“สมชัย” แนะง่ายสุดให้ปลดล็อกไปเลย ดีกว่าใช้ ม.44 ขยายเวลาให้พรรคการเมือง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 ธันวาคม ที่สำนักคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการกกต. แถลงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ขยายเวลาการทำกิจกรรมของพรรคการเมืองตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า ยังไม่เห็นคำสั่งที่ชัดเจน แต่ถ้ามีการปลดล็อกเพื่อให้ผู้ประสงค์จะตั้งพรรคการเมืองใหม่มาจองชื่อ และหาสมาชิกให้ครบตามที่กฎหมายกำหนด ก่อนที่จะมีการปลดล็อกทั้งหมดในช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกับพรรคการเมืองเดิม ทุกฝ่ายที่ประสงค์จะเข้าสู่การเลือกตั้งต้องเตรียมตัวให้พร้อม แต่การที่คสช.ระบุว่าจะขยายหรืออาจงดเว้นการดำเนินการตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองในบางเรื่อง ถ้าหมายถึงการปฏิบัติตามมาตรา 141 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ก็เห็นว่าไม่เป็นผลดี เนื่องจากหลักคิดในการยกร่างฯมาตรานี้เพื่อปฏิรูปพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง ปราศจากนายทุน เป็นพรรคของประชาชน ซึ่งเป็นการออกแบบที่ดีแล้ว และควรเดินหน้าตามนั้น วิธีการที่ง่ายที่สุดคือควรจะปลดล็อกมากกว่า
นายสมชัย กล่าวอีกว่า การปลดล็อกบางส่วนของ คสช.จะมีผลต่อการเตรียมการของพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งจะเริ่มนับเมื่อกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้ง 4 ฉบับประกาศใช้แล้ว โดยจะต้องมีการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน หากพิจารณาจากที่นายกฯประกาศต่อสื่อและชาวโลกว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งการพิจารณากฎหมายของสนช.หากแล้วเสร็จและไม่มีององค์กรใดคัดค้าน คาดว่ากฎหมายจะประกาศใช้เร็วที่สุดคือเดือนเมษายนและมีการเลือกตั้งในเดือนสิงหาคม 2561 แต่หากมีการโต้แย้งการประกาศใช้กฎหมายจะล่าช้าออกไปและการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน อย่างที่นายกฯระบุ ดังนั้นพรรคการเมืองที่จะจัดตั้งใหม่ซึ่งจะต้องมาเริ่มกระบวนการทุกอย่างหลังจดทะเบียนพรรคแล้วพร้อมกับพรรคการเมืองเก่าในช่วงเวลาหลังกฎหมายลูก 4 ฉบับใช้บังคับ การดำเนินการของพรรคการเมืองจะทำทันหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะประกาศให้มีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งเมื่อไหร่ เพราะตามกฎหมายรัฐบาลจะประกาศช่วงใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำทันทีที่ระยะเวลา 150 วัน เริ่มนับ แต่ปัญหาคือหลังประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง 5 วันจากนั้น กกต.ต้องประกาศกำหนดวันเลือกตั้งและต้องประกาศวันรับสมัครเลือกตั้งภายใน 25 วัน หลังมีพระราชกฤาฎีกาเลือกตั้ง จึงเท่ากับเมื่อรถไฟขบวนแรกออกเมื่อไหร่ ขบวนที่ 2 ขบวนที่ 3 ต้องออกตามทันที คำถามถือระยะเวลาดังกล่าว พรรคการเมืองใหม่-เก่า จะสามารถดำเนินการจัดประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรค จัดตั้งสาชาพรรค ตัวแทนประจำจังหวัด จัดทำไพรมารีโหวต เพื่อให้แล้วเสร็จ เพื่อจะเดินมาสมัครใน 5 วันดังกล่าวได้หรือไม่
นายสมชัย กล่าวอีกว่า กกต.ได้รับหนังเชิญเลขาฯ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เข้าร่วมประชุม คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเสนอแนะ และรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ของ สนช. เพื่อไปหารือถึงการแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งตนเสียดายที่ไม่ได้รับเชิญ ทั้งที่อยากไปร่วมแสดงความคิดเห็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น