ญาติวีรชนจากเหตุการณ์พฤษภาประชาธรรม 2535 กังวล"มีชัย"นั่งปธ.กรธ.

กลุ่มญาติวีรชนจากเหตุการณ์พฤษภาประชาธรรม 2535 กังวลการรับตำแหน่งประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เนื่องจากเคยร่างรัฐธรรมนูญให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอก จนนำไปสู่การนองเลือดในปี 2535 
        
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 พร้อมด้วยญาติวีรชน แถลงข่าวแสดงความกังวลต่อกรณีการแต่งตั้งนายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจากปี 2534 นายมีชัยเคยเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญ เปิดทางให้มีนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จนนำไปสู่การชุมนุมและการปราบปรามจนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก  จึงไม่น่าไว้วางใจให้นายมีชัยทำหน้าที่นี้ และถือเป็นความจงใจซ้ำเติมผู้เสียชีวิตและญาติวีรชน
    
หลังจากนี้ คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จะตั้งทีมติดตามการทำงานของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ  โดยเรียกร้องให้การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ต้องไม่เปิดช่องให้มีการสืบทอดอำนาจของ คสช. นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง เร่งสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นโดยเร็ว 

นายกฯยัน ไม่ได้ลงนาม TPP ร่วม สหรัฐฯ

นายกฯยัน ไม่ได้ลงนาม TPP ร่วม สหรัฐฯ ขอดูภาพข่าว ยัน "ไม่มีฉัน ไปนั่งลงนามด้วยสักหน่อย" เผย ขอทบทวนส่วนได้ส่วนเสียก่อน ย้ำ ไม่อยากให้เป็น ภาระประเทศ ชี้ สหรัฐฯจ่อมีมาตรการผ่อนผันปม ศก. ให้ไทยหลายด้าน หลัง ตนเองยืนยันทำตามโรดแมป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวว่า ยังไม่ได้ลงนามกับสหรัฐอเมริกา เรื่องข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก Trans-Pacific Partnership (TPP) ซึ่งเดิมรัฐบาลที่แล้วเขาจะลงนาม แต่เผอิญว่าเขาจะต้องไปก่อน แต่รัฐบาลนี้บอกว่าต้องไปทบทวน ยังไม่ได้ไปลงสัญญาอะไรกับใคร ถ้าได้อะไรแล้วไม่เสียอะไร ก็โอเค แต่นี่ยังไม่ได้ข้อสรุปออกมา

ซึ่งมีทั้งมาตรการเกี่ยวกับเรื่องยา เวชภัณฑ์ต่างๆ เรื่องการเข้าถึง การถูกควบคุม และผลที่จะได้รับมีอะไรบ้าง ทั้งเงินทุน และวันนี้ก็มีหลายกองทุนมีหลายธนาคารโลก หลายส่วนของประเทศแต่ละประเทศ ก็มีกองทุนทั้งหมด เราจำเป็นต้องพิจารณาทั้งหมดก่อนที่จะเข้าร่วมว่าจะไม่สร้างภาระให้กับประเทศ ไม่ใช่ว่าจะต้องไปยอมทุกอัน

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ที่มีการชี้แจงว่าสหรัฐอเมริกาจะมีมาตรการผ่อนให้เราตั้งหลายอย่าง ก็แสดงว่าท่าทีเขาเปลี่ยนไปในส่วนของด้านเศรษฐกิจ แต่ในส่วนของการเมืองไม่พูดอยู่แล้ว และถ้าเขามีปัญหากับตนก็คงไม่ให้ เพราะเรื่องของตนคือการเดินหน้าไปตามโรดแมปของตนเท่านั้นเอง

นายกสบถ พ่อง

"ใครพ่อใคร"?
นายกฯฉุนสื่อ ถามคุยนายกฯตุรกี ที่อเมริกา แจงเรื่องอุยกูร์มั้ย "ขอแคร์ผมบ้าง แคร์แต่ตปท. นึกหน้าผมบ้างสิ" หลุดปาก "พ่อ” ก่อนรีบขออย่าเอาไปเทียบกับอีกคนในอดีต ที่ใช้คำนี้ ไม่อยากมีปัญหา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือปัญหาอูยกูร์กับนายกรัฐมนตรีตุรกีในช่วงที่เดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 23 ก.ย.-1ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้คุยกันก็อธิบายกับนายกฯตุรกีว่าเรามีกฎหมายไทยเพราะเราไม่มีกฎหมายตัวอื่น มีกฎหมายตัวเดียวคือการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งกฎหมายเราคือการพิสูจน์สัญชาติ ถ้าชัดเจนตรงไหนเราก็ส่งกลับที่นั่น แต่เราก็ผ่อนผันไปแล้วส่งบางส่วนกลับไปแล้ว เดี๋ยวจะหารือว่าจะต้องมีกฎหมายใหม่อะไรขึ้นมาใหม่หรือไม่ทำนองนี้ แต่เราไม่อยากประเทศเป็นชุมทางของการที่จะลำเลียงคนของเขาเข้ามาเพราะที่มาไม่ได้ขอลี้ภัยอะไรมา บินขึ้นบินผ่านแล้วบินไปอย่างนี้จะไปไหนก็ไปเถอะ แต่ถ้ามาแล้วหลบหนีมันผิดกฎหมายจะปล่อยหรืออย่างไร มันก็โดนจับทุกประเทศใครมาอยู่ประเทศไทยไม่พาสปอร์ตมันก็โดนหมด

เมื่อถามอีกว่า แล้วท่าทีนายกฯตุรกีเป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “คุณก็แคร์คนอื่นเขามาก คุณไม่เคยแคร์ผมเลยนะ คุณนึกถึงหน้าผมสิ ผมทำให้คุณนั่นศักดิ์ศรีประเทศนะคุณก็ยังไปแคร์คนนั้นคนนี้อยู่นั่นก็ให้เขาไปเป็นพ่อคุณแล้วกัน”

เมื่อถามอีกว่า ประเทศต้องไม่มีกระบวนการค้ามนุษย์แต่ก็ยังมีข่าวการลักลอบขนชาวโรฮีจาจำนวน 14 คนออกมาอีก พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็ติดคุกกันอยู่สอบสวนกันออกมาเท่าไหร่ ตำรวจกำลังสอบสวน

เมื่อถามว่า อย่างนี้ต้องให้ประชาชนเป็นหูเป็นตากับทางการด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “มันควรจะเป็นตั้งนานแล้วไม่ใช่หลับหูหลับตาข้างตลอด"

"แล้วไม่ต้องไปเขียนนะที่ผมพูดเมื่อกี้ เดี๋ยวจะไปเทียบกับคนที่แล้วพูดอีก ผมพูดถึงคนอื่นใครก็ไม่รู้คนที่คุณชอบให้เราไปเป็นเบี้ยล่างทุกคน ทำเพื่อคนไทยยังบ่นอยู่อีก”

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จพล.อ.ประยุทธ์ เดินลงจากโพเดียมยังได้ตรงเข้าไปกล่าวย้ำกับผู้สื่อข่าวว่า “อย่าไปเขียนนะที่พูด ผมไม่อยากมีปัญหาเหมือนคนที่แล้ว”

(หมายเหตุ... สิ่อสายทำเนียบรัฐบาล ได้หารือกันแล้วว่า จะเสนอข่าวตามที่ นายกฯ ให้สัมภาษณ? ทั้งหมด ไม่มีการตัด ออก เพื่อเป็นการเตือนให้ นายกณ ระวังคำพูด มากขึ้น จึงลงคำชี้แจงของ นายกฯ ด้วย เพื่อให้ความเป็นธรรม ว่า นายกฯ รู้ตัว แล้วว่า หลุดสก ไป โดยนายกฯ ได้ไปออกตัว ในอีกงาน ว่า หลุดไปหลายคำวันนี้ แต่มันอดไม้ได้)

"พลเอกประวิตร" เผย ศปมผ.เสนอ ครม. ของบฯกลาง 228.5 ล้าน เยียวยาเรือประมง

"พลเอกประวิตร" เผย ศปมผ.เสนอ ครม. ของบฯกลาง 228.5 ล้าน เยียวยาเรือประมง ที่ต้องหยุดเรือ เกือบ 5พันลำ จากการแก้ปัญหา IUU พร้อมรับการตรวจสอบของ EU

ที่ประชุม กก.ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ คสช. ที่บ้านเกษะโกมล มีการประชุมอนุกรรมการย่อย หลายคณะ โดยมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ/รมว.กห. ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ เป็นประธานประชุม

ในส่วนของอนุกรรมการแก้ไขป๊ญหาประมงผิดกม. นั้น ได้มีมติ อนุมัติ ให้ ส่งเรื่องเข้า ครม.อังคารหน้า ของบฯเยียวยาเรือประมง ที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ไจปัญหา IUU Fishing จำนวน 228.5 ล้านบาท จากงบฯกลาง

ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือ เจ้าของเรือประมงที่ไดิรับผลกระทบจากการแก้ไขการทำประมงผิดกม.IUU fishing โดยให้ ศปมผ. ที่มี พลเรือเอกณะ อารีนิจ ผบทร.เป็น ผบ.ศปมผ.เป็นผู้แจกจ่าย
โดยมี เรือประมงที่ไม่มีเอกสาร ถูกต้อง จะต้องหยุดเรือ เลย 4,525 ลำ จะได้รับการชดเชย เยียวยา จำนวนรวม180.5 ล้านบาท

และ เรือประมง แบบ อวนรุน-อวนลาก ที่ต้องหยุดเรือ จำนวน 330 ลำ และโพงพาง 4 ราย รวมเป็นเงินอีก 47.9 ล้านบาท

แต่ ที่รอการตรวจสอบเพิ่ม ก่อนเยียวยาคือ เรือประมงที่เครื่องมือไม่ตรง อาชญาบัตร 2658 อีก291 ล้านบาท

พลเอกประวิตร กล่าวว่า เราต้องเร่งทำให้ถูกต้อง และพร้อมรับการตรวจสอบของ EU ในเดือนนี้

เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาการบินพลเรือน ICAO ที่ FAA จะมาตรวจสอบ ในปลาย ตค. นี้ โดยตอนนี้ พลอากาศเอก ตรีทศ สนแจ้ง ผบทอ. ในฐานะประธาน ศบปพ. ก็เร่งแก้ไข อยู่

ไม่สน "ขุด คอคอดกระ...เตรียมเยือนจีน 15-16 ตค.ถก รมว.กห.อาเซี่ยน +จีน

ไม่สน "ขุด คอคอดกระ...เตรียมเยือนจีน 15-16 ตค.ถก รมว.กห.อาเซี่ยน +จีน

บิ๊กป้อม พลเอกประวิตร บอกไม่สนใจ ข้อเสนอจีน ขุดคอคอดกระ ยันไปจีน มาหลายครั้ง ก็ไม่เคยคุยเรื่องนี้ สนใจแต่เรื่องความมั่นคงของเรา ทำประเทศเดินหน้าก่อนดีกว่า เผยไปจีน15-16 ตค.นี้อีก ประชุม รมว.กห.อาเซี่ยน -จีน ADMM plus China

"พลเอกประวิตร " เขื่อมั่น บิ๊กหมู พลเอกธีรชัย ผบทบ.เป็น ผบ.กกล.รส.เอง ส่งผลดีต่อการทำงาน รักษาความสงบฯ สั้นกระชับลง

"พลเอกประวิตร " เขื่อมั่น บิ๊กหมู พลเอกธีรชัย ผบทบ.เป็น ผบ.กกล.รส.เอง ส่งผลดีต่อการทำงาน รักษาความสงบฯ สั้นกระชับลง 
เผยเหตุ พลโท เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ แม่ทัพภาค1 อาจอาวุโสน้อยไป ในการที่สั่งใช้กำลังสั่งของเหล่าทัพ และ ทัพภาคอื่นๆ ผบทบ.เลยเป็นเอง

พบเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม และรองหัวหน้าคสช. กล่าวถึงการที่
พลเอกธีรชัย นาควานิช ผบทบ./เลขาธิการคสช. เป็น ผบ.กองกำลังรักษาความสงบ(ผบ.กกล.รส.) เอง ส่งผลดีต่อการทำงาน รักษาความสงบฯ เพราะสายการบังคับบัญขา สั้น กระชับลง

เผยอีกเหตุผล คือ พลโท เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ แม่ทัพภาค1 อาจอาวุโสน้อยไป ในการที่จะสั่งใช้กำลังสั่งของเหล่าทัพ และ ทัพภาคอื่นๆ ผบทบ.เลยเป็นเอง

ส่วนเรื่องการร่างรธน.นั้น ก็เป็นหน้าที่ของ กรธ. ที่มีการประชุม กันไปแล้ว ก็ต้องยึดตามรธน.ชั่วคราว และโรดแมพ ส่วนจะมีการแก้ไข รธน.ชี่วคราว เรื่อง ผู้มีสิทธิ์-ผู้ใช้สิทธิ์ และหากการทำประชามติ ไม่ผ่านจะทำอย่างไรต่อไป

ส่วนแนวคิดจอง สปท.หลายคน เริ่องนิรโทษกรรม นั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ก่อนจะนิรโทษกรรมได้ ก็ต้องผ่านกระบวนการยุติธรรม ตามกฎหมายก่อน แล้วทาง สปท. จะพิจารณา หรือเสนอ ก็เป็นสิทธิของ สปท.

สืบทอดเจตนารมณ์เดือนตุลา : ประชาธิปไตย และความเป็นธรรมของสังคม สุนี ไชยรส

07082558 สืบทอดเจตนารมณ์เดือนตุลา : ประชาธิปไตย และความเป็นธรรมของสังคม

สุนี ไชยรส
www.facebook.com/pages/ผีเสื้อกระพือปีก

ถึงงานคารวะรำลึกวีรชน 14 ตุลา 16 และ 6 ตุลา 19 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขอคารวะและรำลึกถึงความกล้าหาญและอุดมการณ์ของวีรชนที่มุ่งมั่นเพื่อประชาธิปไตย ทั้งที่เสียสละชีวิตและพิการ

ผู้คนรำลึกถึงขบวน 14 ตุลา 16 ที่ต้องการคัดค้านเผด็จการซึ่งยึดอำนาจมายาวนาน เรียกร้องประชาธิปไตย ให้มีรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้ง จนได้พัฒนารากฐานของประชาธิปไตยครั้งสำคัญหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย

แท้จริงแล้วเจตนารมณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของเยาวชนนักเรียนนักศึกษา ปัญญาชน และประชาชน ในสถานการณ์นั้น มิใช่เพียงเพื่อรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้งเท่านั้น แต่มุ่งหวังเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม การสะสมการเรียนรู้ตั้งแต่ก่อน 14 ตุลา 16 ในยุคเผด็จการยาวนานที่ประชาชนไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ พบว่า กรรมกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ถูกกดขี่เอาเปรียบอย่างหนัก ค่าแรง 8-10 บาททำงานถึง 12 ชั่วโมง ในสภาพความเป็นอยู่ที่ไร้ซึ่งคุณภาพชีวิตและปราศจากสวัสดิการ ขณะที่ชาวนาไม่มีที่ดินทำกินจำนวนมากต้องเช่าที่นาในอัตราค่าเช่าที่สูง มีการเวนคืนสร้างเขื่อนที่ชาวบ้านถูกอพยพอย่างไร้อำนาจต่อรอง ฯลฯ มีการใช้อำนาจรัฐอย่างฉ้อฉลทุกมิติ กิจกรรมนักศึกษาหลายสถาบันจึงเข้มข้นขึ้นในการวิเคราะห์ปัญหาสังคมไทยช่วงนั้น

โครงสร้างของสังคมที่เป็นปัญหารากเหง้าคือคนรวยจำนวนไม่มากถือครองที่ดินส่วนใหญ่ของประเทศ อำนาจรัฐร่วมมือกับทุน เน้นทิศทางการพัฒนาเพื่อการขยายตัวของทุน ทั้งต่างชาติและไทย บนฐานนโยบายแรงงานราคาถูก ไม่มีประชาธิปไตยทางการเมือง และการไม่มีสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ประชาชนมีสิทธิมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและตรวจสอบอำนาจรัฐทุกระดับ

หลัง 14 ตุลา 16 มีรัฐธรรมนูญและรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง นักเรียนนักศึกษาเคลื่อนไหวรณรงค์ร่วมกับกรรมกรชาวนาทั่วประเทศ ด้วยคำขวัญ รับใช้ประชาชน และ สามประสาน กรรมกร ชาวนา นักศึกษา มีการเรียกร้อง ให้ปฏิรูปที่ดินเพื่อชาวนาชาวไร่ คัดค้านโครงการของรัฐที่ไม่เคารพสิทธิของชุมชน มีการรวมตัวเรียกร้องสิทธิสวัสดิการของกรรมกร คัดค้านอิทธิพลของสหรัฐอเมริกา และการเผยแพร่ประชาธิปไตยของนักศึกษาทั่วประเทศ แล้วก็มีการจัดตั้งขบวน ขวาพิฆาตซ้าย คุกคามขบวนนักศึกษาประชาชนทั่วประเทศ และใช้ข้อหา คอมมิวนิสต์และกบฏ เป็นเครื่องมือจับกุม

ในที่สุด การสูญเสียผลประโยชน์และความต้องการปราบปรามขบวนนักเรียนนักศึกษา กรรมกรชาวนาและ ประชาชนทั่วประเทศ นำมาซึ่งการรัฐประหารและการปราบปรามที่โหดเหี้ยมทารุณใน 6 ตุลา 19 การจับกุมผู้คนมากมาย จนมีผลให้เยาวชนนับหมื่นคนต้องเข้าไปต่อสู้ร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งก็เป็นนักศึกษาปัญญาชนและกรรมกร ชาวนา ที่เคยถูกปราบปรามจากในเมืองมาหลายยุคจนมีการต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธในเขตป่า วันนี้สังคมไทยเรียกร้องคาดหวังให้เยาวชนนักเรียนนักศึกษาไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของระบบทุนนิยมที่เน้นการบริโภคและเอาแต่ประโยชน์ส่วนตน ก็เป็นเรื่องน่ายินดีที่สถานการณ์ช่วงหลังมานี้มีเยาวชนนักเรียนนักศึกษา ตื่นตัวและตระหนักถึงปัญหาการเอารัดเอาเปรียบต่อประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ

ทุกยุคสมัยที่ผ่านมา ทั้งช่วงรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ทั้งช่วงเผด็จการทหาร ปัญหารากเหง้าของสังคมไทยไม่เคยได้ รับการแก้ไข ไม่มีการปฏิรูปที่ดิน อำนาจรัฐร่วมกับทุนทั้งต่างชาติและไทยยังแข็งแกร่งในคำกล่าวอ้างเพื่อการพัฒนา และการส่งออก และการใช้กฎหมายล้าหลังเป็นเครื่องมือ บวกกับเจ้าหน้าที่รัฐ แย่งชิงฐานทรัพยากรธรรมชาติอย่าง กว้างขวางและรุนแรงทั่วประเทศ

การฆ่า พิทักษ์ โตนวุธนักศึกษาราม ที่รวมทั้งการฆ่าครูและประชาชนในหลายเขตที่เข้าไปช่วยคัดค้านการให้สัมปทานระเบิดภูเขาของชาวบ้านที่เนินมะปราง เป็นเรื่องน่าเศร้าใจ และเป็นตัวอย่างของอำนาจ ที่ปกป้องผลประโยชน์อย่างโหดเหี้ยม

ณ วันนี้ เยาวชนนักเรียนนักศึกษาในแต่ละพื้นที่ได้ร่วมกับชุมชนในการปกป้องสิทธิชุมชนในการจัดการฐานทรัพยากรของตน อาทิ กลุ่มตะกอนยม ที่ค้านเขื่อนแก่งเสือเต้น กลุ่มดาวดินที่เข้าไปช่วยการคัดค้านเหมืองทองที่เลย กลุ่มเยาวชนสงขลาลุกขึ้นมาปกป้องหาดทราย กลุ่มนักศึกษาหลายมหาวิทยาลัยร่วมเดินคัดค้านเขื่อนแม่วงก์ กลุ่มนักศึกษามหาสารคามไปศึกษาปัญหาการถูกจับกุมกรณีที่ดินกับป่า กลุ่มนักศึกษาม.รังสิต และรามคำแหงร่วมกันรณรงค์สนับสนุนประชาชน 12 จังหวัดคัดค้านการให้อาชญาบัตรเหมืองทอง ฯลฯ

สังคมไทยควรต้องยินดีและสนับสนุนที่นักเรียนนักศึกษาตระหนักถึงความไม่เป็นธรรมของสังคม และเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน นี่คือสิทธิอันชอบธรรมในการปกป้องชีวิตและคุณภาพชีวิตของผู้คน แต่วันนี้อำนาจรัฐวางเฉยและใช้ท่าทีลอยตัวต่อปัญหาที่ชุมชนเผชิญ ไม่แก้ไข ทั้งที่ รัฐคือผู้กำหนดนโยบาย และผู้อนุมัติสัมปทานเหมืองแร่และโครงการต่างๆ

การคารวะรำลึกวีรชน 14 ตุลา 16 และ 6 ตุลา 19 ที่แท้จริง คือการสืบทอดเจตนารมณ์ของเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและขจัดรากเหง้าของปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคม ทุกภาคส่วนต้องส่งเสริมให้เยาวชนได้แสดงบทบาทอย่างเต็มที่

พี่น้องพันธมิตรฯ ร่วมทำบุญตักบาตร งานรำลึก 7 ปี 7 ตุลาฯ

07102558 พี่น้องพันธมิตรฯ ร่วมทำบุญตักบาตร งานรำลึก 7 ปี 7 ตุลาฯ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

พี่น้องพันธมิตรฯ ร่วมทำบุญตักบาตร งานรำลึก 7 ปี 7 ตุลาฯ

เช้าวันนี้ (7 ต.ค.) ที่บริเวณบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ ได้มีการพิธีตักบาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 และช่วงการชุมนุม 193 วัน โดยมีนายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตแกนนำพันธมิตรฯ และพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเข้าร่วมจำนวนมาก

โดยในพิธีวันนี้ พระภัทรศีลสังวร หลวงปู่เจริญ ราหุโล แห่งวัดป่าพระธาตุเขาน้อย จังหวัดราชบุรี ได้มารับบิณฑบาต พร้อมแสดงธรรม และประพรมน้ำมนต์ให้แก่พี่น้องที่มาร่วมในงานนี้ด้วย

สำหรับกำหนดการจัดงานรำลึก 7 ปี 7 ตุลาฯ ที่เวทีบ้านเจ้าพระยาในวันนี้ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีทางสงฆ์แล้ว เวลา 10.30 น. จะมีการสนทนา เรื่อง"บาดแผล 7 ตุลาฯ"โดยมีแขกรับเชิญ อาทิ นางรัชนี ธงไชย ตัวแทนผู้บาดเจ็บ นายศิริชัย ไม้งาม อดีตแกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 ตามด้วยการแสดงดนตรีของวงคีตาญชลี และวงแฮมเมอร์ เวลา 13.00 น. เสวนา"ถอดบทเรียนการต่อสู้ภาคประชาชน" โดยนายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรฯ และนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรฯ ตามด้วยการแสดงดนตรีของ"สุกัญญา มิเกล" และ"เศก ศักดิ์สิทธิ์-วงซูซู" จนถึงเวลา 17.00 น.

อนึ่ง สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตระหว่างการชุมนุมของพันธมิตรฯ ในปี 2551 ประกอบด้วย

1. น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ถูกระเบิดแก๊สน้ำตาที่หน้าอก บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 เวลาประมาณ 16.00 น.

2. พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี ถูกระเบิดในรถยนต์หน้าพรรคชาติไทย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 เวลาประมาณ 15.00 น.

3. นายสมเลิศ เกษมสุขปราการ หัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2551

4. นายสมชาย ศรีประจันต์ ถูกวิสามัญฆาตกรรมโดยตำรวจ เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2551

5. นายเจนกิจ กลัดสาคร ถูกระเบิดที่ศีรษะ เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2551 หน้าเวทีในทำเนียบรัฐบาล

6. นายยุทธพงษ์ เสมอภาพ ถูกระเบิดที่ศีรษะ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2551 ที่บริเวณสี่แยกมิสกวัน

7. นายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา ถูกฟันและยิงจนเสียชีวิต ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2551

8. น.ส.กมลวรรณ หมื่นหนู ถูกระเบิดที่ศีรษะ หน้าเวทีในทำเนียบรัฐบาล วันที่ 29 พ.ย. 2551

9. นายรณชัย ไชยศรี ถูกระเบิดเสียชีวิตที่ดอนเมือง เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2551

10. น.ส.ศศิธร เชยโสภณ ประสบอุบัติเหตุในขณะที่ขนย้ายออกจากทำเนียบรัฐบาล กลางคืนวันที่ 2 ธ.ค. 2551 เสียชีวิตวันที่ 6 ธ.ค. 2551

11. นายเสถียร ทับมะลิผล ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณศีรษะซ้ายอาการโคม่า เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2551 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2555

บทเรียนของคนเดือนตุลา หน้าที่คือความรับผิดชอบ ต้องเอาอย่างช่างภาพรัฐบาลคน

07102558 บทเรียนของคนเดือนตุลา หน้าที่คือความรับผิดชอบ ต้องเอาอย่างช่างภาพรัฐบาลคนนี้

• รายงานข่าวเช้าประจำวันที่ 7 ตุลาคม 2558
ใครสนใจลงลึกรายลเอียดที่มากกว่านี้ โปรดออกแรงสักนิด
เปิดเข้าไปดู Face Book : Chaiwatsuravichai หรือ
Face Book ; สถาบันพัฒนาการเมืองและคุณภาพคน

• 1. วันนี้ ครบรอบ 7 ปี เหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 เรามารำลึกถึงวีรชน 7 ตุลากันเถิด
2. บทเรียนของคนเดือนตุลาหน้าที่คือความรับผิดชอบต้องเอาอย่างช่างภาพรัฐบาลคนนี้
3. ศาลอาญายกคำร้อง "ยิ่งลักษณ์" ฟ้องอดีตอัยการสูงสุดปฏิบัติหน้าที่มิชอบสั่งฟ้องคดี
จำนำข้าว
4. ด้านดีเอสไอผุดวอร์รูมสาวคดีปล่อยกู้แบงก์กรุงไทย
5. เรื่องซิงเกิลเกตเวย์ Single Gateway
6. เรื่องกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ สภาชับเคลื่อน สปท. และการต่อต้านของคนบางกลุ่ม
7. นายกฯแนะเกษตรกรปรับตัวปลูกพืชทดแทนย้ำแล้งหนัก
8. คอลัมน์ คนปลายซอย โดย เปลว สีเงิน เขียน “ เมื่อ 'แม่งามงอน' เว้าวอนคุก!”
9. TPP vs Maritime Silk Road : มะกันกับจีน : ใครปิดล้อมใคร? โดย : กาแฟดำ

• 1.วันนี้ ครบรอบ 7 ปี เหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 เรามารำลึกถึงวีรชน 7 ตุลากันเถิด
ศึกษาชื่นชมจิตใจความกล้าหาญ ต่อสู้กับเผด็จการของพวกเขากันล้วนทำเพื่อไทย
และร่วมจิตกัน ว่าเราประชาชนไทยต้องการประชาธิปไตยที่สอดคล้องกับสังคมไทย
มิใช่ประชาธิปไตยแบบเลือกตั้งของนักการเมืองทุนสามานย์หรือของเผด็จการทหาร
ให้ดอกผลของประชาธิปไตยสร้างสรรค์ความสุขความอิ่มความเจริญต่อประชาชน

รำลึกถึง 7ปี เหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 ที่รัฐบาลสมชายสั่งตำรวจสลายการชุมนุมฯ
เหตุการณ์ 7ตุลา 2551 เป็นเหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ปิดล้อมอาคารรัฐสภาในวันที่ 6 ตุลา 51 เพื่อกดดันไม่ให้คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบาย
ต่อที่ประชุมรัฐสภา โดยอ้างว่ารัฐบาลขาดความชอบธรรมที่จะเข้ามาบริหารประเทศ
ไม่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ

ต่อมารัฐบาลสมชาย ได้สั่งให้ตำรวจสลายการชุมนุมฯ ได้ใช้แก๊สน้ำตายิงอีกหลายนัด เพื่อเปิดทางให้ ส.ส. และ ส.ว. ออกไปได้ และระดมยิงแก๊สน้ำตาต่อเนื่องไปจนถึงหัวค่ำ ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลและลานพระบรมรูปทรงม้า จากการปะทะกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมยอดผู้บาดเจ็บทุกฝ่ายทั้งสิ้นในขณะนั้น 381 ราย เสียชีวิต 2 ราย และตำรวจได้รับบาดเจ็บ 11 นาย ฯลฯ

12.20น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวโจมตีนายกรัฐมนตรีว่าเป็นคนที่ไร้เกียรติ ไม่จริงใจ ไม่ทำตามที่ตกลงไว้
สภาทนายความออกแถลงการณ์ให้ตำรวจยุติการใช้ความรุนแรง
สมาชิกวุฒิสภาจำนวน 40 คน ร่วมกันแถลงที่โรงแรมปริ๊นเซส โดย กล่าวว่า
ขอตั้งคำถามกับรัฐบาล ทำไมยิงแก๊สน้ำตาและยิงระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งที่สส.และสว. ออกมาจากรัฐสภาแล้ว ถือว่าจงใจฆ่าประชาชน ทำให้วิกฤตลุกลาม
นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2551 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
ไปยังเมรุวัดศรีประวัติ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เพื่อทรงเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ “อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ” ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลาย
การชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภา เมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551
โดยมีพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ต่าง ๆ เฝ้ารับเสด็จ
แต่ไม่ปรากฏบุคลากรจากฝ่ายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

ในวันที่ 16 ตุลา 51 ผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ,พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร.,
พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ., พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และ
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ได้ร่วมกันออกอากาศในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางช่อง 3
โดยเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกและแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

• 2.บทเรียนของคนเดือนตุลาหน้าที่คือความรับผิดชอบ ต้องเอาอย่างช่างภาพรัฐบาลคนนี้
ดูและฟัง น้องๆฝ่ายซ้ายจัด ที่จัดกิจกรรมรำลึก 6 ตุลา 2519 มาในช่วงหลังหลายปีมานี้
เน้นความแค้น มุ่งหน้าโจมตีรัฐบาลยุคนั้นเสียดสีสถาบันฯ ที่เข่นฆ่านักศึกษาประชาชนฯ
ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในยุคเผด็จการฯ แต่ไม่พูดถึงข้ออ่อนใหญ่ของพวกตน
ที่ไม่ฟังคำเตือนของผู้นำที่ห่วงใยชีวิตนักศึกษาฯ โดยขอให้ยุติการชุมนุมในธรรมศาสตร์ฯ
อีกทั้งโห่ไล่และด่าอาจารย์ป๋วย ที่ออกมาขอร้องให้ยุติการชุมนุม ว่า “ เป็นพวกไม่สู้จริง “
และเมื่อมารับผิดชอบในการจัดงานรำลึกฯ ก็โจมตีคนที่เห็นต่าง ไม่เว้นแม้ผู้บริหารมธ.
ทำให้คนมาร่วมน้อยลงๆ ทำให้เป้าหมายที่จะเผยแพร่ความจริง 6 ตุลา 19 ไม่ได้ผล
หลักการสำคัญในการจัดงานรำลึกประวัติศาสตร์ประชาชน ต้องเน้นเผยแพร่ความจริง
ให้ผู้คนในปัจจุบันได้รำลึกถึง คุณค่าและความหมายของการต่อสู้ของประชาชน
เน้นให้ประชาชน ได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขสิ่งผิดที่เกิดขึ้น แล้วสร้างสิ่งใหม่ขึ้นทดแทน

@ลองมาฟัง ธวัชชัย คุ้มคลองโยง นักโสตทัศนศึกษา ประจำสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกฯ
ในฐานะช่างภาพประจำตัวของนายกรัฐมนตรีที่ติดตามการปฏิบัติหน้าที่ทุกฝีก้าว
ที่มีหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และได้ทำงานในหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ไม่ใช่อคตินำ
ถ่ายภาพนายกฯมากี่รัฐบาลแล้ว
สามรัฐบาลแล้วครับ
ตั้งแต่ อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนมาถึงประยุทธ์ จันทร์โอชา
พี่มาร์คคือหล่ออยู่แล้ว ถ่ายมุมไหนก็หล่อ ภาพที่ประชาชนเห็นส่วนใหญ่จะเป็นในลักษณะวิชาการ ดูเคร่งขรึมหน่อย แต่จริงๆ แล้วเป็นแกเป็นคนยิ้มง่ายนะ
นายกฯปูนี่ก็สวย ภาพที่เห็นได้เป็นประจำของท่านคือ นักธุรกิจหญิงที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ส่วนนายกฯประยุทธ์แรกๆ อาจจะเป็นภาพเคร่งขรึม เครียดๆ
แต่หลังๆเราพยายามนำเสนอภาพที่ดูซอฟท์ๆขึ้นมาบ้าง

@ มาดูการจัดกิจกรรมของมูลนิธิ ๑๔ ตุลา ที่ราชดำเนิน เปิดให้ทุกฝ่ายทุกสีได้มาใช้
มีนักเรียนนักศึกษาติดต่อมาชมมาเรียนรู้ประวัติศาสตร์เหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖
ที่เป็นประวัติศาสตร์ตามความเป็นจริง บางครั้งมีคนเดือนตุลา มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยน
ให้ความจริง ให้ข้อคิด ให้ความรู้ ด้วยสติปัญยา ไม่มีการยัดเหยียดความแค้นต่อใครผู้ใด
ทำให้ผู้มาชม ได้เรียนรู้ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เพื่อเข้าใจเข้าถึงการพัฒนาประชาธิปไตย

• 3. ศาลอาญายกคำร้อง "ยิ่งลักษณ์" ฟ้องอดีตอัยการสูงสุดปฏิบัติหน้าที่มิชอบสั่งฟ้องคดีจำนำข้าว ระบุทั้ง อสส.-ป.ป.ช.ประชุมร่วมกันก่อนสั่งฟ้อง
ส่วนกรณีอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งเป็นการเข้าใจไปเองของผู้ร้อง
ทนายเผย "ปู" เตรียมยื่นอุทธรณ์
ขณะที่ "บิ๊กตู่" ไม่ใช้มาตรา 44 ยึดทรัพย์บุคคลที่ต้องคดีจำนำข้าว
บอกปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

• 4. ด้านดีเอสไอผุดวอร์รูมสาวคดีปล่อยกู้แบงก์กรุงไทย
วันเดียวกัน พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 เปิดเผย
ความคืบหน้าการสอบสวนความผิดฐานฟอกเงิน
สืบเนื่องจากคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กลุ่มกฤษดามหานครว่า
ได้เชิญผู้แทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาอธิบายถึงการจัดทำแผนผังทางการเงินดังกล่าวว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันอย่างไร
เบื้องต้นพบว่าธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวข้องกับบุคคลและนิติบุคคลกว่า 50- 60 ปาก
จึงสั่งการพนักงานสอบสวนประสานงานกับอัยการสูงสุดและศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอคัดคำให้การพยานในชั้นการพิจารณาคดีของศาลมาประกอบสำนวน เพื่อให้มีความชัดเจนว่าพยานแต่ละปากให้การอย่างไร
จากนั้นจะนำคำให้การของพยานมาเปรียบเทียบกับแผนผังเส้นทางการเงินของ ธปท. เพื่อคัดกรองผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ในส่วนพยานบุคคลที่พนักงานสอบสวนชุดเดิมสอบปากคำไว้ 148 ปาก คาดว่าอาจไม่เป็นประโยชน์ในการสอบสวนมากนัก พนักงานสอบสวนชุดใหม่จึงต้องตั้งรูปคดีใหม่และจำเป็นต้องตั้งวอร์รูมสอบสวนคดีเป็นการเฉพาะ เพื่อให้คดีมีความคืบหน้าชัดเจน
ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 บอกว่าได้รายงานพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม รับทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าแผนผังการเงินมีความเชื่อมโยงกับบุคคลจำนวนมาก
จึงไม่สามารถสรุปสำนวนภายใน 30 วัน ตามที่เคยตั้งเป้าหมายไว้
แต่มั่นใจว่าจะสามารถสรุปสำนวนสั่งคดีได้ภายในอายุปี 2561 นี้
สำหรับการแผนผังเกี่ยวข้องกับบุคคลใดบ้างยังไม่ขอเปิดเผย เพราะไม่ต้องการให้กระทบกับรูปคดี แต่ขอให้มั่นใจว่าแผนผังการเงินที่ผ่านการวิเคราะห์จาก ธปท. และ
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีความชัดเจน
โดยพนักงานสอบสวนขอเวลาตรวจสอบผู้ที่มีความเกี่ยวข้องในการรับโอนเงินว่ามีมูลหนี้ใดต่อกันหรือไม่ เพราะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพิสูจน์เจตนาความผิดฐานฟอกเงิน
.
• 5. เรื่องซิงเกิลเกตเวย์ Single Gateway
ต้องศึกษาทำความเข้าใจ จัดความสัมพันธ์ให้ถูก
ระหว่างผลประโยชน์ของชาติและสิทธิของปัจเจก
รวมทั้งการใช้สื่อดังกล่าวเป็นเครื่องมือของสื่อกลุ่มทุนนักการเมืองรวมทั้งรัฐบาล
สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นการผสมกันระหว่างซิงเกิลเกตเวย์ กับ การโจมตีรัฐบาลและคสช.

๑. คืนวันที่ 5 ต.ค. กลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway ได้ดำเนินการโจมตีเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการ ซึ่งผลปรากฏว่าเว็บไซต์หน่วยงานราชการที่เพจชี้เป้าไว้ ไม่ว่าจะเป็น สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, เซิร์ฟเวอร์กระทรวงไอซีที,
เซิร์ฟเวอร์เมล์ของสำนักนายกฯ, ระบบสารบัญอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงมหาดไทย,
ศูนย์ปฏิบัติการไซเปอร์ กองทัพบก, เซิร์ฟเวอร์กองทัพบก,
เซิร์ฟเวอร์สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ และ
พิกัดที่ใช้บล็อกเว็บต่างๆ ของกระทรวงไอซีที
ถูกโจมตีจนไม่สามารถใช้งานได้

๒. พลเอกประยุทธ นายกรัฐมนตรี
แต่ท่านเคยคิดหรือไม่ว่า การใช้โซเชียลมีเดียทางที่ผิดมันมีเยอะหรือไม่ในวันนี้
แล้วท่านไม่เป็นห่วงลูกหลาน ไม่เป็นห่วงสังคมของท่านหรือว่าจะทำอย่างไร
ถ้ารัฐไม่ทำอะไรก็ดีอยู่แล้ว ผมก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ท่านช่วยรัฐตรงไหนกันบ้าง ไปหามาตรการอะไรมาก็ได้ที่ไม่ใช่เกตเวย์เกตเวออะไรเนี่ย ทำไมมันเดือดร้อนกันหนักหนาผมก็ไม่รู้ หลายเรื่องที่เป็นเรื่องของการพูดคุย หารือ สั่งการ เวลาดูเอกสารที่กำลังเผยแพร่อยู่ ต้องดูให้มันครบว่าตอนท้ายเขียนว่าอะไร เขาเขียนว่าทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมาย ถ้ามันละเมิดก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว
ผมไม่ได้หวังจะต่อท่ออำนาจ สืบทอดอำนาจ ผมต้องการทำให้บ้านเมืองนี้มันดีขึ้น และอยากให้ประชาชนร่วมมือกันเพราะเราต้องอยู่กันในแผ่นดินนี้กันอีกยาว"

๓. วันที่ 6 ต.ค. นายอุตตม สาวนายน รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงนโยบาย Single Gateway ว่า
เป็นเพียงการศึกษาระบบอยู่เพียงเท่านั้น ว่าด้านไหนจะมีความเหมาะสม

๔. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี"
แต่มีความพยายามบิดเบือนและชักชวนของคนบางกลุ่มให้เข้าถล่มเว็บไซต์ให้ล่ม เป็นการทำผิดกฎหมาย เพราะมีร่องรอยเค้าลางหลงเหลือ เจ้าหน้าที่สามารถสอบสวนหาตัวคนทำผิดได้ เหมือนเหตุการณ์ราชประสงค์ หลังจากเกิดเหตุแล้วมีการโพสต์ว่าจะเกิดเหตุที่อื่นอีก เมื่อถูกจับแล้วมาอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอฝากด้วยว่ากฎหมายไม่มีเรื่องรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ใครทำข้อมูลเสียหายต้องมีโทษ
ดังนั้นฝากเตือนกลุ่มที่พยายามยุยง ขอให้เห็นแก่ประเทศและประชาชนทุกคน

• 6. เรื่องกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ สภาชับเคลื่อน สปท. และการต่อต้านของคนบางกลุ่ม
๑. มีชัย ฤชุพันธ์ ประธาน กรธ. ฟิต ประชุมครั้งแรกไปแล้ว เมื่อวานนี้ที่รัฐสภาฯ
ลั่นต้องเร่งทำงานภายในเวลาที่จำกัด
กางปฏิทินร่างแรกเสร็จมกราคม 2559 ร่างสุดท้ายจบที่ เม.ย.
ระบุเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นทุกฝักฝ่าย
ชี้ไม่ใช่ “ฮิตเลอร์” ที่จะด่าพวกคิดไม่ตรงใจว่าเลว เผยไม่รับคำสั่งหากมีจะฟ้องสื่อ
๒. “ประยุทธ์” ให้กำลังใจ กรธ.ทำงาน หวังทุกฝ่ายคิดเหมือน “มีชัย”
ตอบแทนคุณแผ่นดิน รับต้องสอนให้คนเคารพกฎหมาย
ไม่เช่นนั้นมีรัฐธรรมนูญกี่ฉบับก็ไร้ประโยชน์ เล็งรณรงค์ให้คนไทยร่วมลงประชามติ
๓. สำหรับบรรยากาศการให้ สปท.มาแสดงตนนั้น ปรากฏว่าในวันแรก 6 ต.ค. มีสมาชิก สปท.มาแสดงตน 64 คน
๔. นายสมพงษ์กล่าวว่า ก่อนที่จะมารับตำแหน่งสปท. ได้พูดคุยกับ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. ทั้งทางโทรศัพท์และพูดคุยเป็นการส่วนตัว
ที่นายจตุพรขอว่า "พี่อย่าไปเลย ถ้าไปแล้วจะหันหลังกลับลำบากนะ
พวกแกนนำ นปช.ติดคุกกันจะหมดทุกคนแล้ว เหลืออยู่ไม่กี่คน ก็เหลือแต่พี่สมพงษ์ ถ้าพี่ไม่เข้าไปเป็นสปท. ต่อไปพี่จะไปมีตำแหน่งอะไรในพรรคได้อย่างสบายๆ เลย”
๕. นายสุชน ชาลีเครือ สมาชิก สปท.อีกคนที่มาจากพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า
ได้ยื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
เพื่อลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย
โดยระบุว่าเพื่อให้การทำงานในฐานะ สปท.เป็นไปอย่างอิสระ มีความเป็นกลาง และไม่ผูกพันกับสถานภาพความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย
จึงขอลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

๖. ที่บริเวณด้านหน้ารัฐสภา กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) รวมตัวกันประท้วงคัดค้านการแต่งตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) 21 คน
นำโดยนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการชูป้ายข้อความระบุว่า “ต้านเผด็จการ คสช.” และ “สานต่ออุดมการณ์ 6 ตุลา”
อีกทั้งยังมีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐประหาร
โดยมีการนำหุ่นจำลองเป็นซากศพ 12 ตัว พร้อมกับวางดอกไม้จันทน์ และระบุว่า “ศพที่วางอยู่หน้ารัฐสภาในวันนี้คือศพของประชาธิปไตย ที่ต้องตายเพราะการรัฐประหารโดยฝ่ายเผด็จการมาแล้วถึง 12 ครั้ง
เบื้องหลังของศพเหล่านี้คือความทุกข์ยากของประชาชน ที่ต้องตายโดยปราศจากความผิด ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ กระบวนการประชาธิปไตยใหม่
ขอใช้ศพเหล่านี้ เป็นเครื่องประณามบุคคลทั้ง 21 คน”
โดยนายสิรวิชญ์ได้อ่านแถลงการณ์ระบุว่า กรธ.ทั้ง 21 คนกำลังดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ภายใต้ระบอบเผด็จการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขบวนการประชาธิปไตยใหม่เห็นว่า การกระทำของบุคลทั้ง 21 คนนั้น
จะเป็นการผลิตกติกาแบบเผด็จการเพื่อครอบงำสังคมไทยในระยะยาว รั
ฐธรรมนูญฉบับใหม่คงไม่ต่างฉบับก่อน คือมีการบ่อนเซาะองค์กรผู้แทนประชาชนให้มีสถานะอ่อนแอ และให้อำนาจมหาศาลแก่องค์กรที่ไม่มีความยึดโยงประชาชน
หากรัฐธรรมนูญนี้มีผลบังคับใช้จะเป็นการปลูกฝังความคิดเผด็จการอย่างรากลึกลงในระบอบการเมืองไทย และคงเป็นการยากที่ประชาธิปไตยจะฟื้นคืนมาได้อีก

7. นายกฯแนะเกษตรกรปรับตัวปลูกพืชทดแทนย้ำแล้งหนัก อ่านต่อได้ที่ :http://www.posttoday.com/biz/gov/392247

8. คอลัมน์ คนปลายซอย โดย เปลว สีเงิน เขียน “ เมื่อ 'แม่งามงอน' เว้าวอนคุก!”

• 9. TPP vs Maritime Silk Road : มะกันกับจีน : ใครปิดล้อมใคร? โดย : กาแฟดำ

อย่าเพิ่งดีใจ โดย วสิษฐ เดชกุญชร

07102558 อย่าเพิ่งดีใจ โดย วสิษฐ เดชกุญชร

พรรคพวกเพื่อนฝูงของผมกำลังดีอกดีใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอ ชา นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาสหประชาชาติมาถึง เมืองไทยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ด้วยชัยชนะอันงดงาม

ในฐานะที่ผมเป็นผู้หนึ่งซึ่งเชิญชวนคนไทยทั้งในและต่างประเทศ ให้ ช่วยกันสนับสนุนท่านนายกรัฐมนตรีด้วย ผมจึงต้องยินดีด้วยเป็นธรรมดา

แต่คนแก่อย่างผมเห็นความเป็นอนิจจังของโลกมากว่า 80 ปีแล้ว

นอกจากจะแก่ผมยังมีโชค (หรือเคราะห์) เคยผ่านการฝึกอบรมวิชา ข่าวกรองมาแล้วหลายหลักสูตร ทั้งจากอังกฤษ ออสเตรเลีย และสหรัฐ อเมริกา ที่ออสเตรเลียนั้นเขาให้ผมเรียนร่วมกับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของรัฐ บาลออสเตรเลีย เพื่อนร่วมรุ่นของผมเคยได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการองค์ การข่าวกรองเพื่อความมั่นคงของชาติ (Australian Security Intelligence Organization เรียกย่อว่า ASIO) ส่วนที่อเมริกานั้น สำนักงานข่าวกรอง กลางของสหรัฐหรือ Central Intelligence Agency (ที่เรียกย่อว่า CIA) เช่า อพาร์ตเมนต์ให้ผมอยู่คนเดียวแล้วส่งอาจารย์ไปสอนเฉพาะตัวจนจบหลัก สูตร เรียนจบแล้วกลับมาเมืองไทย CIA ยังมีหนังสือตามมาแจ้งผู้บังคับการ ตำรวจสันติบาลนายของผมว่า ถ้ามีปริญญาให้ผมควรจะได้เป็นมหาบัณฑิต ทางข่าวกรอง

เพราะแก่และเคยเรียนข่าวกรองมาหลายสำนัก ผมจึงยังไม่ยินดี 100 เปอร์เซนต์ ที่ท่านนายกรัฐมนตรีนำชัยชนะกลับมา

ผมเชื่อว่าฝ่ายที่ไม่หวังดีต่อท่านนายกรัฐมนตรีและไม่หวังต่อเมืองไทยยังกำลังทำอะไรอย่างอื่นอีกหลายๆอย่าง เพื่อทำลายท่านและทำความไม่ สงบให้แก่เมืองไทยอยู่

เหตุบ่งชี้มีหลายอย่างหลายประการ เหตุหนึ่งก็คือการวางระเบิดที่ ศาลท้าวมหาพรหม ที่สี่แยกราชประสงค์เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านไป ซึ่งยิ่งสืบสวนสอบสวนก็ยิ่งแลเห็นชัดขึ้นๆว่า ผู้ต้อง สงสัยพัวพันกับผู้ต้อง หาในคดีอื่นๆก่อนหน้านี้ ซึ่งสนับสนุนนายทักษิณและพรรคพวก

และเกือบจะในทันทีที่ท่านนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับมาถึงเมืองไทย สำนักข่าวบีบีซีไทยก็ที่จะเลือกเสนอและเผยแพร่บทความที่อ้างว่าเป็นของบุคคลภายนอก บทความที่กล่าวนี้เห็นได้ชัดว่าเขียนขึ้นด้วยอคติ และมีข้อ ความดูแคลน พล.อ.ประยุทธ์ โดยหาว่าที่นิวยอร์กท่านพบแต่กับ กลุ่มผู้ สนับสนุน แต่ไม่พบกับผู้ประท้วง ซึ่งในทัศนะของผู้เขียนสะท้อนให้ “ชาว โลก” เห็นว่าสังคมไทยยัง “ห่างไกลความสมานฉันท์ยิ่งนัก” 

นอกจากนั้น ผู้เขียนยังพยายามที่จะให้ผู้อ่านเข้าใจว่าการถ่ายภาพกับประธานาธิบดีบารักโอบามาของท่านนายกรัฐมนตรีเป็นผลของความพยายามของเจ้าหน้าที่รัฐ บาลไทย และฝ่ายสหรัฐยอมให้ถ่ายภาพ “หลังจากเจรจาต่อรองกันอยู่นาน” บทความที่บีบีซีนำไปเผยแพร่ยังสรุปด้วยว่า การไปประชุมสมัชชา สหประชาชาติของท่านนายกรัฐมนตรีนั้น “ไม่แน่ว่าช่วยให้ (พล.อ.ประ ยุทธ์) โดดเด่นหรือกลายเป็นที่ยอมรับนับถือในชุมชนนานาชาติ เพราะ นโยบายแห่งการปิดกั้นเสรีภาพ ละเมิดสิทธิมนุษยชนในบ้านยังคงดำเนิน อยู่ต่อไป”

บีบีซีไทยออกตัวไว้ในหมายเหตุว่าบทความนี้เขียนโดย “ผู้ที่ติดตาม การประชุมอย่างใกล้ชิด ทราบธรรมเนียมการประชุม” แต่ข้อความในบท ความนั้นเมื่ออ่านแล้วก็จะเห็นชัดว่าผู้เขียนไม่จำเป็นที่จะต้อง “ติดตามการ ประชุมอย่างใกล้ชิด” และไม่จำเป็นต้องรู้ “ธรรมเนียมการประชุม” เพียงแค่ ใช้จินตนาการก็เขียนได้ ที่สำคัญก็คือสำนวนการเขียนนั้นเห็นได้ชัดว่า มุ่ง จะทำลายความน่าเชื่อถือในตัวท่านนายกรัฐมนตรี

เพราะฉะนั้น แม้จะยินดีเพียงใดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรีได้รับความสำเร็จในการเดินทางไปประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งนี้ แต่ก็ยังไม่ถึงเวลาที่เราควรจะนอนใจและคิดว่า ผู้ไม่หวังดีจะไม่ทำ อะไรแก่เมืองไทยและแก่ท่านนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก ตรงกันข้าม เราควรจะช่วยกันระมัดระวังสอดส่องเป็นหูเป็นตา บอกกล่าว และพร้อมที่จะรับมือกับการบ่อนทำลายเมืองไทยครั้งต่อไปด้วย.

TPP vs Maritime Silk Road : มะกันกับจีน : ใครปิดล้อมใคร?

07102558 TPP vs Maritime Silk Road : มะกันกับจีน : ใครปิดล้อมใคร?
โดย : กาแฟดำ

แม้ไทยจะไม่ได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง เพราะไม่แน่ใจว่าจะได้ประโยชน์จริงแท้หรือไม่ แต่เมื่อรัฐมนตรี 12 ประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก นำโดยสหรัฐประกาศว่าบรรลุข้อตกลงที่จะตั้ง TPP (Trans-Pacific Partnership) หรือ “หุ้นส่วนแปฟิซิก” เพื่อทำมาค้าขายกันโดยลดกำแพงภาษีต่อกันอย่างเปิดกว้าง เราก็ต้องจับตาเกาะติดความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด

เพราะในโลกวันนี้ไม่มีอะไรที่ไม่เกี่ยวกับอะไรอีกต่อไป

ยิ่งเห็นชัดเจนว่านี่คือยุทธศาสตร์สหรัฐ ที่จะสกัดกั้นการแผ่ขยายอิทธิพลทางการค้าและการเมืองของจีน ก็ยิ่งทำให้ไทยเราต้องวิเคราะห์ว่าไทยควรจะวางจุดยืนของตนไว้ตรงไหน เพื่อไม่ตกอยู่ในภาวะที่ถูกกดดันให้ต้องเลือกในสิ่งที่ไม่ควรจะต้องเลือก

จีนรุกด้วยยุทธศาสตร์ “เส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21” สหรัฐก็สกัดด้วย TPP

สหรัฐมีอิทธิพลในธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟ จีนก็ตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหรือ Asian Infrastructure Investment Bank (AIIB)

สหรัฐส่งออกวัฒนธรรมด้วยภาพยนตร์และดนตรี จีนก็ตั้ง “สถาบันขงจื๊อ” เพื่อสอนภาษาจีนไปทั่วโลก และส่งรายการทีวีเกี่ยวกับวัฒนธรรมของตนไปทั่วโลก

แม้สหรัฐกับจีนต่างก็อยู่ใน Apec (Asia-Pacific Economic Cooperation) แต่องค์กรนี้ค่อนข้างเทอะทะ และไม่มีผลงานด้านการเปิดกว้างให้ค้าขายกันอย่างเป็นรูปธรรมมากนัก จึงกลายเป็นเวทีนัดหมายพบปะประจำปีของผู้นำเท่านั้น

เมื่อ TPP มีสหรัฐและญี่ปุ่นเป็นแกนสำคัญ และจงใจที่จะไม่ให้จีนเข้าร่วมด้วยตั้งแต่ต้น ก็ย่อมเป็นที่แน่ชัดว่านี่คือการแบ่งค่ายเพื่อทำ “สงครามการค้า” อย่างเปิดเผย

สมาชิก TPP มีตั้งแต่ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ สหรัฐ และเวียดนาม

นอกจากจะลดกำแพงภาษีต่อสินค้าของกันและกันแล้ว กติกาของ TPP ก็ยังตั้งมาตรฐานขั้นต่ำสำหรับสิทธิของคนงานและการปกป้องสิ่งแวดล้อม

ข้อตกลงร่วมของกลุ่มนี้โยงไปถึงนโยบายการปรึกษาหารือเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ยา ผลิตภัณฑ์นม รถยนต์และสินค้าเกษตร

แต่ละหัวข้อย่อมมีทั้งผู้ได้และผู้เสีย และเมื่อลงไปถึงรายละเอียดแล้ว ก็ยังต้องถกแถลงกันว่าประเทศไหนจะยอมสละผลประโยชน์บางด้านเพื่อให้ได้ผลประโยชน์อีกบางด้านอย่างไร

เมื่อสงครามในโลกยุคใหม่จะไม่ใช่เพียงแค่การยิงปืนใส่กันเท่านั้น หากแต่เป็นการแข่งขันชิงความได้เปรียบทางเศรษฐกิจ การรวมตัวของกลุ่มประเทศในค่ายต่าง ๆ จึงมีความสำคัญต่อการวางยุทธศาสตร์ของประเทศอย่างยิ่ง

อีกทั้ง เราไม่อาจแยกยุทธศาสตร์การเมือง ความมั่นคง สังคมออกจากยุทธศาสตร์เศรษฐกิจได้อีกต่อไป เพราะทุกอย่างมีความเกี่ยวโยงกันอย่างลึกซึ้ง

สหรัฐไม่ได้เสนอตั้ง TPP เพื่อเรื่องปากท้องอย่างเดียวแน่นอน เพราะแผนการนี้มาพร้อมกับที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามาประกาศยุทธศาสตร์ทางความมั่นคงที่เรียกว่า “Pivot to Asia” หรือ “ปักหมุดเอเชีย” เพื่อเคลื่อนย้ายกองกำลังทางทะเลจากแอตแลนติคมาแปซิฟิกมากขึ้นถึงระดับ 50-50 หรือ 60-40 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าด้วยซ้ำไป

จีนก็ไม่ได้เสนอยุทธศาสตร์ One Belt, One Road ด้วยการเข้าเสนอช่วยเหลือสร้างถนน ทางรถไฟ ท่าเรือและโครงสร้างพื้นฐานในประเทศต่าง ๆ เพียงเพราะมุ่งหวังผลทางเศรษฐกิจเท่านั้น หากแต่ยังพ่วงเอาแนวทางการเมืองและความมั่นคงเข้ามาเป็นส่วนสำคัญของการชิงความได้เปรียบในการแข่งขัน

สร้างอิทธิพลกับสหรัฐและญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นก็รุกหนักด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศในภูมิภาคนี้ พร้อมกับการเสนอแก้ไขกฎเกณฑ์ว่าด้วยความมั่นคง ทำให้สามารถส่งทหารออกรบในต่างประเทศในบางกรณีได้ เท่ากับเป็นการพลิกเกมเก่ามาเป็นยุทธศาสตร์ใหม่แห่งศตวรรษที่ 21 เพื่อคานอำนาจของจีนเช่นกัน

ไม่ต้องพูดถึงรัสเซียที่กระโดดออกมาเล่นบทเป็นพระเอกในซีเรียขณะนี้ พร้อมกับการสร้างเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ กับประเทศในแถบนี้อย่างคึกคักมากกว่าหลายสิบปีที่ผ่านมา

ท่ามกลางกระแสแห่งการยื้อแย่งอำนาจและอิทธิพล ผ่านการรวมกลุ่มและแบ่งค่ายทางด้านการค้าและการลงทุนอย่างนี้ TPP จึงเป็นอีกเวทีแห่งการเผชิญหน้าผสมความร่วมมือ ที่ไทยเราจะต้องเร่งศึกษาวิเคราะห์และวางแนวปฏิบัติให้ชัดเจนและต่อเนื่อง

เพราะเราไม่ได้เป็นสมาชิกร่วมก่อตั้ง เราจึงต้องยิ่งสนใจมากกว่าประเทศที่เป็นสมาชิกด้วยซ้ำไป!

เปิดเผยเอกสารที่ “ไม่ลับ”อีกต่อไป : โอบามาสั่ง CIA ให้ฝึกกลุ่มนักรบ ISIS

เบื้องหลังสหรัฐหนุนหลังกลุ่มไอซิส“นักตัดคอโชว์ผ่านวิดีโอ”ทั้งฝึกอาวุธและให้อาวุธเพื่อโค่นรัฐบาลซีเรีย ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองยาวนาน จนกระทั่งรัสเซียได้รับการร้องขอจากอัล-อัสซาดเข้าไปจัดการปัญหาในซีเรีย…

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2558 สำนักข่าวหลายแห่งได้เสนอข่าวว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา เป็นผู้สั่งการให้ซีไอเอฝึกนักรบกลุ่มไอซิส (ISIS =the Islamic State of Iraq and Syria) โดยเอกสารที่ถูกเปิดเผยนี้มาจากกลุ่มเฝ้ามองระบบยุติธรรมหรือ  Judicial Watch

การฝึกนักรบไอซิสที่ชอบนำวิดีโอตัดหัวคนออกมาเสนอต่อชาวโลกนั้นก็หวังว่ากลุ่มไอซิสจะช่วยโค่นรัฐบาลบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรียให้หมดไปจากอำนาจ

การฝึกดังกล่าวซีไอเอจะใช้หน่วยฝึก 2 หน่วยคือเจ้าหน้าที่ซีไอเอโดยตรงและอีกหน่วยหนึ่งเป็นครูฝึกรับจ้าง (contractors) ฝึกนักรบเหล่านี้โดยใช้พื้นที่ของประเทศจอร์แดนเป็นสนามฝึกเมื่อปี 2012

จากรายงานพบว่าเป้าหมายดั้งเดิมของสหรัฐเพื่อที่จะทำให้รัฐบาลซีเรียอ่อนกำลังลง สาเหตุเพราะสหรัฐมองว่ารัฐบาลอัล-อัสซาด ทำสงครามก่ออาชญากรรมกับประชาชนของตัวเอง

แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อซีไอเอฝึกกลุ่มกบฎซีเรีย (Syrian rebels) กลุ่มเหล่านี้กลับเป็นสมาชิกของ ISIS ทั้งสิ้น

สำหรับเอกสารที่กลุ่ม Judicial Watch ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรได้มาเกิดจากการยื่นฟ้องรัฐบาลกลางและศาลสั่งให้เปิดเผยเอกสาร โดยเป้าหมายของกลุ่มคือการสอบสวนการคอร์รัปชั่นและการใช้อำนาจไปในทางที่ผิด (corruption and abuse) ของรัฐบาลสหรัฐ

เอกสารดังกล่าวมีมากกว่า 100 หน้าได้รับมาจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน)และกระทรวงการต่างประเทศ

เอกสารส่วนหนึ่งที่ออกมาจากสำนักงานข่าวกรองกลาโหม ( the Defense Intelligence Agency =DIA) ระบุว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาและกลุ่มมิตรประเทศของสหรัฐพิจารณาจัดตั้งกลุ่มซาลาฟิสท์(Salafist organization )ขึ้นทางตะวันออกของซีเรียเพื่อกระหน่ำให้รัฐบาลอัล-อัสซาด ถูกโค่นเร็วยิ่งขึ้น

“และนี่คือสิ่งที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียต้องการ เพื่อทำให้รัฐบาลซีเรียถูกโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น”รายงานของ  DIA ระบุ

สำหรับกลุ่ม Salafists เป็นกลุ่มมุสลิมสุหนี่หัวรุนแรงและเป็นสาขาหนึ่งของกลุ่มวาห์ฮาบิ( Wahhabi)ในซาอุดิ อาระเบีย

เอกสารเหล่านี้ยังถูกแจกจ่ายไปยังหน่วยงานต่างๆของสหรัฐอาทิเช่นสำนักงานบัญชาการรบกลาง (the U.S. Central Command =CENCOM), หน่วยข่าวกรองกลาง(CIA), สำนักงานสืบสวนกลาง (FBI), กระทรวงความมั่นคงภายในสหรัฐ (the Department of Homeland Security =DHS) ,กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง

เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทหารยังได้ให้คำเตือนไว้ในเอกสารว่าหากสงครามกลางเมืองในซีเรียเสียหายมากเท่าใด จะต้องระวังผลกระทบที่จะไปเกิดขึ้นกับรัฐบาลอิรักอันเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ยังเปราะบาง

หากเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นหน่วยข่าวกรองประเมินว่าจะทำให้กลุ่มอัล-กอห์อิดะในอิรัก ( al-Qaida in Iraq =AQII) กลับเข้าไปยึดครองเมืองโมซุลและเมืองรามาดิในอิรักได้  (ทั้งสองเป็นเมืองใหญ่ที่อัล-กอห์อิดะเคยยึดครองมาแล้ว)

DIA ยังประเมินว่ากลุ่มไอซิสคงจะประกาศเรื่องนี้ผ่านไปยังหัวหน้ากลุ่มศาสนาที่สัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้ายในอิรักและซีเรีย  รวมทั้งกลุ่มที่ฝ่ายบริหารโอบามาเรียกว่า “แกนหลักกอห์อิดะ” (core al-Qaida) ซึ่งหมายถึงกลุ่มอัล-กอห์อิดะในคาบสมุทรอาระเบียนทั้งมวล

เอกสารที่ถูกเปิดเผยขึ้นมาเป็นการยืนยันว่าสหรัฐ,กลุ่มสหภาพยุโรปและชาติอื่นๆมองเห็นว่ากลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง ISIS ถือเป็น “ทรัพย์สินทางยุทธศาสตร์ที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในซีเรีย”

สำหรับผลที่ตามมาทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในบางส่วนของอิรัก นับตั้งแต่กลุ่มไอซิสก้าวข้ามพรมแดนของซีเรียออกมาตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 2014

การขนย้ายอาวุธให้ไอซิส

เอกสารที่กลุ่ม Judicial Watch ได้รับมาเปิดเผยว่าฝ่ายบริหารโอบามายังเป็นห่วงเรื่องการขนย้ายอาวุธ ทั้งนี้ได้ขนจากเมืองเบงกาซีในลิเบียไปให้กองกำลังฝ่ายกบฎ,สมาชิกกลุ่มไอซิส,กลุ่มแนวร่วมอัล-นุสรา (Al-Nusra Front) รวมทั้งกลุ่มก่อการร้ายมุสลิมอื่นๆในซีเรีย

เมื่อเดือนตุลาคม 2012 รายงานยืนยันว่า “อาวุธเหล่านี้เป็นของอดีตทหารลิเบียที่ถูกสะสมไว้ จากนั้นถูกส่งออกจากเมืองท่าเบงกาซีของลิเบียไปยังเมืองท่าบาเนียส์ (Port of Banias) และเมืองท่าบอร์ อิลสาม (Port of Borj Islam) ในประเทศซีเรีย

อาวุธที่ส่งออกปลายเดือนสิงหาคม 2012 ประกอบด้วยปืนยาวลอบสังหาร(Sniper rifles),จรวด RPG, ปืนใหญ่ขนาด 125 มม.และ 155มม.”

สิ่งที่เกิดตามมาถึงกับช้อค เมื่อเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐ 4 คนถูกสังหารรวมทั้งเอกอัครราชทูตด้วยโดยฝีมือของนักรบจิฮาด ก็เกิดขึ้นหลายสัปดาห์หลังจากอาวุธเหล่านี้ถูกส่งออก

เอกสารเปิดเผยด้วยว่าภายหลังจากรัฐบาลโมอัมมาร์ กัดดาฟี ถูกโค่นและกัดดาฟีเองถูกสังหารเมื่อเดือนตุลาคม 2011 จนกระทั่งเกือบ 1 ปีหรือตกเดือนกันยายน 2012 จึงนำอาวุธทางทหารของลิเบียมารวมกันในคลังอาวุธเมืองเบงกาซี ลิเบีย

จากนั้นอาวุธเหล่านี้ถูกส่งออกทางท่าเรือเมืองเบงกาซีไปยังเมืองท่าอื่นๆของซีเรีย เรือที่ลำเลียงอาวุธเป็นเรือขนาดกลางบรรจุตู้คอนเทนเนอร์ได้ประมาณ 10 ตู้หรือน้อยกว่านี้

ที่มาของข่าว

http://www.examiner.com/article/obama-ordered-cia-to-train-isis-jihadists-declassified-documents

Men in orange jumpsuits purported to be Egyptian Christians held captive by the Islamic State (IS) kneel in front of armed men along a beach said to be near Tripoli, in this still image from an undated video made available on social media on February 15, 2015. Islamic State released the video on Sunday purporting to show the beheading of 21 Egyptian Christians kidnapped in Libya. In the video, militants in black marched the captives to a beach that the group said was near Tripoli. They were forced down onto their knees, then beheaded. Egypt’s state news agency MENA quoted the spokesman for the Coptic Church as confirming that 21 Egyptian Christians believed to be held by Islamic State were dead. REUTERS/Social media via Reuters TV (CIVIL UNREST CONFLICT) ATTENTION EDITORS – THIS PICTURE WAS PROVIDED BY A THIRD PARTY VIDEO. REUTERS IS UNABLE TO INDEPENDENTLY VERIFY THE AUTHENTICITY, CONTENT, LOCATION OR DATE OF THIS IMAGE. THIS PICTURE IS DISTRIBUTED EXACTLY AS RECEIVED BY REUTERS, AS A SERVICE TO CLIENTS. FOR EDITORIAL USE ONLY. NOT FOR SALE FOR MARKETING OR ADVERTISING CAMPAIGNS. NO SALES. NO ARCHIVES

ผลที่ตามมาจากสงครามกลางเมืองในซีเรียตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา

1.เมื่อผ่านการปฏิวัติโลกอาหรับ (Arab Springs 2011 ) ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในหลายประเทศของโลกอาหรับ แต่ประเทศซีเรีย รัฐบาลอัล-อัสซาดยังอยู่ได้ไม่เปลี่ยนแปลง

ทำให้สหรัฐต้องการโค่นประธานาธิบดีอัล-อัสซาด จึงต้องสร้างกลุ่มต่อต้านขึ้นมาเท่าที่จะทำได้ ด้านหนึ่งรวบรวมกลุ่มประเทศตะวันออกกลางจัดตั้งกองกำลังผสมทางอากาศไปทิ้งระเบิดในซีเรียอ้างว่าปราบกลุ่มไอซิส

ด้านที่สองจัดตั้งกองกำลังกบฎในซีเรียเพื่อต่อต้านรัฐบาลอัล-อัสซาด ฝึกอาวุธและส่งมอบอาวุธให้ฆ่ากันในซีเรีย กลุ่มเหล่านี้รวมถึงกลุ่มไอซิสด้วย จึงกลายเป็นว่าสหรัฐกลับเป็นผู้จัดตั้งกลุ่มไอซิสด้วยตัวเอง  กลุ่มไอซิสชอบตัดศีรษะคนมาประจานผ่านวิดีโอ พูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงอังกฤษ ไม่ใช่สำเนียงอาหรับพูดภาษาอังกฤษ

โปรดสังเกตุชุดของกลุ่มไอซิสที่ควบคุมชายสวมเสื้อสีส้มมาตัดศีรษะ การแต่งกายของไอซิสมีระเบียบเรียบร้อย สวมรองเท้าบู้ทอย่างดี

———————————————————————————————-

ทหารนาวิกโยธินสหรัฐหรือทหารมารีนสวมชุดสีเดียวกับกลุ่มไอซิส รวมทั้งรองเท้าก็เหมือนกัน เป็นการยืนยันว่า CIAไปฝึกอาวุธให้ไอซิสตามคำสั่งของประธานาธิบดีบารัค โอบามา

———————————————————————————————-

2.มีข่าวว่าคนหนุ่มสาวจากประเทศตะวันตกและประเทศมุสลิมเดินทางไปร่วมรบกับกลุ่มไอซิสจำนวนมาก  น่าจะตีความได้ว่าสหรัฐและประเทศพันธมิตรตะวันตกระดมบุคคลไปช่วยเหลือกลุ่มไอซิสเพื่อโค่นรัฐบาลอัล-อัสซาด

3.ประชาชนตายไปแล้ว 250,000 คน ต้องโยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่น 10 ล้านคน อาทิเช่นในเขตประเทศเพื่อนบ้าน  ส่วนหนึ่งหนีสงครามเข้าสู่ยุโรปที่เป็นข่าวคึกโครมตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2015 เป็นต้นมา

4.รัฐบาลรัสเซียได้รับการร้องขอจากรัฐบาลอัล-อัสซาดให้เข้าไปจัดการกลุ่มไอซิส (แลกลุ่มกบฎที่จะโค่นอัล-อัสซาด) รัฐบาลรัสเซียต้องขออนุญาตผ่านรัฐสภาเพื่อจะได้เคลื่อนย้ายกองกำลังทหารออกมานอกประเทศได้อย่างถูกต้อง

เมื่อมีความชอบธรรมในการเข้าไปปักหลักที่ซีเรีย   รัฐบาลรัสเซียสามารถประกาศไปทั่วโลกว่าจะปฏิบัติการทางอากาศ จึงขอให้ประเทศอื่นๆที่ปฏิบัติการอยู่ก่อนหน้า“หลีกทาง”ให้

5.รัฐบาลสหรัฐตลอดจนพันธมิตรกลุ่มเนโต้และประเทศในตะวันออกกลางจะต้องคิดหนักเพราะสหรัฐเองก็อ่อนล้าในการทำสงครามปราบปรามการก่อการร้ายในอัฟกานิสถาน,การโค่นรัฐบาลซัดดามในอิรักเพื่อทำให้อิรักมีประชาธิปไตยแบบตะวันตก,การโค่นรัฐบาลกาดาฟีในลิเบีย

การประเมินความสูญเสียทางการเงินยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ระหว่างปี 2003-2010 นั้นสหรัฐใช้เงินไประหว่าง 4-6 ล้านล้านดอลลาร์ เงินเหล่านี้มาจากภาษีอาการของประชาชนส่วนหนึ่งต้องกู้ยืมสถาบันการเงินในประเทศมาทำสงคราม

′สุชน-สมพงษ์′ยื่นหนังสือลาออกสมาชิกพรรคเพื่อไทยไปร่วมวง สปท.

 

วันที่ 6 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชน ชาลีเครือ สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพท.แล้ว โดยมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคพท. เป็นผู้รับหนังสือ เหตุที่นายสุชน ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพท. เพราะจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) โดยพรรคพท.ได้ออกแถลงการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า หากใครจะเข้าร่วมต้องลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก่อน

สำหรับเนื้อหาหนังสือการลาออกของนายสุชนมีข้อความระบุว่าตามที่มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องแต่งตั้งสปท.ลงประกาศตามราชกิจจานุเบกษาวันที่ 5 ตุลาคม 58 ไปแล้วนั้น กระผมเป็นสมาชิกคนหนึ่งที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสปท.ตามประกาศดังกล่าว

ทั้งนี้เพื่อให้การทำงานในฐานะสมาชิกสปท.เป็นไปอย่างอิสระ มีความเป็นกลาง และไม่ผูกพันกับสถานภาพความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย กระผมจึงขอลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป กระผมขอขอบคุณท่านหัวหน้าพรรคฯ ท่านเลขาธิการพรรค และท่านสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกท่านที่ให้เกียรติและเปิดโอกาสให้กระผมร่วมทำงานเพื่อประเทศชาติมาตลอดระยะเวลา3ปี ขอแสดงความนับถือ นายสุชน ชาลีเครือ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ด้านนายสมพงษ์ สระกวี ก็ได้เดินทางมายื่นเรื่องลาออกจากสมาชิกพรรคพท.เข้าเป็นสปท.แล้วเช่นกัน

"บิ๊กตู่" เผย เคลียร์ปมอุยกูร์กับนายกฯ ตุรกี แล้ว

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือปัญหาอุยกูร์กับนายกรัฐมนตรีตุรกีในช่วงที่เดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 23กันยายน - 1ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า

ได้คุยกันก็อธิบายกับนายกฯตุรกีว่าเรามีกฎหมายไทยเพราะเราไม่มีกฎหมายตัวอื่น มีกฎหมายตัวเดียวคือการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย  ซึ่งกฎหมายเราคือการพิสูจน์สัญชาติ ถ้าชัดเจนตรงไหนเราก็ส่งกลับที่นั่น แต่เราก็ผ่อนผันไปแล้วส่งบางส่วนกลับไปแล้ว เดี๋ยวจะหารือว่าจะต้องมีกฎหมายใหม่อะไรขึ้นมาใหม่หรือไม่ทำนองนี้ แต่เราไม่อยากประเทศเป็นชุมทางของการที่จะลำเลียงคนของเขาเข้ามาเพราะที่มาไม่ได้ขอลี้ภัยอะไรมา บินขึ้นบินผ่านแล้วบินไปอย่างนี้จะไปไหนก็ไปเถอะ แต่ถ้ามาแล้วหลบหนีมันผิดกฎหมายจะปล่อยหรืออย่างไร มันก็โดนจับทุกประเทศใครมาอยู่ประเทศไทยไม่พาสปอร์ตมันก็โดนหมด

เมื่อถามอีกว่าประเทศต้องไม่มีกระบวนการค้ามนุษย์ แต่ก็ยังมีข่าวการลักลอบขนชาวโรฮีนจาจำนวน 14คนออกมาอีก พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็ติดคุกกันอยู่สอบสวนกันออกมาเท่าไหร่ ตำรวจกำลังสอบสวน

เมื่อถามว่า อย่างนี้ต้องให้ประชาชนเป็นหูเป็นตากับทางการด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า  "มันควรจะเป็นตั้งนานแล้วไม่ใช่หลับหูหลับตาข้างตลอด"

ภาคผนวกรัสเซียประกาศสงคราม

ในทางการเงิน จีนเดินหน้าล้มดอลล่าร์ และจะเป็นการล้มธนาคารกลางของสหรัฐหรือเฟด (US Federal Reserve) ที่พิมพ์ดอลล่าร์กระดาษจากอากาศเปล่าโดยไม่มีทรัพย์สินอะไรมารองรับไปในตัว

หมากเด็ดที่จีนใช้ในการล้มดอลล่าร์+ล้่มเฟดคือ การตั้งธนาคารAsia Infrastructure Investment Bank หรือAIIBที่มีนานาประเทศเข้าร่วมทั้งจากยุโรปและเอเซีย ยกเว้นสหรัฐและญี่ปุ่น สหรัฐกลัวAIIBมากที่สุด เพราะว่าAIIBเทียบเท่ากับระเบิดนิวเคลียร์ที่จะถล่มป้อมปราการของเฟดที่พิมพ์ดอลล่าร์อยู่ในเวลานี้

AIIB ซึ่งจะเปิดดำเนินการภายในปีนี้ จะปล่อยกู้โครงสร้างพื้นฐานในประเทศกำลังพัฒนาเป็นเงินหยวน หรือเงินสกุลของประเทศที่เข้าร่วมก่อตั้ง มีการคาดการว่าประเทศกำลังพัฒนาจำต้องกู้เงิน$8ล้านล้านในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในอีก10ปีข้างหน้า ถ้าเม็ดเงินจำนวนนี้ที่จะเริ่มปล่อยกู้ผ่านหยวนและเงินสกุลอื่นที่ไม่ใช้ดอลล่าร์ ต่อไปไม่มีความจำเป็นต้องใช้ดอลล่าร์อีก

เมื่อความจำเป็นในการใช้ดอลล่าร์ลดลง สหรัฐที่ขณะนี้เป็นลูกหนี้รายใหญ่ที่สุดของโลกอยู่แล้วจะมีปัญหาในการก่อหนี้ดอลล่าร์เพื่อไฟแนนซ์การใช้จ่ายที่เกินตัว และงบประมาณทางทหารที่เทียบเท่า1ใน3ของงบประมาณรายจ่ายทั้งหมด เพราะว่าสหรัฐออกบอนด์มาจะไม่มีใครต้องการซื้ออีกต่อไป ค่าเงินดอลล่าร์จะตก ดอกเบี้ยจะขึ้น เพราะว่าเร็ทติ้งสหรัฐจะเป็นจังค์ ทำให้สหรัฐต้องเจอเงินเฟ้อ(hyperinflation) อย่างรุนแรงในที่สุด

มาตรการอื่นๆในการล้มดอลล่าร์ของจีนคือ

1. การทำหยวนสว๊อปกับประเทศคู่ค้าเพื่อลดการใช้ดอลล่าร์ วิธีการนี้เป็นการทำธุรกรรมการค้าและการเงินที่แฟร์ เพราะว่าจีนซื้อของจากรัสเซียจ่ายเป็นเงินหยวน รัสเซียซื้อของจากจีนจ่ายเป็นเงินรูเบิ้ล ไม่ต้องใช้เงินดอลล่าร์เป็นสื่อกลาง ขณะนี้หยวนสว๊อปกำลังเติบโตไปเรื่อยๆ และการใช้ดอลล่าร์จะลดลงไปเรื่อยๆสำหรับประเทศที่ค้าขายกับจีน

2. จีนได้เททิ้งพันธบัตรสหรัฐไปแล้วถึง1ใน3ของที่ถืออยู่ทั้งหมด$1.4ล้่านล้าน ขายพันธบัตรออกไปได้ดอลล่าร์ แล้วเอาดอลล่าร์ไปแลกเป็นทองแทน จีนกำลังทำสงครามกับสหรัฐ เรื่องอะไรจะไปไฟแนนซ์กองทัพสหรัฐผ่านการซื้อหรือถือบอนด์สหรัฐ ถ้าจีนทิ้งบอนด์สหรัฐไปเรื่อยๆ ประเทศอื่นๆจะทะยอยทิ้งตาม ก่อนสิ้นปี จีนไม่น่าจะเหลือบอนด์สหรัฐอยู่ในพอร์ต นี้คือสงครามการเงิน
ญีปุ่่นและซาอุที่ถือบอนด์สหรัฐมากกำลังเหงื่อตก จะขาดทุนแค่ไหนถ้าหากว่าขยับตัวออกไม่ได้ เพราะว่าสหรัฐเอาปืนจ่อหัวอยู่ให้ค้ำพันธบัตรสหรัฐ

3. จีน รัสเซียและกลุ่มBRICSได้จัดตั้งสถาบันการเงินเพื่อแข่งกับธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศที่สหรัฐและอังกฤษคุมอยู่
ในวันที่7กรกฎาคมที่ผ่านมา BRICS Bankที่จะทำหน้าที่คล้ายธนาคารโลกในการปล่อยกู้โครงสร้างพื้นฐานให้ประเทศกำลังพัฒนา และจะเสริมการปล่อยกู้ของAIIBได้เปิดดำเนินการแล้ว
ในวันที่5กันยายนที่ผ่านมา กองทุนการเงินBRICS ที่มีเงินทุก$100,000ล้านได้เปิดทำการแล้ว โดยจะทำหน้าที่เหมือนกองทุนการเงินระหว่างประเทศในการให้การช่วยเหลือประเทศที่ประสบวิกฤติการเงิน
ทั้งBRICS Bank และกองทุนการเงินBRICSจะไม่ปล่อยกู้เป็นดอลล่าร์

4. ในวันที่14สิงหาคมที่ผ่านมา จีนประกาศทองคำสำรองเพิ่มขึ้น20ตันเป็น1,677ตัน ปกติจีนจะประกาศทองคำสำรอง5-6ปีครั้ง แต่ครั้งนี้ประกาศทองคำสำรอง29วันหลังการประกาศคราวที่แล้ว หมายความว่าจีนต้องการให้โลกรู้ว่า จีนกำลังมุ่งทิศทางทางนโยบายการเงินไปสู่ทองคำ ด้วยการให้ค่าทองมากกว่าทรัพย์สินกระดาษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบอนด์สหรัฐ หรือเงินดอลล่าร์ที่เป็นหนี้และจีนกำลังดั๊มทิ้งอยู่

ทองคำคือทรัพย์สิน ส่วนบอนด์สหรัฐ+ดอลล่าร์เป็นหนี้ แต่สหรัฐสร้างภาพลวงว่าบอนด์สหรัฐและดอลล่าร์เป็นทรัพย์สินชั้นยอด เหนือกว่าทองคำ

จีนกำลังทะลายกำแพงภาพลวงตานี้

ไม่มีใครรู้ว่าจีนมีทองคำสำรองจำนวนที่แท้จริงเท่าใดกันแน่ แต่เชื่อได้เลยว่าถึงตอนนี้แล้วจีนมีทองคำสำรองหลายหมื่นตันแล้ว อย่างน้อยไม่น่าจะต่ำกว่า30,000ตัน

ขั้นต่อไปเมื่อจีนตะลุยตุนทองได้พอแล้ว จะเลิกค่าเงินหยวนกับดอลล่าร์ แต่จะอิงกับค่าทองแทน ราคาทองที่ไม่ถูกแก๊งค์เฟดปั่นหรือทุบจะสะท้อนค่าที่แท้จริง ระบบการเงินโลกจะเปลี่ยนไป ค่าเงินต่างๆในโลกที่อิงทองจะไม่ตกอยู่ภายใต้การปั่นหรือการบริหารจัดการปริมาณเงิน (money supply)ของเฟดอีกต่อไป ดอลล่าร์เมื่อเทียบทองคำจะร่วง เพราะว่าสหรัฐไม่น่าจะมีทองคำสำรองเหลืออยู่แล้ว โดนแก๊งค์เฟดแอบปล้นไปหมด

5. จีนซื้อขายพลังงานจากรัสเซีย อิหร่านและแอฟริกาเป็นเงินหยวนแล้ว เปโตรหยวนได้ถทอกำเนิดแล้ว ไม่ต้องรอนาน ผู้ขายน้ำมันจะต้องชั่งใจแล้วว่าจะขายน้ำมันเป็นหยวนหรือดอลล่าร์ที่มีแต่จะพิมพ์เอา ทุกปีต้องคอยลุ้นgovernment shutdownในสหรัฐ เพราะว่านักการเมืองตกลงกันไม่ได้เรื่องการยกเพดานหนี้ที่ต้องยกสูงขึ้นเรื่อยๆ จนหนี้สหรัฐสูงเกิน100%ต่อจีดีพีหรือ$18ล้านล้านไปแล้ว
ยิ่งเฟดมีแนวโน้มว่าขึ้นดอกเบี้ยจาก0.25%ไม่ได้ และต้องทำQE4ในรอบต่อไปเพื่อพยุงหุ้น การพิมพ์เงินรอบหน้าจะทำให้ความมั่นใจในดอลล่าร์เสื่อมลงไปอีก เพราะว่าทุกคนเห็นแล้วว่า สหรัฐเหลือทางออกทางการเงินอย่างเดียวคือพิมพ์เงินใช้เอาดื้อๆ (helicopter money)

6. ในวันที่1 กันยายนที่ผ่านมา ปูตินนำเสนอกฎหมายเลิกใช้ดอลล่าร์และเงินยูโรในการค้าระหว่างรัสเซียและประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโวเวียต เช่น Belarus, Armenia, Kazakhstan, Kyrgyzstan, Tajikistan และประเทศอื่นๆ

สหรัฐและยุโรปใช้เครื่องมือแซงชั่นประเทศอื่นๆเพื่อเข้าไปครอบงำ ตอนนี้กำลังจะโดนเล่นกลับแล้วทางการเงิน

7. จีนแสร้งเป็นต้องการให้หยวนอยู่ในตระกร้าเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศที่มีเงินดอลล่าร์ ยูโร ปอนด์และเยนอยู่ เพื่อผลักดันให้หยวนเป็นเงินสกุลหลักของโลก ที่จริงจีนต้องการยึดกองทุนการเงินระหว่างประเทศไปเลย เพราะว่าหยวนต่อไปมีทองหนุนแต่ ดอลล่าร์ ยูโร ปอนด์ และเยนเป็นเงินกระดาษเปล่าๆ สหรัฐรู้ทันจึงบล๊อคหยวนไม่ให้เข้าตระกร้าเงินกองทุนการเงินระหว่างประเทศในปีนี้ ให้เลื่อนไปปีหน้่า จีนไม่ได้แคร์มาก แค่เล่นเกมสนุกๆในกองทุนการเงินระหว่างประเทศที่กำลังจะหมดความหมาย เพราะว่าจีนกำลังจะเน้นAIIBและสถาบันการเงินที่สร้างเองร่วมกับBRICS เรื่องอะไรจะอยู่ใต้เงาของสหรัฐและอังกฤษต่อไป

จากการวางแผนทีละขั้นตอนเหมือนขงเบ้งเดินหมากรุก ทำให้จีนอยู่ในฐานะที่จะให้หยวนเป็นเงินสกุลหลักของโลกได้ในไม่ช้า และในขณะเดียวกันจะเป็นการคว่ำเงินดอลล่าร์ และเฟดไปในตัว
เพราะว่าเมื่อดอลล่าร์ทีแข็งชั่วคราวเวลานี้ถูกเทขายจากการเพิ่มปริมาณของหยวนในตลาดการเงินโลก โดยเฉพาะจากเปโตรหยวน เฟดจำต้องทำQE4 เมื่อเฟดทำQE4 หมายถึงจุดจบของระบบดอลล่าร์กระดาษที่สหรัฐสร้างมาในปี1972 หลังจากนิกสันยกเลิกระบบมาตรฐานทองคำ ยกเลิกการให้ดอลล่าร์อิงทอง และให้อิงน้ำมันแทนเพื่อสร้างเปโตรดอลล่าร์ และใช้เปโตรดอลล่าร์ในการครอบงำเศรษฐกิจและการเงินโลกผ่านนโยบายล่าอาณานิคมสมัยใหม่
อดใจคอยดูช้างล้ม เราทุกคนรู้ดีก่อนช้างล้ม มันจะฟาดงวงฟาดงา จำต้องระวังลูกหลงให้ดีๆ
thanong
6/10/2015