PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เสธน้ำเงิน : เปิดโปง..สิ่งเทียมตำรวจร่วมแก๊งค์โกตี๋เปิดฉากยิงก่อน ปะทะที่หลักสี่

9 ก.พ.57 

จากเหตุการณ์แก๊งค์ชายชุดดำฝ่ายชั่ว และแก๊งค์โกตี๋ รับคำสั่งจากรัฐอั้งยี่แดงให้สร้างสร้างสถานการณ์ปะทะกับประชาชนที่หลักสี่นั้น พวกแก๊งค์แดงพยายามใช่สื่อ Free TV และทางสื่อสังคมออนไลน์ แถจนสีข้างถลอกปอกเปิกนั้น จึงจะแฉซ้ำ ภาพสิ่งเทียมตำรวจ ร่วมกับแก๊งค์โกตี๋เปิดฉากยิงก่อน และรายละเอียดสถานการณ์เพิ่มเติมจากครั้งก่อน ให้แก๊งค์แดงหน้าแหกไปอีกดังนี้

- โกตี๋ ดาบเปี๊ยก ลุงนวย บังโกวิท ฯลฯ ประกาศที่วัดหลักสี่ว่า จะมีปฏิวัติให้มวลชนควายแดงไปรวมกันกันที่หน้าไอทีสแควร์
- เมื่อรวมตัวกันได้สักพักก็จัดแก๊งค์อันธพาลแดงกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งก็เป็นพวกโกตี๋ทั้งสิ้นเข้ามาปะปนกันมวลชนที่มันระดมกันมา ( ในจำนวนนี้มีบางคนเกี่ยวข้องกับมือปืนยิงสุทินตาย ที่วัดศรีเอี่ยม ปะปนอยู่ด้วย )
- พอแก๊งค์อันธพาลแดงกลุ่มได้ราว 400 - 500 คน โกตี๋ก็สั่งให้ชายชุดดำในเครื่องแบบ ส่งตัวมันหนีไปปักหลักรอที่ สน.ดอนเมือง
- ในช่่วงระดมมวลชนของแก๊งค์อันธพาลเสื้อแดง ก็มีการข่าวออกมาและแน่นอนว่าจะต้องมีการใช้อาวุธจากแก๊งค์แดง ชายชุดเขียวจึงถูกส่งเข้ามาในพื้นที่ และได้ให้สิ่งเทียมตำรวจออกจากจุดเกิดเหตุ
- ระหว่างที่โก้ตี๋ กลับไปแล้วก็สั่งให้กลุ่มที่มีอาวุธเสื้อแดงเสื้อขาวหลายร้อยคน และสิ่งเทียมตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ระดมยิง และปาระเบิดใส่ กปปส.ลาดพร้าว ก่อนทันที โดยเปิดฉากยิงด้วยปืนลูกโม่ 3 นัดหลังรถกระบะ เล็งไปทางแยกหลักสี่ ที่ห่างออกไปสามร้อยเมตร
- แต่เนื่องจากอยู่ไกลกันมากจึงไม่มีมวลชน กปปส.เป็นอันตราย แต่ชายชุดดำในเครื่องแบบบางคน กลับบอกคนอยู่ใกล้ว่า แค่เสียงประทัดอย่าตกใจ

** ภาพถ่ายชุดนี้จะเป็นการประจานสิ่งเทียมตำรวจในเครื่องแบบต่อประชาชนไทยและชาวโลกได้ดี ( Clip นาที 0.40 เป็นต้นไปที่http://www.youtube.com/watch?v=gBpqmLbE0B4 )

- มวลชน กปปส.ลาดพร้าว ได้ให้ผู้หญิงและเด็กหลบเข้าไปสำนักงานหลักสี่ โดยไม่มีการตอบโต้ใด ๆ
- ขณะที่กลุ่มติดอาวุธโกตี่ และสิ่งเทียมตำรวจในเครื่องแบบ เมามันระดมยิงใส่ มวลชน กปปส.ลาดพร้าว นั้น ก็ได้มีนักรบนิรนามอีกกลุ่ม (ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร ) แสดงตัวออกมาช่วยมวลชน กปปส.ลาดพร้าว โดยระดมปล่อยป๊อบคอร์นชนิดหูดับตับไหม้ ตอบโต้ชายชุดดำ และแก๊งค์แดงโก้ตี๋ ไม่ยั้ง โดยลักษณะการตอบโต้ การต่อสู้ อย่างมียุทธวิธี และชำนาญการรบ ทำให้กลุ่มโกตี๋ที่เป็นแค่ชายชุดดำในเครื่องแบบกระจอก และแก๊งค์อันธพาล ที่เก่งเฉพาะการลอบโจมตีคนไม่มีทางสู้อ่อนแอ พอเจอคนแข็งแรงกว่าก็ต้องแตกพ่ายยับเยิน ล่าถอย ร้องเอ๋ง ๆ ไป
- การต่อสู้กันอย่างยิบตา ชนิดหมาขี้เรื้อน กับพยัคฆ์ นี้ใช้เวลาราว 1-2 ชั่วโมง ส่งผลให้ฝ่ายแก๊งค์แดงโกตี๋เจอป๊อบคอร์นบาดเจ็บระราว มือปาระเบิดโดนสอยก่อนคนแรก และมือปืนแดงทะยอยโดนลูกป๊อบคอร์น จนบาดเจ็ปไปมากกว่า 4 คน และที่เหลือเป็นสื่อมวลชน และมวลชนแดง ที่โดนอาวุธฝ่ายโกตี๋ที่ยิงและปาระเบิดมั่วไปโดนอีกราว 3 คน
- เวลาต่อมา ชายชุดเขียวกลุ่มใหญ่จาก ราบ 11 ก็เข้ามาหลายคันรถ เพื่อกันมวลชน 2 กลุ่มออกจากกันและเคลียร์พื้นที่
- จากนั้นกลุ่มเสื่อแดงก็ดิ้นกันใหญ่ทั้งในสื่อทีวี และสื่อสังคมออนไลน์ เพราะว่ามาเสียเที่ยวแถมโดนไปหลายชุด ทำให้มีกระบวนการปั่นว่า กปปส. มีกลุ่มติดอาวุธ

** ถ้าจะออกหมายจับนักรบป๊อบคอร์น ก็ออกหมายจับสิ่งเทียมตำรวจให้ภาพราว 100 คนให้หมดด้วย ฐานร่วมกับแก๊งค์โกตี๋กระทำผิด พรก.ฉุกเฉินฯ ชุมนุมเกิน 5 คนและใช้อาวุธยิงประชาชน

ตอนนี้ถึงแผนระยะถัดไป ของแก๊งค์รัฐอั้งยี่แดงแล้ว คือ สร้างสถานการณ์ ด้วยความเหี้ยมโหด ฆ่ากันเอง โดย
- 1 ใน 3 แก๊งค์ ลอบโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุมจุดที่เปราะบาง เช่น จุดแจ้งวัฒนะ ฯลฯ ซึ่งโดนหมาขี้เรื้อนลอบโจมตีทุกคืน
- จะใช้กองกำลังติดอาวุธ ผสานกับแก๊งค์เขมรหลานเขยฮุนเซน โจมตีสิ่งเทียมตำรวจด้วยอาวุธหนัก เช่น ยิงอาวุธวิถีโค้งเข้าใส่ ศรส.จุดเปราะบาง หรือลอบยิงตามจุดตรวจต่างๆ ยามค่ำคืน โดยชายชุดดำผู้ปฏิบัติจะโดนหนักกว่าทางผู้ชุมนุม ตั้งเป้าไว้อย่างน้อยหลักร้อยคน แล้วโยนบาปว่าแกนนำ กปปส.สั่งการ
- รัฐแดงปูเน่า ก็จะถือโอกาสยกระดับประกาศ พรก.ฉุกเฉิน เขตใช้กระสุนจริง ได้โดยชอบธรรมทันที เพียงลงทุนฆ่าชายชุดดำพวกเดียวกันเองหลักร้อยเท่านั้น แล้วก็ใช้เงินหลวงจ่ายเงินเยียวยา 7.5 ล้าน ให้ญาติภายหลัง

พวกรัฐอั้งยี่รัฐแดงนี้ มันเอานักเลงหมาขี้เรื้อนแก๊งค์นักเลงอันธพาล บ่อน ค้ายาเสพติด แก๊งค์โกตี๋ ดาบเปี๊ยก ลุงนวย บังโกวิท ฯลฯ , แก๊งค์เขมร , แก๊งค์เวียดนาม มาเป็นหัวหน้าผู้บังคับบัญชาชายชุดดำฝ่ายชั่ว ทั้งในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ พลอยทำให้ชายชุดดำฝ่ายดีเขาพลอยเสียศักดิ์ศรีไปด้วย

และยังใช้ 3 แก๊งค์หลักโดยส่งการตรงจากชายดูไบคนเดียวแบบแต่ละแก๊งค์ไม่รู้กันและกันอีก คือ ชายชุดดำใหญ่ในราชการหวังเป็นรัฐมนตรีหลังเกษียณ, ชายชุดเขียวฝ่ายชั่วนอกราชการ, ชายชุดดำชั่วนอกราชการบางบอน

เป็นการสั่งการโดยตระกูลเดียว คือ “ ผัวสั่ง เมียจ่าย น้องทำ ลูกแก้ตัวให้ “

ดังนั้นตามยุทธการนับแต่นี้ไป ขอวิเคราะห์ว่าจะมีกองกำลังนิรนามที่รักชาติ ชายไร้สีนิรนาม ลูกน้องแดงที่ต้องการป้องกันภัยมาถึงตัวเอง และผู้ที่ต้องการฉวยจังหวะแก้แค้น เปิดเกมส์รุกใช้อาวุธวิถีโค้งระยะไกล โจมตีบ้าน และครอบครัวชายดูไบ แกนนำบริษัทเผาไทย และพรรคร่วม หัวหน้าชายชุดดำและครอบครัว แบบหนักๆ แน่..และตามด้วยสิ่งเทียมอาวุธที่แม่นยำนานาชนิดตามมา

นับแต่นี้เป็นการยากมากคนในครอบครัว และเครือข่ายชายดูไบที่จะเอาชีวิตรอดไปได้..สงครามรุกตอบโต้เต็มขั้นได้เริ่มขึ้นแล้ว !!

เรื่องเดิม..ผ่าแผนตลบหลังโกตี๋หลักสี่นึกว่ากินหมู แต่ดันเจอสิงโตขย้ำจังเบอ ที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.209975585859143.1073741896.187529244770444&type=1

@เสธ น้ำเงิน
ที่มา : https://www.facebook.com/topsecretthai

เสธน้ำเงิน : แฉ..รัฐอั้งอี่แดง 18 มงกฎหมดท่าแล้ว ถูกรุมหักขาปูเน่าจนสิ้นสภาพ

10 ก.พ.57 
แฉ..รัฐอั้งอี่แดง 18 มงกฎหมดท่าแล้ว ถูกรุมหักขาปูเน่าจนสิ้นสภาพ

ในที่สุดวาระสุดท้ายของรัฐอั้งอี่แดงก็มาถึง เมื่อจนตรอกถูกล้อมกรอบจากประชาชนทุกอาชีพของสังคม มวลชนแดงสว่างโร่ และแปรพักตร์จนหมดสิ้น ฐานเสียงต่างจังหวัดหดหายแทบไม่เหลือ จากการที่ชาวนาถูกชักดาบโกงเงินค่าจำนำข้าว แก๊สหุงต้มแพงขึ้นทุกเดือน ( ขึ้นราคาถังใหญ่ 7.5 บาทต่อเดือน ) ของแพง เศรษฐกิจฝืดเคือง

ข้าราชการ พ้อค้า ชาย 3 สี ชายชุดดำฝ่ายดีไม่เอาด้วย เพราะเห็นๆ ว่าอย่างไรเสียรัฐบาลก็ล้มไปไม่รอดเกิน วันที่ 4 มีนาคม 2557 เพราะเปิดสภาเลือกนายกและจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญกำหนด ต้องพ้นจากตำแหน่งไปโดยอัตโนมัติ พร้อมพ่วงด้วยคดีความโกงชาติ ทำร้ายประชาชนต่าง ๆ จำนวนมาก ที่คนในเครือข่ายต้องโดนคดีกันทุกคน

สัญญาณนี้เห็นได้จากมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินจากคนใกล้ชิด เมีย รมต.โกงข้าว สายเจ้ ด.จอมแดก ที่สั่งการโกงผ่านปูเน่า มีการเลี้ยงส่งกันแบบไม่สำนึกน้ำตาบุญคุณชาวนา และยังมีหน้าบอกว่าถ้ายึดทรัพย์ที่ผัว 18 มงกฎหลอกโกงชาวนามาได้ ก็ยึดคืนแค่ประมาณ 100 ล้านบาทเท่านั้นเพราะได้โยกเงินออกนอกประเทศไปแล้ว และตอนนี้หนีไปลอนดอน อังกฤษแล้ว

เครือข่ายสาธารณสุข ประกาศแถลงการณ์ยกระดับของการกดดันไม่เอารัฐบาลชุดนี้ต่อสื่อมวลชน โดยให้เจ้าหน้าที่กว่า 2 แสนคน ให้ความรู้กับประชาชนที่มารับบริการ ไม่เอารัฐอั้งอี่แดงปูเน่า รวมทั้งไปชักชวนผู้บริหารและบุคลากรหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัด เช่น มหาดไทย ฯลฯ

ชายชุดดำผู้ปฏิบัติต่างจังหวัด ที่ถูกสั่งให้มาเป็นนักโทษถูกกักขังลืมในศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) ร้องขอมาว่า หากประชาชนเห็นรถขนสิ่งเทียมตำรวจ ที่ถูกสั่งให้ไปปฏิบัติงานที่กรุงเทพฯ โปรดช่วยมาปิดถนน และเปิดลมยางทิ้งด้วย จะขอบพระคุณประชาชนอย่างมาก เพราะขืนเข้ากรุงเทพไปชายชุดดำผู้ปฏิบัติจะถูกรัฐอั้งยี่แดง จับขังคุก ศรส.ใช้เป็นตัวประกันแน่ ๆ

ล่าสุดแก๊งค์อั้งยี่แดง 18 มงกฎ นัดรวมผีห่าซาตานดูดเลือดในสังกัดประมาณ 30 คน ที่ย่างกุ้ง พม่า สายข่าวระบุผลการประชุมว่ามอบให้ "ยุทธยิงตู้เย็นคนแก่" เร่งฟื้นกองกำลังติดอาวุธเสื้อแดงในพื้นที่ภาคเหนืออย่างเร่งด่วน ก่อนสิ้นเดือน ก.พ. 57 แล้วให้เข้ามารับผิดชอบเป็น ผบ.กองโจรแดง ในพื้นที่ ทำให้ยุทธตู้เย็นจะใช้จังหวะนี้แก้แค้น ลอบสังหารเงียบ ตู่ และ นกแสก ที่ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงมาก่อนหน้าแทบยิงกันตายมาแล้ว มาครั้งนี้เพิ่งจะสบโอกาส

1. แผนเฉพาะหน้า...จับตัว หรือ อุ้มแกนนำมวลชน กปปส.หรือ แกนนำชาวนา เพื่อหวังทำให้มวลชนเสียขวัญ ระยะเวลาปฏิบัติการให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.57 เป็นต้นไป
3.1 หน่วยปฏิบัติ
- ภาณุ...เป็นหัวหน้าทีมฝ่ายยุทธการ (วางแผน)
- สุชา...เป็นหัวหน้าทีมฝ่ายปฏิบัติการ
- มีวันนี้เพราะพี่ให้...เป็นหัวหน้าทีมฝ่ายสนับสนุน
- เป้าหมาย คือ แกนนำ สนธิญาณ T-News , กำนัน , ถาวร , สาธิต ฯลฯ
3.2 ยุทธวิธีมีหลายลักษณะ คือ
- แกนนำ ใช้กลยุทธเห็บหมาขี้เรื้อน ใช้คอมมานโดชายชุดดำลอบจับเวลาไปกินข้าวตามร้านอาหาร , หากพักโรงแรมจะปลอมเป็นพนักงาน และจับตัวขึ้นดาดฟ้า และใช้คอปเตอร์บินรับตัวไป
- ใช้รถกันกระสุนที่นำมาจากภาคไต้ บุกเข้าชาร์ตขบวนรถของแกนนำ จากนั้นยิงเปิดทาง ยิงชาย 3 สีและการ์ด ให้ทีมการ์ดขยับไม่ได้
- แล้วให้ทีมหน่วยปฏิบัติการพิเศษชายชุดดำ บุกประชิดรถกันกระสุนของกำนัน จากนั้นให้ใช้ระเบิดเปิดประตูรถกันกระสุน แล้วอุ้มกำนันขึ้นรถกันกระสุนของชายชุดดำ แล้วยิงเปิดทางให้ขบวนรถกันกระสุนวิ่งฝ่าทีมการ์ดและมวลชน (ถ้ามี) นำกำนันออกจากพื้นที่ไปคุมขังใน ตชด.จังหวัดปทุมธานี
- ในต่างจังหวัดให้สิ่งเทียมตำรวจฝ่ายชั่ว ไปสลายการชุมนุมแกนนำชาวนาช่วงกลางคืน โดยใช้น้ำฉีด แล้วใช้กระบองไล่ตี เมื่อชาวนาตกใจวิ่งหนี ให้ไล่ฆ่าคนจนให้ตายให้หมด แล้วส่งชายชุดดำในเครื่องแบบไปขู่ ขอรายชื่อแกนนำชาวนาตามหมู่บ้าน จะได้กลัวไม่กล้ามาชุมนุมเรียกร้องเงินค่าข้าวกับรัฐแดง ( ทำแล้วที่กำแพงเพชร )

2. แผนหลัก ใช้สายเหนือ..ชายดูไบให้วางกำลังเป็น 4 กองทัพอเวจี คือ
- หลัก...ทีม เชียงใหม่ เชียงราย (ศูนย์บัญชาการหลักใช้เชียงใหม่ ศูนย์บัญชาการสำรองใช้เชียงราย )
- ส่วนหน้า..ทีม นครสวรรค์ พิษณุโลก สุโขทัย กำแพงเพชร
- สนับสนุน..ทีม ลำปาง พะเยา น่าน
- หน่วยจรยุทธ...ทีม พะเยา เชียงราย เชียงใหม่

3. แผนรอง..ใช้สายอีสาน (จากสายข่าวเสื้อแดงอีสานที่แฝงตัวอยู่) ให้ข้อมูลว่า ได้รับคำสั่งให้เดินงานตามแผนดังนี้
- ให้เผยแพร่ความคิด ในการแบ่งแยกประเทศเป็นไทยเหนือ/ไทยใต้ (ไทยเหนือรวมอีสานด้วยคือฝ่ายแดง ส่วนไทยใต้คือฝ่ายรักสถาบันเบื้องสูง ) เพื่อสร้างความแตกแยกให้ประชาชน และหลอกลวงประชาชนรากหญ้าที่รู้ไม่เท่าทันกลชั่วนี้ ใครไม่เห็นด้วยการแยกประเทศให้ทำร้าย
- ปล่อยข่าวให้ร้ายสถาบันเบื้องสูงให้หนักขึ้นกว่าเดิม ผ่านสายวิชาการมหาลัย นักวิชาการในสังกัดที่รับจ้าง
- คัดเลือกทีมปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยแยกเป็นทีมปล่อยข่าวชั่ว , ทีมทำงานลับ ให้ส่งรายชื่อไปที่แกนนำที่ร้อยเอ็ด หรือที่เสิงสาง
- หากพื้นที่ใดมีปัญหาจัดหาคนไม่ได้ ให้แจ้งให้แกนนำสู้แล้วรวยส่วนกลางรับทราบทันที
- เงินค่าใช้จ่ายให้เบิกที่ ผอ.แกนนำโจรแดงที่ร้อยเอ็ด

4. แผนตบตาหลอกลวงสร้างภาพปรองดองทางการเมือง
- ได้ข้อสรุปว่าประชาชนไม่เชื่อถือขบวนการเลือกตั้ง และบริษัทเผาไทย ได้คะแนนเสียงน้อยกว่างเป้าอย่างมาก ( ประมาณ 6.6 ล้านเสียง) ดังนั้นชายดูไบต้องการเป็นคนกำหนดเกมส์แทนที่จะให้ฝ่ายอื่นกำหนดเกมส์
- หลอกเข็นกระแสนายกฯคนกลางจะขึ้นสู่สังคม ในวันที่ 16 ก.พ.เป็นต้นไป โดยสั่งให้ทีมงานแสร้งเริ่มเจรจากับฝ่ายต่างๆ เพื่อเตรียมการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ และนายกฯ คนกลาง เข้ามาทำหน้าที่แทนรัฐบาลปูเน่าที่ต้องสิ้นภาพไปภายใน 4 มี.ค.57 โดยอัตโนมัติ

5. เงื่อนไขทีมเจรจาว่า โดยชายดูไบ กำหนดมาให้แล้ว คือ ( ถ้าไม่ได้ตามนี้ไม่เอา)
- รัฐบาลกลางที่รัฐอั้งยี่แดงจะตั้งขึ้นนั้น จะตั้งตัวแทนทุกฝ่ายเข้ามาเป็นรัฐมนตรี เช่น ตัวแทนจากพรรคการเมืองทั้งเพื่อไทย ทั้ง ปชป.และพรรคอื่นๆ , ตัวแทนภาคประชาชน ทั้งตัวแทน กปปส.ทั้งตัวแทน นปช. , ตัวแทนภาคเอกชน เช่น สภาหอการค้า,สภาอุตสาหกรรม,สมาคมธนาคาร ฯลฯ , ภาคราชการ เช่น ตัวแทนกองทัพ ตัวแทนข้าราชการพลเรือน
- นายกคนกลาง (ของมัน) นั้น ชายดูไบได้วางตัวให้ชัชชาติ คนสนิทของหญิงกระบังลม
- ขณะนี้กำลังโปรโมทภาพลักษณ์นายกคนกลาง (ของมัน) เต็มที่เพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับ ในสื่อสังคมออนไลน์ , วิทยุ , ทีวี , สื่อหนังสือพิมพ์ เครือข่าย

มันระดมสมองหัวกระทิมันเดินทางไปย่างกุ้งพม่า วางแผนกันจนหัวโป่ง แต่ เสธ สืบมาแฉ วันเดียวให้มันวงแตกไปอีก ให้มันฝันเฟื่อง ฝันเปียกอะไรของมันไปเถอะ ตอนนี้ ทีมกฎหมาย , ชาย 3 สี , ชายชุดดำฝ่ายดี กองกำลังนักรบนิรนาม หน่วยสังหารโจรดำ ฯลฯ ( ไม่รู้มาจากไหน) เขาเอาสุ่มครอบอุดรูปูพวกมันไว้หมดแล้ว

เหล่าบรรดานักรบยุทธการก่อนรบจริง เขาไม่เอาชนะด้วยอาวุธหรอก แต่จะเอาชนะด้วยมวลชนฝ่ายธรรมมะก่อน เมื่อชนะด้วนมวลชนฝ่ายดี และมวลชนเสื้อแดงแปรพักตร์มากแล้ว ฝ่ายโจรชั่วก็จะไม่มีเพราะคนจริงใจเป็นสมุนที่ภักดีจริงๆ

ขณะนี้รัฐอั้งยี่แดงปูเน่า ยิ่งใช้อาวุธทำร้ายประชาชนมือเปล่า ข่มเหงรังแกแกนนำ ในการยุทธมันคือความพ่ายแพ้และเสียเปรียบที่สุด เพราะเสียมวลชนแดงแปรพักตร์ไปแล้ว ( เช่น ชาวนา หลายล้านคน ) เขาเหล่านั้นจะไม่หวนคืน ไม่ว่าจะใช้กำลังบังคับสักเพียงใดก็ตาม อีกทั้งผู้ปฎิบัติการกลไกของรัฐเองตอนนี้ไม่มั่นใจในคำสั่งของรัฐบาลเทียม ขัดขวาง ปล่อยความลับ ทุกอย่าง

เสธ บอกให้ประชาชนอย่ายอมแพ้ ขอให้ประชาชนรู้ไว้เถิดว่า “ ถึงคนอื่นจะทิ้งคุณไป..แต่ ชาย 3 สี และชายชุดดำไทย ..ฝ่ายดี..ไม่เคยทิ้งคุณ “ และเตรียมฉลองชัยชนะได้เลย ยุทธวิธีเด็ดขาปูเน่าทีละขาให้หมด 8 ขา จนปูเน่าแทบไม่มีขาจะเดินแล้ว รอแห้งตายคาแดดให้ถูกรุมเหยียบอย่างเดียว

ส่วนไอ้พวกกะเรวกะราดหมาขี้เรื้อนหางแถว เดี๋ยวจะมีญาติผู้หวังดีถึอถุงข้าวโพดไปเยี่ยมเยียนให้หูดับตับไหม้ อิ่มจนท้องใส้เหวอะหว่ะ เอง

@เสธ น้ำเงิน
ที่มา : https://www.facebook.com/topsecretthai

ไทกร พลสุวรรณ: แผนสำรอง.!!!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟสบุ๊ค  ไทกร พลสุวรรณ ของ"นายไทกร พลสุวรรณ"ได้ โพสข้อความรายงานความเคลื่อนไหวของ คนเสื้อแดงภาคอีสาน และ"พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"อดีตนายกรัฐมนตรี  โดยอ้างว่า  กำลังมีการเผยแพร่ความคิดแบ่งแยกประเทศไทยเป็น ไทยเหนือ ไทยใต้ 
///
แผนสำรอง.!!!

สายข่าวเสื้อแดงที่อยู่ในอีสานให้ข้อมูลว่า ได้รับคำสั่งให้เดินงานตามแผนดังนี้
1.ให้เผยแพร่ความคิดในการแบ่งแยกประเทศเป็นไทยเหนือ/ไทยใต้ (ไทยเหนือรวมอีสานด้วยคือฝ่ายแดง ส่วนไทยใต้คือฝ่าย ปชป.และพวกอำมาตย์)
2.ให้คัดเลือกทีมปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยแยกเป็นทีมปล่อยข่าว,ทีมทำงานลับ ให้ส่งรายชื่อไปที่แกนนำที่ร้อยเอ็ดหรือที่เสิงสาง
3.หากพื้นที่ใดมีปัญหาจัดหาคนไม่ได้ ให้แจ้งให้ นปช.ส่วนกลางทราบทันที
4.เงินค่าใช้จ่ายให้เบิกที่ ผอ.ที่ร้อยเอ็ด
ฝ่ายทักษิณกำลังจะทำอะไรบ้างอย่าง หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ฟันธง สต๊อกลม-ข้าวเน่า เหตุรัฐไม่กล้าระบายข้าว

10 ก.พ.57 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เผยถึงปัญหาโครงการรับจำนำข้าวว่า รัฐบาลมีพฤติกรรมโกหกซ้ำซาก เพราะสองสามวันที่ผ่านมามีการชุมนุมของชาวนาเพื่อทวงค่าข้าวโดยนายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์โกหกประชาชนว่า มีการจ่ายเงินไปมากแล้วตั้งแต่เดือน ต.ค.และ พ.ย.บางส่วน คนที่ไม่ได้รับเงินเป็นชาวนาส่วนน้อย จึงขอนำใบประทวนวันที่ 15 ต.ค.56 วงเงิน 1.44 แสนบาท , วันที่ 20 ต.ค.56 วงเงิน 3 หมื่นบาทเศษ , วันที่ 22 ต.ค.56 วงเงิน 1.62 แสนบาท , วันที่ 23 ต.ค.56 วงเงิน 6.7 หมื่นบาท และวันที่ 25 ต.ค.56 วงเงิน 2.9 แสนบาท มาให้ดูเป็นหลักฐานยืนยันว่าชาวนายังไม่ได้รับเงิน

นพ.วรงค์ กล่าวว่า เอกสารดังกล่าวก็ยังมัดว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี โกหกด้วยว่าที่ไม่สามารถจ่ายเงินให้ชาวนาได้ เพราะมีการยุบสภาจึงไม่เป็นความจริง เนื่องจากไม่มีการชำระเงินให้ชาวนาตั้งแต่เดือน ต.ค.แล้ว แสดงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ชอบโกหก จึงขอเรียกร้องให้หยุดโกหกได้แล้ว ให้เอาความจริงมาคุยกับประชาชน เผื่อว่าประชาชนจะเห็นใจแต่ถ้าโกหกไปเรื่อย ๆ อาจทำให้รัฐบาลลำบากมากขึ้น

นพ.วรงค์ กล่าวต่อไปว่า ทางเดียวที่จะหาเงินให้ชาวนาได้คือการระบายข้าว ทำไมรัฐบาลจึงกลัวไม่กล้าที่จะเปิดเผยทิศทางการระบายข้าว หรือเป็นเพราะว่ารัฐบาลกลัวถูกตีแผ่ว่ามีข้าวเน่า และมีสต็อกลมใช่หรือไม่ จึงขอให้สื่อมวลชนคอยสังเกตว่า จะเกิดปรากฏการณ์โกดังไฟไหม้ โรงสีไฟไหม้ เพื่อปกปิดปัญหาข้าวเน่า สต็อกลม รวมถึงการแจ้งความว่าข้าวหาย

“เพราะข้อมูลที่ผมได้รับนั้น คดีที่ดำเนินการเสมือนกับรับรู้ร่วมกันระหว่าง อคส. อตก. ตำรวจและอัยการ จนทำให้คดีอ่อนไม่สามารถเอาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ทำให้คนในกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถดำเนินคดีไม่ได้ จึงขอให้นำเรื่องนี้มาเปิดเผยต่อสังคมว่ามีกระบวนการทำสำนวนอ่อนจนไม่สามารถเอาผิดคนโกงข้าวได้”


ประเด็นปฏิรูปพลังงาน ชนวน กปปส. แตกคอ กปท.

เวทีกปปส. ปทุมวัน ช่วงสี่ทุ่มวันที่ 10ก.พ. 2557 "สาทิตย์ วงศ์หนองเตย"ต้องออกมาชี้แจงผู้ชุมนุมและผู้ชมบลูสกาย ถึงปัญหาการปราศัยเรื่องปฏิรูปพลังงาน หลังจากที่มีบางคนใน เครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย ให้สัมภาษณ์ทำนองว่าถูกเวที กปปส.ใหญ่ ปทุมวันกีดกัน ไม่ให้พูดเรื่องนี้ โดยเกรงว่าจะเสียแนวร่วมการต่อสู้ การปฏิรูปการเมืองซึ่งเป็นภาพใหญ่ของ กปปส.

สาทิตย์ ย้ำเจตนา ว่า การลุกขึ้นมาต่อสู้ ของกปปส. นำโดย "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ไม่ได้มีเรื่องปฏิรูปพลังงาน มาตั้งแต่ต้น โดยให้ความสำคัญกับการปฏิรูป 5เรื่อง คือการจัดการระบอบทักษิณ ,การจัดการเลือกตั้งให้เป็นธรรม,ปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ,การกระจายอำนาจ และการปฏิรูปเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ในสังคม ยกเลิกนโยบายประชานิยม ที่สร้างความเสียหาย

อย่างไรก็ตาม สาทิตย์ บอกว่า เวทีกปปส.เป็นเวที ประชาชน ไม่ได้ปิดกั้น การอภิปรายปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยในเรื่องการปฏิรูปพลังงาน ก่อนหน้านี้ ม.ล.กรกสิวัฒน์ ,หมอระวี ก็เคยมีโอกาสพูดเรื่องนี้ บนเวที กปปส.มาแล้ว แต่ประเด็นปัญหาก็คือ บรรดาผู้รู้เรื่องพลังงาน ของกปปส. ต่างมีชุดข้อมูลพลังงาน ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กับฝั่งของ กปท.

สาทิตย์ ประกาศ บนเวที ว่าจะจัดให้มีการเสวนาโต๊ะกลม พลังงาน โดยเชิญผู้รู้ในฝั่ง กปปส. ที่ยังมีความคิดเห็นต่างกัน มาคุยกันในวันที่ 12 ก.ค. ที่ หอศิลป์ เวลา 10โมงเช้า โดยตั้ง ประเด็นหัวข้อที่จะถกเถียงกันว่า "คนไทยใช้พลังงานแพง แต่ทำไม ปตท.กำไรแสนล้าน" งานนี้ กปปส.ควรจะให้ประชาชนที่ร่วมต่อสู้ ได้รับข้อมูลข้อเท็จจริง ที่ถูกต้อง มากกว่าจะปล่อย ให้ กปท.ชวนเชื่อ ผู้ชุมนุม ด้วยการบอกว่าจะลดราคาน้ำมันทันที 5บาทต่อลิตร เพราะนี่ก็เป็นประชานิยมที่รุนแรง เหมือนที่ กปปส.เคยตำหนิ วิธีการของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมาแล้ว

‪#‎ความไม่รู้พลังงานไทย‬

"สนธิญาณ" ในอิริยาบถแบบสบายๆ ไม่หวั่นแม้ถูกคุมเข้ม

ยิ้มสู้ แม้ตกที่นั่งลำบาก !!! ชัดๆ "สนธิญาณ" นั่งชิวแบบสบาย ไม่เครียด -ด้านทีมทนาย จะมีการยื่นประกันตัวตามกำหนดครบ 48 ชั่วโมง 
วันนี้ ( 10 ก.พ.57) เมื่อเวลา 18.05 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฉัตรชัย ภู่โคกหวาย รอง ผอ.สำนักข่าวทีนิวส์ เปิดเผยภายหลังจากการเข้าพบนายสนธิญาน ชื่นฤทัยในธรรม ว่า ซึ่งเบื้องต้นภายหลัง จากนายสนธิญาน ถูกควบคุมตัวมา พนักงานสอบสวนได้ทำการพิมพ์ลายนิ้วมือ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยล่าสุด พนักงานสอบสวนอยู่ในระหว่างการสอบปากคำ นายสนธิญาน ภายในหอประชุมรักสามัคคี

ส่วนผู้ที่มาติดต่อขอเข้าพบนั้น พนักงานสอบสวนจะเปิดให้เข้าพบได้2ครั้งต่อวัน ครั้งละ 2 คน โดยจะมีรถมารับที่จุดลงทะเบียนด้านหน้ากองบังคับการตำรวจตระเวรชายแดนภาค 1 ซึ่งจะเข้าพบได้ เวลา 09.00-10.00น. และ 15.30 -16.00 น.

ทั้งนี้ นายฉัตรชัย เปิดเผยด้วยว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ที่ปรึกษากฎหมายของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ขอเข้าร่วมฟังการสอบสวนด้วย รวมไปถึง นายสมชาย แสวงการ สว.สรรหา และ พล.อ.อ. วีระวิทย์ คงศักดิ์ คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน วุฒิสภา ได้ติดต่อขอเข้าพบนายสนธิญาน เป็นกรณีพิเศษด้วย

อย่างไรก็ตาม นายฉัตรชัย ยืนยันว่า นายสนธิญานสภพทั่วไปยังเป็นปกติ ยิ้มแย้ม ไม่เครียด

ด้านนางสาวพวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความ คปท. เปิดเผยภายหลังเข้าพบนายสนธิญาน เช่นกันว่า เบื้องต้น ทีมทนายจะมีการยื่นประกันตัวตามกำหนดครบ 48 ชั่วโมง ที่พนักงานสอบสวนจะต้องทำรายงานไปยังศาลอาญาตามเงื่อนไขการออกหมายจับ และต้องดำเนินการหลังถูกควบคุมตัวครบ 7 วันตามเงื่อนไขเช่นกัน

ขณะที่ ในเวลา 18.20 น. ตำรวจตระเวรชายแดน กว่า1กองร้อย ได้ตั้งกำลัง รักษาพื้นที่ บริเวณด้านหน้า กองบังคับการ ตชด.ภ.1 ทั้งนี้เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุม เข้ามาในพื้นที่ โดยจะให้เน้นการเจรจาเป็นหลัก และห้ามใช้กำลัง อีกทั้งยังป้องกันเฝ้าระวังผู้ไม่หวังดีอีกด้วย

‪#‎ทีนิวส์‬

สมเกียรติ โอสถสภา :"อย่าเนรเทศ คุณสาธิตเป็นอันขาด พังหนักเลย"

ผมนั่งดูภาพที่ประชาชน นักธุรกิจย่านสีลม สาทร เยาวราช ไปยื่นหนังสือขอให้สถานทูตอินเดีย ดูแลคุณสาธิตด้วยความตกใจ ในภาพมีทั้งคนไทย เชื้อสายอินเดีย คนไทยเชื้อสายจีน คนไทยแท้ๆที่เป็น friends of India เพื่อนธุรกิจ ผู้รักความเป็นธรรม และคนอีกหลายเชื้อชาติ 

ประเทศนี้ประกอบด้วย คน32 เชื้อชาติหลัก

มีชาวอินเดียราวหนื่งล้านคน ทั้งคนอินเดียที่ ถือสัญชาติไทย และคนอินเดียที่อาศัย ในประเทศไทยราวหกแสนคน ที่ถือสัญชาติอินเดีย แม้จะอยู่ในประเทศไทย มานานมาก การถือสัญชาติอินเดีย เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยมาก เพราะอินเดียมีลักษณะชาตินิยม การเป็นต่างชาติจะทำธุรกิจ เชื่อมต่อระหว่าง สองประเทศยาก

เมื่อสถานเอกอัครราชทูตอินเดีย รับคุณสาธิตเข้าไว้ในคุ้มครองในฐานะ ผู้แทนเจรจาการค้าของอินเดีย กับไทย มีอภิสิทธิทางการทูต ก็เท่ากับ ศรสได้ชักศืกใหญ่หลวงเข้าประเทศ ใหญ่มากๆ

เราเพิ่งมีปัญหาใหญ่ กับจีนเรื่องจำนำข้าว หลอกนายกจีนมาเซ็นต์สัญญา ขายข้าวระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล วันนี้เรามีปัญหา กับประเทศยักษ์ใหญ่ อีกประเทศหนื่ง

ในด้านความชอบธรรม เป็นครั้งแรกที่ผมเคยเห็น การเนรเทศนักธุรกิจที่ดี ที่ช่วยเหลือประเทศไทยอย่างมาก เป็นคนในระดับผู้แทนการค้า ประธานหอการค้าถูกเนรเทศ

อยากให้ดูผลที่จะตามมา
หนื่ง ข่าวเรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ ที่สั่นสะเทือนวงการทูต ของทุกประเทศในประเทศไทย วงการทูตของประเทศอินเดีย ทั่วโลก วงการทูตจะได้ฟังเรื่องจริง ของประเทศนี้จากแหล่งข่าวอินเดีย ที่น่าเชื่อถือมากกว่า รัฐบาลไทย เป็นความรุนแรง ระดับอเมริกาแก้ผ้าค้นตัว เจ้าหน้าที่การทูตสตรีอินเดียทีเดียว ลองศืกษาว่าเขารบกันอย่างไร ขนาดไหน ไทยรับมือไหวไหม

สอง อินเดียเป็นประเทศ ที่มีชาวอินเดียหรือ เชื้อสายอินเดีย ประกอบธุรกิจอยู่ทั่วโลก จำนวนยี่สิบห้าล้านคน เครือข่ายเหล่านี้อยู่ภายใต้ การดูแลของรัฐบาลอินเดีย มีสมาคมการค้า ในทุกประเทศที่มีพลัง มากรวม 300 แห่งทั่วโลก ดูแลเรื่องการค้า นำเข้า ส่งออก ร่วมมือกันแซงชั่น ได้ทั่วโลก อยากลองก็ได้ มีการประชุมประจำปี ของ PIO people of Indian Origin ปีละ3 วัน กำหนดมาตรการร่วมกัน มีกระทรวง Overseas Indian ดูแลเป็นการเฉพาะ ศืกษาระบบการดูแลคนของเขา และมาตรการต่อต้านย้อนหลัง 20 ปีครับ ขอเตือน เรียกทูตไทยที่เคยประจำอินเดีย มาคุยกันด่วนเลย 

สาม เริ่มที่การค้าขายในอาเซียน มีคนเชื้อสายอินเดีย ในพม่าราวสี่ล้าน มาเลย์สองล้านห้า สิงคโปร์ราวหนื่งล้าน อินโดนิเซียเพียบ การค้าชายแดน ผ่านแดนกับสามประเทศหลัง นี่ปีละสองล้านๆบาท ยังไม่รวมบรูไน ฟิลิปปินส์ มีคนประมาณว่า 30% ของการค้าในอาเซียน ของไทยเป็นฝีมือเครือข่ายธุรกิจ เชื้อสายอินเดีย

สี่ ในยุคสถานการณ์ สามจังหวัด บทบาทของGulf Cooperation Council เช่น บาห์เรน คูเวท โอมาน กาตาร์ อาหรับเอมีเรทส์ ซาอุดี้ สำคัญมาก ชาวอินเดียที่ไปตั้งถิ่นฐาน ในประเทศเหล่านี้ยาวนาน มีอิทธิพล จะช่วยประเทศไทย ได้มากในด้านการค้า การต่างประเทศ การลงทุน ปัญหาทางการเมืองเรื่องสามจังหวัด

ห้า ด้วยความไร้เดียงสา ทางวัฒนธรรม รัฐบาลที่ผ่านมาทำให้ ไทยมีปัญหากับโลกมุสลิมที่มีประชากร 35% ของโลก นี่มีปัญหากับจีน อินเดีย ที่ต่างมีสัดส่วนประชากรรวมกันร่วม40% แล้วจะเหลือใครไว้คบค้าอีก เขมร หรือ

หก หากจะมองไปในโลกตะวันตก PIO คือ สะพานเชื่อมต่อไทย กับประเทศอเมริกา ยุโรป ในอเมริกามีราวสี่ล้าน ทำรายได้ที่ซิลิคอนแวลลี่ ปีละ 250 พันล้านเหรียญมากกว่า สำรองเงินตราของไทย อังกฤษ แคนาดา ก็แหล่งใหญ่ เมื่อคนเหล่านี้มาเอเซีย เขาจะแวะไทยด้วยวัฒนธรรม เดียวกัน คนอย่างคุณสาธิต ช่วยสร้างขื้นมา

อุตสากรรมใหม่ 13 ประเภทที่จะทำให้ไทยไปรอดอยู่ที่ PIO เหล่านี้ การท่องเที่ยวจากคนในประทศอินเดีย พันล้านคน จากประเทศต่างๆ ยี่สิบห้าล้านคน วิทยาศาสตร์ เทคโน อยู่ที่คนอย่างคุณสาธิต ต้องสละตัวมาช่วย คุณสาธิตไปหมดเลยนะ ไม่มีคนมาช่วยอีกแล้ว

ไม่มีคนเข้าใจศักยภาพ พูดคุย ได้รับความเชื่อถือได้เท่า PIO ในไทยอย่างคุณสาฺธิต หน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจไม่มี อยากส่งออกได้ ต้องคุยกับคนเหล่านี้ อินเดียและ PIO เป็นกุญแจคุยกับกลาโหม เรื่องดุลอำนาจทางทหาร หรือยัง อินเดียและรัสเซีย คือกุญแจความมั่นคงของไทย ในอนาคต เมื่อจีนกับอเมริกาเผชิญหน้ากัน

ข้อตกลงWTO ตะวันตกเอาเปรียบไม่ได้ เพราะอินเดียช่วยไว้ Doha Round จืงไม่จบ เราเป็นพาร์ทเนอร์ ในเกมใหญ่ของโลก

ดุลยภาพด้านอาวุธ อินเดีย รัสเซียสำคัญกับไทยมาก หรืออยากกลับไปสู่วันที่เกือบสิ้นชาติ

วันนี้ ศรส. สั่นคลอนความมั่นใจ ของต่างชาติ คนไทยเชื้อสายต่างๆ อย่างไม่เคยเกิดขื้น มาก่อน
การรวมตัวเป็นชาติไทย ของคนทุกเชื้อสาย คือ นโยบาย ทศพิธราชธรรม ที่ทำให้มีประเทศไทยวันนี้ ทำกันมาอย่างเหนื่อยยาก เป็นร้อยปี

อย่าทำลายมันเสีย
เรื่องคุณสาธิตเป็นเรื่องจิ๊บๆ เมื่อเทียบกับ scenerioที่ ชี้ให้เห็น

อย่าเอากระดาษมาหาเรื่องกัน ต้องเข้าใจว่าที่คุณสาธิต ที่มีหัวใจไทยยังถือสัญชาติอินเดียนั้น เป็นประโยชน์ต่อไทย ประเทศอินเดียเขาให้ privilege ไม่งั้นแกก็ถือไทยไปนานล่ะ 

ชาติอื่่นๆ เขาก็เข้าใจ ลองถามนักเรียนอังกฤษ แคนาดา อเมริกา ออสเตรเลียดู

เมืองไทยทำแปลก ทำตื่นเต้นเพราะ เราไม่เข้าใจวัฒนธรรม เราโลกาภิวัฒน์กับชาวเอเซียมานานมาก โลกาภิวัฒน์เป็นเรื่อง ระหว่างคนกับคน

ผมเรียนหนังสือย่านสำเพ็ง พาหุรัด จืงเข้าใจ มีเพื่อนอินเดียเยอะ กว่าจะเข้าใจเรื่องพวกนี้ใช้เวลาหลายปี มีเพื่อนเป็น บก เดลีไทมส์ด้วย มันปลุกทีเดียว พังยับ

เอาความรู้มาแบ่งเพื่อ รักษาประเทศไทยครับ ศรส คุยกับ กต ที่เก่งๆเขาแนะนำได้

อย่าเอาตำรวจมาคุย เรื่องระดับนี้ อย่างธาริตไม่ใช่ อย่างคุณเฉลิมเข้าใจ เพราะตอนเป็นหัวหน้าพรรคมวลชน ยังชูนโยบาย หกเหลี่ยมเศรษฐกิจเลย

ช่วยๆกันครับ มองกันยาวๆ ช่วยๆกันมอง

ชาวนาว็อคเอ๊าท์....

10 ก.พ.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเจรจาระหว่างนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ พร้อมด้วยนายวราเทพ รัตนากร รมต.สำนักนายกฯและรมช.เกษตร ,นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ กับกลุ่มตัวแทนชาวนาที่เดินทางมาชุมนุมหน้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ภายในเมืองทองธานีนั้น ได้ยุติลงแล้ว ภายหลังจากที่การเจรจาไ-ม่ประสบความสำเร็จ ตัวแทนรัฐบาลไม่สามารถที่จะยืนยันรับข้อเรียกร้องของฝ่ายตัวแทยชาวนา ทำให้ตัวแทนชาวนาวอล์คเอาท์ออกจากที่ประชุม พร้อมประกาศยึดโกดัง-คลังข้าวทั่วประเทศ


พรรคเพื่อไทยแจง ปัญหา โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบา

พรรคเพื่อไทยแจง ปัญหา โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล (10/2/57)






ปูดรัฐบาลให้สหรัฐใช้น่านน้ำไทยจี้กกต.สอบ

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 16:42

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"ม.ล.วัลย์วิภา"ยื่นกกต.สอบรัฐบาลกรณี ก.ต่างประเทศ ตกลงทำสัญญาบริษัทสหรัฐสร้างฐานทัพอากาศยานทหารเรือ ในน่านน้ำของไทย

ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ บุรุษรัตนพันธุ์ ได้เดินทางนำเอกสารหลักฐานเข้ายื่นเรื่องต่อ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ถึงกรณีที่พบว่ารัฐบาลโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการตกลงสัญญาต่อบริษัท Davenport MCkesson Corporation ของสหรัฐอเมริกา เพื่อให้กระทรวงกลาโหม ของสหรัฐ สร้างฐานทัพอากาศยานทหารเรือและให้ช่วยเหลือทางทหารในการตั้งเขตปลอดท่าเรือ ในน่านน้ำของไทย ที่อาจจะส่งผลให้มีสำรวจทรัพยากรทางธรรมชาติและปิโตรเลียม ในพื้นที่อ่าวไทย

โดย ม.ล.วัลย์วิภา กล่าวว่า สัญญาดังกล่าวมีการทำขึ้นเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2556 ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญา ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ อีกทั้งมีการจ่ายเงินมัดจำสัญญาล่วงหน้า ในระหว่างที่มีการเลือกตั้ง ถึง 20,000 เหรียญสหรัฐฯจึงถือว่าเป็นการสัญญาที่เข้าข่ายการสัญญาว่าจะให้ประโยชน์ ต่อบุคคลหรือองค์กรอื่น ส่งผลให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาเป็นการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใสหรือไม่ อีกทั้งพบว่าจากสัญญาดัง
กล่าวมีท่าทีที่ทางสหรัฐอเมริกา กดดันรัฐบาลไทย และสนับสนุนให้มีการจัดการเลือกตั้ง พร้อมทั้งมีการประณามกลุ่มผู้ชุมนุมภายในประเทศ ทั้งที่สถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นเดียวกับ ประเทศยูเครน แต่ทางการสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนที่แตกต่างกัน

ดังนั้น จึงขอให้ทางคณะกรรมการการการเลือกตั้ง ได้พิจารณาสอบสวน ซึ่ง นายสมชัย กล่าวว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ มีรายงานบทความชิ้นหนึ่งในโซเชียลมีเดีย เรื่อง "อ้างสัญญาลับUSAทักษิณสร้างฐานทัพยึดแหล่งน้ำมันไทยคนไทย.. โดนหลอก!!! (ถั่วต้มจนเปื่อย) "

โดยมีการระบุว่า เอกสารสำคัญจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา กรณีการตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยเนื้อความในเอกสารนี้ จะทำให้การชุมนุมที่มีคนออกมาร่วมเป็นล้านคน หรือเรื่องการปฎิ

รูปประเทศ กลายเป็นเรื่องเล็กๆไปเลย เนื่องจาก การที่เราให้ รมว. ต่างประเทศของเราเป็นคนลงนามในสัญญาจ้างนี้ ผูกพันกับไทย ตามกฎหมายระหว่างประเทศจ่ายเงินไปบางส่วน สัญญาจึง

สมบูรณ์แล้ว ระยะเวลาของสัญญา 22 พ.ย. 2556 ถึง 28 ก.พ. 2557 ประมาน 3 เดือน สั้นมากสำหรับเรื่องใหญ่และสำคัญขนาดนี้แสดงว่าเตรียมการมาก่อนแล้ว

เนื้อหาสำคัญ รัฐบาลไทยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สุรพงศ์ โตวิจักรชัยกุล ได้ว่าจ้าง Davenport McKesson Corporation ให้เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในการล๊อบบี้ให้สมาชิกสภา

คองเกรส ของประเทศสหรัฐอเมริกา ให้อนุมัติ ให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐ มาสร้างฐานทัพเรือ ในประเทศไทย รวมทั้งประเทศไทยจะช่วยเหลือทางทหารในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในอ่าวบริเวณ

น่านน้ำของราชอาณาจักรไทย "หมายความว่าเราจะเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ในอ่าวไทยทั้งหมดแก่สหรัฐทันที อย่างนี้จะไม่เรียกว่าขายชาติได้อย่างไร"

เหตุที่รัฐบาลไทยไปจ้างบริษัทล๊อบบี้ เช่นนี้เพราะอเมริกา มีความประสงค์ที่จะมาตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยมานานแล้วเนื่องจากเป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ และเป็นการปิดล้อมประเทศจีนไม่

ให้แผ่อิทธิพลลงสู่ประเทศอาเซียน แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ เสนอเรื่องเข้าสภาคองเกรสฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะจะถูกตั้งคำถามว่าทางประเทศไทยว่าอย่างไร จึงส่งสัญญานให้ฝ่ายไทย เสนอผ่านบริ

ษัทล๊อบบี้ เขาก็จะรับลูกทันที หากสภาคองเกรส อนุมัติ ก็จะมีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศทันที

"เขาจึงออก พรบ. นิรโทษกรรมสุดซอย เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ซึ่งผ่านสภาในอีก 2 วันถัดจาก พรบ. สุดซอย"

จึงไม่แปลกใจที่ อดีตนายก สามารถเดินทางเข้าออกสหรัฐได้ โดยไม่กลัวว่าจะถูกจับกุม เพราะศาลประจำวอชิงตันได้รับฟ้องกรณีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ไว้แล้ว

ทั้งหมดจึงเป็นการวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เป้าหมายน่าเป็นแหล่งพลังงานในอ่าวไทย เพราะถ้าจะสร้างฐานทัพเรือ ก็คงต้องใช้ที่สนามบินอู่ตะเภา เพราะสร้างเพิ่มเติมอีกไม่มาก และเป็นทั้งสนาม

บินและท่าเรือ แล้วประกาศเขตปลอดภัยของฐานทัพ อาจมีรัศมีถึง 300 กม. เพราะจะมีเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือดำนำพลังนิวเคลียร์ เครื่องบินรบชนิดต่างๆ รวมทั้งต้องนำอาวุธนิวเคลียร์ติดมาด้วย

แน่นอน พื้นที่ดังกล่าวครอบคลุมแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนไทย- เขมร ก็ไม่มีใครเข้ามาได้ เพราะต้องได้รับอนุญาติจากสหรัฐ เขาจึงขุดน้ำมันได้แต่เพียงผู้เดียว และขณะนี้ เซฟรอน ได้

สัมปทานจากรัฐบาลไทยไปทั้ง 15 แปลงแล้ว

แต่พอศาลรัฐธรรมนูญรับฟ้อง กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ทำให้ติดขัด เขาจึงเปลี่ยนตัว จากประชา พรหมนอก ไปเป็น สุรพงศ์ ที่ไม่มีบารมีในกองทัพ และตำรวจ เลยแปลกไหมครับ ก็เพราะ

ให้สุรพงศ์ มาแล้วเรียกแขกอย่างเดียว เพื่อบีบให้เกิดการนองเลือด แล้วบีบให้ทหารปฎิวัติ , ม. 190 ก็จะหายไป ทางสหรัฐก็ลงมติอนุมัติทันที แล้วก็มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ประเทศ

ไทยก็จะสูญเสียเอกราชทางดินแดน เสียน่านน้ำในอ่าวไทย และอาจจะเลยไปถึงฝั่งอันดามันบางส่วนด้วย กองทัพสหรัฐก็จะเข้ามาควบคุมประเทศในอาเซียนได้มาขึ้น โดยใช้ไทยเป็นฐาน

นอกจากนั้นจะเสียความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับเพื่อนบ้าน และที่สำคัญกับประเทศจีน ซึ่งอาจถึงขั้นตัดความสัมพันธ์ ประเทศชาติก็จะเสียหายมากมาย เพื่อแลกกับผลประโยชน์ของใครบางคน

บางกลุ่ม

ทั้งหมดถูกวางแผนและเตรียมการมาก่อนทั้งสิ้น!
คนไทย.. โดนหลอก!!! (ถั่วต้มจนเปื่อย)

เอกสารสำคัญจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา กรณีการตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยเนื้อความในเอกสารนี้ จะทำให้การชุมนุมที่มีคนออกมาร่วมเป็นล้านคน หรือเรื่องการปฎิรูปประเทศ กลาย

เป็นเรื่องเล็กๆไปเลย เนื่องจาก การที่เราให้ รมว. ต่างประเทศของเราเป็นคนลงนามในสัญญาจ้างนี้ ผูกพันกับไทย ตามกฎหมายระหว่างประเทศจ่ายเงินไปบางส่วน สัญญาจึงสมบูรณ์แล้ว ระยะเวลา

ของสัญญา 22 พ.ย. 2556 ถึง 28 ก.พ. 2557 ประมาน 3 เดือน สั้นมากสำหรับเรื่องใหญ่และสำคัญขนาดนี้แสดงว่าเตรียมการมาก่อนแล้ว

เนื้อหาสำคัญ รัฐบาลไทยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สุรพงศ์ โตวิจักรชัยกุล ได้ว่าจ้าง Davenport McKesson Corporation ให้เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในการล๊อบบี้ให้สมาชิกสภา

คองเกรส ของประเทศสหรัฐอเมริกา ให้อนุมัติ ให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐ มาสร้างฐานทัพเรือ ในประเทศไทย รวมทั้งประเทศไทยจะช่วยเหลือทางทหารในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในอ่าวบริเวณ

น่านน้ำของราชอาณาจักรไทย "หมายความว่าเราจะเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ในอ่าวไทยทั้งหมดแก่สหรัฐทันที อย่างนี้จะไม่เรียกว่าขายชาติได้อย่างไร"

เหตุที่รัฐบาลไทยไปจ้างบริษัทล๊อบบี้ เช่นนี้เพราะอเมริกา มีความประสงค์ที่จะมาตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยมานานแล้วเนื่องจากเป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ และเป็นการปิดล้อมประเทศจีนไม่

ให้แผ่อิทธิพลลงสู่ประเทศอาเซียน แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ เสนอเรื่องเข้าสภาคองเกรสฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะจะถูกตั้งคำถามว่าทางประเทศไทยว่าอย่างไร จึงส่งสัญญานให้ฝ่ายไทย เสนอผ่านบริ

ษัทล๊อบบี้ เขาก็จะรับลูกทันที หากสภาคองเกรส อนุมัติ ก็จะมีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศทันที

"เขาจึงออก พรบ. นิรโทษกรรมสุดซอย เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ซึ่งผ่านสภาในอีก 2 วันถัดจาก พรบ. สุดซอย"

จึงไม่แปลกใจที่ อดีตนายก สามารถเดินทางเข้าออกสหรัฐได้ โดยไม่กลัวว่าจะถูกจับกุม เพราะศาลประจำวอชิงตันได้รับฟ้องกรณีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ไว้แล้ว

ทั้งหมดจึงเป็นการวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เป้าหมายน่าเป็นแหล่งพลังงานในอ่าวไทย เพราะถ้าจะสร้างฐานทัพเรือ ก็คงต้องใช้ที่สนามบินอู่ตะเภา เพราะสร้างเพิ่มเติมอีกไม่มาก และเป็นทั้งสนาม

บินและท่าเรือ แล้วประกาศเขตปลอดภัยของฐานทัพ อาจมีรัศมีถึง 300 กม. เพราะจะมีเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือดำนำพลังนิวเคลียร์ เครื่องบินรบชนิดต่างๆ รวมทั้งต้องนำอาวุธนิวเคลียร์ติดมาด้วย

แน่นอน พื้นที่ดังกล่าวครอบคลุมแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนไทย- เขมร ก็ไม่มีใครเข้ามาได้ เพราะต้องได้รับอนุญาติจากสหรัฐ เขาจึงขุดน้ำมันได้แต่เพียงผู้เดียว และขณะนี้ เซฟรอน ได้

สัมปทานจากรัฐบาลไทยไปทั้ง 15 แปลงแล้ว

แต่พอศาลรัฐธรรมนูญรับฟ้อง กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ทำให้ติดขัด เขาจึงเปลี่ยนตัว จากประชา พรหมนอก ไปเป็น สุรพงศ์ ที่ไม่มีบารมีในกองทัพ และตำรวจ เลยแปลกไหมครับ ก็เพราะ

ให้สุรพงศ์ มาแล้วเรียกแขกอย่างเดียว เพื่อบีบให้เกิดการนองเลือด แล้วบีบให้ทหารปฎิวัติ , ม. 190 ก็จะหายไป ทางสหรัฐก็ลงมติอนุมัติทันที แล้วก็มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ประเทศ

ไทยก็จะสูญเสียเอกราชทางดินแดน เสียน่านน้ำในอ่าวไทย และอาจจะเลยไปถึงฝั่งอันดามันบางส่วนด้วย กองทัพสหรัฐก็จะเข้ามาควบคุมประเทศในอาเซียนได้มาขึ้น โดยใช้ไทยเป็นฐาน

นอกจากนั้นจะเสียความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับเพื่อนบ้าน และที่สำคัญกับประเทศจีน ซึ่งอาจถึงขั้นตัดความสัมพันธ์ ประเทศชาติก็จะเสียหายมากมาย เพื่อแลกกับผลประโยชน์ของใครบางคน

บางกลุ่ม

ทั้งหมดถูกวางแผนและเตรียมการมาก่อนทั้งสิ้น!
//////////////

http://sakdaper.blogspot.com/2014/02/usa.html

ชี้แจงเบื้องหลังเลื่อนการนำเรื่องน้ำมันขึ้นพูดที่ปทุมวัน...

เนื่องจากว่ามีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกรณีที่ผมไม่ได้ขึ้นไปพูดบนเวที กปปส เมื่อคืนวานและทำให้เกิดการเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการจัดเวทีของ กปปส นั้น จึงอยากใช้โอกาสนี้เพื่อชี้แจ้งเพิ่มเติมข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นนะครับ 

ผมได้รับเชิญให้ไปพูดเรื่องการปฏิรูปพลังงานไทยร่วมกับวิทยากรอีก ๒ ท่าน แต่เนื่องจากข้อมูลพื้นฐานต่างกันอย่างมาก ซึ่งในช่วงของการเตรียมเนื้อหานั้นได้มีเนื้อหาไม่ตรงกันหลายอย่าง 

ทางผมและทีมงานของ กปปส พยายามเสวนาถึงหัวข้อบางหัวข้อเพื่อหาจุดร่วมสงวนจุดต่าง แต่เนื่องจากยังมีความเห็นไม่ตรงกันอยู่พอสมควรหากมีการเสวนาจะทำให้มวลมหาประชาชนสับสนได้ 

ทางทีมงาน กปปส จึงได้เห็นตรงกันว่าให้เลื่อนไปก่อน แต่จากการที่ได้พูดคุยที่ข้างล่างเวทีนั้น ต้องยอมรับว่า ท่าน ดร. ปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ได้เป็นบุคคลที่น่าชื่นชมท่านนึงคือ เกี่ยวกับข้อมูลด้านพลังงานไทยท่านยึดตามข้อเท็จจริงเป็นหลัก และ อีกท่าน คือหมอ ระวี แกนนำ กคป. ก็พร้อมที่จะเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อชาติ แต่อาจจะต้องมีการหารือด้านข้อมูลให้ตกผลึกกันก่อน เพื่อป้องกันพี่น้องมวลมหาประชาชนสับสน 

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวทั่วกันนะครับ หากมีเรื่องของการเสวนาปฎิรูปพลังงานอย่างยั่งยืนของประเทศไทย และทาง กปปส เชิญผมขึ้นเวที ผมก็ยังยินดีที่จะขึ้นเวทีเหมือนเดิมนะครับ ขอขอบคุณครับ

"สุเทพ" แฉชาวนาได้เงินรับจำข้าวเพียง 10,500 บาท เชื่อรัฐบาลไม่กล้าประกาศมีข้าวในสต๊อกเท่าไร

"สุเทพ" แฉชาวนาได้เงินรับจำข้าวเพียง 10,500 บาท เชื่อรัฐบาลไม่กล้าประกาศมีข้าวในสต๊อกเท่าไร หวั่นรู้มีการทุจริตและข้าวทั้งหมดไม่มีอยู่จริง ขอมวลชอย่าเสียขวัญแม้ แกนนำถูกจับ ยันสู้ต่อจนกว่าจะได้รับชัยชนะ!!!

10 ก.พ. 19.52 เวที กปปส. ปทุมวัน นายสุเทพฯ เลขา กปปส. ปราศรัย 

วันนี้ เราได้ร่วมเดินขบวน ในถนนที่ ศรส. ประกาศห้ามเดิน เราไปเดินมาทั้งวัน ถามว่าผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมฯ ก็คงบอกว่าผิด แต่ไม่กล้าจับ ไม่รู้ไปซุ่มรูไหน การเดินขบวนในวันนี้นั้น เหมือนการเดินขบวนทุกครั้ง ที่เราประกาศเจตนารมณ์ ขจัดระบอบทักษิณ ขับไล่ยิ่งลักษณ์ เดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย และ เป็นการเดินขบวนครั้งที่ 2 ที่มีการรับบริจาคเงินช่วยเหลือชาวนา เรียกร้องเงินค่าจำนำข้าวจากรัฐบาล
โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เป็นมหากาพย์ การโกง โกงทุกขั้นตอน ทุกกระบวนการ รับจำนำข้าวจากชาวนา 15000 บาท แต่ชาวนาได้แค่ 10500 บาท เพราะหักค่าต่างๆ ไม่ว่าความชื้น และสิ่งเจอปน ส่วนต่าง ที่เหลือ 4500 บาท ไม่รู้ไปอยู่ในท้องหมาที่ไหน มีการเอาข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน มาสวมสิทธิ์แทนข้าวไทย เอาข้าวดี ไปขายในราคาข้าวเน่า โกงกันทุกขั้นตอน รัฐบาลไม่เคยมีการออกมาแถลงความชัดเจนเรื่องจำนำข้าว มีกี่ล้านตันกันแน่ ออกมาแถลงว่ามี 18 ล้านตัน แต่ชาวนาไม่เชื่อว่ามี18 ล้านตัน เชื่อว่ามีแต่ลม และ ชาวนายังเชื่อว่า รัฐบาลเอาข้าวดี ไปขายหมดแล้วเหลือแต่ข้าวเน่า พวกนี้อ้างอย่างเดียวเป็นความลับทางราชการ เปิดเผยไม่ได้ บอกว่าเป็นขายข้าวไทยกับจีน หรือ G2G แต่รัฐบาลจีนออกมาปฏิเสธแล้วว่า ไม่เคยทำ G2G กับรัฐบาลไทย แม้แต่น้อย นี่เป็นการโกหกของรัฐบาล นี่เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และสมุนบริวารต่อไป
รัฐบาลไม่เคยชี้แจงว่าข้าวมีทั้งหมดเท่าไร เพราะกลัวรู้ว่า ข้าวเน่า ข้าที่เอามาสวมสิทธิ์ และข้าวไม่มีอยู่จริง กลัวประชาชน กลัวถูกดำเนินคดีและติดคุกแน่นอน รู้ว่าพวกมันกินข้าวกันทุกเม็ด ชาวนาจึงตัดสินใจ ไปดูทุกโกดัง ว่ามีข้าวอยู่เท่าไร เพราะต้องให้รัฐบาลเอาข้าวไปขาย มาใช้หนี้ชาวนา ซึ่งมีทางเดียว เพราะตอนนี้รัฐบาลไปกู้ธนาคารไหน เขาก็ไม่ให้กู้กัน
ชาวนาหวังจำนำข้าว ให้รัฐบาล เพราะหวังจะได้เงิน เพราะรัฐบาลกลับเบี้ยว ไม่ยอมจ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนา ชาวนารอมา 6 เดือนแล้วยังไม่ได้ตัง เราฟ้องคดีทางแพ่งและอาญาได้ทันที โดยทางสภาทนายความ รับเป็นผู้ฟ้องแทนชาวนา เราจึงหาทุนให้กับชาวนา ไปให้ค่าธรรมเนียม ค่าฟ้อง ค่าอากร ค่าหมายศาล แล้ว ไม่ต้องดำเนินการฟ้องแบบอนาถาอีกต่อไป และคิดว่าศาลคงเห็นใจ เร่งตัดสินคดีให้ชาวนา เงินที่เราเดินขบวนช่วยเรี่ยไรมา ก็จะเอาไปช่วยเหลือชาวนา ในวันนี้ ที่มีประชาชนได้ออกมาร่วมมือ ร่วมบริจาค และให้กำลังใจชาวนา จำนวนมาก จากนั้นได้อ่านรายนามอ่านจดหมายของผู้บริจาคเงินช่วยเหลือชาวนา และกล่าวว่าแม้คนเหล่านี้ไม่ได้เป็นญาติเป็นพี่น้อง ของชาวนาเหล่านั้น แต่เป็นการช่วยเหลือชาวนาอย่างแท้จริง เพราะว่าเขารักชาวนา และเขารู้ว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะโกงเงินจำนำข้าวของชาวนาได้ มีแต่พวกหมาที่ไม่มีน้ำตา ไม่มีความเห็นใจชาวนา นั้นคือ คนตระกูลชินวัตรและลูกสมุนบริวารของมัน ที่โกงบ้านกินเมือง จนบ้านเมืองจะฉิบหาย พวกนี้มันอำมหิตจริงๆ ไม่เคยสนใจน้ำตาไม่ดูดำดูดีชาวนา พวกมึงจะเป็นรัฐบาลของประชาชนอีกทำไม ชาวนาไปถึงที่สุมหัวของมัน ที่ สนง.ปลัดกห. ในวันนี้มันบอกเป็น นรม. แต่มันไม่ออกมาพบชาวนาแม้แต่น้อย มันยังไม่มีคำตอบให้ชาวนาเลย
ตอบโต้ ศรส. ที่กล่าวหาว่า กปปส. เอาชาวนาที่เดือดร้อนมาเป็นประเด็นทางการเมือง ว่า เราไม่ได้เอาชาวนามาเป็นเครื่องมือทางการเมือง แต่ตนบอกว่า กปปส. อาสาจะเป็นเครื่องมือของชาวนา ในการเรียกร้องทวงความเป็นธรรมให้ชาวนา มันโหดร้ายอำมหิตกับเขา มันไม่ดูดำดูดีชาวนา พวกเราจึงออกมาช่วยชาวนา พร้อมเรียกร้องให้ มวลมหาประชาชน ช่วยติดตามรัฐบาล ในการแถลงประเด็นการบิดเบือนการต่อสู้ของชาวนาด้วย ตนจึงบอกว่า ชาวนาไม่ได้ต่อสู้ด้วยความโดดเดี่ยวอีกต่อไป พวกเราและมวลมหาประชาชนทั้งประเทศ จะร่วมต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้ชาวนา เราจึงตัดสินใจหาเงินไปสนับสนุนร่วมกับนายกชาวนาไทย และ นายกสภาททนายความ ในการออกค่าใช้จ่ายฟ้องร้องดำเนินคดี กับรัฐบาลทุกคดี วันที่ 7 ก.พ. ตนเดินขบวน ได้เงินมา 12 ถุง 2 กระสอบ ได้เงินมา 9.2 ล้านบาท วันนี้ตนเดินขบวน ได้เงินมา 19 ถุง น่าจะได้น้อยกว่าหรือมากกว่าวันที่ 7 ก.พ.เล็กน้อย ตอนนี้อยู่ระหว่างการนับ ตนจะหาให้ได้เงิน 20 ล้านบาทแน่นอน เราจะต่อสู้เพื่อให้ได้เงินจำนำข้าวของชาวนาทุกบาททุกสตางค์
วันนี้เกิดเหตุระเบิดที่สะพานผ่านฟ้า คนร้ายเอาไปวางไว้ กะจะทำร้ายผู้ชุมนุม แต่เคราะห์ร้าย มี จนท. กทม. บาดเจ็บ 6 คน โดยทาง กปปส. จะเข้าไปดูแลค่าใช้จ่ายในค่ารักษาพยาบาลด้วย และในเหตุการณ์นี้ ผู้ก่อเหตุเป็นสมุนบริวารของยิ่งลักษณ์แน่นอน
วันนี้ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ถูก จนท.ตำรวจจับกุมในข้อหาผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยทีมของ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผช.ผบ.ตร. ซึ่งตามข่าว พล.ต.ท.วินัย ฯ เป็นหลานเขยของ คุณหญิงพจจมาน ตอนนี้ นายสนธิญาณฯ ถูกความคุมตัวที่ ตชด. ภาค 1 ขอให้มวลชนอย่าเสียขวัญใดๆ ทั้งสิ้น เราจะส่งทนายไปเยี่ยม และต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ส่วนแกนนำที่เหลือก็จะต่อสู้ต่อไป จนกว่าจะได้รับชัยชนะ ตนจะร่วมยืนหยัดต่อสู้จนกว่าจะขจัด รัฐบาลยิ่งลักษณ์และระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
21.15 จบการปราศรัย