PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2557

ณัฐวุฒิ แนะจับตา มีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นมือกฎหมายคอยให้คำแนะนำม็อบ กปปส. ปูด 8 ขั้นตอนมีชัยโมเดล

ณัฐวุฒิ แนะจับตา มีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นมือกฎหมายคอยให้คำแนะนำม็อบ กปปส. ปูด 8 ขั้นตอนมีชัยโมเดล ดัน สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ฉีกรัฐธรรมนูญ ตั้งนายกฯ คนกลาง เชื่อไม่วางมือแน่นอน

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2557 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้แถลงข่าว "ถลกหนังเทือก ปอกเปลือกพรรคประชาธิปัตย์" กล่าวถึงกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ประกาศตัวเป็น "รัฏฐาธิปัตย์" ว่า คำนี้หมายถึงการรัฐประหารโดยประชาธิปัตย์ เพราะแม้ว่า นายสุเทพ จะลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว แต่ก็ยังมีบารมีอยู่ ซึ่งหากทำสำเร็จก็จะเป็นการเมืองที่อัปยศที่สุดนับจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475

ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ ยังได้ตั้งคำถามไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วยว่า เห็นด้วยกับสิ่งที่นายสุเทพประกาศตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์หรือไม่ ถ้าเห็นชอบด้วยก็ควรเปลี่ยนชื่อพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฏฐาธิปัตย์ได้เลย

ขณะเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ยังขอให้ประชาชนจับตาด้วยว่าใครจะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนกลาง หากนายสุเทพยึดอำนาจครอบครองเป็นรัฏฐาธิปัตย์ได้สำเร็จ โดยวันนี้มีอยู่ 3 ชื่อ คือ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี, นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต รมว.กลาโหม ส่วนอีกหนึ่งชื่อที่สอดแทรกเข้ามาก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ที่แม้ว่าจะออกมาปฏิเสธชัดเจน แต่เชื่อว่าอาจมีการแบกม้าไปยัดให้

เลขาธิการ นปช. ยังระบุด้วยว่า มีข้อมูลที่ทำให้เชื่อได้ว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเป็นผู้คอยให้คำแนะนำ และวางยุทธศาสตร์ให้ กปปส. รวมทั้งชี้ช่องกฎหมายให้นายสุเทพใช้มาต่อสู้กับรัฐบาล โดยในอดีต นายมีชัย ก็เคยวางเกมด้านกฎหมายให้ฝ่ายเผด็จการ หลัง รสช. ยึดอำนาจในปี 2534 มาแล้ว และยังมีบทบาทสำคัญในการยกร่างธรรมนูญปกครองชั่วคราว หลังจากเกิดรัฐประหารในปี 2549 ส่วนในช่วงที่ผ่านมา ก็เป็นที่น่าสังเกตนายมีชัยมีความเคลื่อนไหวอย่างน่าสนใจ เช่น รวมอดีตสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออกมาค้านกฎหมายนิรโทษกรรม และยังเขียนข้อความถามตอบในเว็บไซต์มีชัยไทยแลนด์เป็นระยะ ๆ

นายณัฐวุฒิ ยังชี้ให้เห็นด้วยว่า จากเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา ทำให้เห็นได้ว่านายมีชัยมีส่วนสำคัญในการยึดอำนาจปี 2534 และ 2549 ซึ่งจะมีสูตร "มีชัยโมเดล" ออกมา โดยหากนายสุเทพทำสำเร็จก็จะประกาศตนเป็นหัวหน้าคณะยึดอำนาจ ก่อนจะฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง เมื่อเป็นเช่นนี้จะไม่สามารถใช้มาตรา 7 ได้ จึงต้องสรรหานายกรัฐมนตรีขึ้นมา แต่ก่อนจะมีนายกรัฐมนตรี จะเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ดังนี้

1. ประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร
2. ออกคำสั่งห้ามให้ประชาชนออกมาชุมนุม
3. ห้ามพรรคการเมืองเคลื่อนไหวและทำกิจกรรมใด ๆ
4. ให้ข้าราชการไปรายงานตัว
5. เรียกข้าราชการฝ่ายตรงข้ามให้เข้าพบ
6. จับกุม ไล่ล่า เหยียบย่ำ ซ้ำเติมฝ่ายตรงกันข้าม
7. ยึดทรัพย์ตระกูลชินวัตร และฝั่งตรงข้าม
8. ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้นายสุเทพ และพรรคพวกพ้นผิด

ด้วยเหตุนี้ นายณัฐวุฒิ จึงขอให้ทุกคนจับตามองไปที่ นายมีชัย ให้ดี เพราะมีเหตุการณ์ในอดีตเทียบเคียงกันอยู่ แต่หากที่ตนพูดไปไม่เป็นความจริง ก็ขอให้นายมีชัยออกมาปฏิเสธด้วย สำหรับนายสุเทพนั้น ตนไม่เชื่อว่าจะยุติบทบาททางการเมืองภายหลังตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลางอย่างที่พูดไว้แน่นอน

ป๋าเปรม ถาม ผบ.ทบ.ดูคลิปโกตี๋หรือยัง

พล.อ.เปรม สวมสูทฟ้าเดินจากบ้านสี่เสาฯ พล อ สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี มาเปิดสานใจไทยสู่ใจใต้รุ่นที่ 21 มี พล.อ.ประยุทธ์ ผบทบ. พร้อม พล ร อ ณรงค์ ผบทร. พล อ อ ประจิน ผบทอ.และ พล ต อ. อดุลย์ ผบ.ตร.ไปรอรับ
ป๋าเปรมถามพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ว่า ดู "คลิปโกตี๋" รึยัง ผบ.ตอบ "ดูแล้วครับ" พร้อมตอบคำถามหลังเสร็จงาน
pic.twitter.com/yy1Z4gasOw @phattanantv9


ทำไม"เศรษฐา"ขายหุ้นแสนสิริทั้งหมดและไปต่างประเทศ

ทำไมนายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ แสนสิริ ถึงขายหุ้นของทั้งตัวเองออกทั้งหมดแล้วเดินทางไปต่างประเทศเลย ทั้งเป็นคนสร้างบริษัทนี้ขึ้นมา สามารถทำให้มูลค่าหุ้นเพิ่มิ่มขึ้นถึง 200 % ในเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น มียอดขายในปี 2556 ถึง 20,000 ล้านบาท
น่าจะเกิดจากที่มีสายสัมพันธ์กับผู้นำรัฐบาลที่กำลังจะหมดอำนาจลง และอาจมีการตรวจสอบประเด็นว่ามีการนำเงินจากฝ่ายการเมืองไปฟอกผ่านบริษัทหรือไม่