PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เลือกตั้งแบบไหนไม่โกง?

คึกคักขึ้นมาทันตาเห็น
กรธ.เขาไปคิดสูตรเลือกตั้ง ส.ส.มา พยายามจะอุดรูรั่วสิ่งที่เกิดในอดีต เปลี่ยนจากแบ่งเขตเบอร์เดียว คือผู้สมัครจากพรรคการเมืองเดียวกัน ใช้เบอร์เดียวกันในทุกเขตเลือกตั้ง
มาเป็นให้ผู้สมัครแต่ละคนจับสลากเบอร์ของตัวเองตามลำดับของการสมัคร คือ...ใครมาก่อนได้เบอร์ต้นๆ มาหลังก็ได้ท้ายๆ
ฉะนั้น เขตที่มี ส.ส.ได้มากกว่า ๑ คน ผู้สมัครจากพรรคเดียวกันจะได้คนละเบอร์
เป็นวิธีการเลือกตั้งที่น่าสนใจ!
กรธ.ให้เหตุผลว่า
ทำให้ซื้อเสียงได้ยากขึ้น
ให้ ส.ส.มีอิสระจากพรรคมากขึ้น
ขจัด ส.ส.เสาไฟฟ้า นักการเมืองนอมินี
ถามว่านี่คือของใหม่ใช่หรือไม่?
คล้ายกับการเลือกตั้งเมื่อปี ๒๕๕๐ ที่ใช้ระบบการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเรียงเบอร์ แต่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว
ที่ว่าเหมือนการเลือกตั้งปี ๒๕๕๐ คือ ผู้สมัครแต่ละพรรคได้เลขคนละเบอร์ แต่วิธีการได้มาซึ่งหมายเลขนั้นต่างกัน
ปี ๒๕๕๐ ผู้สมัครจากพรรคเดียวกันจะได้หมายเลขเรียงกัน เช่น พรรค ก. จับสลากได้ลำดับแรกก็ได้เบอร์ ๑, ๒, ๓ ไป พรรค ข. จับได้ลำดับถัดไปได้เบอร์ ๔, ๕, ๖ เป็นต้น
แต่ของใหม่ ใครมาก่อนได้เบอร์ ๑ ถัดไปก็เบอร์ ๒ โดยไม่อิงกับพรรคการเมืองแต่อย่างใด
เรียกง่ายๆ แบ่งเขตไม่เรียงเบอร์
นับแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ มีการเลือกตั้งมาแล้ว ๒๗ ครั้ง ระบบการเลือกตั้งแตกต่างกันไป
เลือกตั้งครั้งที่ ๑ วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๕ เลือกตั้งทางอ้อม
๒.วันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๐ เลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว
๓.วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๑ เลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว
๔.วันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๙ เลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว
๕.วันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ เลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว
๖.วันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๑ เลือกตั้งแบบรวมเขต
๗.วันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๒ เลือกตั้งแบบรวมเขต
๘.วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๕ เลือกตั้งแบบรวมเขต
๙.วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๐ เลือกตั้งแบบรวมเขต
๑๐.วันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ เลือกตั้งแบบรวมเขต
๑๑.วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๒ เลือกตั้งแบบรวมเขต
๑๒.วันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๘ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตผสมรวมเขต
๑๓.วันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๙ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตผสมรวมเขต
๑๔.วันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๒ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตผสมรวมเขต
๑๕.วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๖ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตผสมรวมเขต
๑๖.วันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๙ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตผสมรวมเขต
๑๗.วันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตผสมรวมเขต
๑๘.วันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตผสมรวมเขต
๑๙.วันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๕ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตผสมรวมเขต
๒๐.วันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตผสมรวมเขต
๒๑.วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๙ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตผสมรวมเขต
๒๒.วันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๔ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตบัญชีรายชื่อ
๒๓.วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๘ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตบัญชีรายชื่อ
๒๔.วันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๙ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตบัญชีรายชื่อ
๒๕. วันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตบัญชีรายชื่อ
๒๖.วันที่ ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตบัญชีรายชื่อ
และครั้งที่ ๒๗ วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๗ ใช้วิธีการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตบัญชีรายชื่อ
....จะเห็นว่าระบบการเลือกตั้งนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เปลี่ยนไปมา ลองผิดลองถูก วิวัฒนาการเรื่อยมา
๘๕ ปีที่ยังไม่สามารถหาระบบการเลือกตั้งที่เหมาะสมกับประเทศไทยมากที่สุดได้
ปัญหาใหญ่ของการเลือกตั้งมีอยู่ไม่กี่เรื่อง
หลักๆ คือการซื้อสิทธิ์ขายเสียง
เพราะการที่พรรคการเมืองมีนายทุน หรือตระกูลการเมืองเป็นเจ้าของ
ขณะเดียวกันประชาชนไม่มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ทำให้การเลือกตั้งเป็นเพียงเครื่องมือเข้าสู่อำนาจ ไม่สะท้อนระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
เราถึงมีนายกรัฐมนตรีแบบทักษิณ ชินวัตร ที่เคยประกาศว่า
“ผมตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม จังหวัดไหนมอบความไว้วางใจให้เราต้องดูแลเป็นพิเศษ แต่เราต้องดูแลคนทั้งประเทศด้วย แต่เวลาจำกัด ต้องเอาเวลาไปจังหวัดที่เราได้รับความไว้วางใจมากเป็นพิเศษ จังหวัดที่ไว้วางใจเราน้อยต้องเอาไว้ทีหลัง ไม่ใช่ไม่ไป คิวต้องเรียงอย่างนี้ ผมเป็นคนพูดตรงไปตรงมา"
นี่คือนิยามคำว่าประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง ที่ผิดเพี้ยน
ประชาธิปไตยถูกตีความว่าเป็นเรื่องของเสียงข้างมาก
เสียงข้างมากต้องการอย่างไร ประเทศต้องเอาตามนั้น
เราจึงผ่านประสบการณ์อันเลวร้าย จากการบริหารราชการแผ่นดินโดยรัฐบาลเสียงข้างมากที่ไม่ให้ความสำคัญเสียงข้างน้อย
มองเสียงข้างน้อยเป็นอุปสรรคทางการเมือง
ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติเสียงข้างมาก ลักหลับผ่านกฎหมาย เสียบบัตรแทนกัน เป็นพฤติกรรมที่ไร้จริยธรรม ไม่สนใจความถูกผิด
เพียงเพราะเชื่อกันว่าตัวเองเป็นเสียงข้างมาก
นับเป็นเรื่องน่าหดหู่ การเลือกตั้งในประเทศไทย ไม่เคยปลอดการซื้อสิทธิ์ขายเสียง จะโทษนักการเมืองเพียงฝ่ายเดียวคงไม่ได้
ประชาชนเองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบกับความล้มเหลวในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
การเลือกตั้งไม่ใช่สูตรสำเร็จที่จะได้นักการเมืองที่ดี
ไม่ว่าจะเลือกตั้งด้วยวิธีไหน มักมีคนเลวเล็ดลอดเข้าสู่การเมืองได้เสมอ เพราะการเลือกตั้งแต่ละแบบล้วนมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
แต่จำเป็นต้องค้นหาวิธีที่จะทำให้คนเลวเล็ดลอดเข้าสู่การเมืองให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ตอบยากครับว่า ระบบการเลือกตั้งแบบ แบ่งเขตไม่เรียงเบอร์ ที่ กรธ.เสนอนั้น จะสามารถอุดรูรั่วได้ดีแค่ไหน
"มีชัย ฤชุพันธุ์" ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าวิธีนี้จะทำให้การซื้อเสียงทำได้ยากขึ้น
แต่เมื่อไปฟังนักการเมือง โดยเฉพาะจากพรรคเพื่อไทย จะได้มุมมองในทิศตรงข้าม
เช่น นายนพดล ปัทมะ มองไม่เห็นว่าการใช้เบอร์ต่างกันในแต่ละเขต หรือยกเลิกการใช้เบอร์ไปเลยจะป้องกันการซื้อเสียงได้อย่างไร
"ถ้าคนจะซื้อมันก็ซื้อวันยังค่ำ"
"ผมว่าการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นและสร้างจิตสำนึกน่าจะป้องกันการซื้อเสียงได้ดีกว่า"
ก็จริงครับ!
ตราบใดที่นักการเมืองยังซื้อเสียงจากประชาชน ขณะที่ประชาชนยังต้องการที่จะขายเสียงให้นักการเมือง มันไม่มีทางแก้ไขอะไรได้
แต่การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้น ป้องกันการซื้อเสียงได้ดีกว่าเช่นนั้นหรือ?
ที่จริงพรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์ตรงในเรื่องนี้ น่าจะตอบคำถามได้ดีที่สุด
การใช้ยาแรงด้วยการยุบพรรคการเมือง ตัดสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่พบว่าทุจริตการเลือกตั้ง นับว่าเป็นยาแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนถูกยุบ เพราะทุจริตการเลือกตั้ง แต่ถามว่าบริวารของทักษิณเคยยอมรับการบังคับใช้กฎหมายหรือไม่?
ปัญหาความขัดแย้งในชาติที่เกิดขึ้น ก็มาจากสาเหตุเหล่านี้
การเลือกตั้งแบบใหม่ของ กรธ. แก้ปัญหาซื้อขายเสียงได้ระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็เป็นเพราะนักการเมืองตั้งตัวไม่ติด เนื่องจากรูปแบบการเลือกตั้งที่เปลี่ยนไป ทำให้บริหารจัดการได้ยากขึ้น
แต่ประชาชนจะไม่ยุ่งยากตามไปด้วย
อย่าเป็นห่วงประชาชนเลยครับ ไม่ว่าเลือกตั้งแบบไหน ประชาชนปรับตัวได้เสมอ
คนไทยเก่งเรื่องตัวเลข วิถีชีวิตอยู่กับตัวเลขมาตลอด
ตีหวย ยังยากกว่าแยกแยะหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.
ฉะนั้นเมื่อนักการเมืองไม่ยอมปรับตัว การจะปล่อยให้การเลือกตั้งเป็นไปแบบเดิมๆ ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย
เมื่อปรับที่คนไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนที่กติกา
แต่หากคาดหวังให้การซื้อสิทธิ์ขายเสียงหายไป ไม่มีทางอื่น คนต้องเปลี่ยน
ยากครับ!
เพราะแค่เปลี่ยนกติกานิดๆ หน่อยๆ นักการเมืองยังดิ้นเป็นไส้เดือนถูกน้ำร้อนลวก.
ผักกาดหอม

ปิดฉากสายฮาร์ดคอร์

ปิดฉากสายฮาร์ดคอร์

แค่ต้องใช้สมาธิกับคดีจำนำข้าวก็แทบไม่เป็นอันกินอันนอนแล้ว

ตามแนวโน้มสถานการณ์ล่าสุดแบบที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องส่งเสียงวิงวอนถึงสื่อที่รู้จักเป็นการส่วนตัว บอกปัดกระแสข่าวที่ “น้องปู” จะผลักดันให้พี่สาวอย่างนางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำเลยว่า นางมณฑาทิพย์ไม่ได้สนใจการเมือง

“อย่าเล่นข่าวนี้เลยนะคะ มันไม่จริงเลย”

เรื่องของเรื่องในมุมของอดีตนายกฯหญิงก็เชื่อได้ นาทีนี้ไม่น่าจะมีอารมณ์ร่วมกับการชิงอำนาจในพรรคเพื่อไทย ด้วยเงื่อนไขส่วนตัวที่ไม่ได้เอื้ออำนวยแต่อย่างใด

และสังเกตได้ว่า กระแสข่าวมันออกมาหลังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นมลทิน รอดตัวจากคดีสลายม็อบพันธมิตรฯเมื่อปี 2551 และกลับมาเป็นคู่แคนดิเดตสำคัญในการชิงเก้าอี้แม่ทัพพรรคเพื่อไทยกับ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง

เรื่องมันเลยยุ่ง เพราะรายการเตะตัดขา สกัดคู่แข่ง

มันชัดเจนว่าเป็นยุทธการ “ล่อเป้า” กันเองของพวกที่อยู่ในข่ายจ้องลุ้นเบอร์หนึ่ง ตามเหลี่ยมชี้เป้าเร้ากระแสต้านคน “ตระกูลชิน” ยึดบริษัทพรรคเพื่อไทย จำกัด

ลูกทีม “นายใหญ่” ฟัดกันแรงในเกม “ไพรมารีโหวต” หัวหน้าพรรคคนใหม่

สะท้อนสถานการณ์เกมแย่งธงจาก “นายใหญ่” ยังคึกคัก แม้แนวโน้มพรรคเพื่อไทย

ต้องเจอกับด่านสกัดข้างหน้า ตามพิมพ์เขียวร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ทีมงาน “ซือแป๋” นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ออกแบบให้ “แยกเบอร์” ผู้สมัคร ส.ส.เขตแบบเขตใครเขตมัน ตีกันไม่ให้แต้มไหลเข้าทางยี่ห้อ “ทักษิณ” ง่ายๆ

ภายใต้บรรยากาศเกมเลือกตั้งกลับมาเข้มข้น ในสถานการณ์ที่เกมมวลชนเบาบางลงไป

กับมุก “คนมามากแล้วเรียบร้อย ดีกว่าคนมาน้อยแต่วุ่นวาย”

ตามสไตล์นิ่งๆแบบ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. พูดถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยกรณีมวลชนจะเคลื่อนไหวให้กำลังใจอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ในวันตัดสินคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าววันที่ 25 สิงหาคมนี้

ในอารมณ์ที่สะท้อนถึงความมั่นใจระดับหนึ่งว่า “เอาอยู่”

ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่โยงต่อเนื่องกับปรากฏการณ์ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายกฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯและพวกในคดีสลายการชุมนุมม็อบ
พันธมิตรฯบุกล้อมอาคารรัฐสภาเมื่อปี 2551

ประทับความ “ชอบธรรม” ให้รัฐสามารถจัดการมวลชนได้ภายใต้ระเบียบแบบแผน

ม็อบครองเมือง “กฎหมู่” เหนือ “กฎหมาย” ไม่ง่ายแล้ว

อีกทั้งล่าสุดปริศนา “โกตี๋” นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ เริ่มมีการเฉลย ถึงแม้ “บิ๊กป้อม”

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม จะไม่ยืนยันกรณีมีภาพถ่ายชายที่ลักษณะคล้ายนายวุฒิพงศ์เสียชีวิตเผยแพร่อยู่ในโซเชียลมีเดีย

เพราะยังไม่มีการรายงานจากทางการลาวมายังประเทศไทย ซึ่งทางการลาวบอกไม่รู้เรื่องว่านายโกตีิ๋อยู่ในประเทศลาว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง

แนวเดียวกับ พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ระบุยังไม่มีการยืนยันการเสียชีวิตของ “โกตี๋” ภาพบางภาพที่มาที่ไปอาจมีการตกแต่งหรือทำอะไรขึ้นมาก็ได้

รัฐบาลไทยยังไม่ยืนยัน เพราะเป็นปมที่โยงกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ต้องปฏิเสธตามมารยาทที่ห้ามก้าวก่ายกิจการภายในเพื่อนบ้าน

แต่ล่าสุดจากการเช็กข่าววงในของนักการเมืองไทยระดับสูง ที่มีสายสัมพันธ์กับผู้บริหารระดับสูงของทางการ สปป.ลาว ได้สำทับประเด็นการเสียชีวิตของ “โกตี๋” เป็นข้อมูลที่มีความเป็นไปได้สูง มั่นใจได้ว่าเป็นเรื่องจริง

ด้วยเหตุปัจจัยที่โยงกับเกมอำนาจการเมืองในลาวเองที่มีความขัดแย้งสูง

และแนวโน้มสายอำนาจที่ให้ความคุ้มครอง “โกตี๋” และแนวร่วมกองกำลังปฏิวัติตามแนวทางสหพันธรัฐไทยกำลังตกอยู่ในสถานะสูญเสียสถานภาพทางอำนาจ

ทำให้เกมเปลี่ยนมาเข้าทางฝ่ายไล่ล่าจากเมืองไทย

นำมาซึ่ง “ปริศนา” ปิดตำนานแกนนำม็อบแดง “ฮาร์ดคอร์”.

ทีมข่าวการเมือง

"มีบางคน ไม่อยากตาย ในเมืองไทย"



"มีบางคน ไม่อยากตาย ในเมืองไทย"
พล.อ.ประยุทธ์ ถาม ....วันนี้ ท่านทำอะไรให้แผ่นดินที่ท่านเหยียบมาทุกวัน แผ่นดินที่ทำให้ท่านมีศักดิ์ศรี ไท่ตัองไปพึ่งพาแผ่นดินอื่น แผ่นดืนนี้ทำให้ท่านแล้ว แล้วท่านล่ะทำอะไรให้แผ่นดินบ้าง
"เกิดบนแผ่นดินไทย เป็นคนไทย มีแค่บางคน ไม่อยากตายในเมิองไทย ก็ช่างเขา ไม่ใข่เริ่องของผม เรื่องของ กฎหมาย"

"น้องตู่" แซว "พี่ป้อม" รุ่นพี่ผม เป็นปธ.โอลิมปิคฯ ยันแข็งแรง

"น้องตู่" แซว "พี่ป้อม" รุ่นพี่ผม เป็นปธ.โอลิมปิคฯ ยันแข็งแรง แม้ไม่เท่าเมื่อก่อน เปรย ถ้าเอาหมอนอุดจมูก ผมก็ตายไปแล้ว เปรย ยังไม่ได้แก้แค้น"
พลเอกประยุทธ์ กล่าวถึง พลเอกประวิตร ซึ่งมาเป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิค คนใหม่ และ มี พลเอกยุทธศักดิ์ อดีตปธ.มาเป็นประธานกิตติมศักดิ์ เชื่อว่า เราจะได้ การแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ เหรียญมากเป็น2เท่า เพราะวันนี้แม้ท่านจะไม่แข็งแรงเท่าเมื่อก่อน. แต่ท่านเคยแข็งแรงมาก่อน ดีนะที่ท่าน แข็งแรง มากมาก่อน ไม่งั้น ไม่แข็งแรงเท่านี้ หรอก
"รุ่นพี่ ผม นี่ถ้า เอาหมอนอุดจมูก ผมก็ตายไปแล้ว นี่ ยังไม่ได้แก้แค้นใครสักคน" 555
สงสัย นายกฯจะนึกถึง ตอนเป็นทหารเสือฯหนุ่มๆ กินนอนอยู่บ้าน บิ๊กป้อม ใน ร.21รอ. มาด้วยกัน....

"บิ๊กตู่"ว่าใคร น๊าาาา...."คนสวย ทำอะไรไม่ค่อยเป็น"!!!



"บิ๊กตู่"ว่าใคร น๊าาาา...."คนสวย ทำอะไรไม่ค่อยเป็น"!!!
นายกฯ ให้โอวาท 1,218 คน นักกีฬาซีเกมส์ และนายกสมาคมกีฬา ที่มาเข้าพบ ที่ทำเนียบฯ
เหลือบเห็น "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิง เลยถามว่า จะได้ แชมป์ มั้ย 
มาดามแป้ง ตอบว่า อยากได้มาก ค่ะ 
นายกฯเลย แนะ ให้ ปรับ mind set ใหม่ ว่า เราจะต้องชนะให้ได้ แม้เราจะตัวเล็ก และไม่ต้องห่วงสวย เพราะ ยังไงก็สวยอยู่แล้ว
"คนสวย ทำอะไรไม่ค่อยเป็น หรอก ผมพูดแบบนี้ เดี้ยวโดนด่าอีก" บิ๊กตู่ กล่าว
นายกฯ มองว่า คนสวย จะต้องสวยที่จิตใจ หน้าตาไม่ตัองดีเท่าไหร่ เห็นมั้ยคนสวย ไม่ค่อยแต่งงาน
แนะใช้เครื่องสำอางค์น้ำนมข้าว ของเรา ไม่แพง รับรองว่า ไม่เป็นไร รับรอง ไม่ต้องไปทำหน้า เพราะทำไปทำมา ไม่ดีเท่าเก่า คนจะสวย อยู่ที่จิตใจ และความดี

"ให้ผมสบายใจ ถึง จะปลดล็อค"

"ให้ผมสบายใจ ถึง จะปลดล็อค"
"บิ๊กป้อม" พลเอกประวิตร รองนายกฯและรองหน.คสช. ยัน ยังไม่มึแผน ปลดล๊อคพรรคการเมือง แม้ "ประธาน สนช."ส่ง กม.พรรคการเมือง ให้รัฐบาลคสช.แล้ว ลั่น "ผมสบายใจ ถึง จะปลดล็อค" ชี้ตอนนี้ บ้านเมืองยังไม่สงบ คดีต่างๆ ก็ยังไม่เรียบร้อย จะปลดล๊อคได้ยังไง แต่ไม่บอกหลังคดีจำนำข้าวหรือไม่/เพิ่มความเข้มงวดใช้รถขนคนเชียร์ "ยิ่งลักษณ์" ไม่กังวลพท.จุดประเด็นโกดังข้าว โยนเป็นเรื่องของศาล

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงแนวโน้มการปลดล็อกให้พรรคการเมืองแสดงความคิดเห็นได้หลัง ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส่งร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองให้รัฐบาลพิจารณาว่า ยังไม่มีการปลดล็อกพรรคการเมือ ในขณะนี้ ขอให้รอก่อน เพราะเรายังไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่สงบ และไม่นิ่งพอ และเรื่องคดีความต่างๆ ก็ยังไม่จบ
ถามว่า ถ้าพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองประกาศใช้แล้ว จำเป็นต้องให้พรรคการเมืองทำงานได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ถามกลับว่า “แล้วเขาประกาศใช้หรือยัง ก็ยัง
วันนี้ยังไม่มีคำว่า ถ้า เพราะเขายังไม่ประกาศ ตอนนี้เรื่องปลดล็อกยังไม่รู้ ไว้ผมสบายใจแล้ว ผมจะปลดล็อกแล้วกัน”

ต่อข้อถามว่า ที่ระบุว่าสบายใจแล้วค่อยปลดล็อก แสดงว่าขณะนี้สถานการณ์ยังไม่น่าสบายใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตอนนี้มีทั้งเรื่องคดีความที่เราต้องดูกันอีก

เมื่อถามย้ำว่า หลังคดีโครงการรับจำนำข้าวจบจะพิจารณาปลดล็อกพรรคการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึง การดูแลความเรียบร้อยมวลชนที่จะเดินทางเข้ามาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานการเคลื่อนไหวของมวลชน ส่วนเรื่องการใช้ยานพาหนะช่องทางต่างๆ ขนคนมานั้น ในวันดังกล่าวจะเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางการข่าวมีการประเมินเบื้องต้นหรือไม่ว่าจะมีมวลชนมาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ มากน้อยเพียงใด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้

เมื่อถามย้ำว่า กังวลหรือไม่ที่ขณะนี้ทางพรรคเพื่อไทยใช้เรื่องคดีจำนำข้าว และเปิดโกดังข้าวมาจุดประเด็นเพิ่มน้ำหนักให้ประชาชนสงสาร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่กังวล เรื่องนี้เป็นเรื่องของศาล ศาลว่าอย่างไรว่าตามนั้น เราไม่ได้ดำเนินการอะไร
///

" บิ๊กป้อม" เรียก ถกโผทหาร ในสัปดาห์นี้

"ปลัดกลาโหม" เผย " บิ๊กป้อม" เรียก ถกโผทหาร ในสัปดาห์นี้ หลังผบ.เหล่าทัพส่งรายชื่อให้ กห.เรียบร้อยแล้ว /ชี้ ปลัดกห.คนใหม่ต้องเป็นผู้นำ สามารถตอบสนองนโยบายรัฐบาลได้ทุกเรื่อง เผยเห็นรายชื่อหมดแล้ว แต่ขออุบชื่อ "ปลัดกห.คนใหม่" ว่า "ท.เทพพงศ์" หรือ "ส.สสิน" เปรย แค่เป็น "พลเอก"

พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารระดับนายพล ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน
โดยก่อนหน้านี้แต่ละเหล่าทัพได้ส่งบัญชีรายชื่อมาให้กระทรวงกลาโหม เรียบร้อยแล้ว เพราะในแต่ละเหล่าทัพก็มีกระบวนการพิจารณาปรับย้ายตำแหน่งของแต่ละเหล่าทัพเองด้วย
ทั้งนี้ เชื่อว่าจะพิจารณาคนที่เหมาะสมที่สุดของแต่ละเหล่าทัพ รวมทั้งกองทัพไทย และกระทรวงกลาโหม โดยทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบกระทรวงกลาโหม
พร้อมยอมรับว่า ตนได้เห็นรายชื่อทั้งหมดแล้ว
เมื่อถามว่า ตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่มาจากกองทัพบกตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ใช่หรือไม่ พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนการปฏิบัติว่าคนที่จะขึ้นมาในตำแหน่งระดับสูงควรมาจากไหน อย่างไร โดยมีการพิจารณาในระดับคณะกรรมการฯ
เมื่อถามต่อว่าในระดับที่เป็นตำแหน่งผู้นำต้องมีคุณสมบัติพิเศษอย่างไร พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ต้องมีความเป็นผู้นำ สามารถปกครองบังคับบัญชาหน่วย และดูแลเรื่องนโยบาย เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ รวมถึงสามารถตอบสนองนโยบายของรัฐบาลได้ทุกเรื่อง
เมื่อถามว่า ชื่อปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่ มีอักษรย่อ ท.ทหาร หรือ ส.เสือ พล.อ.ชัยชาญ หัวเราะพร้อมกับตอบว่า "เป็น พลเอก"
ทั้งนี้ แคนดิเดต ตำแหน่งปลัดกลาโหม คือบิ๊กเข้ พลเอกเทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก นายทหารเสือราชินีสายบูรพาพยัคฆ์ น้องรัก พลเอกประยุทธ์ ตท.18
และ บิ๊กต้อ พลเอกสสิน ทองภักดี เสนาธิการทหารบก สายทหารม้า ตท.17 ที่ พลเอกชัยชาญ ที่เป็นทหารม้า ด้วยกัน และพลเอกประวิตร สนับสนุน
ทั้งนี้ คาดว่า พลเอกประวิตร จะเรียกประชุมโผโยกย้ายทห ารในวันศุกร์ที่ 11 สิงหาคมซึ่งเป็นวันเกิดของ พลเอกประวิตร ที่บ้าน ร.1รอ.

"ต้องรักษาศักดิ์ศรีประเทศ"...กรณี สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ

"ต้องรักษาศักดิ์ศรีประเทศ"...กรณี สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ
"นายกฯ" ยันทำตาม มติUN คว่ำบาตรเกาหลีเหนือ โวยสื่อ พยายามเอาปัญหาอื่นมาใส่ให้เป็นปัญหาชาติ จี้เลิกขุดคุ้ยขยายความเสียบ้าง ยัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ มาคุยไม่มีอะไรใหม่ ทำได้ก็ทำ ทำไมต้องสร้างเงื่อนไข ยัน รักษาศักดิ์ศรีไทย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานทางการสหรัฐอเมริกาขอให้ทางการไทยปิดบริษัทของประเทศเกาหลีเหนือในประเทศไทย ว่า เรื่องนี้เป็นการแก้ปัญหาระดับโลก ระดับสหประชาชาติ ซึ่งมีพันธะกรณีและมติออกมาแล้ว เราก็ทำตามมติของเขาเท่านั้น
"มันเรื่องอะไรของคุณ คุณจะไปร่วมความขัดแย้งกับเขาหรือ เราต้องวางจุดนั้นให้เหมาะสม เราสนับสนุนมติสหประชาชาติ และร่วมประณาม
โดยหลายอย่างเราทำไปแล้ว หลายเรื่องสื่อไม่เข้าใจ พยายามเอาปัญหาอื่นมาใส่ให้เป็นปัญหาต่อประเทศของเรา ทั้งที่ปัญหาในประเทศของเราก็เยอะไปหมด แต่เราก็จำเป็นต้องทำตาม พันธะสัญญาหรือพันธะกรณี"
“มีใครเห็นด้วยหรือไม่ กับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ก็ไม่เห็นด้วย ก็ร่วมประณาม ถ้อยแถลงการณ์เราก็ออกไปแล้ว อะไรที่ไม่ควรขุดคุ้ยมาขยายความ ก็หยุดเสียบ้าง"
ส่วนการที่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา มาพูดคุย ก็ไม่ได้มีอะไรใหม่กว่านี้ เราทำได้ก็ทำ ทำไมจะต้องไปสร้างเงื่อนไขนี่โน้น
"ประเทศเรามีศักดิ์ศรีหรือเปล่า ก็ต้องรักษาศักดิ์ศรีประเทศด้วย เราทำตามมติและมติอาเซียนก็มี สหประชาชาติก็มี เราทำทุกทาง แล้วจะให้ทำอะไรอีก อย่าเขียนให้ไปเป็นปัญหากับคนอื่นเขา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

อเมริกา ไป.....จีน มา

อเมริกา ไป.....จีน มา
"บิ๊กตู่" เปิดทำเนียบต้อนรับ ทูตจีน อำลา หลังวานนี้รมว.ต่างประเทศ สหรัฐอเมริกามาเยือน เผยจะไปจีน ถกBRICS Summitคงได้พบ"ประธานาธิบดีและนายกฯจีน"/ซึ้ง! ทูตจีน บริจาคช่วยน้ำท่วม1 ล้านบาท ยัน ไทยกับจีน จะสุข-ทุกข์ ด้วยกัน
นายหนิง ฟู่ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่
พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ได้พบกับเอกอัครราชทูตจีนฯ ในวันนี้
พร้อมขอบคุณที่เอกอัครราชทูตจีนฯ ได้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย - จีนให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ได้ดำรงตำแหน่ง
และขอบคุณที่เอกอัครราชทูตจีนฯ ได้ช่วยประสานงานสำหรับการเยือนจีนของบุคคลสำคัญของไทยอย่างต่อเนื่อง
"ขอให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทยจะสานต่อความร่วมมือกับเอกอัครราชทูตจีนฯ คนใหม่อย่างเต็มที่เช่นเดิม "
โดยเอกอัครราชทูตจีนฯ แสดงความขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีสละเวลาให้เข้าพบในวันนี้ และรู้สึกประทับใจที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ
เห็นได้จากการเดินทางไปเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีทั้ง 4 ครั้ง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีให้มีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตจีนฯ แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์อุทกภัยในภาคเหนือและภาคอีสานของไทย และขอบริจาคเงินจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
โดยนายกรัฐมนตรี แสดงความขอบคุณ พร้อมกล่าวว่ารัฐบาลจะนำเงินบริจาคดังกล่าวให้กับศูนย์ช่วยเหลือประชาชนประสบภัยน้ำท่วมที่รัฐบาลได้จัดตั้งขึ้นมา เพื่อเป็นศูนย์กลางการรับบริจาคของประชาชนที่ต้องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
อย่างไรก็ดี ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวน ที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย และผู้บาดเจ็บกว่า 160 คน
พร้อมกล่าวถึงสุภาษิตไทยที่ว่า “ไทยกับจีนนั้นจะสุขก็สุขด้วยกัน จะทุกข์ก็ทุกด้วยกัน”
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ความสัมพันธ์ไทย – จีน มีความราบรื่นบทพื้นฐานความเข้าใจอันระหว่างกันและมีความใกล้ชิดในทุกระดับ
โดยเอกอัครราชทูตจีนฯ กล่าวยืนยันว่า จีนจะสานต่อความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีอย่างนี้ไปโดยตลอด เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือให้พัฒนาก้าวหน้าต่อไป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ามีกำหนดเดินทางเยือนจีน เพื่อเข้าร่วมการประชุม Dialogue of Emerging Markets and Developing Countries ในช่วงการประชุม BRICS Summit ครั้งที่ 9 ที่จีน
และหวังว่าจะมีโอกาสพบกับประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีจีนในการประชุมดังกล่าว ซึ่งเอกอัครราชทูตจีนฯ ได้อวยพรให้การเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวประสบความสำเร็จ
ทั้งสองฝ่ายหารือถึงความร่วมมือระหว่างกัน ดังนี้ ด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองฝ่ายมีพัฒนาการที่ดี
โดยจีนยังคงรักษาความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเอกอัครราชทูตจีนฯ เน้นย้ำว่า จะสนับสนุนให้ภาคธุรกิจจีนเข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะในโครงการ EEC และจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนไทยในจีน การท่องเที่ยว
ทั้งสองฝ่ายแสดงความยินดีที่ประชาชนของทั้งสองประเทศเดินทางไปท่องเที่ยวซึ่งกันและกันอย่างสม่ำเสมอ รถไฟไทย – จีน
นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณเอกอัครราชทูตจีนฯ ที่ช่วยผลักดันโครงการรถไฟฯ เสมอมา โดยฝ่ายไทยได้พยายามผลักดันให้โครงการนี้คืบหน้า เพื่อจะเป็นสัญลักษณ์ความร่วมมือระดับรัฐบาลของทั้งสองประเทศ
จึงขอให้ฝ่ายจีนคำนึงถึงความสำคัญของโครงการดังกล่าวในเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ ปัญหาทะเลจีนใต้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยสนับสนุนการคงไว้ซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงในภูมิภาค จึงหวังว่าจีนจะมีบทบาทที่สร้างสรรค์และแก้ไขปัญหาทะเลจีนใต้ด้วยสันติวิธี
ในช่วงท้าย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคให้เพิ่มมากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะสามารถเป็นประตูสู่อาเซียนให้แก่จีนได้ ผ่านระเบียงเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงระหว่าง EEC กับนโยบายสำคัญของจีน โดยเฉพาะนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (One Belt and Road) ของผู้นำจีน ซึ่งเอกอัครราชทูตจีนฯ ยืนยันความพร้อมที่จะสนับสนุนความเชื่อมโยงในภูมิภาคกับไทยและประเทศสมาชิกอาเซียน ภายใต้กรอบความร่วมมือต่าง ๆ ทั้ง อาเซียน – จีน GMS และแม่โขง – ล้านช้าง (MLC)ๆ

เราชาติเดียวกัน...อย่าเล่นกีฬาสี..

"บิ๊กตู่"ชี้ คนไทย เลือดรักชาติเข้มข้น เหน็บมีหลายเรื่อง ก็อาศัยความรักขาติ สร้างความวุ่นวาย ไม่รู้ชาติเดียวกันหรือเปล่า แค่เราชาติเดียวกัน ขอช่วยทำให้สงบ/อย่าเล่นกีฬาสี
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโห มในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่นำเจ้าหน้าที่และนักกีฬาทีมชาติไทย 1,218 คน เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื้ออำลา ก่อนการเดินทางไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 19 - 30 สิงหาคมนี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

พล.อ.ประยุทธ์ มอบโอวาทตอนหนึ่งว่า เวลาที่ผ่านมานักกีฬาได้สร้างชื่อเสียงแก่ประเทศไทยเป็นอย่างมาก กีฬาซีเกมส์เป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่และมีเกียรติ การแข่งขันกีฬาแสดงให้เห็นว่าบ้านเมืองอยู่ในช่วงเวลาของความสงบสุข และเราจะแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติถึงความสามารถของนักกีฬาไทย พร้อมเผยแพร่ความเป็นไทยต่อนานาประเทศ
ซีเกมส์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดประชาคมอาเชียน โดยภูมิภาคต้องเจริญเติบโตไปด้วยกัน เราต้องมีความร่วมมือให้มากขึ้น รัฐบาลขอชื่นชมนักกีฬาทุกคนที่สามารถฝ่าอุปสรรคจากการฝึกซ้อมมาอย่างหนักเพื่อประเทศชาติ ทั้งนี้นักกีฬาต้องรู้จักวิธีการทำสมาธิก่อนการแข่งขัน เพื่อลดความตื่นเต้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การกีฬาจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของความสัมพันธ์ รัฐบาลขอให้กำลังใจนักกีฬาทุกคน ในการแข่งขัน มีน้ำใจนักกีฬาเคารพกติกา ให้เกียรติคนดู อย่าแข่งกับกรรมการ ต้องรู้จักแพ้ชนะ ไม่ใช่ว่ากีฬาแพ้คนดูไม่แพ้ เพราะเลือดรักชาติของเรานั้นเข้มข้น
"คนไทย เลือดรักชาติเข้มข้น มีหลายเริ่อง ก็อาศัยความรักขาติ สร้างความวุ่นวาย ไม่รู้ชาติเดียวกันหรือเปล่า แค่เราชาติเดียวกัน ขอช่วยทำให้สงบ"
นายกฯชี้ นักกีฬาไทย มักจะเป็นพวกมี
ความสามารถเฉพาะตัว แต่ 2-3 คนเริ่มมีปัญหา..แต่อย่า แข่ง แบบ กีฬาสีในประเทศ แข่งแล้ว ได้อะไรขึ้นมา แต่ท่านรองนายกฯไม่ให้อยู่แล้ว
ทั้งนี้ เราต้องใช้กีฬาพัฒนาประเทศ เมื่อให้ประชาชนแข็งแรงประเทศก็จะมีภูมิคุ้มกัน ลดการรักษาพยาบาล ขณะเดียวกันนักกีฬาต้องเป็นแบบอย่างที่ดีด้วย เป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้อื่น เชื่อว่าทุกคนต้องการชนะ และขอให้ทุกคนนำเหรียญกลับประเทศให้ได้มากที่สุด
แต่สิ่งสำคัญคือการทำงานเป็นทีม ซึ่งทุกคนต้องช่วยเหลือกัน และขอให้ช่วยกันปรับปรุงการกีฬาของไทยให้ดีขึ้น

"เวลาแข่งขันก็นึกถึงหน้าผมหน่อย ผมรอลุ้นอยู่ ผมชอบทุกกีฬา เล่นเป็นทุกอย่าง แต่ไม่เก่ง และผมสนับสนุน ผมต้องการสร้างสรรค์กีฬา ทุกวันนี้ ก็ให้ออกกำลังกายในทำเนียบฯ แต่พออกกำลังกายข้างนอก คนน้อย เพราะกลัวแดด กลัวเป็นฝ้า ผมเข้าใจนะ ผู้หญิงรักสวยงาม
นายกฯ กล่าวว่า คนสวย จะต้องสวยที่จิตใจ หน้าตาไม่ตัองดีเท่าไหร่ เห็นมั้ยคนสวย ไม่ค่อยแต่งงาน
พรัอมแนะนำให้ ใช้เครื่องสำอางค์น้ำนมข้าว ของเรา ไม่แพง รับรองว่า ไม่เป็นไร รับรอง ไม่ต้องไปทำหน้า เพราะทำไปทำมา ไม่ดีเท่าเก่า คนจะสวย อยู่ที่จิตใจ และความดี
นายกฯยัง คุยกับ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิง เลยถามว่า จะได้ แชมป์ มั้ย โดย มาดามแป้ง ตอบว่า อยากได้มาก
นายกฯเลย แนะ ให้ ปรับ mind set ใหม่ ว่า เราจะต้องชนะให้ได้ แม้เราจะตัวเล็ก และไม่ต้องห่วงสวย เพราะ ยังไงก็สวยอยู่แล้ว
"คนสวย ทำอะไรไม่ค่อยเป็น หรอก ผมพูดแบบนี้ เดี้ยวโดนด่าอีก" บิ๊กตู่ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า แล้ววันนี้ประธานและอดีตประธานโอลิมปิกมาทั้ง 2 คน เห็นทีจะต้องได้เหรียญเพิ่มเป็น 2 เท่า
พลเอกประยุทธ์ กล่าวถึง พลเอกประวิตร ซึ่งมาเป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิค คนใหม่ และ มี พลเอกยุทธศักดิ์ อดีตปธ.มาเป็นประธานกิตติมศักดิ์ เชื่อว่า เราจะได้ การแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ เหรียญมากเป็น2เท่า เพราะวันนี้แม้ท่านจะไม่แข็งแรงเท่าเมื่อก่อน. แต่ท่านเคยแข็งแรงมาก่อน ดีนะที่ท่าน แข็งแรง มากมาก่อน ไม่งั้น ไม่แข็งแรงเท่านี้ หรอก
"รุ่นพี่ ผม นี่ถ้า เอาหมอนอุดจมูก ผมก็ตายไปแล้ว นี่ ยังไม่ได้แก้แค้นใครสักคน" นายกฯกล่าว