PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ปิดฉากสายฮาร์ดคอร์

ปิดฉากสายฮาร์ดคอร์

แค่ต้องใช้สมาธิกับคดีจำนำข้าวก็แทบไม่เป็นอันกินอันนอนแล้ว

ตามแนวโน้มสถานการณ์ล่าสุดแบบที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องส่งเสียงวิงวอนถึงสื่อที่รู้จักเป็นการส่วนตัว บอกปัดกระแสข่าวที่ “น้องปู” จะผลักดันให้พี่สาวอย่างนางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำเลยว่า นางมณฑาทิพย์ไม่ได้สนใจการเมือง

“อย่าเล่นข่าวนี้เลยนะคะ มันไม่จริงเลย”

เรื่องของเรื่องในมุมของอดีตนายกฯหญิงก็เชื่อได้ นาทีนี้ไม่น่าจะมีอารมณ์ร่วมกับการชิงอำนาจในพรรคเพื่อไทย ด้วยเงื่อนไขส่วนตัวที่ไม่ได้เอื้ออำนวยแต่อย่างใด

และสังเกตได้ว่า กระแสข่าวมันออกมาหลังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นมลทิน รอดตัวจากคดีสลายม็อบพันธมิตรฯเมื่อปี 2551 และกลับมาเป็นคู่แคนดิเดตสำคัญในการชิงเก้าอี้แม่ทัพพรรคเพื่อไทยกับ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง

เรื่องมันเลยยุ่ง เพราะรายการเตะตัดขา สกัดคู่แข่ง

มันชัดเจนว่าเป็นยุทธการ “ล่อเป้า” กันเองของพวกที่อยู่ในข่ายจ้องลุ้นเบอร์หนึ่ง ตามเหลี่ยมชี้เป้าเร้ากระแสต้านคน “ตระกูลชิน” ยึดบริษัทพรรคเพื่อไทย จำกัด

ลูกทีม “นายใหญ่” ฟัดกันแรงในเกม “ไพรมารีโหวต” หัวหน้าพรรคคนใหม่

สะท้อนสถานการณ์เกมแย่งธงจาก “นายใหญ่” ยังคึกคัก แม้แนวโน้มพรรคเพื่อไทย

ต้องเจอกับด่านสกัดข้างหน้า ตามพิมพ์เขียวร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ทีมงาน “ซือแป๋” นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ออกแบบให้ “แยกเบอร์” ผู้สมัคร ส.ส.เขตแบบเขตใครเขตมัน ตีกันไม่ให้แต้มไหลเข้าทางยี่ห้อ “ทักษิณ” ง่ายๆ

ภายใต้บรรยากาศเกมเลือกตั้งกลับมาเข้มข้น ในสถานการณ์ที่เกมมวลชนเบาบางลงไป

กับมุก “คนมามากแล้วเรียบร้อย ดีกว่าคนมาน้อยแต่วุ่นวาย”

ตามสไตล์นิ่งๆแบบ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. พูดถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยกรณีมวลชนจะเคลื่อนไหวให้กำลังใจอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ในวันตัดสินคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าววันที่ 25 สิงหาคมนี้

ในอารมณ์ที่สะท้อนถึงความมั่นใจระดับหนึ่งว่า “เอาอยู่”

ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่โยงต่อเนื่องกับปรากฏการณ์ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายกฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯและพวกในคดีสลายการชุมนุมม็อบ
พันธมิตรฯบุกล้อมอาคารรัฐสภาเมื่อปี 2551

ประทับความ “ชอบธรรม” ให้รัฐสามารถจัดการมวลชนได้ภายใต้ระเบียบแบบแผน

ม็อบครองเมือง “กฎหมู่” เหนือ “กฎหมาย” ไม่ง่ายแล้ว

อีกทั้งล่าสุดปริศนา “โกตี๋” นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ เริ่มมีการเฉลย ถึงแม้ “บิ๊กป้อม”

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม จะไม่ยืนยันกรณีมีภาพถ่ายชายที่ลักษณะคล้ายนายวุฒิพงศ์เสียชีวิตเผยแพร่อยู่ในโซเชียลมีเดีย

เพราะยังไม่มีการรายงานจากทางการลาวมายังประเทศไทย ซึ่งทางการลาวบอกไม่รู้เรื่องว่านายโกตีิ๋อยู่ในประเทศลาว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง

แนวเดียวกับ พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ระบุยังไม่มีการยืนยันการเสียชีวิตของ “โกตี๋” ภาพบางภาพที่มาที่ไปอาจมีการตกแต่งหรือทำอะไรขึ้นมาก็ได้

รัฐบาลไทยยังไม่ยืนยัน เพราะเป็นปมที่โยงกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ต้องปฏิเสธตามมารยาทที่ห้ามก้าวก่ายกิจการภายในเพื่อนบ้าน

แต่ล่าสุดจากการเช็กข่าววงในของนักการเมืองไทยระดับสูง ที่มีสายสัมพันธ์กับผู้บริหารระดับสูงของทางการ สปป.ลาว ได้สำทับประเด็นการเสียชีวิตของ “โกตี๋” เป็นข้อมูลที่มีความเป็นไปได้สูง มั่นใจได้ว่าเป็นเรื่องจริง

ด้วยเหตุปัจจัยที่โยงกับเกมอำนาจการเมืองในลาวเองที่มีความขัดแย้งสูง

และแนวโน้มสายอำนาจที่ให้ความคุ้มครอง “โกตี๋” และแนวร่วมกองกำลังปฏิวัติตามแนวทางสหพันธรัฐไทยกำลังตกอยู่ในสถานะสูญเสียสถานภาพทางอำนาจ

ทำให้เกมเปลี่ยนมาเข้าทางฝ่ายไล่ล่าจากเมืองไทย

นำมาซึ่ง “ปริศนา” ปิดตำนานแกนนำม็อบแดง “ฮาร์ดคอร์”.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: