PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2561

สงครามกลางเมือง

สงครามกลางเมือง
"บิ๊กตู่” เผย ถ้าย้อนกลับได้ คงปล่อยผ่าน ไม่ปฏิวัติ ดูว่าจะเกิดสงครามกลางเมืองหรือไม่ ซัด โซเชียล ด่าทำสิ่งดีๆพัง “แนะ”อย่าเอาการเมืองนำแต่ต้องใช้ปัญญา จวกคนปูดเอาเงินขายข้าวมาทำการเมือง ลั่นถึงเข้ามาแบบนี้ ก็ไม่คิดทรยศชาติ ยันผม ไม่อายใคร เพราะผมทำความดี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. กล่าวตอนหนึ่งกับชาวนา ในวันข้าวว่า วันนี้หากทุกคนใจร้อน อยากได้อะไรดีๆเร็วๆด่วนๆ ท้ายสุดก็กลับมามีปัญหาทั้งสิ้น รัฐบาลไม่อยากจะทำอะไรที่แก้ปัญหาอย่างง่ายๆ หากเดือดร้อนแล้วให้เงินไป แต่วัดสัมฤทธิ์อะไรไม่ได้เลย
ขณะเดียวกันสังคมวันนี้หลายอย่างมีปัญหา โดยเฉพาะสังคมในโซเชียลมีเดียที่ด่ากันไปด่ากันมาทุกวันตนไม่เห็นว่าจะได้สาระอะไรทำให้สิ่งที่ดีๆล้มไปหมด เพราะซึ่งเกิดจาก 2 อย่าง คือ การเมืองและความเพลิดเพลินในการเล่นโซเชียลมีเดียโดยไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น ดังนั้นขออย่าให้การเมืองนำ แต่ต้องใช้สติปัญญาและความคิดในการทำงาน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยได้ประโยชน์จากข้าว เพราะตนเป็นประธานเองและเข้าประชุมทุกครั้ง อะไรที่ไม่เข้าคณะกรรมการก็จะไม่อนุมัติให้ ทุกอย่างเปิดเผยทั้งหมด มีการประมูลที่หน้าคลัง หากใครไม่ไปร่วมแล้วมาบอกว่าไม่ยุติธรรมไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นการงุบงิบเปิดแล้วใส่ซอง อีกทั้งคนที่เคยได้แล้วไม่ได้ ก็หาว่ารัฐบาลไม่เป็นธรรมได้เงินมา 4หมื่นล้านจากการขายข้าว 2 ล้านตัน แล้วเงินจำนวนดังกล่าวอยู่ที่ไหน แล้วยังบอกว่ารัฐบาลจะเอาเงินนี้ไปทำการเมือง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เละไปหมด
“เชื่อใจผมสิครับ ผมเป็นอย่างนี้ผมไม่ทำหรอก ถึงไม่เข้ามาผมก็ไม่ทำ ผมไม่เคยทำอย่างนั้น ไม่เคยทรยศกับประเทศชาติ จำคำพูดผมไว้แล้วกันนโยบายผมชัดเจน
ส่วนของการปฏิบัติก็ไปไล่กันตรงโน้น มีการตรวจสอบไปไล่กันมา ผิดก็ลงโทษ แต่ยืนยันว่าผมมีเจตนาบริสุทธิ์ในการทำงาน ในการบริหารราชการแผ่นดิน ขณะที่ผมเข้ามาในลักษณะนี้ ผมรู้ตัวดีอยู่แล้ว
" แต่ถ้าไม่เข้ามาจะทำอย่างไร ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าย้อนกลับไปได้ ผมก็อยากจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน ดูสิว่าวันนี้จะอยู่กันได้ไหม มันจะเกิสงครามกลางเมืองหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้
แล้ววันนี้จะปล่อยในเกิดขึ้นอีกหรือ ทุกอย่างที่ทำวันนี้มันจะล้มไปหมดเลย ทั้งการค้าการลงทุน หลายประเทศก็เชิญมา ผมก็ต้องไป อาจไม่ให้ไปเป็นทางการ พูดคุยได้เพราะกฎหมายเขียนอย่างนั้น ผมก็ทน ผมไม่อายใครเพราะผมทำความดี
แต่เรื่องกฎหมายมันก็เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเขา แต่ความรู้สึกส่วนตัวเขาไม่มีอะไรกับผม ต้องเข้าใจตรงนี้ไม่ใช่ตีกันไปเหมือนที่ผมบอก ทำลายกันเข้าไปนายกรัฐมนตรี วันหน้ามาอีกก็โดนอีกนายกฯ ดีไม่ดีก็โดนด่าพอกัน ทำดีก็โดนทำไม่ดีก็โดนแล้วมันจะเป็นอย่างนี้หรือ จะแยกแยะใครได้”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้แม้ตนไม่ได้เรียนด็อกเตอร์ แต่คิดและอ่านหนังสือรวมถึงอ่านโซเชียลมีเดียและสื่อที่มีทั้งด่าและชม แต่ส่วนใหญ่ด่ามากกว่า ตนไม่เคยน้อยใจจะรู้เองว่าวันหน้าเกิดอะไรขึ้นเพราะตนทำวันนี้เพื่อวันหน้าและไม่ได้โทษใคร ซึ่งการไปสู่ประชาธิปไตยต้องสงบและเรียบร้อย การตีกันไปมาจะเลิกได้ไม่ได้ก็มีผลกระทบกับทุกคน ประท้วงกันไปมารัฐบาลก็ไม่สามารถทำงานหรือแก้อะไรต่อได้ จึงขอให้เลิกได้แล้วการประท้วงแบบเดิม ขออย่าเข้าไปร่วม ทั้งนี้ประชาธิปไตยไม่ใช่แก้ทุกอย่างได้ทั้งหมด แต่มีความจำเป็น เพราะโลกเราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องมองว่าประชาธิปไตยของเราควรเป็นแบบใด จะเป็นแบบเดินหรือไม่ จึงต้องร่วมมือกัน ซึ่งประชาธิปไตยต้องดูแลทั้งคนส่วนใหญ่และส่วนน้อยโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ไม่มีความคิดเห็น: