PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

กลุ่มศิษย์เก่า อาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ รวม 12 แห่ง หนุนกปปส.


ข่าวแจกสื่อมวลชน
บ่ายวันนี้ (19 พฤษภาคม) ที่โรงแรมเอเชีย กลุ่มศิษย์เก่า อาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ รวม 12 แห่ง ได้ประชุมระดมความเห็นเพื่อหาทางออกให้กับประเทศชาติ ในสถานการณ์ที่รัฐบาลรักษาการไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และเกิดวิกฤตศรัทธาในฝ่ายบริหาร ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจก็มีแนวโน้มได้รับผลกระทบเสียหายอย่างรุนแรง ผลการประชุมสรุปได้ ดังนี้
1. กลุ่มศิษย์เก่า อาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัยดังรายนามข้างท้าย ขอให้กำลังใจและพร้อมที่จะสนับสนุนประธานวุฒิสภา และสมาชิกวุฒิสภา ในการทำหน้าที่หาทางออกให้กับประเทศอย่างทันท่วงที บนพื้นฐานผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
2. ขอให้รัฐบาลรักษาการลาออกโดยทันที เพื่อเปิดทางให้ประเทศเดินหน้า และมีการปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง เพราะเห็นว่ารัฐบาลรักษาการหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ควรมีรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารและจัดการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
3. เราเห็นด้วยกับการต่อสู้ของ กปปส. เพื่อทวงคืนอำนาจอธิปไตยมาสู่ประชาชนคนไทย และ ขอชื่นชมมวลมหาประชาชนที่ออกมาร่วมกันใช้สิทธิต่อสู้เพื่อความถูกต้องอย่างกล้าหาญและเสียสละ
4. เราขอเรียกร้องหัวหน้าส่วนราชการและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ รวมถึงข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ออกมาแสดงความกล้าหาญในการยืนเคียงข้างประชาชน ต่อสู้อย่างสันติ อหิงสา และปราศจากความรุนแรง
ทั้งนี้กลุ่มศิษย์เก่า อาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัยจะร่วมรณรงค์ให้ศิษย์เก่า ข้าราชการ
พนักงาน และนิสิตนักศึกษาของแต่ละสถาบัน เพื่อนต่างสถาบัน และพี่น้องประชาชนทั่วไปออกมาร่วมกันชุมนุมใหญ่ในวันที่ 23-25 พฤษภาคมนี้ โดยในวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม เวลา 16.00 น. เราจะไปรวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อจัดกิจกรรมเชิญชวนให้ประชาชนทุกภาคส่วนออกมาร่วมกัน ทวงคืนอำนาจอธิปไตย
1. กลุ่มพี่น้องมหิดล มหาวิทยาลัยมหิดล
2. กลุ่ม มก. ร่วมกู้ชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
3. กลุ่มศิษย์เก่ารามคำแหงร่วมปฏิรูปประเทศไทย มหาวิทยาลัยรามคำแหง
4. กลุ่มลูกแม่ไทรหัวใจรักชาติ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
5. กลุ่มธรรมาธิปไตย มหาวิทยาลัยรังสิต
6. กลุ่ม NIDA For Change สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
7. กลุ่ม มจธ. ร่วมปฏิรูปประเทศไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
8. กลุ่มธรรมศาสตร์อภิวัฒน์ประเทศไทย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
9. กลุ่มประชาคมชาวจุฬาฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
10. กลุ่ม มศว รักประเทศไทย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
11. กลุ่มจำปากู้ชาติ (คณะวิทย์ฯ มข.) มหาวิทยาลัยขอนแกน
12. กลุ่ม มสธ. ร่วมปฏิรูปประเทศไทย มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์:ถ้าพวกเราออกมามากๆ ความรุนแรงก็จะไม่เกิดขึ้นครับ


วันท่ี23-26นี้จะเป็นการชุมนุม ครั้งใหญ่และ ครั้งสุดท้าย ของ กปปส. 

ขณะที่ทาง ฝ่ายเสื้อแดง ก็ระดมจ้างมาเหมือนกัน จนดูคล้ายกับ เป็นการนำชาวบ้านมาCover กลุ่มถืออาวุธ ดังนั้นโอกาศท่ีจะเกิดความรุนแรง ระหว่างผู้ชุมนุม2กลุ่ม จึงมีขึ้น ตลอดเวลา

ปัจจุบัน ข้าราชการส่วนใหญ่ วุฒิ,ทหาร,ตำรวจ,แม้แต่ฝ่ายรัฐบาลเอง ก็จะรอดูว่า ฝ่าย กปปส.จะออกมา
มากมั้ย ดังนั้น ถ้าเราเลือกเอา"ความดี ไม่เอา ความเลว" ถ้าเราเลือกเอา"ผลประโยชน์ของชาติ"
มากกว่า ผลประโยชน์ส่วนตัว แล้ว เราก็ต้องช่วยกันออกมา ออกมา ถ้าพวกเราออกมามากความรุนแรงก็จะไม่เกิดขึ้นครับ เพราะคนท่ีจะบ่งการให้เกิดความรุนแรงย่อมรู้ดีว่า คนนับล้านไปเผาบ้าน พวกเขาแน่ๆ ถ้าเกิดความรุนแรงขึ้น และเมื่อถึงจุดนั้นแล้ว ตำรวจ ทหารก็ช่วยใครไม่ได้หรอกครับ จลาจล แน่นอน
"สรุปว่าถ้าพวกเราออกมามากๆ ความรุนแรงก็จะไม่เกิดขึ้นครับ"

แต่ถ้ามาน้อย ซึ่งก็ไม่น้อยหลายแสนอยู่ ไม่ชนะ กำนัน ยอมมอบตัว เชื่อเถอะว่า ประชาชนไม่ยอมเลิกแน่
มากกว่าครึ่งหนึ่ง จากขบวนการประชน (หลายหมื่น) จะกลายเป็นม็อบทันที (ม็อบ คือ การชุมนุมท่ีไม่มีแกนนำควบคุม )อะไรจะเกิดขึ้น จลาจลอีก ครับ

ปัจจุบัน สถานการณ์ ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่าง กปปส.กับ รัฐบาล หรือ เสื้อแดงแล้ว แต่เป็นเรื่องท่ีเข้าสู่เรื่อง"ความมั่นคงของชาติแล้ว"ขบวนการจัดการจึงต้องใช้วิธี"พิเศษ" เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศชาติล่มจ่ม ดังนั้นจึงไม่ต้องมาใช้กฏหมายธรรมดา กันแล้ว จะทำอะไรก็ต้องทำ ทำเข้าไป และ ต้องรีบๆทำด้วยครับ

(ให้สัมภาษณ์ สถานีวิทยุ101เมื่อครึ่งชั่วโมงท่ีผ่านมาครับ).

การ์ด กปปส. กรีดรถ เจาะยางและขโมยล้อรถของนายบรรหาร ศิลปอาชา ...

เมื่อ เวลา 13.00 น.วันที่ 19 พ.ค. 2557 นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประธาน ติดตามความก้าวหน้าโครงการประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำบางกรวย และโครงการประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำคลองบางบัวทอง อ.ปากเกร็ด โดยทั้งหมดเดินทางโดยเรือของกรมชลประทาน และขึ้นเรือที่ท่าเรือชลประทาน โดยในระหว่างการเดินทางเจ้าหน้าที่กรมชลประทานได้รายงานให้นายบรรหารทราบว่า ที่กรมชลประทานสามเสนมีกลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้ามาหาตัวนายบรรหาร พร้อมใช้มีดกรีดยางรถส่วนตัวที่นายบรรหารใช้เดินทางทั้ง 4 เส้น เมื่อเสร็จภาระกิจตรวจประตูระบายน้ำที่ อ.ปากเกร็ด นายบรรหารจึงใช้รถที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้เดินทางกลับทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และไม่กลับกรมชลประทานสามเสน


กกต.ลุยสอบคำร้อง‘ยิ่งลักษณ์‘รอฟันยุบพรรค

กกต. ลุยสอบคำร้องอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ รอฟันยุบพรรค ขณะ ผบ.ตร. เตรียมแจง กกต. ย้าย "คำรณวิทย์" พรุ่งนี้ 10 โมง
รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ ที่ประชุมจะมีการพิจารณา กรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ได้มีมติเห็นชอบให้มีการย้าย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และให้ พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แทน โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเข้าชี้แจงด้วยตนเองในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น.

ด้าน นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวน กล่าวถึงการสอบสวนคำร้องของอดีตนายกรัฐมนตรีว่าแม้รัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยให้สิ้นสภาพไปแล้ว แต่ กกต.ก็ยังสอบสวนตามคำร้องต่อไป เนื่องจากเรื่องที่ร้องยังเกี่ยวข้องกับการยุบพรรค และตัดสิทธิ์ทางการเมือง ซึ่งขณะนี้ มีหนึ่งเรื่อง ที่เกี่ยวกับอดีตนายกรัฐมนตรี อนุกรรมการสืบสวนฯ ได้สืบสวนแล้วเสร็จและทางสำนักงานเตรียมที่จะบรรจุระเบียบวาระให้ที่ประชุม กกต.ได้พิจารณาเร็วๆ นี้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยว่ากรณีใด


วสิษฐ เดชกุญชร:เรียกร้องทุกฝ่ายช่วยกปปส.ไม่รับรองรัฐบาลเถื่อน


ด่วนที่สุด ! ผมขอเชิญเพื่อนพี่น้องข้าราชการทั้งพลเรือน ตำรวจ และทหาร ให้ออกมายืนเคียงข้างและร่วมกับประชาชนในการปฏิเสธและไม่รับรองรัฐบาลเถื่อนที่กำลังพยายามครองประเทศอยู่ในขณะนี้ หากท่านยังลังเลใจอยู่ความเสียหายจะเกิดขึ้นแก่บ้านเมือง แก่ท่าน และแก่ครอบครัวของท่านอย่างร้ายแรง 

ประชาชนจะเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน แต่จะต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากหากท่านเลือกที่จะเป็นคนดู แต่ถ้าท่านตัดสินใจเพียงแต่ออกมายืนเคียงข้างประชาชน ชัยชนะที่ได้รับจะเป็นชัยชนะที่สะอาดปราศจากเลือดแม้แต่หยดเดียว

ออกมาเถอะครับ ออกมาได้แล้ว ไม่ใช่เพื่อคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือใคร ๆ ทั้งนั้นแต่เพื่อตัวเรา ครอบครัว และลูกหลานของเราเอง
ท่านเท่านั้นที่จะป้องกันมิให้เกิดสงครามนองเลือดขึ้นในเมืองไทยได้อีก

"พล อ นิพัทธ" ซัดตรงหน้าพวกตะแบงกฏหมาย.ดัน นายกฯคนกลาง เตือน ไปไม่ได้อย่าฝืน !!!

พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ถูกนักข่าวถามว่า สถานการณ์ขณะนี้เหมาะสมกับการที่มีนายกรัฐมนตรีเฉพาะกิจตามที่สมาชิกวุฒิสภาเสนอหรือไม่ พล.อ. นิพัทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่พูดตลอดมา และผู้ใหญ่ในบ้านเมืองพยายามบอก คือ กฎหมายระบุไว้อย่างไร ซึ่งต้องถามกันตรงนั้น
"ถ้ากฎหมายบอกว่าทำได้ก็ทำ และถ้าทำไม่ได้ก็อย่าฝืน ไม่เช่นนั้นจะยุ่ง เหมือนอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ขณะนี้มีคนชี้สิ่งที่ถูกต้องอยู่ตลอด เราก็ต้องฟังและปฏิบัติตามสิ่งเหล่านี้" ปลัดกลาโหม กล่าว
ส่วนการที่ สองฝ่ายตีความกฎหมายต่างกัน ฝ่ายกฎหมายของทหารมองว่าทำได้หรือไม่ นั้น พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายของทหารได้ติดตามและได้ศึกษาอย่างถ่องแท้แล้ว ผมคิดว่าเรามีคำตอบอยู่ และรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ในฐานะข้าราชการไม่ขอพูดอะไร นักกฎหมายทั้งที่จบจากในประเทศ และต่างประเทศเป็นความหวังของคนไทย กรุณาใช้หลักการ และตำราที่ได้ศึกษาอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งที่ผ่านมา6 เดือนเรามีความเจ็บปวดมาแล้วกับการพลิกแพลงกฎหมาย และพยายามที่จะตะแบงกัน
ส่วนแนวทางของทหารนั้น ก็ได้ทำหน้าที่ตามกรอบ ศอส. และ ศอ.รส. ซึ่งได้พยายามประคับประคองสถานการณ์มาโดยตลอสิ่งที่กองทัพเำเนินการ ดูเหมือนง่าย แต่ความเป็นจริงนั้นยาก ดังนั้นควรยึดแนวทางของ ผบ.ทบ. ที่มีประสบการณ์จากหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา การประคับประคองให้ทุกฝ่ายมาบรรจบในจุดที่เข้าใจ ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย ที่ผ่านมาเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นบางประปราย กองทัพก็ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง และละมุนละม่อม พร้อมใช้ความระมัดระวังอย่างที่สุด
ส่วนการประกาศกฎอัยการศึกนั้นกระทรวงลาโหมได้ประชุมแล้วว่า ตามกฎระเบียบอะไรสามารถทำได้หรือไม่ได้ ทั้งนี้ หวังว่าในสัปดาห์นี้ถ้าทุกสิ่งเป็นไปตามคำพูดใครคนหนึ่งที่ระบุว่าจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ในสัปดาห์นี้ ตนคิิดว่าบ้านเมืองเราจะได้มีแสงสว่างเสียที
เมื่อถามว่า ถึงเวลาที่ทหารต้องเด็ดขาดเพื่อแก้ไขปัญหาให้ยุติ ปลัดกลาโหม กล่าวว่า ความเด็ดขาดวันนี้ การปฏิบัติต่างๆยังอยู่ที่ ศอ.รส. มีทหารตำรวจอยู่ภายใต้การบังคับบัญชา คิดว่าไม่น่ามีอะไรแตกหัก ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างละมุนละม่อม และไม่ใช้กำลังจนช้ำ อาจจะดูน่ารำคาญในความเชื่องช้าไปบ้าง ผมให้เครดิตตรงนี้ กับรัฐบาล ผมยืนยันว่าตั้งแต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ จนถึงรัฐบาลรักษาการในขณะนี้ ศอ.รส. ยังทำหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และกองทัพยังให้การสนับสนุนรัฐบาล...


ไซน์ จาก"ไพศาล"แนะ"สุรชัย"ทำแบบอดีตสมัย"สัญญา ธรรมศักดิ์"

ดังคาด รองประธาน สว.หารือนิวัฒน์รำวง เหลวเป๋ว จึงเป็นอันจบกระบวนการหารือรับฟังความเห็น
ต่อไปจะเป็นกระบวนการสรรหานายกตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติซึ่งต้องใช้ประเพณีการปกครองตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติเท่านั้น
แบบอย่างคือนายทวี แรงขำ รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาตินำความกราบบังคมทูล และลงนามรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งนายสัญญา ธรรมศักดิ์เป็นนายก เมื่อโปรดเกล้าแล้วรัฐมนตรีที่เหลือก็พ้นตำแหน่งทันที
ครั้งนั้นพระเจ้าอยู่หัวทรงประทับที่พระตำหนักเปี่ยมสุข หัวหิน
ครั้งนั้นนายกรัฐมนตรีลาออก ประธานสภานิติบัญญัติทำหน้าที่ไม่ได้
ครั้งนั้นไม่มีการซาวเสียงหรือเลือกนายกในสภานิติบัญญัติ
พระเจ้าอยู่หัวเคยมีพระราชดำรัสว่าการโปรดเกล้าแต่งตั้งครั้งนั้นไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่นายกพระราชทาน แต่ทำตามกฎหมายและทรงเตือนให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายไปศึกษาประวัติศาสตร์ด้วย
นายสุรชัย รองประธานวุฒิสภาในวันนี้จึงมีอำนาจหน้าที่และต้องทำตามแบบอย่างนายทวี แรงขำ รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติในวันนั้น และต้องรีบทำแล้วครับ

NAT PRESS RELEASE

"นิวัฒน์ธำรง"เผยผลหารือวุฒิยันรบ.ไม่ลาออก


นายนิวัฒน์ธำรง ได้ชี้แจงข้อกฎหมายเกี่ยวกับสถานะของคณะรัฐมนตรี และผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีว่า คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันเป็นคณะรัฐมนตรีที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๘๑ และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๙/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ที่ให้รัฐมนตรีที่ไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ซึ่งคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันให้ทุกองค์กรไม่ว่าจะเป็น คณะรัฐมนตรี วุฒิสภา ศาล องค์กรตามรัฐธรรมนูญ เป็นต้น จะต้องปฏิบัติตาม (รัฐธรรมนูญมาตรา ๒๑๖) ส่วนนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล สามารถปฏิบัติหน้าที่และมีอำนาจเท่ากับตำแหน่งที่ทำหน้าที่ (นายกรัฐมนตรี) ได้ถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.๒๕๓๔ มาตรา ๑๐ และมาตรา ๔๘
ดังนั้น ขณะนี้จึงมีคณะรัฐมนตรี และผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่ที่ปฏิบัติราชการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๘๑ และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องอย่างสมบูรณ์

สำหรับประเด็นที่ว่า กลุ่มบุคคลต่างๆต้องการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง และให้มีอำนาจในการบริหารราชการได้อย่างเต็มที่ (ไม่ถูกจำกัดด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๘๑) รัฐบาลได้ชี้แจงว่า ไม่สามามรถกระทำได้ เพราะขณะนี้ประเทศไทยมีคณะรัฐมนตรีและผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว จะแต่งตั้งซ้อนไม่ได้ อีกทั้งการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเต็มนั้น ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๑ และ ๑๗๒ ประกอบกับอยู่ในระหว่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภา พ.ศ.๒๕๕๖ ยังบังคับใช้อยู่ ซึ่งข้อเสนอแนะเรื่องการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่อ้างว่า มีอำนาจเต็มนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะยังต้องถูกจำกัดอำนาจในการบริหารตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๘๑ จึงเป็นกรณีที่ไม่แตกต่างจากคณะรัฐฒนตรีที่ปฏิบัติหน้าที่ในปัจจุบัน สรุปความว่า นายกรัฐมนตรีต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร จากการศึกษาข้อกฎหมายพบว่า ไม่มีรัฐธรรมนูญมาตราอื่นใด ระบุเรื่องการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีอีก
สำหรับประเด็นที่มีการขอให้คณะรัฐมนตรีลาออกนั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติน้าที่ เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๘๑ และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ที่กำหนดให้คณะรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ที่ประชุมเห็นพ้องด้วยกันว่า ทุกฝ่ายควรหาทางแก้ปัญหาวิกฤติการเมืองโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับประเทศชาติ และประชาชนมากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ ทางรัฐบาลยินดีปรึกษาหารือกับวุฒิสภาและฝ่ายต่างๆตลอดเวลาเพื่อหาทางออกที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย โดยเร็วที่สุดต่อไป


โครงสร้างชาติของมวลมหาประชาชน ในยุคปฏิรูปการเมือง

โครงสร้างชาติของมวลมหาประชาชน ในยุคปฏิรูปการเมือง 

#ฝ่ายบริหาร 

นายกไม่ต้องเป็น ส.ส.

คณะรัฐมนตรี ปลอดนักการเมือง ให้กำนันเสนอ 

#ฝ่ายนิติบัญญัติ

ส.ว. เลือกตั้ง 77 สรรหา 73 คงเดิม 

ส.ส. 
เลือกตั้ง 250 คน (ระดับจังหวัดทั้งหมด)
แต่งตั้ง 250 คน 

ส.ส. แต่งตั้ง
*กปปส. 100 คน 
*วิชาชีพ 100 คน 

- ยกเลิกระบบบัญชีรายชื่อ

ที่มา ส.ส.

- เลือกตั้ง 250 คน = ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศ (หาร) 250 
หรือ 172,000 คน ต่อ ส.ส. 1 คน 
(กทม.จะมี ส.ส.เรามากที่สุด) 

- แต่งตั้ง 250 คน 

กปปส. 100 คน 
*สายกำนัน 30
*สายพรรค 50
*คปท 5
*กองทัพธรรม 5
*หลวงปู่ฯ 5
*ราชนิกูล 5

สายวิชาชีพ 150 คน 
*แพทย์ 50
*ภาคประชาชน 50 
*นักธุรกิจประชาธิปไตย 30
*NGOs 20 
*นักกฎหมาย 20 

โดยมีกรรมการแต่งตั้ง ส.ส. คือ 
*ประธาน ศาลรัฐธรรมนูญ
*ประธาน กกต.
*ประธาน ป.ป.ช.
*ประธาน ผู้ตรวจการแผ่นดิน
*ประธาน ศาลฎีกา -------------> ให้เฝ้าระวัง 
*ประธาน ศาลปกครองสูงสุด
*เลขาธิการ กปปส.

วิธีการแต่งตั้ง 
- ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมควรได้รับแต่งตั้ง
- การแต่งตั้งให้ใช้เสียงกึ่งหนึ่งของกรรมการแต่งตั้ง
- ส.ส.แต่งตั้ง ห้ามดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี 

#ตุลาการ 

- คงเดิม - 

* เพิ่มอำนาจ 

* ขยายบทลงโทษ ม.112 ให้ครอบคลุมทุกมิติ

#องค์กรอิสระ



ศาลอาญา ออกหมายจับ "ตู่ จตุพร" หลังเบี้ยวเบิกความคดีหมิ่นมาร์ค

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ได้ออกหมายจับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หลังส่ง นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ขอเลื่อนนัดสืบพยานจำเลย คดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจตุพร ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
กรณีเมื่อวันที่ 11 และ 17 ต.ค. 2552 นายจตุพร ได้ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวหาว่า นายอภิสิทธิ์ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำนองว่า เป็นคนสั่งฆ่าประชาชนและขัดขวางการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อถึงเวลานัด นายวิญญัติ ได้แถลงต่อศาลขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยออกไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันเกิดความวุ่นวายประกอบกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.
ได้ประกาศตามล่า รัฐมนตรีรักษาการ เพื่อบีบบังคับให้ลาออก ซึ่งนายจตุพร เป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง การประกาศดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อนายจตุพร และนายจตุพร ยังต้องดูแลการชุมนุมที่ถนนอักษะให้ปลอดภัย จึงขอเลื่อนการสืบพยานออกไปสักระยะทั้งนี้ศาลได้สอบถามทนายโจทก์แล้ว โดยทนายโจทก์แถลงคัดค้านการขอเลื่อน
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นัดก่อนหน้านี้ศาลได้กำชับแล้วว่า หากนายจตุพรไม่มาศาล โดยอ้างว่าป่วยหรือสาเหตุอื่นที่ไม่สมควร จะถือว่ามีเจตนาประวิงคดี ซึ่งคดีนี้ทางทนายจำเลยก็ได้แถลงต่อศาลว่ามีพยานปากเดียวคือนายจตุพร ถือว่าเป็นพยานสำคัญ
ส่วนที่นายจตุพร อ้างเหตุไม่ปกติ ไม่กล้ามาเบิกความนั้น แต่เหตุเพียงเท่านี้ยังไม่เพียงพอให้รับฟังได้ และเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงให้ออกหมายจับนายจตุพร เพื่อนำตัวมาสืบพยานจำเลยในวันที่ 26 พ.ค.นี้ ขณะที่นายวิญญัติ กล่าวภายหลังว่าได้ประสานกับนายจตุพร เข้ามอบตัวต่อศาล เพื่อแสดงให้ศาลเห็นว่าไม่มีเจตนาประวิงคดี


ผลหารือ รัฐบาลยืนยันไม่ลาออก เพราะขัดต่อกฎหมาย วุฒิสภาหาทางอื่นต่อ

วันนี้ 14:14น. การเมือง
หลังตัวแทนวุฒิสภา หารือกับ รัฐบาลเสร็จสิ้น ได้นำข้อสรุป เข้าที่ประชุมหารือนอกรอบวุฒิสภา นายวันชัย สอนศิริ สว.สรรหา เปิดเผยว่า การหารือร่วมกับรัฐบาลในช่วงเช้าวันนี้ นายพีระศักดิ์ พอจิต ส.ว.จ.อุตรดิตถ์ ว่าที่รองประธานวุฒิสภา และนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ ส.ว.สรรหา ได้เป็นตัวแทนไปหารือร่วมกับ นายนิวัฒิน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ข้อสรุปว่า รัฐบาลพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับวุฒิสภาในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง แต่จะต้องอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ส่วนการที่จะให้รัฐบาลลาออกเพื่อเปิดโอกาสให้มีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม นายนิวัฒน์ธำรง ได้ชี้แจงว่า จะไม่ทำตามคำร้องขอ เนื่องจากเกรงว่าจะขัดต่อข้อกฏหมาย

ส่วนข้อเสนอ จัดตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกิจ ซึ่งหลายฝ่ายจับตามอง ขณะนี้ก็จะต้องตกไปเนื่องจากรัฐบาลไม่ลาออก แต่หากจำเป็นที่จะต้องดำเนินการก็จะต้องให้เกิดความลงตัวมากที่สุด ทั้งนี้วุฒิสภาได้เตรียมแนวทางอื่นๆเพื่อแก้ไขปัญหาโดยวุฒิสภา กำลังร่วมกันหารือนอกรอบเพื่อหาข้อสรุปการแก้ไขปัญหาประเทศ ซึ่งในวันนี้คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และจะต้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรม ภายในสัปดาห์นี้ ยืนยันว่าการทำงานอยู่บนพื้นฐานการแก้ไขปัญหาประเทศและจะตัองไม่เกิดความรุนแรง


DSIออกหมายเรียกรก.ปธ.วุฒิ"สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย"

เวลา 10.40 น.19 พฤษภาคม 2557 'นายธาริต เพ็งดิษฐ์ 'ได้แถลงว่า ออกหมายเรียก นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน.วุฒิสภา รักษาการประธานวุฒิสภา ที่ให้การสนับสนุนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กรณีการ สรรหา นายกรัฐมนตรีคนกลาง / นายกรัฐมนตรีอำนาจเต็ม โดยเป็นการกระทำที่เข้าข่ายการล้มล้างการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย