PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560

“สมชัย” แนะง่ายสุดให้ปลดล็อกไปเลย ดีกว่าใช้ ม.44 ขยายเวลาให้พรรคการเมือง

“สมชัย” แนะง่ายสุดให้ปลดล็อกไปเลย ดีกว่าใช้ ม.44 ขยายเวลาให้พรรคการเมือง


“สมชัย” ชี้ ง่ายสุดให้ปลดล็อก ดีกว่าใช้ ม.44 ขยายเวลาพรรคการเมืองปฎิบัติตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง

เมื่อ‪เวลา 14.00‬ น. วันที่ 20 ธันวาคม ที่สำนักคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการกกต. แถลงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ขยายเวลาการทำกิจกรรมของพรรคการเมืองตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า ยังไม่เห็นคำสั่งที่ชัดเจน แต่ถ้ามีการปลดล็อกเพื่อให้ผู้ประสงค์จะตั้งพรรคการเมืองใหม่มาจองชื่อ และหาสมาชิกให้ครบตามที่กฎหมายกำหนด ก่อนที่จะมีการปลดล็อกทั้งหมดในช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกับพรรคการเมืองเดิม ทุกฝ่ายที่ประสงค์จะเข้าสู่การเลือกตั้งต้องเตรียมตัวให้พร้อม แต่การที่คสช.ระบุว่าจะขยายหรืออาจงดเว้นการดำเนินการตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองในบางเรื่อง ถ้าหมายถึงการปฏิบัติตามมาตรา 141 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ก็เห็นว่าไม่เป็นผลดี เนื่องจากหลักคิดในการยกร่างฯมาตรานี้เพื่อปฏิรูปพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง ปราศจากนายทุน เป็นพรรคของประชาชน ซึ่งเป็นการออกแบบที่ดีแล้ว และควรเดินหน้าตามนั้น วิธีการที่ง่ายที่สุดคือควรจะปลดล็อกมากกว่า

นายสมชัย กล่าวอีกว่า การปลดล็อกบางส่วนของ คสช.จะมีผลต่อการเตรียมการของพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งจะเริ่มนับเมื่อกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้ง 4 ฉบับประกาศใช้แล้ว โดยจะต้องมีการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน หากพิจารณาจากที่นายกฯประกาศต่อสื่อและชาวโลกว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งการพิจารณากฎหมายของสนช.หากแล้วเสร็จและไม่มีององค์กรใดคัดค้าน คาดว่ากฎหมายจะประกาศใช้เร็วที่สุดคือเดือนเมษายนและมีการเลือกตั้งในเดือนสิงหาคม 2561 แต่หากมีการโต้แย้งการประกาศใช้กฎหมายจะล่าช้าออกไปและการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน อย่างที่นายกฯระบุ ดังนั้นพรรคการเมืองที่จะจัดตั้งใหม่ซึ่งจะต้องมาเริ่มกระบวนการทุกอย่างหลังจดทะเบียนพรรคแล้วพร้อมกับพรรคการเมืองเก่าในช่วงเวลาหลังกฎหมายลูก 4 ฉบับใช้บังคับ การดำเนินการของพรรคการเมืองจะทำทันหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะประกาศให้มีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งเมื่อไหร่ เพราะตามกฎหมายรัฐบาลจะประกาศช่วงใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำทันทีที่ระยะเวลา 150 วัน เริ่มนับ แต่ปัญหาคือหลังประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง 5 วันจากนั้น กกต.ต้องประกาศกำหนดวันเลือกตั้งและต้องประกาศวันรับสมัครเลือกตั้งภายใน 25 วัน หลังมีพระราชกฤาฎีกาเลือกตั้ง จึงเท่ากับเมื่อรถไฟขบวนแรกออกเมื่อไหร่ ขบวนที่ 2 ขบวนที่ 3 ต้องออกตามทันที คำถามถือระยะเวลาดังกล่าว พรรคการเมืองใหม่-เก่า จะสามารถดำเนินการจัดประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรค จัดตั้งสาชาพรรค ตัวแทนประจำจังหวัด จัดทำไพรมารีโหวต เพื่อให้แล้วเสร็จ เพื่อจะเดินมาสมัคร‪ใน 5 วัน‬ดังกล่าวได้หรือไม่

นายสมชัย คาดการณ์ว่า รัฐบาลจะไม่รีบประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง โดยอาจจะประกาศหลังจากที่กฎหมายลูกมีผลใช้บังคับแล้ว 2 เดือนเพื่อให้ทุกฝ่ายมีเวลาเตรียมตัว กกต.เองจะมีเวลาประมาณ 90 วัน ถือว่าเพียงพอ จึงอยากฝากถึงทั้งพรรคใหม่และเก่าหากปลดล็อกแล้วทุกพรรคจะมีเวลาไม่เยอะ อาจเพียง 2 เดือน จึงต้องเตรียมการให้พร้อม เพราะนี่เป็นโจทย์ใหญ่

นายสมชัย กล่าวอีกว่า กกต.ได้รับหนังเชิญเลขาฯ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เข้าร่วมประชุม คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเสนอแนะ และรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ของ สนช. เพื่อไปหารือถึงการแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งตนเสียดายที่ไม่ได้รับเชิญ ทั้งที่อยากไปร่วมแสดงความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น: