมนตรี และว่าที่ผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง มีความเหมาะสมหรือไม่ หากนั่งเป็นประธานการประชุมแม่น้ำ 5 สาย

อาการเดียวกับลูกข่าย “ทักษิณ” ทั้งพรรคเพื่อไทย ค่ายไทยรักษาชาติ ที่ประกาศไม่ร่วมวงถกเลือกตั้งกับ พล.อ.ประยุทธ์ และทีมงานแม่น้ำ 5 สาย เพราะ คสช.ไม่มีความชอบธรรมในการจัดเลือกตั้ง

ประชาธิปัตย์ ลูกข่าย “ทักษิณ” แท็กทีมโชว์เขี้ยวใส่ “บิ๊กตู่”

ยกระดับเกมเฮี้ยวใส่ฝ่ายคุมเกมอำนาจพิเศษ

ส่อแข็งข้อตั้งแต่ยังไม่ปลดล็อกกฎเหล็ก เข้าโหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ

สัญญาณที่ “ลุงตู่” จะต้องเผชิญโจทย์ยากในสนามการเมือง สวนทางกับ “ภูมิคุ้มกัน” มาตรา 44 ลดความแรงลงไป เตรียมรับมือกับลูกเขี้ยวของขาใหญ่เจ้าถิ่นได้เลย

แต่เบื้องต้น เฉลยตามเงื่อนไขสถานการณ์ตรงหน้า กับอาการประชาธิปัตย์ ลูกข่าย “ทักษิณ” แท็กทีมเชิดใส่ “ลุงตู่” ไม่ร่วมวงถกเลือกตั้งกับแม่น้ำ 5 สาย

อ่านไต๋ง่ายๆ ปมเหตุมันมาจากอาการ “หมั่นไส้”

โทษฐานยี่ห้อ “พลังประชารัฐ” ตีกินอยู่เจ้าเดียว

ทีมหนุน “ลุงตู่” ได้สารพัดปัจจัยเกื้อหนุน “น้องใหม่เส้นใหญ่” เดินหน้าโกยแต้มแบบเป็นกอบเป็นกำ

ในขณะที่ป้อมค่ายอื่นยังแต่งตัวไม่เสร็จด้วยซ้ำ

อย่าว่าแต่ฝั่งตรงข้าม แม้แต่แนวร่วมพวกเดียวกันเองยังอดเขม่นไม่ได้

ตามเหตุที่โยงกับปรากฏการณ์แปร่งๆ “สูตรรัฐบาล” ที่มาไวเกินเหตุ

แกะรอยกระแสข่าวลือสะพัดตามสื่อ อ้าง “พี่ใหญ่” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะโต้โผใหญ่ดันหลัง “นายกฯลุงตู่” ตีตั๋วต่อ

“เปิดดีลข้ามช็อต” ต่อสายเสนอเก้าอี้กระทรวงเกรดเอให้พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของ “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค

แลกกับการเทเสียงโหวตหนุน “นายกฯลุงตู่” ในสภา

และนั่นก็เป็นสถานการณ์ให้ “เดอะมาร์ค” ได้โชว์หล่อ ยักไหล่เบิ้ลบลัฟใส่พลังประชารัฐที่ประกาศได้ 350 เก้าอี้ ไม่เห็นต้องมาคุยอะไรกับพรรคประชาธิปัตย์

ทุกอย่างต้องผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ประชาชนต้องให้คำตอบก่อน

สวนมวย อย่ามาพูดเรื่องตำแหน่ง เพราะไม่ใช่จุดประสงค์ของพรรค เป้าหมายแท้จริงของประชาธิปัตย์คือนำพาประเทศไปในทิศทางที่ถูกต้อง

เรื่องของเรื่อง พูดไป “อภิสิทธิ์” เองก็ยังงงๆกับ “ข่าวลอยลม” ที่ออกมา

และน่าสังเกต มันโผล่ในจังหวะไล่หลังที่ “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขาใหญ่ กปปส. ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ออกอาการเฮี้ยว

หันมาแว้งใส่ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล

อ้างเดินสายคารวะแผ่นดิน รับเสียงด่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ยากจน ไม่มีอันจะกิน

“เทพเทือกโพล” ปล่อยข้อมูลดิบแข่งกับโพลสถาบันการศึกษา นัยแฝงเหลี่ยมเตะสกัด “รัฐมนตรี 4 กุมาร” พลังประชารัฐ เบรกความร้อนแรงของมาตรการที่ทีมเศรษฐกิจของ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์”

เดินหน้าอัดฉีดเพิ่มวงเงินบัตรคนจน แจกเงินปีใหม่ ช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน เพิ่มบำนาญข้าราชการ

ดันแต้มต่อยี่ห้อ “พลังประชารัฐ” เกินหน้าเกินตาคู่แข่ง

โอกาสกวาดที่นั่งตามเป้า 150 เก้าอี้ เห็นอยู่ใกล้ๆแค่เอื้อม

มันก็ไม่แปลกถ้าความรู้สึก “เหลื่อมล้ำ” จะจูงใจ “เทพเทือก” ต้องล่อเป้าคนกันเอง

แต่แน่นอน เมื่อฝ่ายคุมเกมอำนาจ คสช.เบนหัวเรือมาเปิดดีลตรงกับทีม “อภิสิทธิ์” นั่นเท่ากับวัดใจทีม “เทพเทือก” ที่ถือแต้ม

“ติดก้นหม้อ” ของยี่ห้อ รปช. บวกงูเห่าที่แฝงอยู่ใน ปชป.

เกมนี้เป็นการเอาเหยื่อล่อประชาธิปัตย์ให้ฟัดกันเอง.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: