PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ค่าแรงแพง

กกต.คาดการณ์ว่าจะมีผู้สมัครรับลากตั้งเป็น ส.ว.ทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 90,000 คน ถึง 1 แสนคน

แต่สุดท้ายมีผู้สนใจยื่นใบสมัคร ส.ว.รวมทั้งสิ้นเพียง 7,210 คน

ต่ำกว่าที่ กกต.ประเมินไว้ถึง 82,790 คน

หรือต่ำกว่าที่ กกต.ตั้งเป้าไว้ 1,200 เปอร์เซ็นต์

บางอำเภอไม่มีผู้ไปยื่นใบสมัคร ส.ว.แม้แต่คนเดียว

งานกร่อยเป็นแกงจืดลืมใส่น้ำปลา

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. แถลงว่าในจำนวนผู้ยื่นใบสมัครเป็น ส.ว.ลากตั้ง 7,210 คน เป็นผู้ยื่นใบสมัครด้วยตัวเอง 6,705 คน และสมัครในนามองค์กรมูลนิธิสมาคมอีก 505 คน

แยกเป็นชาย 5,315 คน และหญิง 1,896 คน

กลุ่มสาขาอาชีพเกษตรกรรมมีผู้สมัครมากที่สุดคือ 1,452 คน

รองลงมาคือกลุ่มสาขาอาชีพการศึกษา-สาธารณสุข 1,124 คน

กลุ่มภาคประชาสังคม 943 คน และกลุ่มบริหารราชการแผ่นดิน 765 คน

ส่วนกลุ่มสาขาอาชีพอื่นๆที่เหลืออีก 7 กลุ่ม ก็สมัครกันหร็อมแหร็มกลุ่มละไม่กี่ร้อยคน

จังหวัดอุบลราชธานีมีผู้สนใจสมัครเป็น ส.ว.มากที่สุด 431 คน

จังหวัดที่มีผู้สมัครน้อยที่สุดคือจังหวัดชุมพร มีผู้สมัครเพียง 16 คน

“แม่ลูกจันทร์” ไม่แปลกใจที่มีผู้ยื่นใบสมัครเป็น ส.ว.ต่ำกว่าที่ กกต.ตั้งเป้าไว้บานตะไท

เพราะโอกาสที่จะได้เป็น 1 ใน 50 ส.ว.ลากตั้งมันน้อยเหลือเกิน!!

เฉลี่ยผู้สมัคร 144 คน จะบุญหล่นทับตีนบวมได้เป็น ส.ว. 1 คนเท่านั้นเอง

ข้อสำคัญ กติกาลากตั้ง ส.ว.ไม่ได้วัดกันที่คุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถของผู้สมัครแต่ละคน

แต่ให้ผู้สมัครลงคะแนนเลือกกันเอง ตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด จนถึงระดับประเทศให้เหลือ 200 คน

จากนั้น คสช.จะเลือกจิ้มให้เหลือ 50 คน

เพื่อเอาไปรวมกับ ส.ว.ที่ คสช.แต่งตั้งโดยตรงอีก 200 คน รวมเป็น 250 คน

ส.ว.ลากตั้งทั้ง 250 คน จะร่วมโหวตแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่รวมกับ ส.ส. อีก 500 คน

ฉะนั้นคนที่จะได้เป็น ส.ว.ลากตั้ง จึงต้องเป็นคนที่ คสช.ไว้วางใจว่าจะไม่แหกคอก ไม่เป็นหอกข้างแคร่ทำให้แผนสืบทอดอำนาจเดินหน้าไม่สะดวกโยธิน

นี่คือเหตุผลที่มีผู้ไปยื่นสมัครเป็น ส.ว.ลากตั้งเพียง 7,210 คน น้อยกว่าที่ กกต.ตั้งเป้าจะมีผู้สมัครไม่ต่ำกว่า 90,000 คน

แต่ประเด็นสำคัญที่ “แม่ลูกจันทร์” ต้องยิงคำถามตรงไปที่ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.

คืองบดำเนินการสรรหา ส.ว. 50 คน ที่ กกต.ขอเบิกรัฐบาลถึง 1,300 ล้านบาทมันสูงเว่อร์เกินควร!!

เฉลี่ยเท่ากับ กกต.ถลุงเงินภาษีประชาชนถึง 26 ล้านบาท ต่อ ส.ว.ลากตั้ง 1 คน

ทำให้พี่น้องประชาชนที่จ่ายภาษีให้รัฐบาลรู้สึกไม่สบายใจ

“แม่ลูกจันทร์” ขอเรียกร้องประธาน กกต.ออกมาชี้แจง ให้เกิดความ โปร่งใสว่างบดำเนินการ 1,300 ล้านบาท ที่ กกต.ขอเบิกจากรัฐบาลเอาไปจัดสรรใช้จ่ายอย่างไร??

เพราะผู้สมัครเพียง 7,210 คน เลือกกันเอง 3 รอบให้เหลือ 200 คน แล้วส่งให้ คสช.เลือกจิ้มให้เหลือ 50 คน

ใช้งบดำเนินการไม่ถึง 1,300 ล้านบาทแน่นอน!!

เรื่องนี้ กกต.อย่าทำมึน...ต้องชี้แจงให้เคลียร์นะโยม.

“แม่ลูกจันทร์”

ไม่มีความคิดเห็น: