PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ป้อม เรื่องลาออก



บิ๊กป้อม ลั่น เป็น นักการเมือง พูด ลาออกไม่ได้ เสียหาย ยันพูดเล่น เรื่องลาออก แค่กระเซ้า สนุกสนาน กับนายกฯ เท่านั้น ยอ มรับว่า เหนื่อย แก่แล้ว แต่ไม่ลาออก สู้ต่อ ชอช่วยนายกฯ เผย อายุยังน้อย ทำงานได้อีก10ปี
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึง การที่ พลเอกประยุมธ์ เผยว่า พล.อ.ประวิตร บ่นอยากลาออก ว่า “ผมไม่ได้บ่นว่าจะลาออก แต่ผมบอกว่า ผมแก่ ผมไม่ได้บ่น
"นักการเมือง บ่นลาออกไม่ได้ เสียหาย ผมเพียงคุยเล่นๆ กระเซ้าเย้าแหย่กับนายกฯเท่านั้น
ผมเหนื่อย และ เบื่อเพียงเรื่องนักข่าวนี่แหละ สิ่งที่ไม่ควรถามก็ถาม ส่วนเรื่องที่น่าจะถามกลับไม่ถาม เรื่องดีๆไม่ถาม พอเรื่องเป็นประเด็นเห็นถามทุกที
"แต่ถ้าถามว่าผมเหนื่อยไหม ผมก็เหนื่อย เหนื่อย กับ นักข่าวมากที่สุด ถามจะให้ตีกันอยู่เรื่อย"
พลเอกประวิตร กล่าวว่า ไม่เบื่อหรอก ต้องอดทนเอา เพราะ เกิดมาผมก็ทำงานมาตลอด ทำมากว่า 50ปีแล้ว นายกฯว่า ยังไง ผมก็ว่าตามนั้น เพราะนายกฯเป็นผู้เสียสละ
เมื่อถามว่า งอน ใครหรือเปล่า พลเอกประวิตร กล่าวว่า ผมไม่ได้งอน หรืออะไรใคร จะงอนได้ยังไง แก่จะตายอยู่แล้ว ถ้างอนก็คงน่าเกลียดตายเลย ไม่ใช่เด็กๆ ถ้าสาวๆงอนล่ะพอได้” พล.อ.ประวิตร กล่าวอย่างอารมณ์ดี
พลเอกประวิตร กล่าวว่า ผมอายุ 71แล้ว แก่แล้ว เมื่อหมดภารกิจ คสช. ผมก็พอแล้ว พักแล้ว แต่ตอนนี้ ก็ต่องช่วย นายกฯให้ตลอดรอดฝั่ง ก่อน. เพราะนายกฯอายุยังน่อย ท่านเพิ่ง 61 ท่านยังอยู่ได้อีก 10ปี ยังอยู่ทำงานได้อีกนาน. แต่อยู่ที่เขา จะ ทำมั้ย หรือจะไปเลี้ยงลูก 2คน

บิ๊กตู่มึนตึ้บ! หนักใจแก้ขัดแย้งไม่ค่อยได้ แบ่งฝ่ายตลอดเวลา ใช้กม.ก็ไม่ได้

(ข้อมูล)
นายกฯ ย้ำสิ้นเดือนนี้การปฏิรูปทุกด้านจะชัดเจน ทั้งการบูรณาการ และการทำงานของรัฐ ยันไม่อยากใช้อำนาจมากเกิน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ ว่าการปฏิรูปตนเองได้ย้ำมาตลอดว่าเราทำมาตั้งแต่ปีแรก ขณะนี้ได้มอบหมายรองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องสรุปรายละเอียดทั้งหมดเพื่อให้เกิดความชัดเจน ซึ่งได้มีการแบ่งกลุ่มงานออกไปทั้งหมดแล้ว โดยเดือนพฤษภาคม 2557-พฤษภาคม 2558 เป็นช่วงที่ 1 ตั้งแต่พฤษภาคม 2558 – พฤษภาคม 2559 เป็นช่วงที่ 2 และในช่วงพฤษภาคม 2559-ปี 2560 ก็จะเป็นช่วงที่ 3 ซึ่งจะนำไปสู่การเลือกตั้งตามโรดแมป โดยทุกอย่างก็จะมีความชัดเจน และสรุปได้ภายในสิ้นเดือนนี้ วันนี้ทุก ๆ ฝ่ายจะต้องไปด้วยกัน ไม่ใช่ทำงานเป็นชิ้นๆ จะต้องแก้ปัญหาต่างๆ ให้ครบวงจร ทั้งเรื่องน้ำ เรื่องเกษตรเป็นปัญหาที่ทับซ้อนกันมานาน ต้องเร่งสร้างความเข้มแข็ง การสร้างขีดความสามารถของประเทศ ทุกอย่างต้องทำไปพร้อมๆ กัน รวมทั้งการขจัดความขัดแย้ง ซึ่งทำไม่ค่อยได้เท่าไร
“แต่ละคนไม่คิดว่าควรจะระงับกันอย่างไร แบ่งฝ่ายกันตลอดเวลาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ผมไม่อยากจะใช้อำนาจของผมมากนัก ใช้กฎหมายก็ไม่ได้แล้วจะอยู่กันได้อย่างไรก็ยังไม่รู้ การปฏิรูปเราต้องเริ่มตั้งแต่การบูรณาการ ต้องเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในทุกหน่วยงาน การบูรณาการข้ามกระทรวง ข้ามหน่วยงาน บูรณาการให้ภาคธุรกิจเข้ามาช่วยเหลือ บูรณาการให้ภาคประชาชนเข้ามาช่วยเหลือภาคประชาสังคม โดยทุกฝ่ายจะต้องมาร่วมมือในกิจกรรมเดียวกัน ซึ่งเดี๋ยวจะทำให้เกิดความชัดเจนว่า ที่ทำมาแล้วอยู่ในกรอบการปฏิรูปของของ สปท. สนช. อย่างไร อันไหนทำได้ก็ทำ แต่ทำได้แค่ไหนก็คือแค่นั้น จะให้รวดเร็วปรู๊ดปร๊าดแล้วความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นสูงมันทำไม่ได้ เพราะวันนี้ต้องยอมรับว่าความขัดแย้งยังมีสูงทุกเรื่อง การประชุม ครม.วันนี้ ได้เน้นย้ำในเรื่องของการปฏิรูป การบูรณาการ การทำงานของรัฐบาล ถ้าทุกคนเข้าใจก็จะสามารถยอมรับในสถานการณ์ทุกวันนี้ของโลกได้ เพราะทุกวันนี้มีความขัดแย้งสูง เศรษฐกิจชะลอตัว ดังนั้น สิ่งที่ทุกคนมุ่งหวังจะให้เศรษฐกิจของตัวเองดีขึ้นเพียงประเทศเดียว มันจะเป็นไปได้หรือไม่ทุกคนก็ต้องไปคิดกันเอาเอง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่า 2 ปี คสช. ได้มีการสั่งการให้มีการชี้แจงอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ต้องมีการชี้แจงอะไร เพราะทาง คสช. เขามีหน้าที่ชี้แจงในบทบาทของความมั่นคง ในส่วนของรัฐบาลก็เตรียมชี้แจงในส่วนที่ครบรอบ 2 ปีการทำงานของรัฐบาล ซึ่งจะต้องมีจุดสอดคล้องทั้ง 2 ฝ่าย แต่ต้องมีการแยกให้ชัดเจน จะได้รู้ว่าการปฏิรูปก็ทำงาน สปท. เพราะวันนี้ก็อยู่ในหัวข้อปฏิรูปทั้งนั้น เศรษฐกิจ เกษตร การศึกษา อะไรทำได้ก็ทำก่อน ทุกอย่างได้สั่งไปหมดแล้วขอให้ใจเย็นๆ

ออกหมายจับ 'ดร.อาทิตย์' โพสต์เฟซบุ๊กป้ายสีตำรวจ ซื้อ-ขายตำแหน่ง



ออกหมายจับ 'ดร.อาทิตย์' โพสต์เฟซบุ๊กป้ายสีตำรวจ ซื้อ-ขายตำแหน่ง
Cr:ไทยรัฐ
ปอท.ออกหมายจับ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ โพสต์เฟซบุ๊กป้ายสีตำรวจ ซื้อ-ขายตำแหน่ง ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ ตาม พ.ร.บ.คอมฯ และหมิ่นประมาทวงการตำรวจเสื่อมเสีย
จากกรณี พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวว่า บก.ปอท.เตรียมออกหมายเรียก ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต กรณีโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก "Arthit Ourairat" กล่าวหามีการซื้อ-ขายตำแหน่งเข้าสอบปากคำ เนื่องจากการโพสต์ข้อความดังกล่าว ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับความเสียหาย เป็นการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
ล่าสุดวันที่ 24 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ปอท. ได้ตั้งข้อหา ความผิดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และหมิ่นประมาทกับ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิตที่เขียนลงเฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวหามีการซื้อ-ขายตำแหน่ง ไปเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา

2ปี คสช. 2 ปีบนทางตัน ทายท้าวิชามาร 2016-05-23 06:57:00

ใบตองแห้ง

2 ปี คสช. ทนายวันชัย สอนศิริ ยกให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เหนือกว่านายกฯ ทุกคนในอดีต ปีหน้าถ้ารัฐธรรมนูญผ่าน ไม่ได้เป็น ส.ว.แต่งตั้ง หวังว่าคงไม่กลับมาด่า
2 ปี คสช. ถ้าไม่นับด้านละเมิดสิทธิเสรีภาพ จับกุมความเห็นต่าง ถามว่าบริหารงานเลวร้ายเสียหมดไหม ก็ไม่หรอก รัฐบาลนี้ทำอะไรดีๆ ตั้งหลายอย่าง อำนาจเผด็จการมีข้อดีอยู่แล้วที่แก้ปัญหาฉับไว ถ้าแก้ถูกจุดนะ แต่ถ้าแก้ไม่ถูกก็ไปกันใหญ่ เพราะผู้ได้รับผลกระทบไม่มีช่องร้องขอความเป็นธรรม ข้าราชการโดน ม.44 ฟ้องศาลปกครองก็ไม่ได้
ภาพรวมของ 2 ปีจึงดูเหมือนประเทศสงบ เดินไปข้างหน้า โดยคนที่ไม่ได้รับผลกระทบ คนที่ไม่แยแสว่าคนอื่นเดือดร้อนอย่างไร ก็จะพอใจ จนกว่าจะโดนเข้ากับตัวเอง
เพราะมันคือการทำให้ประเทศสงบ เดินไปข้างหน้า แบบบดขยี้องคาพยพของการตรวจสอบทักท้วง ที่สังคมประชาธิปไตยสั่งสมมายาวนาน ไม่ว่าอำนาจศาล องค์กรอิสระ ที่ไม่สามารถตรวจสอบรัฐบาล (หลายองค์กรเสียภาษีจ้างไว้ฟรีๆ หลายองค์กรก็ตั้งโดย สนช.ชุดนี้) ไปจนวิถีการรวมตัวร้องเรียนของชาวบ้าน หรือการตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อ
ขณะเดียวกันยังเป็นการทำให้ประเทศสงบ โดยบอกให้ทุกคนเคารพกฎหมาย โดย คสช.อยู่เหนือกฎหมาย ออกประกาศคำสั่งเป็นกฎหมาย อ้างความจำเป็นไม่ต้องคำนึงถึงกระบวนการยุติธรรมสำหรับผู้คัดค้าน
นี่คือ 2 ปีของการทำลายหลักนิติรัฐ ระบอบการปกครองด้วยกฎหมาย ระบอบตรวจสอบทัดทานในหลักการประชาธิปไตย ให้เหลือแต่ความเชื่อมั่นในตัวผู้นำและสถาบันกองทัพ รวมทั้งรัฐราชการ ว่าจะทำทุกอย่างถูกต้อง ดีงาม และจะนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า
โดยให้ประชาชนอยู่เฉยๆ เคารพ เชื่อฟัง ห้ามล้อ อย่าต่อต้าน อย่าคัดค้าน อย่ามีปากเสียง ทุกอย่างจะดีเอง
คำถามคือระบอบนี้จะเดินต่อไปอย่างไร ใช่ละ วันนี้ยังไม่มีใครโค่น คสช.ได้หรอก แต่ด้วยแรงกดดันหลายด้าน คสช.จำต้องยกร่างรัฐธรรมนูญ “ไปสู่เลือกตั้ง” เราจึงได้เห็นร่างรัฐธรรมนูญบวกคำถามพ่วง พยายามยัด “ระบอบ คสช.” เข้าไปอยู่ใน “ระบอบประชาธิปไตย” ทั้งที่ขัดกันโดยสิ้นเชิง
ถ้ามีการเลือกตั้งมีรัฐบาลตามร่างรัฐธรรมนูญนี้จริง เราจะเห็นระบอบที่ยิ่งพิกลพิการ คือกองทัพและสถาบันที่ไม่ได้มาจากเลือกตั้งจะมีอำนาจเหนือการเมือง แต่ก็ไม่ได้มีอำนาจสัมบูรณ์อย่าง คสช. ยังมีช่องให้คัดค้านต่อต้านได้ คิดดูว่าจะยุ่งขนาดไหน
เพียงแต่ คสช.ก็หวังว่าถ้าร่างรัฐธรรมนูญผ่าน อย่างน้อยจะ “ให้ความชอบธรรม” การใช้อำนาจ ม.44 ต่อไปอีก 1 ปีเศษตามบทเฉพาะกาล ระหว่างร่างกฎหมายลูกและจัดเลือกตั้ง ซึ่งครั้งนี้สามารถใช้อำนาจได้เต็มที่ เต็มแม็ก เพราะถือว่า ม.44 ผ่านประชามติแล้ว จากนั้นถ้าสถานการณ์ “ราบรื่น” ก็สามารถไปสู่เลือกตั้ง แต่ถ้าเห็นว่า “ไม่ราบรื่น” ก็มีช่องให้ยืดโรดแมพหลายวิธี
เอาเข้าจริงนี่คือการยื้อไปทีละ step โดยไม่มีใครแน่ใจว่าเป้าหมายอยู่ที่ไหน ขอแค่ใช้กำลังคุมอำนาจไว้เรื่อยๆ ไม่ต่างกับที่ผ่านมา ร่างรัฐธรรมนูญแล้วก็ให้ สปช.คว่ำร่างอยู่ต่อ เพราะไม่แน่ใจว่าจะลงจากอำนาจได้ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ต่อให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่าน คสช.ก็ยังไม่มั่นใจหรอกว่าจะลงจากอำนาจได้ ยังไม่มั่นใจหรอกว่าระบอบ ส.ว.เลือกนายกฯ ระบอบเปิดช่องนายกฯ คนนอก จะควบคุมสังคมได้ เพียงขอให้ผ่านไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน