นายชูชาติ แสงสังข์ อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสผ่าน เฟชบุ๊ค Chuchart Srisaeng แนะนำให้ผู้เกี่ยวข้องในดดีฟ้องเพิกถอน พรก.ฉุกเฉิน อ้างคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา จี้"ธาริต เพ็งดิษฐ์"ถอนหมายจับ 17 แกนนำ
.....คดีที่นายถาวร เสนเนียม เป็นโจทก์ ฟ้อง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ 1 ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง ที่ 2 พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ที่ 3 เป็นจำเลย ขอให้เพิกถอนการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ซึ่งศาลนัดสืบพยานในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ปีนี้นั้น
.....ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2557 ว่า ฯลฯ ส่วนประกาศและข้อกำหนดอื่น ๆ ให้จำเลยทั้งสามกระทำการโดยสุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เกินสมควรแก่เหตุ หรือไม่เกินกว่ากรณีจำเป็น เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนและพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งต้องปฏิบัติตามประกาศและข้อกำหนดนั้น
.....วันนี้โจทก์ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเพื่อให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามมิให้จำเลยทั้งสามกระทำในกรณีต่อไปนี้
......1การดำเนินการตรวจสอบผู้ที่จำเลยที่ 2 อ้างว่า เป็นผู้ช่วยเหลือทางการเงินหรือของใช้อื่น ๆ ที่เรียกว่าเป็นท่อน้ำเลี้ยงแก่ประชาชนที่ร่วมชุมนุมกันอยู่
......2 การเรียกผู้บริหารของโรงแรมดุสิตธานีและโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตอล ไปสอบสวนและเพื่อห้ามมิให้ที่พักแก่แกนนำ กปปส.ทุกคน
......3 ดำเนินการขอให้ออกหมายจับบุคคลต่าง ๆ อีก 39 คน
.....ศาลแพ่งมีคำสั่งว่า ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองให้แล้ว ตามคำสั่งลงวันที่ 31 มกราคม 2557 จึงไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งใหม่อีก
.....คำสั่งของศาลแพ่งดังกล่าวเป็นการยืนยันว่า การที่ ศรส.กระทำการหรือมีคำสั่งต่าง ๆ ที่ทำให้ประชาชนเสียหายรวมทั้งการขอให้ศาลอาญาออกหมายจับแกนนำ กปปส.จำนวน 17 คนซึ่งศาลอาญาออกหมายจับแล้วเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของศาลแพ่งทั้งสิ้น
.....ดังนั้นโจทก์จึงควรยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง ขอให้เรียกนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่ไปขอให้ศาลอาญาออกหมายแกนนำ กปปส 17 คน ซึ่งรวมทั้งโจทก์ด้วย และที่กำลังขอให้ศาลอาญาออกหมายจับเพิ่มอีก 39 คน รวมทั้งการกระทำอื่น ๆ มาสอบถามถึงการกระทำที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของศาลแพ่งดังกล่าว
.....โดยขอให้ศาลแพ่งสั่งให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ไปขอให้ศาลอาญาเพิกถอนหมายจับที่ออกไปแล้ว และขอถอนคำร้องที่ขอให้ศาลอาญาออกหมายเพิ่มอีก 39 คน ให้หยุดการกระทำใด ๆ ที่ทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายในทุกกรณี หากนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ไม่ปฏิบัติตามก็ขอให้ศาลแพ่งสั่งขังจนกว่าจะยอมปฏิบัติตาม ครับ
.....ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2557 ว่า ฯลฯ ส่วนประกาศและข้อกำหนดอื่น ๆ ให้จำเลยทั้งสามกระทำการโดยสุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เกินสมควรแก่เหตุ หรือไม่เกินกว่ากรณีจำเป็น เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนและพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งต้องปฏิบัติตามประกาศและข้อกำหนดนั้น
.....วันนี้โจทก์ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเพื่อให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามมิให้จำเลยทั้งสามกระทำในกรณีต่อไปนี้
......1การดำเนินการตรวจสอบผู้ที่จำเลยที่ 2 อ้างว่า เป็นผู้ช่วยเหลือทางการเงินหรือของใช้อื่น ๆ ที่เรียกว่าเป็นท่อน้ำเลี้ยงแก่ประชาชนที่ร่วมชุมนุมกันอยู่
......2 การเรียกผู้บริหารของโรงแรมดุสิตธานีและโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตอล ไปสอบสวนและเพื่อห้ามมิให้ที่พักแก่แกนนำ กปปส.ทุกคน
......3 ดำเนินการขอให้ออกหมายจับบุคคลต่าง ๆ อีก 39 คน
.....ศาลแพ่งมีคำสั่งว่า ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองให้แล้ว ตามคำสั่งลงวันที่ 31 มกราคม 2557 จึงไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งใหม่อีก
.....คำสั่งของศาลแพ่งดังกล่าวเป็นการยืนยันว่า การที่ ศรส.กระทำการหรือมีคำสั่งต่าง ๆ ที่ทำให้ประชาชนเสียหายรวมทั้งการขอให้ศาลอาญาออกหมายจับแกนนำ กปปส.จำนวน 17 คนซึ่งศาลอาญาออกหมายจับแล้วเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของศาลแพ่งทั้งสิ้น
.....ดังนั้นโจทก์จึงควรยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง ขอให้เรียกนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่ไปขอให้ศาลอาญาออกหมายแกนนำ กปปส 17 คน ซึ่งรวมทั้งโจทก์ด้วย และที่กำลังขอให้ศาลอาญาออกหมายจับเพิ่มอีก 39 คน รวมทั้งการกระทำอื่น ๆ มาสอบถามถึงการกระทำที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของศาลแพ่งดังกล่าว
.....โดยขอให้ศาลแพ่งสั่งให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ไปขอให้ศาลอาญาเพิกถอนหมายจับที่ออกไปแล้ว และขอถอนคำร้องที่ขอให้ศาลอาญาออกหมายเพิ่มอีก 39 คน ให้หยุดการกระทำใด ๆ ที่ทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายในทุกกรณี หากนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ไม่ปฏิบัติตามก็ขอให้ศาลแพ่งสั่งขังจนกว่าจะยอมปฏิบัติตาม ครับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัว "นายสนธิญาน ชื่นฤทัยในธรรม"แกนนำ กปปส.ที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ ระหว่างที่ทานอาหารที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น