วงปฏิรูป ปิ๊งไอเดียเปิดทางทหารเกณฑ์ สมัครเป็นตำรวจควบคุมฝูงชน

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 60 ที่รัฐสภา นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานคณะอนุกรรมการด้านสื่อสารสังคม คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมฯ ที่มี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน ที่ประชุมได้มีมติให้มีแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ตามที่อนุกรรมการบริหารงานบุคคลเสนอ โดยให้เพิ่มเติมมาตรา 106/1 ให้มีคณะกรรมการพิจารณาร้องทุกข์ ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก ก.ตร.คณะหนึ่ง เรียกว่า "ก.รท." มีอำนาจหน้าที่พิจารณาเรื่องร้องทุกข์ของข้าราชการตำรวจ ประกอบด้วยคณะกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิคนหนึ่ง เป็นประธานกรรมการ และคณะกรรมการจำนวน 8 คน ประกอบด้วย รองเลขาธิการ ก.พ.ที่ได้รับมอบหมาย ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีความรู้ความซื่อสัตย์สุจริต ความเที่ยงธรรมเป็นที่ประจักษ์ ไม่เคยเป็นข้าราชการตำรวจมาก่อน จำนวน 3 คน รวมทั้งผู้เคยเป็นข้าราชการตำรวจในตำแหน่งตั้งแต่ผู้บัญชาการ หรือตำแหน่งเทียบเท่าขึ้นไปจำนวน 4 คน ให้ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เป็นเลขานุการและผู้บังคับการหน่วยงาน ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของข้าราชการตำรวจ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
"โดยหากมีเรื่องเรียนจากข้าราชการตำรวจให้ถือคำวินิจฉัยของ ก.รท.เป็นที่สุด และให้เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา ผู้มีอำนาจ ก.ตร. หรือ ก.ตช. แล้วแต่กรณีในการสั่งการเยียวยาและแก้ไขหรือดำเนินการตามสมควร เช่น หากมีการโยกย้ายไม่เป็นธรรม และตรวจสอบพบว่าเป็นเรื่องจริง ให้มีการเยียวยา หรือให้บุคคลนั้นกลับไปดำรงตำแหน่งเดิม ทั้งนี้ งานด้านบริหารงานบุคคลที่ประชุมจะพิจารณาให้แล้วเสร็จในวันที่ 27 ธ.ค. และเสนอต่อรัฐบาลในวันที่ 28 ธ.ค. ตามกรอบระยะที่รัฐบาลกำหนดไว้ เพื่อให้ทันต่อการแต่งตั้งโยกย้ายในปี 2561" นายมานิจ กล่าว
นอกจากนั้นที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงแนวคิดที่จะให้มีตำรวจเกณฑ์ โดยให้ทำในลักษณะเดียวกับทหารเกณฑ์ แต่เมื่อที่ประชุมตรวจสอบแล้วพบว่าเรื่องนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่าชายไทยต้องเกณฑ์ทหาร ไม่มีคำว่าตำรวจ ที่ประชุมจึงพิจารณาทางออกโดยอาจจะให้ทหารเกณฑ์ที่ผ่านการเกณฑ์ทหาร และฝึกอบรมมาแล้ว 2 ปี สามารถสมัครเข้าเป็นตำรวจต่อได้ แต่ไม่ได้ให้เกี่ยวข้องกับคดี ให้อยู่ในด้านการดูแลรักษาความปลอดภัย หรือควบคุมฝูงชน เพื่อแก้ปัญหาในขณะนี้ที่ตำรวจขาดแคลนถึง 7,000 นาย อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าวนี้ก็ยังไม่ได้มีข้อยุติ ยังต้องพิจารณารูปแบบที่เหมาะสมต่อไป