PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ปิดทางรุกฆาต"ลุงตู่"?

เงินกำลังหมุนไปในเทศกาลแห่งความสุข

มติ ครม.นัดล่าสุดมีมติอนุมัติเพิ่มค่าตอบแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จากเดิม 600 บาทเป็น 1,000 บาทต่อเดือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป

ครอบคลุม อสม.ทั้งประเทศ 1,039,729 คน

ต่อเนื่องกับคิวก่อนหน้า ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติงบประมาณกว่า 8.69 หมื่นล้านบาท เดินหน้าอัดฉีดมาตรการช่วยคนจน ผู้มีรายได้น้อย เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เงินช่วยข้าราชการเกษียณและเงินบำเหน็จดำรงชีพ ชดเชยดอกเบี้ยให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์จัดทำโครงการบ้านล้านหลัง อัดฉีดมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์ม ช่วยพยุงราคายางพารา ฯลฯ

บวกช่วยเหลือค่าน้ำ ค่าไฟ แถมสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพิ่ม 500 บาทในเทศกาลปีใหม่

อานิสงส์ถึงกลุ่มเป้าหมาย 14.5 ล้านคน

ไม่นับคิวที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โชว์ตัวเลข

ผลงานโบแดงผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ข่าวดีเรื่องการจัดการหนี้นอกระบบ ตามไปดำเนินการกับนายทุนเงินกู้โหด นำที่ดินที่ถูกยึดไปโดยไม่เป็นธรรม และมีการปลอมแปลงเอกสารสิทธิ

เอามาคืนให้กับลูกหนี้ ชาวนา ชาวไร่

รวมที่ดินกว่า 7,000 ไร่ คิดเป็นมูลหนี้มากกว่า 52,000 ล้านบาท

เอาเป็นว่า คาดการณ์ตามจำนวนผู้มีรายได้น้อย 14.5 ล้าน บวกด้วยกลุ่ม อสม.อีกล้านกว่า รวมกับครอบครัวชาวไร่ชาวนาที่ได้คืนที่ดินจากหนี้นอกระบบเรือนหมื่น

บวกลบคูณหารตัวเลขเบื้องต้น 15–16 ล้านคน คิดแบบมักน้อยที่สุด ขอแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ ก็เท่ากับประชาชน 8 ล้านเสียง ที่จะเทแต้มให้รัฐบาล “นายกฯลุงตู่” เป็นฐานต้นทุน

ตุนหน้าตักให้ “พรรคพลังประชารัฐ”

ทีมหนุน “นายกฯลุงตู่” รุกเก็บคะแนนนิยมได้เป็นกอบเป็นกำ

จากปัจจัยเอื้อในฐานะฝ่ายถืออำนาจรัฐที่ปั่นเนื้องานแลกแต้มแบบสัมผัสจับต้องได้

แต่นั่นก็สวนทางกับจังหวะ “ตั้งรับ” สถานการณ์แรงเสียดทานที่ยกระดับตามอาการ “หมั่นไส้” ของนักการเมืองขาใหญ่เจ้าถิ่น ทั้งยี่ห้อประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย ขุมข่าย “นายใหญ่”

ทีม “ลุงตู่” ตกอยู่ในโซนอันตราย “เกมทุบ” ทำลาย “แต้มต่อ”

อ่านไต๋ จับทางได้ง่ายๆตามเหลี่ยมของคนยี่ห้อประชาธิปัตย์ ที่ “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แท็กทีมนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค

ท่องสคริปต์ ตะโกนโห่ไล่ “นายกฯลุงตู่” ไขก๊อก

ไล่บี้ให้แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ในฐานะคั่ว “นายกฯบัญชีพรรคพลังประชารัฐ” มีคุณมีโทษกับสถานะผู้นำ เป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองคู่แข่งอย่างไม่แฟร์

ยกเป็นเหตุ “ตั้งแง่” ไม่ร่วมวงถกเลือกตั้งกับ “ลุงตู่” และแม่น้ำ 5 สาย

จังหวะเกมไหลแรงและเร็วมาก เกมเขี้ยวนักการเมืองอาชีพรุกไล่หัวหน้า คสช.จากคืบไปศอกจากศอกไปวาแค่ชั่วข้ามวัน ยังไม่ทันปลดล็อกกฎเหล็ก ไม่รอประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง

จังหวะถึงเนื้อถึงตัว “นายกฯลุงตู่” โดนรุกฆาตแล้ว

และตามแนวโน้มสถานการณ์ที่เดารูปเกมได้ เงื่อนไขจะผูกโยงกับคิวที่ทีมรัฐมนตรี “4 กุมาร” ของค่ายพลังประชารัฐ นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกฯ

ล็อกคิวไว้ จะไขก๊อกเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

แน่นอนโดยกระแสทิศทางลม เมื่อทีมรัฐมนตรี 4 กุมารลาออกเมื่อไหร่ เมื่อนั้นน้ำหนักของกระแส “สปิริต” จะกดทับไปที่ “นายกฯลุงตู่” หนักหน่วงรุนแรงกว่านี้อีกหลายเท่า

เดาเกม ทีมงาน “ลุงตู่” อาจต้องดีดลูกคิด ประเมินได้เสียกันใหม่

เหนืออื่นใด กับจังหวะที่มือกฎหมายระดับนายศุภชัย สมเจริญ อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาการันตี 4 รัฐมนตรีแกนนำพรรคพลังประชารัฐไม่มีความจำเป็นต้องลาออก เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 264 ในบทเฉพาะกาลระบุให้ ครม.อยู่บริหารราชการแผ่นดินจนกว่าจะมี ครม.ใหม่

เรื่องของเรื่อง ย้อนอดีตกลับไปไม่นานนี้ รัฐบาลจากการเลือกตั้งของนักการเมืองก็ไม่เคยมีบรรทัดฐานของการโชว์สปิริต ทั้งยี่ห้อเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ก็ลากจนหยดสุดท้ายยันรัฐบาลรักษาการ

เอาเป็นว่ามาถึงตรงนี้ ทีม “ลุงตู่” โดนด่าเรื่องเอาเปรียบคู่แข่งจนเป็นเรื่องธรรมดา

ถ้าจะยื้อให้ “รัฐมนตรี 4 กุมาร” อยู่เป็นด่านรับแรงกระแทก ก่อนโดนรุกฆาตถึงตัว “ขุน”

โดนด่าแรงกว่านี้ ก็คงไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคะแนนสักเท่าไหร่.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: