PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

"พระราชทาน" กำลังใจให้"ตูน บอดี้สแลม"

"พระราชทาน" กำลังใจให้"ตูน บอดี้สแลม"
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต ผช.ราชเลขานุการในพระองค์ฯ อัญเชิญพระราชกระแสรับสั่ง ชื่นชมและให้กำลังใจ ขอให้สุขภาพแข็งแรง และให้ประสบความสำเร็จ
พร้อมทั้งอัญเชิญดอกไม้ และสิ่งของพระราชทาน ให้แก่ นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดีสแลม และคณะ เพื่อเป็นกำลังใจในการวิ่ง โครงการ "ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ "
โดยมี พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 ให้การต้อนรับ ที่ โรงแรมบรรจงบุรี อ.เมือง สุราษฎร์ธานี

"บิ๊กโด่ง" ประชุมเตรียมการ "บิ๊กตู่" ไปปัตตานี-ครม.สัญจร สงขลา 27-28พย.



"บิ๊กโด่ง" ประชุมเตรียมการ "บิ๊กตู่" ไปปัตตานี-ครม.สัญจร สงขลา 27-28พย. มั่นใจ ไม่มีปัญหา การรปภ./บิ๊กตู่ เข้าค่าย พล.ร.15/ เสนอ "เมืองต้นแบบ" ให้นายกฯพิจารณา
ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ได้รับมอบหมายจาก พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม. ในการเป็นประธานการประชุม เตรียมการ การลงพื้นที่ปัตตานี และประชุม ครม.สัญจร สงขลา 27-28พย.นี้
โดยมี นาย วีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าปัตตานี พลตรี จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี เป็นตัวแทน พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4
พลเอกประยุทธ์ จะเดืนทางไปที่ พล.ร.15 ค่ายศรีสุริโยทัย อ.หนองจิก ปัตตานี เพิ้อประชุม และพบปะ ประชาชน
พลเอกอุดมเดช กล่าวว่า จะมีการนำเสนอ พลอกประยุทธ์ ในเรื่องโครงการ เมืองต้นแบบสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ที่เป็น งานพัฒนา ทั้ง การสร้างสนามบิน ปัตตานี และงานพัฒนา ที่จะนำเสนอ โดย ศอบต. และมี สภาพัฒน์ มาทำความเข้าใจภาพรวม
ส่วนงานความมั่นคง จะนำเสนอโดย กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า
ทั้งนี้ เมิองต้นเบบ จะขยาย ไปอำเภอต่างๆ ในจังหวัดอื่นๆ ไปด้วย เพราะเราทำคู่ขนาน 
กับ อ.สุไหงโก-ลก นราธิวาส.-อ.หนองจิก ปัตตานี - อ.เบตง ยะลา ที่ทำให้ เกิดการ
พัฒนาทั้งจังหวัด แต่เราจะทำให้ เกิดเมืองต้นแบบ ที่สมบูรณ์ เกิดขึ้น ก่อน
ส่วนการ รปภ นั้น ใน ภาพรวม แม้ไม่ต้องประสานงาน ก็ต้องปลอดภับในทุกพื้นที่. แต่ในช่วง นั้น เป็นห้วงเวลาพิเศษ อสจจะต้องมีข้อมูล แต่ไม่น่าเป็นห่วง ในเรื่องการรปภ.

รับลูก"บิ๊กป้อม" เข้าสู่โหมดการเมือง จับตากลุ่มเคลื่อนไหว

"บิ๊กโด่ง" รับลูก"บิ๊กป้อม" เข้าสู่โหมดการเมือง จับตากลุ่มเคลื่อนไหว ชี้ พวกบิดเบือน เยอะ ไม่รู้ต้องถึงขั้น เรียกปรับทัศนคติหรือไม่
พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคง ทั้งตำรวจทหาร มีการติดตามอย่างใกล้ชิด หลัง พลเอกประวิตร สั่งการในที่ประชุม ครม. วานนี้ ว่ามีกลุ่มเคลื่อนไหว สร้างสถานการณ์ และบิดเบือนข้อมูล
"เราก็เห็นกันแล้วว่า มีอยู่ อีกทั้ง มีพวกบิดเบือน เปิดเวบฯต่างๆไปก็เห็น บางคน บางกลุ่ม มีการบิดเบือน
เราก็เห็นว่า ก็มีคนนั้นคนนี้ ออกมาพูด ออกออกมาแนะนำก็มี แต่พวกไม่ตรงก็ม
ส่วนจะต้องเรียกมาปรับทัศนคติ หรือไม่นั้น พลเอก อุดมเดช กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เอาแค่กรอบงานที่ได้รับ คงไม่มีปัญหาอะไร

"บิ๊กโด่ง" นิ่ง!! รับกระแส ปรับ ครม. ยันไม่รู้อนาคตตัวเอง

"บิ๊กโด่ง" นิ่ง!! รับกระแส ปรับ ครม. ยันไม่รู้อนาคตตัวเอง แต่ก็ตั้งใจทำงานไปตามปกติ ตามที่ ผู้บังคับบัญชา มอบหมาย เชื่อไม่มีใครรู้
พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม
ปัดตอบ ถึงกระแสข่าวที่จะถูกขยับ ในการปรับ ครม. ว่า ผมไม่ทราบ เชื่อไม่มีใครรู้หรอก ทุกคนก็ทำงานของตัวเอง ไปตามปกติ ตั้งใจทำงานไปอย่างเต็มที่
"ผมเองก็เป็นคนหนึ่ง ที่ได้รับมอบหมายงาน จาก ผู้บังคับบัญชา มา เราก็ทำไป แต่จะเป็นยังไง ก็ไม่ทราบ" พลเอกอุดมเดช กล่าว
วันนี้ พลเอกอุดมเดช เป็นประธานการประชุม เตรียมการลงพื้นที่ ปัตตานี และประชุม ครม.สัญจร ที่สงขลา 27-28 พย. นี้ของนายกฯ. แทน พลเอกประวิตร
ที่คาดกันว่า วันนี้ พลเอกประวิตร นั่งทำงานที่ บ้าน ร.1รอ. ส่วนนายกฯ ก็เพิ่งกลับจากฟิลิปปินส์ เมื่อคืนนี้ ยังคงอยู่ บ้าน ร.1 ในช่วงเช้า

นาม ท่าน “ประวิตร” ภาวะ ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ครม. “ประยุทธ์ 5”

นาม ท่าน “ประวิตร” ภาวะ ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ครม. “ประยุทธ์ 5”


สถานการณ์ปรับ ครม.อันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน เพิ่มความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับทั้งจากปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก

เริ่มต้นจากการลาออกของ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล

แต่เพียงเวลาผ่านไปไม่นานนักก็เกิดกระแสและความต้องการให้ “ปรับใหญ่” มากกว่ากระทรวงแรงงานเพียงกระทรวงเดียว

แม้กระทั่ง “ฤๅษีเกวาลัน” ก็ระบุว่า 10 ตำแหน่ง

แรกๆ ความเห็นพุ่งไปยังกระทรวงทางด้านเศรษฐกิจเน้นไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงพาณิชย์ เป็นด้านหลัก

เพราะว่าไม่สามารถแก้ปัญหาราคาสินค้า “เกษตร” ให้ดีขึ้นได้

แต่เมื่อผ่านมา 2 สัปดาห์เริ่มปรากฏรายชื่อเป็น 1 พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ 1 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ 1 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ทำไมจึงมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ด้วย

หากมองผ่านชื่อของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ก็พอเข้าใจได้เพราะผ่านกระทรวงพาณิชย์ มาอยู่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ก็แทบไม่มี “ผลงาน” อะไรเลย

เมื่อราคาสินค้าเกษตรมีแต่เสื่อมทรุดตกต่ำ ไม่ว่าราคายางพารา ไม่ว่าราคาข้าว ไม่ว่าราคาปาล์มน้ำมัน พลันที่เกิดปัญหาและความต่อเนื่องจาก “น้ำท่วม”

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ก็กลายเป็น “ตำบลกระสุนตก”

ไม่ว่าผลสำรวจจากโพลด้านหลัก (กรุงเทพโพลล์ นิด้าโพล สวนดุสิตโพล) ไปในทางเดียวกันไม่ว่าเสียงจากนักการเมืองไปในทางเดียวกัน

เช่นเดียวกับชื่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พอจะเข้าใจ

เข้าใจตั้งแต่เรื่องทีจี 200 รถถังยูเครน เรือเหาะ และเมื่อประสบเข้ากับการลงนามอนุมัติป่าที่ขอนแก่น ก็เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง

แต่เมื่อมีนามของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงต้องทำความเข้าใจ

น่าสังเกตว่าข้อเสนอให้มีการปรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ได้มาจากนักการเมือง ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์

หากแต่มาจาก “กลุ่ม” และฝ่ายในทางการเมือง

เสียงที่ดังและมีความต่อเนื่องมาในห้วง 2 ปีหลังมาจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และบางส่วนอยู่ใน กปปส.

เน้นอย่างเจาะจงไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

อย่าได้แปลกใจที่เมื่อมีชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป.ป.ช.กระแสวิพากษ์วิจารณ์ยิ่งดังกระหึ่ม

กระทั่ง สรุปได้ว่าเป็นเพราะ “วงษ์สุวรรณ”

ไม่ว่ากระแสกดดัน ผลักรุนในกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะมีการเล็งผลเลิศมากน้อยเพียงใดแต่ก็สร้างความหนักใจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นอย่างมาก

เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เป็น “พี่”

ขณะเดียวกัน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ อันตกอยู่ในสภาพ “ตำบลกระสุนตก” ก็เป็นเพื่อน หอบหิ้วกันมาตั้งแต่หลังรัฐประหาร

พลันที่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประสานเข้ากับชื่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ประสานเข้ากับชื่อ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ

ก็ตระหนักในความหนักใจ

ทั้งๆ ที่ คสช.มีความรู้สึกว่ากำลังอยู่ในสถานะ “ขาขึ้น” ทางการเมือง ประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจแล้วเหตุใดจึงกลายเป็น “ตำบลกระสุนตก”

เป็นแรงกดดันจาก “พันธมิตร” ใน “แนวร่วม”

ชื่อโผล่มาจังหวะพอดี




น่าจะเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดที่กร่อยสุด นับตั้งแต่รัฐบาล คสช.บริหารมา

เพราะเบอร์หนึ่ง “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศฟิลิปปินส์

บรรยากาศก่อนขึ้นห้องประชุม นักข่าวดักถามรัฐมนตรีที่อยู่ในกระแสจะโดนปรับพ้นเก้าอี้ ในอารมณ์ของรัฐมนตรีที่ไม่รู้ชะตาจะอยู่หรือไป ก็คงไม่เป็นอันทำงาน หรือมีสมาธิจดจ่อกับการประชุมสักเท่าไหร่ ภายหลังที่ “บิ๊กตู่” ประกาศกลางวงประชุม ครม.สัปดาห์ก่อนแล้วว่า ขออำนาจในการพิจารณาปรับเปลี่ยนตามความจำเป็นเพื่ออนาคต ขออย่าได้โกรธกัน

พี่ใหญ่ พี่รอง เพื่อนรัก ถึงวันนี้ไม่มีใครรู้ตัว หวยจะออกที่ใคร

ได้แค่รอลุ้น “บิ๊กตู่” นำโผกลับมาเฉลย ตามโปรแกรมคณะของผู้นำจะถึงเมืองไทยในวันที่ 15 พฤศจิกายน ในห้วงเวลาที่คาดหมายกันว่าการปรับ ครม.จะชัดเจนไม่เกินวันที่ 20 พฤศจิกายน

ตามรูปการณ์ พล.อ.ประยุทธ์สามารถคุมแรงกระเพื่อมจากการปรับ ครม.ได้ดีระดับหนึ่งเลยทีเดียว ไม่มีพวกขาเฮี้ยว ขาป่วนก่อหวอดปั่นป่วนภายใน

ทำให้ “บิ๊กตู่” ตั้งหลักรับแค่แรงสั่นสะเทือนที่กระฉอกอยู่ภายนอก

ผลจากปฏิบัติการปล่อย 6 คำถามมาหยั่งกระแส ที่กระตุกแรงเสียดทานรอบทิศทาง

สถานการณ์ถึงจุดที่มวยระดับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กระโดดออกมาเล่นหน้าฉากด้วยตัวเอง กับปฏิบัติการแฉมีการเกณฑ์ผู้นำท้องถิ่น

จัดฉากตอบ “6 คำถาม” เอาใจ “นายกฯลุงตู่”

แน่นอน ยี่ห้อ “อภิสิทธิ์” เปิดหน้าเล่นบท “จอมแฉ” เอง โดยราคาค่างวดของข้อมูลก็ทำให้กลายเป็นพาดหัวหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับ เดือดร้อนทั้ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กับ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะเจ้าภาพหลักในการระดมคำตอบผ่านศูนย์ดำรงธรรม ต้องออกมาแก้ลำ

ไม่มีการทำอย่างที่ “อภิสิทธิ์” แฉ เป็นเรื่องของประชาชนตัดสินใจ

และนั่นก็เป็นอะไรที่แค่ประเดิม “ดอกแรก” จากนี้ไปทีม “ลุงตู่” หนีไม่พ้นต้องเจอกับยุทธการไล่เตะตัดขาทุกช็อตทุกจังหวะจากคนยี่ห้อประชาธิปัตย์

ภายใต้เงื่อนสถานการณ์บังคับ “อภิสิทธิ์” เหลือ “คั่วไพ่” หน้าเดียวแล้ว ต้องลุยกวาดแต้มในสนามเลือกตั้งมาเบิ้ลนายกฯรอบสองเอง โดยไม่มีลุ้นออปชั่นดีลอำนาจพิเศษกับทีมงาน คสช.

อารมณ์เดียวกับยี่ห้อ “ภูมิใจไทย” ที่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ก็หมดลุ้นสถานะ “นอมินี” พรรคหลักของ คสช. เลยหันมาล่อเป้า “ลุงตู่” แบบไม่กั๊กไมตรี

แน่นอน รูปเกมแบบนี้ย่อมไหลไปเข้าเหลี่ยมยี่ห้อ “ทักษิณ” ได้แนวร่วมถล่ม คสช.โดยอัตโนมัติ
นักการเมืองอาชีพต้องช่วยกันสกัดเกมต่อโปรโมชั่นของ “ลุงตู่”

นี่ยังไม่นับคิวของพวกที่แฝงอาการทางใจกับการไม่ได้ไปต่อ ในจังหวะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็เล่นบทไอ้เข้ขวางคลอง คสช.ทุกจังหวะ ทิ้งทวนยุทธการ “เซ็ตซีโร่”

ล่าสุดก็โชว์เหลี่ยมกฎหมายดักทาง ขู่ส่งตีความการจัดเลือกตั้งท้องถิ่น

กกต.ก็ส่อเล่นกระแสกระตุกขากางเกง “ลุงตู่” ขวางทางยุทธศาสตร์ คสช.ที่เตรียมปลดล็อก ไฟเขียวเลือกตั้งสนามเล็ก เพื่อระบายแรงกดดันสถานการณ์ที่ยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมือง

อีกนัยก็หยั่งกระแสก่อนปล่อยไฟเขียวเลือกตั้งสนามใหญ่

แต่อย่างไรก็ตาม การดักเจาะยางอาจทำให้ “ลุงตู่” เป๋ไปบ้าง แต่โดยทางยาวๆไปสู่เป้าหมาย
มันก็เป็นอะไรที่มาได้จังหวะพอดี กับการที่นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ได้ประกาศวาง 4 เป้าหมายในอีก 20 ปีข้างหน้า คนไทยจะมีรายได้เฉลี่ยในระดับประเทศพัฒนาแล้วคือมากกว่า 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 495,000 บาท

ทีมงาน คสช.เริ่มปล่อยของ “ขายฝัน” ปฏิรูปสวยหรู

เรื่องของเรื่อง ถ้าลากเอาไปโยงกับกระแสการตั้งพรรคการเมืองเพื่อเป็นฐานให้ “นายกฯลุงตู่” ก็คงหนีไม่พ้นต้องจับตาดูชื่อของ “สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์” ให้ดีๆ

เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งบุคลากรคนสำคัญต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ปฏิรูปประเทศของทีม คสช.

เข้าล็อกงานต่อเนื่องแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี.

ทีมข่าวการเมือง