PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ไม่เอาเงินข้าว ไปทำการเมือง

ไม่เอาเงินข้าว ไปทำการเมือง
"บิ๊กตู่" บอกชาวนา ขอเชื่อใจผม ไม่เอาเงินข้าว ไปทำการเมือง แขวะจำนำข้าวต้องไม่เป็นภาระประเทศ ยันไม่เคยห้ามปลูกข้าว แต่ต้องเน้นคุณภาพไม่ฉุดราคา ย้ำต้องทำให้กระดูกสันหลังชาติตั้งตรงไม่งอ / กลุ่มชาวนาประชารัฐ หนุนบิ๊กตู่ โผล่
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำคณะ ผู้นำชาวนา องค์กรชาวนา ที่ได้รับรางวัลเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นด้านข้าว ประจำปี 2561 และตัวแทนชาวนารุ่นใหม่ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ได้ฟังคำกล่าวปฏิญาณจากชาวนาแล้วทำให้ตนรู้สึกว่าเรามีโอกาสที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนดีขึ้น และประเทศชาติจะมีความมั่นคงขึ้นด้านอาหาร
ทั้งนี้อยากให้ชาวนาศึกษารายละเอียดหนังสือเกี่ยวกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งชาวนาเป็นกำลังสำคัญของประเทศผลิตข้าวเลี้ยงคนไทยทั้งประเทศมาอย่างยาวนาน ถือเป็นกระดูกสันหลังของชาติ แต่ต้องตั้งให้ตรง ไม่อยากเห็นกระดูกสันหลังชาติหลังงอก้มหน้าก้มตาไปตลอด เราจึงต้องแก้ปัญหาให้ทุกกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม 7 มิ.ย.ตนได้แถลงชี้แจงงบประมาณไปแล้ว ซึ่งได้มีการแบ่งแยกชัดเจนว่างบฯลงไปแต่ละภาคเท่าไหร่ ต้องลงไปสู่ทุกกลุ่มอาชีพให้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน ขณะที่โลกของเราเปลี่ยนแปลงจะคิดแบบเดิมๆ มีการต่อต้านไม่ร่วมมือไม่ได้อีกแล้ว เพราะจะทำให้ประเทศไม่เสถียรภาพ ไม่เข้มแข็ง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันวันนี้หลายอย่างดีขึ้น ตัวเลขดีขึ้น แต่รัฐบาลไม่ได้มองตัวเลขอย่างเดียว ต้องแก้ปัญหาภายใน จึงพยายามคิดทุกอย่างทุกวัน อยากให้เกษตรกรเรียนรู้ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่าปลูกข้าวอย่างเดียว ข้าวต่างประเทศมีการพัฒนาพันธุ์คล้ายกับเรา และหลายประเทศปลูกเหมือนกันหมด ถือเป็นสิ่งที่เป็นอันตราย เพราะปลูกมากราคาน้อยลง แต่หน้าที่ของรัฐบาลต้องยกระดับชีวิตชาวนาไทย จึงมีหลายโครงการออกไป เช่น การแก้ปัญหาข้าวราคาตก แต่ขอร้องในเรื่องจำนำข้าวต้องไม่เป็นภาระให้กับประเทศ เกินราคาตลาดโลกไม่ได้ ซึ่งเป็นหน้าที่รัฐบาลต้องแก้ปัญหาไม่ให้แย่กว่าเดิม แต่จะดีทั้งหมดคงไม่ได้จึงต้องมาร่วมหารือว่าจะทำอย่างไรเพราะทั้งหมดเป็นกลไกสำคัญในการแก้ปัญหา ไม่ใช่รัฐบาลฝ่ายเดียว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปี 62 กว่า 3 ล้านล้านบาทนั้นมีในส่วนของชาวนาด้วย แต่ก็ต้องคำนึงทุกภาคส่วนของเทศ เพราะหากใช้ตรงไหนมากเกินไปก็จะเกิดปัญหา จึงขอให้ทุกคนช่วยกันแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้เป็นภาระ ไม่เช่นนั้นหากรัฐบาลอยู่ไม่ได้ เกษตรกรก็อยู่ไม่ได้ และไม่ใช่ใครให้เยอะแล้วชอบ เพราะเป็นสุดท้ายจะกลายเป็นภาระงบประมาณแผ่นดิน
อีกทั้งงบฯในด้านเกษตรถือว่าให้มากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา จึงต้องลงไปถึงเกษตรกรให้มากที่สุดด้วย และขอร้องเกษตรกรต้องรวมกลุ่มให้ได้รัฐบาลจะได้สนับสนุนได้ และทราบว่าหลายคนอยากขอน้ำ แต่เราไม่สามารถวางแผนการใช้น้ำให้ไปบ้านใครโดยเฉพาะได้ จึงอยู่ที่การบริหารจัดการน้ำในแต่ละพื้นที่ ขอให้ช่วยกันให้มากๆ ไม่เช่นนั้นทุกอย่างปัญหาประเดประดังมาที่รัฐบาล นอกจากนี้ต้องควบคุมการผลิตข้าวให้ได้ จึงฝากกระทรวงเกษตรฯ และกรมการข้าวไปดูเรื่องการตลาดนำการผลิต ซึ่งไม่ใช่ห้ามชาวนาปลูกข้าว เพียงแต่ให้ปลูกข้าวให้มีคุณภาพให้ได้ราคา ไม่ใช่อะไรราคาดีก็ปลูกตาม วันนี้หลายอย่างราคาเริ่มตก เช่น มะม่วง สับประรด สุดท้ายให้รัฐบาลช่วย ขอให้เกษตรกรยึดแนวทางการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วย
ตนได้สั่งการให้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนจากชาวนาไปแล้ว ดังนั้นใครมีปัญหาอะไรรวมถึงเรื่องหนี้นอกระบบขอให้ไปแจ้งได้เลย ไม่ต้องกลัว ไม่มีใครเหนือกฎหมาย และมีรัฐบาลและคสช. ดูแลอยู่ กฎหมายคือกฎหมาย
อย่างไรก็ตามบรรพบุรุษตนก็ทำนาอยู่ภาคอีสาน จึงพอจะรู้เรื่องนี้อยู่บ้าง สิ่งที่พูดจึงเป็นการสร้างความเข้าใจและให้ช่วยกันแก้ปัญหา ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการปฏิรูปการเกษตร เราต้องเข้มแข็งตั้งแต่วันนี้ ต้องแก้ปัญหาให้ได้ในสมัยเรา ไม่ใช่ต่างคนต่างฟัง ถ้ารัฐบาลคิดแต่ทุกคนไม่ช่วยกันไม่ได้ำ จึงต้องทำการบ้านไปด้วยกันถึงจะแก้ได้ และหวังว่ารัฐบาลหน้าก็ต้องแก้ได้ ไม่เช่นนั้นปัญหาแบบนี้ก็จะเป็นไปชั่วนาตาปี สุดท้ายขอให้ชาวนาอย่าท้อแท้ อย่าสิ้นหวัง และร่วมกันทำเพื่ออนาคต
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ได้เดินลงไปทักทายกับตัวแทนเกษตรกรโดยในช่วงหนึ่งได้มีชาวนาตะโกนขึ้นว่า “สู้สู้” ทำให้พลเอกประยุทธ์ถึงกับหัวเราะชอบใจก่อนจะกล่าวว่าจะให้สู้กับใครตอนนี้ก็สู้อยู่กับปัญหา วันนี้ทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และและนายกฯไม่เคยทอดทิ้งใคร ทำงานเพื่อทุกคนนั่นแหละ ทำงานเพื่อคนทั้ง 70,000,000 คน
ทั้งนี้ช่วงหนึ่งหลังการถ่ายรูปร่วมกับคณะตัวแทนชาวนา เมื่อนายกดนตรีหันไปเห็นข้อความบนหลังเสื้อได้แสดงค่าและ ทันทีที่นายกรัฐมนตรีเห็นข้อความสนับสนุน “กองหนุนลุงตู่”หลังเสื้อที่ตัวแทนชาวนาใส่มา ได้ทำท่าตกใจ
พร้อมถามกลับว่า “เอ๊ย!ใครไปทำมา เดี๋ยวก็หาว่าผมนั่นอีก”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยได้ประโยชน์จากข้าว เพราะตนเป็นประธานเองและเข้าประชุมทุกครั้ง อะไรที่ไม่เข้าคณะกรรมการก็จะไม่อนุมัติให้ ทุกอย่างเปิดเผยทั้งหมด มีการประมูลที่หน้าคลัง หากใครไม่ไปร่วมแล้วมาบอกว่าไม่ยุติธรรมไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นการงุบงิบเปิดแล้วใส่ซอง อีกทั้งคนที่เคยได้แล้วไม่ได้ ก็หาว่ารัฐบาลไม่เป็นธรรมได้เงินมา 4หมื่นล้านจากการขายข้าว 2 ล้านตัน แล้วเงินจำนวนดังกล่าวอยู่ที่ไหน แล้วยังบอกว่ารัฐบาลจะเอาเงินนี้ไปทำการเมือง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เละไปหมด
“เชื่อใจผมสิครับ ผมเป็นอย่างนี้ผมไม่ทำหรอก ถึงไม่เข้ามาผมก็ไม่ทำ ผมไม่เคยทำอย่างนั้น ไม่เคยทรยศกับประเทศชาติ จำคำพูดผมไว้แล้วกันนโยบายผมชัดเจน
ส่วนของการปฏิบัติก็ไปไล่กันตรงโน้น มีการตรวจสอบไปไล่กันมา ผิดก็ลงโทษ แต่ยืนยันว่าผมมีเจตนาบริสุทธิ์ในการทำงาน ในการบริหารราชการแผ่นดิน ขณะที่ผมเข้ามาในลักษณะนี้ ผมรู้ตัวดีอยู่แล้ว

กองหนุน ลุงตู่ เพื่อน”สมคิด”

ชาวนาเสื้อฟ้า
กองหนุน ลุงตู่
เพื่อน”สมคิด”
“สมคิด” ตั้ง “เครือข่ายขาวนาประชารัฐ” และตั้งเป็น FOS -Friends of Somkid เป็น”กองหนุน ลุงตู่” เสื้อฟ้า “แทนคุณแผ่นดิน”-“ชีวิตนี้เพื่อขาติ ศาสน์ กษัตริย์
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯและแกนนำ ตั้งพรรคพลังประชารัฐ ที่มีเป้าหมายสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ มีการจัดตั้ง “เครือข่ายขาวนาประชารัฐ” และตั้งเป็น FOS -Friends of Somkid เป็น”กองหนุน ลุงตู่”
โดยเป็น “ชาวนาเสื้อฟ้า” พร้อมข้อความ ที่ด้านหลัง ว่า “กองหนุนลุงตู่. เคริอข่ายชาวนาประชารัฐ By FOS” และ แทนคุณแผ่นดิน ที่แขนเสื้อข้างขวา และ “ชีวิตนี้เพื่อขาติ ศาสน์ กษัตริย์”. ที่ด้านหน้า
วันนี้ มาพบ นายกฯ บิ๊กตู่ ขอบคุณ ที่ช่วยชาวนา ในงาน วันข้าว และชาวนาแห่งชาติ 5 มิย. ที่ทำเนียบฯ
นาย พูลพัชร พูลเจริญ ที่ปรึกษาสมาคมชาวนาข้าวไทย เผย ทำไมถึง รัก พลเอกประยุทธ์ ไม่ใช่แค่ช่วยชาวนา เผย ความรู้สึกที่มีต่อ พลเอกประยุทธ์ ตั้งแต่ ปี2546 สมัยเป็น พันเอก ประยุทธ์ รอง ผบ.ร.21 รอ. ที่มีความจงรักภักดี

สงครามกลางเมือง

สงครามกลางเมือง
"บิ๊กตู่” เผย ถ้าย้อนกลับได้ คงปล่อยผ่าน ไม่ปฏิวัติ ดูว่าจะเกิดสงครามกลางเมืองหรือไม่ ซัด โซเชียล ด่าทำสิ่งดีๆพัง “แนะ”อย่าเอาการเมืองนำแต่ต้องใช้ปัญญา จวกคนปูดเอาเงินขายข้าวมาทำการเมือง ลั่นถึงเข้ามาแบบนี้ ก็ไม่คิดทรยศชาติ ยันผม ไม่อายใคร เพราะผมทำความดี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. กล่าวตอนหนึ่งกับชาวนา ในวันข้าวว่า วันนี้หากทุกคนใจร้อน อยากได้อะไรดีๆเร็วๆด่วนๆ ท้ายสุดก็กลับมามีปัญหาทั้งสิ้น รัฐบาลไม่อยากจะทำอะไรที่แก้ปัญหาอย่างง่ายๆ หากเดือดร้อนแล้วให้เงินไป แต่วัดสัมฤทธิ์อะไรไม่ได้เลย
ขณะเดียวกันสังคมวันนี้หลายอย่างมีปัญหา โดยเฉพาะสังคมในโซเชียลมีเดียที่ด่ากันไปด่ากันมาทุกวันตนไม่เห็นว่าจะได้สาระอะไรทำให้สิ่งที่ดีๆล้มไปหมด เพราะซึ่งเกิดจาก 2 อย่าง คือ การเมืองและความเพลิดเพลินในการเล่นโซเชียลมีเดียโดยไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น ดังนั้นขออย่าให้การเมืองนำ แต่ต้องใช้สติปัญญาและความคิดในการทำงาน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยได้ประโยชน์จากข้าว เพราะตนเป็นประธานเองและเข้าประชุมทุกครั้ง อะไรที่ไม่เข้าคณะกรรมการก็จะไม่อนุมัติให้ ทุกอย่างเปิดเผยทั้งหมด มีการประมูลที่หน้าคลัง หากใครไม่ไปร่วมแล้วมาบอกว่าไม่ยุติธรรมไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นการงุบงิบเปิดแล้วใส่ซอง อีกทั้งคนที่เคยได้แล้วไม่ได้ ก็หาว่ารัฐบาลไม่เป็นธรรมได้เงินมา 4หมื่นล้านจากการขายข้าว 2 ล้านตัน แล้วเงินจำนวนดังกล่าวอยู่ที่ไหน แล้วยังบอกว่ารัฐบาลจะเอาเงินนี้ไปทำการเมือง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เละไปหมด
“เชื่อใจผมสิครับ ผมเป็นอย่างนี้ผมไม่ทำหรอก ถึงไม่เข้ามาผมก็ไม่ทำ ผมไม่เคยทำอย่างนั้น ไม่เคยทรยศกับประเทศชาติ จำคำพูดผมไว้แล้วกันนโยบายผมชัดเจน
ส่วนของการปฏิบัติก็ไปไล่กันตรงโน้น มีการตรวจสอบไปไล่กันมา ผิดก็ลงโทษ แต่ยืนยันว่าผมมีเจตนาบริสุทธิ์ในการทำงาน ในการบริหารราชการแผ่นดิน ขณะที่ผมเข้ามาในลักษณะนี้ ผมรู้ตัวดีอยู่แล้ว
" แต่ถ้าไม่เข้ามาจะทำอย่างไร ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าย้อนกลับไปได้ ผมก็อยากจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน ดูสิว่าวันนี้จะอยู่กันได้ไหม มันจะเกิสงครามกลางเมืองหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้
แล้ววันนี้จะปล่อยในเกิดขึ้นอีกหรือ ทุกอย่างที่ทำวันนี้มันจะล้มไปหมดเลย ทั้งการค้าการลงทุน หลายประเทศก็เชิญมา ผมก็ต้องไป อาจไม่ให้ไปเป็นทางการ พูดคุยได้เพราะกฎหมายเขียนอย่างนั้น ผมก็ทน ผมไม่อายใครเพราะผมทำความดี
แต่เรื่องกฎหมายมันก็เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเขา แต่ความรู้สึกส่วนตัวเขาไม่มีอะไรกับผม ต้องเข้าใจตรงนี้ไม่ใช่ตีกันไปเหมือนที่ผมบอก ทำลายกันเข้าไปนายกรัฐมนตรี วันหน้ามาอีกก็โดนอีกนายกฯ ดีไม่ดีก็โดนด่าพอกัน ทำดีก็โดนทำไม่ดีก็โดนแล้วมันจะเป็นอย่างนี้หรือ จะแยกแยะใครได้”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้แม้ตนไม่ได้เรียนด็อกเตอร์ แต่คิดและอ่านหนังสือรวมถึงอ่านโซเชียลมีเดียและสื่อที่มีทั้งด่าและชม แต่ส่วนใหญ่ด่ามากกว่า ตนไม่เคยน้อยใจจะรู้เองว่าวันหน้าเกิดอะไรขึ้นเพราะตนทำวันนี้เพื่อวันหน้าและไม่ได้โทษใคร ซึ่งการไปสู่ประชาธิปไตยต้องสงบและเรียบร้อย การตีกันไปมาจะเลิกได้ไม่ได้ก็มีผลกระทบกับทุกคน ประท้วงกันไปมารัฐบาลก็ไม่สามารถทำงานหรือแก้อะไรต่อได้ จึงขอให้เลิกได้แล้วการประท้วงแบบเดิม ขออย่าเข้าไปร่วม ทั้งนี้ประชาธิปไตยไม่ใช่แก้ทุกอย่างได้ทั้งหมด แต่มีความจำเป็น เพราะโลกเราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องมองว่าประชาธิปไตยของเราควรเป็นแบบใด จะเป็นแบบเดินหรือไม่ จึงต้องร่วมมือกัน ซึ่งประชาธิปไตยต้องดูแลทั้งคนส่วนใหญ่และส่วนน้อยโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

FOS

ชาวนาเสื้อฟ้า
กองหนุน ลุงตู่
เพื่อน”สมคิด”

“สมคิด” ตั้ง “เครือข่ายขาวนาประชารัฐ” และตั้งเป็น  FOS -Friends of Somkid เป็น”กองหนุน ลุงตู่” เสื้อฟ้า “แทนคุณแผ่นดิน”-“ชีวิตนี้เพื่อขาติ ศาสน์ กษัตริย์

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯและแกนนำ ตั้งพรรคพลังประชารัฐ ที่มีเป้าหมายสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ มีการจัดตั้ง “เครือข่ายขาวนาประชารัฐ” และตั้งเป็น  FOS -Friends of Somkid เป็น”กองหนุน ลุงตู่”

โดยเป็น “ชาวนาเสื้อฟ้า”  พร้อมข้อความ ที่ด้านหลัง ว่า “กองหนุนลุงตู่. เคริอข่ายชาวนาประชารัฐ By FOS” และ แทนคุณแผ่นดิน ที่แขนเสื้อข้างขวา  และ “ชีวิตนี้เพื่อขาติ ศาสน์ กษัตริย์”. ที่ด้านหน้า

วันนี้ มาพบ นายกฯ บิ๊กตู่ ขอบคุณ ที่ช่วยชาวนา ในงาน วันข้าว และชาวนาแห่งชาติ 5 มิย. ที่ทำเนียบฯ

นาย พูลพัชร พูลเจริญ ที่ปรึกษาสมาคมชาวนาข้าวไทย  เผย ทำไมถึง รัก พลเอกประยุทธ์  ไม่ใช่แค่ช่วยชาวนา เผย  ความรู้สึกที่มีต่อ พลเอกประยุทธ์ ตั้งแต่ ปี2546 สมัยเป็น พันเอก ประยุทธ์ รอง ผบ.ร.21 รอ. ที่มีความจงรักภักดี

‘สมชัย’ เล่าเรื่องลุงในหมู่บ้าน ‘เมื่อลุงของผมเปลี่ยนไป-เป็นห่วงลุงจริงๆ’

‘สมชัย’ เล่าเรื่องลุงในหมู่บ้าน ‘เมื่อลุงของผมเปลี่ยนไป-เป็นห่วงลุงจริงๆ’


เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. โพสต์ข้อความเล่าเรื่อง เมื่อลุงของผมเปลี่ยนไป ทางเฟซบุ๊ก มีรายละเอียดระบุว่า
ตอนนั้นลุงใกล้เกษียณจากราชการ แต่บังเอิญมีงานสำคัญให้ลุงทำ เขาบอกว่าลุงต้องมาช่วยวิกฤตของหมู่บ้าน หากไม่เข้ามาช่วย ชาวบ้านที่ทะเลาะกัน อาจจบลงด้วยฆ่ากันตายมากกว่านี้ ลุงมีมีดไม้อยู่ในมือ ลุงเลยถือมีดเข้ามาแก้ปัญหาทำหน้าที่รักษาความสงบหมู่บ้านไว้ไม่ไห้แตกสลายไปมากกว่านี้ ลุงบอกคงอยู่สักพักเพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้น
ลุงตั้งใจทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย เที่ยวเฟ้นหาคนมาช่วยทำงานด้วย แต่ลุงมักจะชอบคนที่ไว้ใจได้มากกว่าคนดีคนเก่ง ดังนั้นรอบๆ ตัวลุงจึงมีเพื่อนลุงที่เกษียณแล้วมาช่วยงานมากกว่าคนเก่งๆ ที่พูดเอาใจลุงไม่เป็น งานต่างๆ ที่ลุงตั้งใจทำเลยไม่ค่อยคืบหน้ามากนัก ลุงขยันออกพบปะชาวบ้าน ขยันพูดหอกระจายข่าวเพื่อเล่าเรื่องราวต่างๆ จนคนฟังแล้วรู้สึกว่าในบรรดาเพื่อนๆ ลุงดูเหมือนจะมีลุงทำอยู่คนเดียว แต่พอฟังมากขึ้นๆ ก็รู้สึกไม่น่าสนใจ เวลาลุงออกกระจายเสียง ชาวบ้านเลยไม่ค่อยอยากฟังเรื่องที่ลุงเล่านัก
หลายปีผ่านไป ด้วยฝีมือไม่เท่าไรของเพื่อนๆ ลุง การงานก็เลยไม่ค่อยคืบหน้า ปัญหาต่างๆ เริ่มสะสม เพื่อนบางคนก็ทำตัวไม่เป็นที่น่าไว้วางใจแก่ชาวบ้าน แต่ลุงรักเพื่อน ใครว่าเพื่อนลุง ลุงก็จะโกรธ มีคนพยายามบอกลุงว่าพอแล้วๆแต่ลุงก็กลัวว่าชาวบ้านในหมู่บ้านจะตีกันอีก ลุงจึงบอกว่าถ้าตีกันลุงก็จะอยู่ตรงนี้แหละ พักหลังคะแนนนิยมลุงลดต่ำเรื่อยๆ แต่ลุงไม่รู้ตัว เนื่องจากยังมีกองเชียร์บางส่วนเชียร์ให้ลุงสู้สู้ ลุงเลยมีแรงฮึดสู้ต่อ

พอลุงบอกลุงจะสู้ต่อ บรรดานักเลงหัวไม้ในหมู่บ้านเห็นเป็นโอกาส เลยมารวมตัวกัน ตะโกน “เราสนับสนุนลุง เราสนับสนุนลุง” ยามนั้น ลุงเริ่มตาฝ้าฟางลืมพฤติกรรมในอดีตของนักเลงหัวไม้เหล่านั้น อ้าแขนรับมาเป็นพวกด้วยความเต็มใจ บรรดาชาวบ้านเริ่มหันหน้ามองกันเลิ่กลั่ก นึกถึงสุภาษิตที่ว่า “คบคนพาลพาลพาไปหาผิด” หรือลุงที่เคารพของเราจะเสียคนตอนปลาย
ก่อนหน้านี้ ลุงขอให้ตามีช่วยเขียนกติกา เพื่อหาคนดีมาดูแลหมู่บ้านต่อจากลุง ตามีก็เขียนกติกาเสียรัดกุมดูยุ่งเหยิงไปหมด กติกาที่เขียนประกาศแล้วก็ใช้ไม่ได้ ต้องมีประกาศอื่นมาแก้ไข กติกาที่เขียนก็ขัดไปขัดมาจนตามีก็งงว่ากติกาเล็กจะขัดกติกาใหญ่หรือไม่ วุ่นวายกันไปทั่ว ลุงเองก็ไม่ถนัดในเรื่องกฎหมายก็เชื่อใจทีมงานว่าที่บอกมานั้นถูกต้อง เลยสัญญาว่าเดือนยี่ปีหน้าลุงจะให้มีประชุมชาวบ้านเพื่อหาผู้นำหมู่บ้านใหม่สักที ตามีกับลุงวิดอีกคนที่รู้กฎหมายดี รู้ว่านับเดือนแล้วยังไงก็ไม่ทัน เพราะที่ผ่านมามัวแต่ดึงกันไปดึงกันมาจนลืมนับเดือนวัน แต่ไม่กล้าพูดอะไรมาก กลัวจะขัดใจลุง เลยปล่อยให้เลยตามเลย
พอลุงพูดซ้ำบ่อยๆ ชาวบ้านเริ่มจำว่าเดือนยี่ปีหน้า เดือนยี่ปีหน้า นี่ถ้าถึงตามกำหนดแล้วกลายเป็นว่าไม่มีประชุมชาวบ้านอีก ท่าทางลุงจะเสียคำพูดเป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้นะ พักหลัง ลุงชอบทำท่าโมโหกราดเกรี้ยวบ่อยๆ ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นมุกของลุงจะได้ไม่มีใครมากล้าตอแย แต่พอทำบ่อยๆ คนเค้าไปพูดกันว่า ลุงเปลี่ยนไปนะ ผมน่ะกลัวว่า มุกแบบนี้ต่อไปจะใช้ไม่ได้ผลและยิ่งทำให้ชาวบ้านเขาไม่พอใจ ยังไงๆ ลุงลองนึกดูนะ
เป็นห่วงลุงจริงๆ

ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์

ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์



หงส์รู้มังกรรู้ ว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่จะเกิดขึ้นไม่ได้แน่นอน
หาก...คสช.ยังไม่ปลดล็อกพรรค การเมือง
ยังไม่ยกเลิกคำสั่ง คสช. 57/2557 ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรม
ล่าสุดมีคำตอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หน.คสช.ผู้เป็นเจ้าของลูกกุญแจปลดล็อกพรรคการเมือง
ไขกุญแจปุ๊บ...ล็อกหลุดปั๊บเห็นทันตา
พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า การจะปลดล็อกพรรคการเมืองให้ดำเนินกิจกรรมเพื่อเตรียมเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่...
จะไม่ปลดล็อกพรวดเดียวทันที!!
แต่จะพิจารณาปลดล็อกเป็นเรื่องๆ ไป เพื่อให้พรรคการเมืองดำเนินการเฉพาะในขั้นตอนที่จำเป็น
เพราะถ้าหากปลดล็อก 100 เปอร์เซ็นต์ อาจเกิดปัญหาวุ่นวาย หรือเกิดชุมนุมเดินขบวนเหมือนที่ผ่านมา
“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่า “พล.อ.ประยุทธ์” ยังไม่ปลดล็อก 100 เปอร์เซ็นต์ แต่จะค่อยๆคลายล็อกเป็นขั้นเป็นตอน
เริ่มจากปลดล็อกให้พรรคการเมืองจัดประชุมพรรคได้ ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.พรรคการเมือง
แต่ยังไม่เปิดก๊อกให้พรรคการเมือง และนักการเมืองเคลื่อนไหวหาเสียงเลือกตั้งอย่างอิสระเสรี
จนกว่าจะเข้าโซนรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.จึงจะปลดล็อกให้หาเสียงเลือกตั้งได้... “ตามสมควร”
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่า คสช.จะใช้เงื่อนไขปลดล็อกเป็นเครื่องมือต่อรองกับพรรคการเมืองและนักการเมือง
เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้พรรคการเมืองให้คำรับรองว่า จะไม่เคลื่อนไหวที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง เกิดการปลุกระดมทำให้การเลือกตั้งชุลมุนวุ่นวาย
ส่วนการหาเสียงเลือกตั้ง พรรคการ-เมืองต้องเสนอแต่เรื่องที่ดี หรือเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ไม่ใช่เปิดเวทีหาเสียงด่ากันระเบิดเถิดเทิง
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า 2 ประเด็นนี้คือเหตุผลสำคัญที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเชิญพรรคการเมืองมาพูดคุยก่อนที่ คสช.จะเริ่มปลดล็อกให้เตรียมการเลือกตั้งได้ตามขั้นตอน
พูดง่ายๆ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการฟังคำตอบจากพรรคการเมืองว่า พร้อมจะร่วมมือกับรัฐบาล เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่วุ่นวายขายปลาช่อนอย่างที่ผ่านมา
“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยที่ พล.อ.ประยุทธ์ ขอความร่วมมือจากพรรค การเมืองเพื่อไม่ให้การเลือกตั้งเกิดความวุ่นวาย หรือมีการปลุกม็อบชุมนุมลุกลามบานปลาย
แต่ “แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่จะผ่านไปด้วยดี
เพราะพรรคการเมืองที่บอยคอตเลือกตั้งก็พร้อมลงเลือกตั้งสุดลิ่มทิ่มประตู
โดยเฉพาะกลุ่มม็อบขัดขวางเลือกตั้งก็กลับลำตั้งพรรคลงเลือกตั้ง (โดยไม่ต้องรอปฏิรูปก่อนเลือกตั้งให้เมื่อยตุ้มอีกต่อไป)
ส่วนการที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ตั้ง เงื่อนไขให้พรรคการเมืองต้องหาเสียงเฉพาะนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน
ไม่ให้โจมตีกันเละตุ้มแป๊ะอย่างที่ผ่านมา
แม้จะเป็นแนวคิดที่ดี แต่มันฝืนธรรมชาติการหาเสียงเลือกตั้งที่พรรค การเมืองต้องโจมตีพรรคคู่แข่งเพื่อชิงคะแนนเสียงประชาชน
ขืนบังคับให้พูดแต่นโยบายพรรคอย่างเดียว
มันก็จืดเป็นน้ำล้างถุงกาแฟน่ะซีโยม.
“แม่ลูกจันทร์”

คลายล็อกโล่งทีละขยัก

คลายล็อกโล่งทีละขยัก



ทิศทางสดใส ขยักนี้ไปโล่ง เริ่มจากสัญญาณเศรษฐกิจ ทีม รมต.ในเครือข่าย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ช่วยกระตุกแต้ม “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไต่กราฟไนกี้ ตัวเลขเศรษฐกิจเชิดหัวขึ้น
เหลือเพียงปมปัญหาปากท้อง ที่รอเวลาเห็นผลสัมฤทธิ์จากสารพัดมาตรการอัดฉีดสู่ “ฐานราก”
ล่าสุด ทีมข่าวการเมืองได้มีโอกาสร่วมคณะไทยรัฐ ต้อนรับและฟังเลกเชอร์จากคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สอท.ชุดใหม่ นำโดยคุณสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมสมัย 2
โดยงานนี้ทีม สอท.จัดกันมาเต็มคณะ สลับกันแจกแจงแผนงาน-โครงการยกระดับภาคอุตสาหกรรมของประเทศ แยกย่อยแต่ละด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาบุคลากร การปรับตัวรับยุคของเอไอปัญญาประดิษฐ์-หุ่นยนต์
เทคโนโลยีดิจิทัล ไอโอที จะเข้ามามีบทบาทในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ธุรกิจเอสเอ็มอี สตาร์ตอัพ ที่ต้องเร่งหนุน การดึงผลวิจัยที่น่าสนใจลงจากหิ้งสู่การพัฒนาเชิงอุตสาหกรรม พาณิชย์ ประโยชน์สาธารณะ รวมถึงการสนับสนุนด้านสถานศึกษา ผลิตกำลังคน การพัฒนานวัตกรรมใหม่
เรียกว่า สอท.ยุค “ประธานสุพันธุ์” เป็นอีกกลจักรสำคัญยุคไทยแลนด์ 4.0 ของ “นายกฯตู่”
ขณะที่หันมาดูในภาคส่วนฝ่ายบริหารบ้านเมือง ขยักที่ว่าไปโล่ง นั่นก็ไม่พ้นผลสืบเนื่องจากกรณีที่กฎกติกาเลือกตั้ง กฎหมายลูกสำคัญๆผ่านด่านฉลุย รองรับคิวเข้าคูหากาคะแนน โรดแม็ปเลือกตั้งปี 2562
แผน “ต่อตั๋ว” น่าจะปลอดโปร่ง ถ้าไม่มีเหตุทำ “นายกฯตู่” สะดุดอารมณ์
เรื่องของเรื่อง ในห้วงที่เพลี่ยงพล้ำแนวรบไซเบอร์วอร์ สงครามโซเชียลมีเดีย นอกจากข่าวจริง–ข่าวปลอมปนเปกันมั่ว คลิปตัดต่อ ดึงผู้นำเป็นพระเอก “ล่อเป้า” กระหน่ำ นั่นก็ทำ “บิ๊กตู่” ฉุนสะสม
นอกเหนือจากนั้น ก็ดูจะเข้าล็อกเปิดทางสะดวก โดยเฉพาะเรื่องกองหนุนกองเชียร์ เกมระดมไพร่พลตั้งนั่งร้านเดินไปตามสเต็ปด้วยดี ทั้งกับค่ายกองเชียร์หลัก เห็นแผ่วๆเรื่องกระแสฮือฮาไป
แต่พลังดีลดึงดูดไม่ได้ลดทอน ห้วงล่าสุดส่อแววได้กำลังยกลอตเข้าเสริมทัพ “พลังประชารัฐ” ที่มีรัฐมนตรีในเครือข่าย “ดร.สมคิด” บริหารจัดการ มีดีลเมกเกอร์ “3 ส.” สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สุชาติ ตันเจริญ
ระดับหัวจ่ายหลัก ในเครือข่ายเก่า ดร.สมคิด สมัยพรรคไทยรักไทย
60–70 อดีต ส.ส. ไล่เช็กชื่อแล้ว มีทั้งอดีต ส.ส. อดีต ส.ต.สอบตก อดีต ส.ว. แต่ถือว่าเห็นน้ำเห็นเนื้อ
ดึงจากค่ายนายใหญ่ได้พอประมาณ ทำเพื่อไทย “แกว่ง” เหมือนกัน
ขณะที่อีกด้าน ส.ที่เคยอยู่นอก “สมคิดกรุ๊ป” อย่าง “กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ” ก็กลายเป็นอีกแนวร่วมสำคัญ เพราะรู้กันดีดีลลับ “2 ส.” มีมานาน ในแผนปั้นผู้นำอำนาจพิเศษเข้าสู่ระบบ หลังเลือกตั้ง
ถึงจะกั๊กเรื่องหนุนใคร แต่ก็อ่านทางได้จากกำนันที่คอนโทรลเกมหลังค่าย ประกาศไว้แต่ไหนแต่ไร
ชูเชียร์ “บิ๊กตู่” ให้อยู่ต่อเก็บงานให้เสร็จ
ที่สำคัญ “ลุงกำนันสุเทพ” คัมแบ็กเข้าฝัก แม้ว่าช็อตแรกๆจะสะดุดตอ “นายหัว” โดดขวาง แต่พอถอยแล้วรุกเข้าสูตรใหม่ ค่อยๆ แซะค่อยๆทอน ดึงเข้าค่ายใหม่ หั่นแต้มลดดีกรีเฮี้ยวประชาธิปัตย์เข้าเป้า
ตามรูปเกม 2 บิ๊ก ส.เสือ แม่ทัพดีลประสานงานเข้าเป้า ผู้นำ ก็น่าจะวางใจได้กับสูตรรัฐบาลผสม ถ้าไม่มีเรื่องกวนอารมณ์ รอเวลาผลสัมฤทธิ์งานปั่นเศรษฐกิจฐานราก
รวมทั้งที่เริ่มมีเสียงอื้ออึง ต่อเนื่องจากคิวคำสั่งหัวหน้า คสช.และกฎหมายพรรคการเมือง ในปมไพรมารีโหวต
กระบวนการเฟ้นผู้สมัครขั้นต้น ที่ยังมีปัญหาเรื่องสมาชิก สาขาพรรค ตัวแทนจังหวัด องค์ประกอบสำคัญ นอกจากขั้วฝ่ายการเมืองโวยแล้ว ล่าสุด กกต.ก็ออกมาติง กลัวไพรมารีโหวตจะทำไม่ทัน
แน่นอนประเด็นนี้ย่อมมีผลต่อทุกพรรค โดยเฉพาะพรรคใหม่ พรรคขนาดกลางขนาดย่อมที่เคลื่อนตัวรอบวงโคจรค่ายหลักค่ายหนุน “บิ๊กตู่” จนต้องจับตา อาจต้องงัด “อำนาจพิเศษ” มาคลายล็อก
แก้ปมเอื้อค่ายบริวาร ไม่ให้สะดุดแผนพลาดเป้า.
ทีมข่าวการเมือง