PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2561

3พรรค ‘พท.-ปชป.-อนค.’ เห็นตรงแก้รธน. ‘ไพบูลย์’ ชี้ต้องเดินตามกติกา ทนอีก 5 ปีแล้วจะชอบ

3พรรค ‘พท.-ปชป.-อนค.’ เห็นตรงแก้รธน. ‘ไพบูลย์’ ชี้ต้องเดินตามกติกา ทนอีก 5 ปีแล้วจะชอบ


เสวนา “อนาคตประชาธิปไตยไทย : ข้ามพ้น กับดัก ความหวัง?” 3 พรรค “พท.-ปชป.-อนต.” เห็นตรงกันต้องแก้ รธน. ส่วน “ไพบูลย์” ชี้ ทางออกคือเดินตามกติกา-รธน.
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีงานเสวนาในหัวข้อ “อนาคตประชาธิปไตยไทย : ข้ามพ้น กับดัก ความหวัง?” โดยผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและแกนนำเพื่อไทย (พท.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) และนายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป (ปชช.) โดยบรรยากาศในการเสวนาเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักศึกษาและประชาชนเข้าร่วมการเสวนาจำนวนมาก และที่มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสังเกตการณ์ตลอดการเสวนา
นายจาตุรนต์กล่าวว่า สิ่งที่ยังเป็นปัญหาและกับดักในอนาคตคือการไม่มีความพยายามที่จะหาทางออก และหาทางแก้ปัญหาร่วมกันอย่างเท่าเทียม ซึ่งไม่ใช่กับดักของนักการเมืองแล้ว แต่อนาคตในวันข้างหน้าจะเป็นกับดักของประเทศไทย และประชาธิปไตย อีกหน่อยสังคมไทยจะกลายเป็นสังคมที่ขาดผู้มีอำนาจที่ใช้อำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไม่ได้ คือ ขาด คสช.ไม่ได้ อีกหน่อยอาจจะมีการทำผิดแล้วไม่ถูกลงโทษตามกฎหมาย ฯลฯ กับดักต่อมาคือ กับดักที่จะทำให้เกิดเงื่อนไขนำไปสู่ความขัดแย้ง และเป็นข้ออ้างที่ทำให้เกิดการรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคต
นายจาตุรนต์กล่าวอีกว่า ตามกติกาที่เขียนขึ้นได้นำประเทศไทยย้อนกลับไป 30-50 ปีที่แล้ว ทำประเทศถอยหลังไปมาก ที่ผ่านมามีพัฒนาการที่ดี และส่วนที่เป็นปัญหา มีระบบป้องกันการทุจริต แต่ระบบดังกล่าวก็ถูกแทรกแซงโดย คสช. การใช้กติกาเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ยังไม่ถูกปลูกฝังและทำให้เกิดขึ้น การพัฒนาที่สำคัญที่ผ่านมาประชาชนให้ความสำคัญกับพรรคการเมือง ได้รู้จักเลือกพรรค และนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและประเทศชาติ ทั้งนี้ ในการเลือกตั้ง คสช.เข้ามาแทรกแซง ผลการเลือกตั้งที่จะออกมาอาจจะไม่สะท้อนความต้องการของประชาชน อุปสรรคที่สำคัญมากคือ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนปฏิรูปประเทศ ซึ่งมีรายละเอียดมาก แล้วรัฐธรรมนูญบัญญัติให้รัฐบาลทำตามแผนปฏิรูปมิเช่นนั้นจะถูกตรวจสอบ และนำไปสู่การถูกถอดถอนในที่สุด การพัฒนาจึงเกิดได้ยากมาก หาก คสช.เข้ามาเป็นรัฐบาลก็เท่ากับได้วางแผนการบริการประเทศไว้แล้ว ซึ่งประชาชนไม่มีส่วนร่วมในการวางแผน ดังนั้น เชื่อขนมกินได้เลยว่า ไม่ตรงกับความต้องการของประชาชน จะทำให้ประเทศไทยปรับตัวไปไม่ทันกับพัฒนาการ และภาระจะตกไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน ระบอบประชาธิปไตยที่ถูกพัฒนามาจะถูกกับดัก
นายจาตุรนต์กล่าวอีกว่า ตนหารือกับพรรคแบบไม่ได้ประชุมมาแล้วว่า ทางที่จะหลุดจากกับดักไม่ให้รุนแรงคือ 1.กำหนดวันเลือกตั้งโดยเร็ว ระบุวันมาเลย 2.คสช.งดใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้ง 3.ก่อนการเลือกตั้ง 3 เดือน ให้นายกฯ และ ครม.ทั้งคณะลาออก ให้ปลัดกระทรวงต่างๆ มาทำหน้าที่ตามมาตรา 168 แล้วใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 169 มาห้ามไม่ให้ ครม.ทำอะไรบ้าง เช่น การใช้งบประมาณ ฯลฯ 4.ให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม 5.เพื่อป้องกันไม่ให้ คสช.สืบทอดอำนาจ พรรค พท.ยืนยันไม่สนับสนุนคนนอกเป็นนายกฯ และจุดมุ่งหมายคือการคัดค้าน ขัดขวาง คสช.ที่จะสืบทอดอำนาจ 6.พรรคการเมืองต้องมีความมุ่งมั่น และตั้งใจที่จะแก้รัฐธรรมนูญ โดยจะต้องไม่ลืมเรื่องนี้เมื่อเข้าไปเป็นรัฐบาล พรรคการเมืองจะต้องประกาศเป็นนโยบายไว้เลย ซึ่งเราตั้งเป้าไว้ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ถ้าประชาชนทั้งประเทศเข้าใจ และสนับสนุนอย่างจริงจังการแก้รัฐธรรมนูญจึงจะเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ เราจะเสนอให้แก้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปประเทศ โดยจะชี้ให้เห็นว่าทั้ง 2 อย่างนี้เป็นปัญหาต่อการก้าวไปข้างหน้าของประเทศอย่างไร

ด้านนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สิ่งที่เราน่าจะคิดตรงกันคืออยากให้ประเทศไทยคืนสู่ระบอบประชาธิปไตย 4 ปีที่ผ่านมาผู้มีอำนาจวางกับดักโดยการใช้วิธีจำกัดสิทธิเสรีภาพ เพื่อป้องกันความขัดแย้ง นี่คือสิ่งที่ตนถอดรหัสมาจากสิ่งที่นายจาตุรนต์พูด และเห็นด้วย ซึ่งแม้ปัจจุบันเราจะมีรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกที่จะใช้สำหรับการเลือกตั้งแล้ว แต่คำสั่งต่างๆของ คสช.กลับทำให้ไม่สามารถเดินไปตามกฎหมายต่างๆ ได้ ทั้งที่บอกว่ามีโรดแมป แต่การเดินตามตรงนี้ยังติดขัดด้วยคำสั่ง คสช. ต่อมาคือ กระบวนการเลือกตั้งที่จะทำให้ประชาธิปไตยสมบูรณ์ได้ต้องเริ่มต้นอย่างเสรี และเป็นธรรม แต่คำถามเกิดขึ้นว่าเราจะสามารถจัดการเลือกตั้งที่เที่ยงธรรมได้จริงหรือ เพราะเคยมีคำสั่งปลด กกต.ไปแล้วครั้งหนึ่ง มีคำถามว่า กกต.ที่จะดำเนินการจัดการเลือกตั้งจะทำหน้าที่ได้อย่างเที่ยงธรรมมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ ผู้มีอำนาจที่เคยประกาศตัวว่าจะเป็นกรรมการกลับลงมาเป็นผู้เล่นเสียเอง อีกอย่างคือ ส.ว. 250 คนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจะมีอำนาจเลือกผู้นำรัฐบาล สามารถใช้อำนาจสวนทางกับความต้องการของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง อีกกับดักคือ กติกาสูงสุดของประเทศในปัจจุบันยังไม่มีความเป็นประชาธิปไตย มีบทบัญญัติอีกหลายบทที่ไม่สามารถนำไปสู่การพัฒนาประชาธิปไตย ทั้งนี้ นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งทั่วโลก ถูกตั้งคำถามจากประชาชนเรื่องการมีส่วนร่วม ในการมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของประเทศโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ดังนั้น นักการเมือง พรรคการเมือง จะต้องเร่งกอบกู้ศรัทธาจากประชาชน
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า การย้อนอดีตไม่ว่าหยิบส่วนไหนมาก็เป็นปัญหาได้ทั้งสิ้น เราไม่ได้อยากกลับไปสู่ความวุ่นวาย แต่การไปโทษว่าเป็นเพราะการเลือกตั้ง หรือเป็นเพราะประชาธิปไตย แบบนั้นก็ไม่ใช่ เพราะไม่อย่างนั้น เราจะอยากกลับไปพฤษภาคม 35 หรือ เราอย่ามองด้านใดด้านเดียว แต่เราต้องเกี่ยวทุกสถานการณ์มาหาทางออกร่วมกัน ตนไม่ได้พูดถึงอนาคตใหม่ แต่พูดถึงอนาคตที่ใหม่กว่า ตนตั้งคุณค่าของประชาธิปไตยไว้ว่าเป็นระบบที่คนจะได้รับการเคารพศักดิ์ศรี และเสรีภาพ แม้อาจจะใช้เกินเลย หรือบางครั้งอาจจะตัดสินใจผิด ถ้าเราเน้นคุณค่า และรูปแบบตรงนี้ได้จึงจะเป็นประชาธิปไตย หากบอกว่าระบอบการเลือกตั้ง เป็นการเลือกตั้ง 4 วินาที แต่มันก็ยังนานกว่าการที่ไม่ใช่ระบอบการเลือกตั้ง และเราต้องรักษาสถาบันที่คอยตรวจสอบถ่วงดุล คนที่อาสาเข้ามาเลือกตั้งครั้งนี้หากมีข้อเสนอที่ดีกว่ายุทธศาสตร์ชาติ เสนอไปเถิด และต้องทำให้ได้ เพราะคุณได้รับอำนาจมาจากประชาชนแล้ว คุณต้องทำให้ได้ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ใช่รัฐธรรมนูญฉบับถาวรหรอก วันหนึ่งต้องมีการแก้ไข แต่หากเรากระโดดไปที่เรื่องนี้เลย ตนกลัวว่าเราจะเข้าไปติดกับดักเดิม คุณต้องบอกให้ได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาชีวิตที่ดีกว่าของประชาชนได้อย่างไร แล้วระดมพลังของคนในสังคมแล้วไปแก้ไข แต่ถ้าเราตั้งไว้ว่าจะต่อกร แตกหักกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตั้งแต่ต้นเกรงว่าเราจะก้าวเข้าไปติดกับดักเดิม
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ส.ส.ที่อยากแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ในสภาอย่างไรก็เกิน 376 เสียง ตรงนี้ไม่ใช่ปัญหา แต่กติกาที่เขียนไว้ในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตรงนี้ต่างหากที่เป็นปัญหา การจะต้องทำประชามติอีก 2-3 ครั้ง จะทำให้ประชาชนไม่มากับเรา เพราะยังไม่มีหลักประกันให้ประชาชนว่า การแก้รัฐธรรมนูญนั้นไม่ใช่การแก้เพื่อตนเอง ทั้งนี้ ทางออกจากกับดัก เช่น 1.การปลดหรือเลิกคำสั่ง คสช. ควรทำให้เร็วที่สุด ตนยืนยันมาตลอดว่า การทำกิจกรรมต่างๆ ของพรรคการเมืองแล้วจะไปกระทบความมั่นคงตนมองไม่เห็นจริงๆ 2.คสช.ต้องทำให้เกิดความชัดเจน และความมั่นใจจริงๆ ว่าจะไม่มีการใช้อำนาจใดๆ ไปแทรกแซงการทำหน้าที่ของ กกต. 3.คสช.ต้องชัดเจนกับประชาชนว่าเจตนารมณ์ของท่านจะเอาอย่างไร ประกาศตัวมาให้ชัด แล้วแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม ท่านต้องเท่าเทียมกับคนอื่น ถ้าท่านไม่เท่าเทียมอย่ามาพูดเรื่องธรรมาภิบาล หรือประชาธิปไตย และวุฒิสภาจะมาฝืนเสียงข้างมากในสภาที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนไม่ได้ 4.ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปสองพันกว่าหน้า มีการอ้างถึงยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งที่ยุทธศาสตร์ชาติยังไม่ประกาศเลย ไม่ต้องไปพูดถึงว่าจะมีอุปสรรคแค่ไหนอย่างไรเลย เราต้องให้ประชาชนเป็นผู้ชี้ทิศทางของประเทศ เราควรทำให้ประชาชนยอมรับด้วยความสบายใจ และเมื่อได้รับการยอมรับแบบนี้ก็จะไม่เป็นปมไปสู่ความขัดแย้ง


นายธนาธรกล่าวว่า หลังปี 2475 มีเพียง 24 ปี 310 วัน เท่านั้นที่นายกฯไทยมาจากการเลือกตั้ง ดังนั้น กับดักไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในรอบนี้ ชีวิตตนผ่านการทำรัฐประหารมาแล้ว 5 ครั้ง สำเร็จ 3 ล้มเหลว 2 แต่ไม่มีผู้นำการรัฐประหารคนใดถูกนำตัวมาลงโทษ การทำรัฐประหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าในประเทศไทยมีผลอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย นอกจากนี้ ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ตนคิดว่ามีความชัดเจน 1 อย่างในรอบ 60 ปีที่ผ่านมาว่าอะไรฉุดรั้งการเปลี่ยนแปลง และการก้าวไปข้างหน้าของสังคมไทยไว้ พรรคอนาคตใหม่ปาวารณากับตัวเองว่าจะให้มันหยุดที่ยุคของเรา จะไม่ส่งผ่านการรัฐประหารไปยังลูกหลานของเรา วันนี้โลกของเราหมุนเร็วมาก จะรักษามาตรฐานของไทยในสังคมโลกไว้ได้ เราต้องหมุนเร็วให้ทันโลก ซึ่งระบอบที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยตามไม่ทัน ดังนั้น เราต้องทำให้คนกลับมาเชื่อมั่นในระบบรัฐสภาให้ได้

บอลโลกเริ่มลุย

บอลโลกเริ่มลุย



การเผชิญหน้าครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าง สิงห์หนุ่มจอมอหังการ “คิม จอง อึน” ผู้นำเกาหลีเหนือ กับเสือเฒ่าเขี้ยวลากดิน “โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้นำอเมริกา
โดยใช้ประเทศสิงคโปร์เป็นเวทีกลางก็จบลงอย่างหวานเจี๊ยบทุกระดับประทับใจ
สรุปย่อๆ คือ สหรัฐอเมริกา และเกาหลีเหนือ ตกลงจะเทความขัดแย้งทุกอย่างทิ้งไป เพื่อเริ่มต้นความสัมพันธ์ก้าวใหม่ที่รุ่งเรืองมั่นคง
ผู้นำมหาอำนาจอเมริกาจะให้การรับรองความปลอดภัยของเกาหลีเหนือจากการคุกคามภายนอกทั้งปวง
ผู้นำเกาหลีเหนือให้คำมั่นสัญญา จะเดินหน้าปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์
จะไม่พัฒนา และไม่สะสมขีปนาวุธข้ามทวีปไปยิงข่มขู่ชาวบ้านให้ขวัญกระเจิงอีกต่อไป!!
อเมริกา และเกาหลีเหนือ จะร่วมแรงร่วมใจทำให้คาบสมุทรเกาหลีเกิดสันติภาพ และสันติสุขอย่างถาวร
เรียกว่าคุยกันครั้งเดียว...เคลียร์จบทุกประเด็น
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้การเจรจาระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดี คิม จอง อึน ตกลงกันได้อย่างสะดวกโยธิน
เนื่องจากทั้ง 2 คน เป็นมนุษย์ห้าวเป้งเหมือนกัน
เมื่อห้าวเป้งมาเจอห้าวเป้ง...คุยกันภาษาห้าวเป้ง ย่อมตกลงกันได้รวดเร็ว
ข้อสำคัญ...การนัดพบกันครั้งนี้ “จบกันแบบวิน–วิน”
ต่างฝ่ายต่างได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” กลายเป็นผู้นำคนแรกที่สามารถถอดปลั๊กไม่ให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ใหม่ ที่ล่อแหลมใกล้จะระเบิดเถิดเทิง
และเป็นคนที่ทำให้ “คิม จอง อึน” หยุดอาละวาดได้ซะที
ถือว่าเกมนี้ นายทรัมป์ ได้เครดิตไปเต็มๆ
ฝ่ายประธานาธิบดี “คิม จอง อึน” ก็กลายเป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนแรก ที่ทำให้พี่เบิ้มอเมริกาต้องถ่อมาขอเจรจาปรองดอง
แถมยังพลิกภาพลักษณ์ตัวเองจากผู้นำเบ๊อะบ๊ะ กลายเป็นผู้นำซุปตาร์ในเวทีการเมืองโลกเพียงชั่วข้ามคืน
เกมนี้ คิม จอง อึน ได้กำไรบานตะไท
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าปัญหาที่จะต้องพิสูจน์ต่อไปคือ ผู้นำเกาหลีเหนือจะปฏิบัติตามข้อตกลงที่ประกาศไว้หรือไม่เท่านั้นเอง
จริงหรือว่า “คิม จอง อึน” จะยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์
เพราะการปลดอาวุธนิวเคลียร์ จะทำให้เกาหลีเหนือ ไม่มีอำนาจต่อรองอย่างที่เคยมี
เป็นไปได้หรือว่า “คิม จอง อึน” จะยอมกลับลำเปลี่ยนนโยบายมาจูบปากกับอเมริการ้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นไปได้หรือว่า “คิม จอง อึน” จะกลับมาญาติดีกับเกาหลีใต้ ที่รบราฆ่าฟันกันมาช้านาน และยังประกาศสงครามคาราคาซังมากว่า 50 ปี
ตรงนี้แหละที่ “แม่ลูกจันทร์” ต้องรอพิสูจน์ความจริง
แต่ที่ไม่ต้องรอพิสูจน์ความจริงให้เสียเวลา วันนี้ (14 มิ.ย.) สงครามลูกหนังโลกที่รัสเซีย จะได้ฤกษ์ฟาดแข้งอย่างแน่นอน!
คู่แรกประเดิมสนาม คือทีมเจ้าภาพรัสเซีย ปะทะทีมเศรษฐีน้ำมันซาอุดีอาระเบีย เวลา สี่ทุ่มตรง
ดูตามหน้าเสื่อ...รัสเซียเหนือกว่าครึ่งช่วงตัว
ดูบอลโลกให้สนุก เชียร์บอลโลกให้มันๆ ไม่ต้องวางเดิมพันดีกว่านะโยม.
“แม่ลูกจันทร์”

ถึงจุดเติม 'วิทยายุทธ์'

ถึงจุดเติม 'วิทยายุทธ์'



“ถ้าคนหนุนหลักร้อยยังหาไม่ได้ ก็ไม่ต้องทะลึ่งมาลงสมัคร ส.ส.ให้อายเขาหรอก”
นี่คือคำพูดจากปากของเซียนการเมืองรุ่นใหญ่ ระดับหัวหน้าป้อมค่ายที่บอกชื่อไปต้องร้องอ๋อ ที่พูดถึงประเด็น “ไพรมารีโหวต” ที่พรรคการเมืองต่างๆพยายามอ้างเป็นเงื่อนไขในการเรียกร้องกดดันให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ปลดล็อกให้พรรคการเมืองเร่งหาสมาชิก
เพราะหวั่นปัญหาการทำไพรมารีโหวตไม่ทัน
นั่นหมายถึงถ้าเอาจริงๆก็ไม่มีปัญหา การหาคนมาการันตีสิทธิการลงสมัครในพื้นที่ ไม่เหนือบ่ากว่าแรงนักเลือกตั้งอาชีพ แค่อ้างกดดันตามเหลี่ยมเกมการเมือง
ตามท้องเรื่องโหมกระแส เร้าสถานการณ์เข้าโหมดเลือกตั้ง
โดยจังหวะที่ คสช.เองก็ไม่ได้แสดงท่าทีแข็งขืนเหมือนช่วงแรกๆ เพราะล่าสุด “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เบอร์หนึ่งฝ่ายความมั่นคง คสช. ก็ประกาศตัวเองเลย ได้รับมอบหมายจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.
ให้นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานประชุมฟลอร์ใหญ่ปลายเดือนมิถุนายนนี้
ตามโปรแกรมที่ คสช.นัดตัวแทนพรรคการเมือง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หารือเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีคำตอบล่วงหน้าก่อนแล้ว แนวโน้มแบบที่ “บิ๊กป้อม” แบไต๋เป็นนัยกั๊กๆ จะยังไม่ปลดล็อกทั้งหมด เน้นแค่การเปิดให้หาสมาชิกพรรคการเมืองได้
อย่าเพิ่งหวังถึงขั้น “ปล่อยผี” เปิดประตูป่าช้าให้นักการเมืองลุยหาเสียงเลือกตั้ง เพราะต้องรอกฎหมายลูกอีก 2 ฉบับบังคับใช้ครบก่อน
ค่อยๆผ่อนทีละขยัก ไม่ปล่อยไฟเขียวแบบพรวดพราด
ก็ขนาดยังไม่ปลดล็อก ผู้นำรัฏฐาธิปัตย์ถือดาบมาตรา 44 อำนาจพิเศษอยู่เต็มกำมือ
“นายกฯลุงตู่” กับทีมรัฐบาล คสช.ยังเจอฤทธิ์เดชนักการเมืองอาชีพ เล่นแต้มล้อกระแสในโซเชียลมีเดีย ล้อมกรอบรุมสกรัมจนงอมพระราม
ตามรูปการณ์ ขืนปล่อยให้อาละวาดกันแบบฟรีสไตล์คงดูไม่จืด
แต่มาถึงตรงนี้ เหมือนเริ่มชินกับแรงเสียดทานทางการเมือง ตามอารมณ์แบบที่ “ลุงตู่” พูดบนเวทีเปิดโครงการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืนโดยศาสตร์พระราชาตามแนวทางประชารัฐ
ส่วนตัวพร้อมยอมรับคำด่า ดีกว่าคำชมที่อาบด้วยยาพิษ
แค่แอบน้อยใจนิดๆว่า ชาวบ้านไม่สนใจสิ่งที่รัฐบาลทำให้ แต่ไปสนใจข่าวหวย 30 ล้าน เรื่องดาราเลิกกัน จนไม่รู้ว่ารัฐบาลช่วยอะไรไปแล้วบ้าง
ปรับวิธีคิด “บิ๊กตู่” เข้าใจธรรมชาติทางการเมืองขึ้นเป็นลำดับ
และนั่นก็มาพร้อมๆกับยุทธการตีไพ่ ชิงแต้มต่อในสนามเลือกตั้ง ตามจังหวะต่อเนื่องจาก ครม. สัญจรรอบล่าสุดที่จังหวัดนครสวรรค์ ที่ ครม.อนุมัติงบประมาณอัดฉีดชาวบ้านฐานราก
ท่ามกลางเสียงเหน็บแนม เอื้อประโยชน์การเมือง
แบบที่ “บิ๊กป้อม” ต้องแก้เกี้ยวว่า ไม่ได้เอื้อประโยชน์ เพราะนายกฯก็ไปเยี่ยมไปดูแลประชาชน เอางบประมาณให้ทุกภาคเหมือนกัน ทัดเทียมทุกจังหวัด ไม่มีการได้มากได้น้อย
เรื่องของเรื่อง ใครเป็นรัฐบาลก็ต้องฉวยความได้เปรียบตรงนี้
เป็นวิถีที่ประชาชนทั่วไปเข้าใจในระบบนิเวศการเมืองแบบไทยๆ
และก็เริ่มไหลมาเป็นชุดๆ ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) สั่งตรึงราคาแก๊สหุงต้มถึงสิ้นปี เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือนรวมถึงหาบเร่แผงลอย
รัฐบาลเร่งคิว “ปล่อยของ” กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก แก้โจทย์ปัญหาปากท้อง
ปิดจุดอ่อนไหวที่ถูกขบวนการฝ่ายต่อต้านจ้องทุบ
อีกจุดที่ต้องจับตา กับปรากฏการณ์ที่ “เสี่ยแฮงค์” นายอนุชา นาคาศัย อดีต ส.ส.ชัยนาท ให้สัมภาษณ์นักข่าว หลังช็อตการพูดคุยกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ
ส่งซิกให้แปรสัญญาณเป็นนัย จะมีข่าวใหญ่ปลายเดือนนี้ คงมีงานทำ
เดาทาง “นายกฯลุงตู่” น่าจะเสริมทีมนักการเมืองเข้ามาช่วยงานอีก หลังการมอบหมายงานให้ “เดอะแป๊ะ” นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล ในฐานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ช่วยดูงานในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
ให้เครดิตกุนซือการเมือง เปิดพื้นที่ให้ทำงานเต็มที่
อย่างที่รู้ๆกัน มุมของนักเลือกตั้งอาชีพเป็นเรื่องที่ “ลุงตู่” จำเป็นต้องเสริมทักษะ
เพิ่มเติม “วิทยายุทธ์” ไว้สู้ในยามไร้ดาบวิเศษมาตรา 44.
ทีมข่าวการเมือง

พี่ใหญ่

ไม่ใช่"พี่ใหญ่"แค่อายุมาก

"บิ๊กป้อม”เผย ถกพรรคการเมือง มีรอบแรก ปลายมิย.และรอบ 2  หลังกม.ลูกบังคับใช้ ปัดตอบ”อนุชา-สมศักดิ์-สุริยะ”จะร่วมพรรค”พลังประชารัฐ “ ถาม ใครคือ คสช. ปัด ไม่ใช่พี่ใหญ่ แค่อายุมาก

 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม กล่าวถึงการจะนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการหารือ กับพรรคการเมืองต่างๆ ว่า คงได้พูดคุยกันหลายเรื่อง และต้องรอกฎหมายลูก 2 ฉบับด้วย 

 
เมื่อถามว่า ภายหลังการพูดคุย จะทราบผลชัดเจนใช่หรือไม่ว่าจะมีการปลดล็อคเรื่องอะไรบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า  ใช่  ซึ่งหลังจากคุยกันครั้งแรกแล้ว ภายหลังร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.ผ่านแล้ว ก็จะมีการนัดพูดคุยกับพรรคการเมืองอีกครั้ง  

 
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีหลายคนให้ความสนใจพรรคพลังประชารัฐ ที่มองกันว่าเป็นพรรคของคสช.ที่จะมาสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อไป โดยเฉพาะนายอนุชา นาคาศัย  อดีตส.ส.ชัยนาท พรรคไทยรักไทย ที่ประกาศว่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้ รวมถึงยังมีกลุ่มของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ก็สนใจเข้าร่วม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่รู้ ใครตกลงกับใครไม่รู้ และผใไม่ได้อยู่พรรคพลังประชารัฐ และใครบอกว่าเป็นพรรคของคสช. ใครพูดอย่างไรก็ไปถามคนนั้น ไม่ต้องมาถามผม

       
เมื่อถามว่าในฐานะเป็นพี่ใหญ่ในคสช. ทราบเรื่องดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนจะเป็นพี่ใหญ่ได้อย่างไร ตนแค่อายุมากกว่าเขาเท่านั้นเอง 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีนักการเมืองหลายคนออกมาระบุว่า สมาชิกในพรรคถูกคนของคสช. ดูดไป พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ดูดที่ไหน ใครดูด ใครทาบทาม ตนไม่ทราบ ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนอะไรเลย 
///

บอลโลก2018 นัดเปิดสนามคืนนี้


Sermsuk Kasitipradit
บอลโลก2018 นัดเปิดสนามคืนนี้ 22.00..Russia ..Sbornaya กับ Saudi Arabia..The Green Falcons...
โค้ชซาอุบอกเป้าหมายเก็บสามแต้ม ไม่ได้หวั่นเกรงเจ้าบ้าน..อันดับบอลโลกรัสเซียอยู่ที่70 ซาอุ อยู่ลำดับที่67..เป็นสองทีมที่อันดับบอลโลกต่ำสุด รัสเซียไม่ชนะใครเลยใน7เกมหลังตั้งแต่เดือนต.ค.60 ขณะที่ซาอุ 3เกมหลังแพ้อิตาลี เปรู และเยอรมนี..สถิติมีไว้ให้ทำลายหรือไม่ เจ้าภาพบอลโลกไม่เคยแพ้ในนัดเปิดสนาม หากแพ้ซาอุ โอกาสเข้ารอบต่อไปริบหรี่...เกิจดัง LAWRO จาก BBC ให้เจ้าภาพได้เปรียบด้านเสียงเชียร์ ฟอร์มสองทีมไม่ต่างกันมาก เจ้าภาพน่าจะพลิกเอาชนะ 2 -0....
////////////
(ข้อมูล)

ฟุตบอลโลก 2018 (อังกฤษ2018 FIFA World CupรัสเซียЧемпионат мира по футболу 2018) เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลโลก ที่จะจัดขึ้นในปี ค.ศ. 2018 (พ.ศ. 2561) โดยประเทศรัสเซียเป็นเจ้าภาพ นับเป็นการจัดครั้งแรกของรัสเซียและยุโรปตะวันออก และเป็นครั้งแรกที่ประเทศเจ้าภาพคาบเกี่ยวระหว่างสองทวีป คือ ยุโรปกับเอเชีย โดยการประกาศประเทศเจ้าภาพอย่างเป็นทางการมีขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ณ นครซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมกับการประกาศประเทศเจ้าภาพ ปี 2022
คณะกรรมการจัดการแข่งขันของรัสเซียได้เตรียมการในการสร้างสนามฟุตบอลใหม่ถึง 9 แห่ง รวมกับสนามที่มีอยู่เดิม 7 แห่ง โดยมีสนามลุจนีกีเป็นสนามที่มีความจุมากที่สุด คือ 89,318 ที่นั่ง นอกจากนี้ สนามกีฬาโอลิมปิกโซชีที่สร้างเพื่อใช้ในพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูหนาว 2014 จะเป็นหนึ่งในสนามแข่งขันในฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วย
ผู้เล่น
ดูบทความหลักที่: ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2018
แต่ละทีมต้องส่งรายชื่อผู้เล่นเบื้องต้นในรอบแรก 30 คน จากนั้นส่งรายชื่อ 23 คนสุดท้ายจากรายชื่อผู้เล่นเบื้องต้น (ต้องมีผู้รักษาประตู 3 คน) ในการแข่งขันฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2017 ระหว่างวันที่ 17 มิถุนายน จนถึง 2 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 เป็นการเล่นประเดิมก่อนฟุตบอลโลก 2018 ทีมจะต้องส่งรายชื่อผู้เล่น 23 คน (โดยต้องมีผู้เล่นตำแหน่งผู้รักษาประตู 3 คน) หากมีผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บหรือเหตุผลอื่นที่ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ สามารถที่จะเปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ภายใน 24 ชั่วโมง ก่อนที่จะแข่งขันนัดแรก ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ในรายชื่อผู้เล่นเบื้องต้น[2]
สำหรับผู้เล่นเบื้องต้น 30 คน จะต้องมีเวลาเหลืออยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 21 และ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ยกเว้นผู้เล่นที่เกี่ยวข้องในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2017 ที่จะเล่นในวันที่ 26 พฤษภาคม[3]

สิทธิการออกอากาศ

ในประเทศไทย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานแถลงข่าว ประเทศไทยเซ็นสัญญาคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018” ซึ่งจะจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างวันที่ 14 มิ.ย. - 15 ก.ค. 2561 ที่ประเทศรัสเซีย โดยความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างภาครัฐบาล นำโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมด้วยภาคเอกชน 9 องค์กร ที่ร่วมลงทุนในครั้งนี้ ซึ่งการเจรจาที่ผ่านมามีความล่าช้าไปเล็กน้อย เนื่องจากคิงเพาเวอร์ ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนเจรจาในตอนต้น เพิ่งได้รับแจ้งถึงนโยบายข้อกำหนดของฟีฟ่าว่า จะเจรจาและลงนามในสัญญาเฉพาะกับบริษัทผู้ประกอบธุรกิจบรอดแคสติ้งเท่านั้น ซึ่งในเวลาที่กระชั้นชิด เพื่อให้ฟีฟ่าอนุมัติได้รวดเร็ว จะต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาระดับโลก จึงประสานให้บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด เป็นตัวแทนประเทศไทยในการเจรจา และลงนามในสัญญา ทำให้คนในประเทศไทยสามารถรับชมการแข่งขันกีฬาฟุตบอลโลกครั้งนี้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบชิงชนะเลิศ ครบทั้ง 64 แมตช์ โดยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดผ่านทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 และช่อง 5[6]

ฟีฟ่าเผยพิธีเปิดฟุตบอลโลก 2018 เชิญชมคอนเสิร์ต ร็อบบี้ วิลเลียมส์ ร็อบบี้ วิลเลียมส์นักร้องดังชาวอังกฤษ วัย 44 ปี ที่จะมาร้องเพลงกล่อมให้แฟนๆ ได้ฟัง โดยมี ไอดา การิฟูลไลนา ที่จะได้กลับไปรัสเซีย เพื่อเปิดการแสดงที่สำคัญที่สุดหนหนึ่งในชีวิต

โพลบอลโลก 2018 คนกรุงคาด ‘บราซิล’ คว้าแชมป์

โพลบอลโลก 2018 คนกรุงคาด ‘บราซิล’ คว้าแชมป์

รัสเซียออกกฎคุมเข้มช่วงบอลโลก
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพล สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้ดำเนินโครงการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับฟุตบอลโลก 2018 ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเก็บจากกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 1,117 กลุ่มตัวอย่าง เก็บข้อมูลในวันที่ 4 – 6 มิถุนายน 2561 ซึ่งกลุ่มตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้ใช้เกณฑ์ตารางสำเร็จรูปของ Taro Yamane กำหนดว่าประชากรเกิน 100,000 คนต้องการความเชื่อมั่น 95% และความผิดพลาดไม่เกิน 3% ต้องใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,111 กลุ่มตัวอย่าง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์สิงห์ สิงห์ขจร ประธานคณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพล กล่าวว่า ผลการสำรวจในครั้งนี้ต้องการสะท้อนความคิดเห็นในเรื่อง ผลการสำรวจในครั้งนี้ต่อฟุตบอลโลก 2018 มีกำหนดการแข่งขันตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2561 ถึงวันที่ 8 กรกฏาคม 2561 โดยมีประเทศรัสเซียเป็นเจ้าภาพ ความคิดเห็นของประชาชนต่อฟุตบอลโลก 2018 ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดว่าทีมที่จะได้แชมป์ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 คือทีมชาติบราซิล เป็นอันดับหนึ่ง 21.9% อันดับที่สองคือทีมชาติฝรั่งเศส 16.1% อันดับที่สามคือทีมชาติสเปน 12.8% อันดับที่สี่คือทีมชาติโปรตุเกส 10.1% และอันดับที่ห้าคือทีมชาติอาร์เจนตินา 8.1%

ในส่วนของตำแหน่งดาวซัลโวกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดว่า ลีโอเนล เมสซี ทีมชาติอาร์เจนตินา เป็นอันดับหนึ่ง 20.4% อันดับที่สองคือ เนย์มาร์ ดา ซิลวา ทีมชาติบราซิล 20.1% อันดับที่สามคืออองตวน กริซมันน์ ทีมชาติฝรั่งเศส 11.3% อันดับที่สี่คือแฮรี่ เคน ทีมชาติอังกฤษ 9.8% และอันดับที่ห้าคือคริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ทีมชาติโปรตุเกส 9.3%

แต่เมื่อถามถึงทีมที่ชื่นชอบและติดตามเชียร์ทีมชาติเยอรมนี 22.6% เป็นอันดับแรก ทีมชาติสเปนเป็นอันดับที่สอง 12.7% อันดับสามคือทีมชาติฝรั่งเศส 11.2% อันดับที่สี่คือทีมชาติโปรตุเกส 11.1% และอันดับที่ห้าคือทีมชาติอังกฤษ 9.5%

กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จะรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 กับคนในครอบครัวมากที่สุด 37.0% อันดับที่สอง คือเพื่อนๆ 35.0% อันดับสามคือ คนรัก/แฟน 15.2% และอันดับสุดท้ายคือ คนเดียว 12.8% และสถานที่ที่คิดว่าจะรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่บ้านตนเองมากที่สุด 44.1% อันดับที่สองคือร้านอาหาร 22.4% อันดับสามคือบ้านเพื่อน 17.7% และอันดับสุดท้ายคือสถานบันเทิง 15.8%

และคิดว่าในช่วงเวลาการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ทำให้มีการพนันฟุตบอลมากยิ่งขึ้น 65.5% ไม่ใช่ 19.9% และไม่แน่ใจ 14.6% ซึ่งความเห็นต่อประเด็นปัญหาการพนันในฟุตบอลโลกนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่อยากให้ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้มงวดในการป้องกันไม่ให้มีการพนันฟุตบอลในช่วงเวลาการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ 58.5% ไม่อยาก 25.6% และไม่แน่ใจ 15.8%