PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ปูดรัฐบาลให้สหรัฐใช้น่านน้ำไทยจี้กกต.สอบ

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 16:42

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"ม.ล.วัลย์วิภา"ยื่นกกต.สอบรัฐบาลกรณี ก.ต่างประเทศ ตกลงทำสัญญาบริษัทสหรัฐสร้างฐานทัพอากาศยานทหารเรือ ในน่านน้ำของไทย

ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ บุรุษรัตนพันธุ์ ได้เดินทางนำเอกสารหลักฐานเข้ายื่นเรื่องต่อ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ถึงกรณีที่พบว่ารัฐบาลโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการตกลงสัญญาต่อบริษัท Davenport MCkesson Corporation ของสหรัฐอเมริกา เพื่อให้กระทรวงกลาโหม ของสหรัฐ สร้างฐานทัพอากาศยานทหารเรือและให้ช่วยเหลือทางทหารในการตั้งเขตปลอดท่าเรือ ในน่านน้ำของไทย ที่อาจจะส่งผลให้มีสำรวจทรัพยากรทางธรรมชาติและปิโตรเลียม ในพื้นที่อ่าวไทย

โดย ม.ล.วัลย์วิภา กล่าวว่า สัญญาดังกล่าวมีการทำขึ้นเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2556 ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญา ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ อีกทั้งมีการจ่ายเงินมัดจำสัญญาล่วงหน้า ในระหว่างที่มีการเลือกตั้ง ถึง 20,000 เหรียญสหรัฐฯจึงถือว่าเป็นการสัญญาที่เข้าข่ายการสัญญาว่าจะให้ประโยชน์ ต่อบุคคลหรือองค์กรอื่น ส่งผลให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาเป็นการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใสหรือไม่ อีกทั้งพบว่าจากสัญญาดัง
กล่าวมีท่าทีที่ทางสหรัฐอเมริกา กดดันรัฐบาลไทย และสนับสนุนให้มีการจัดการเลือกตั้ง พร้อมทั้งมีการประณามกลุ่มผู้ชุมนุมภายในประเทศ ทั้งที่สถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นเดียวกับ ประเทศยูเครน แต่ทางการสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนที่แตกต่างกัน

ดังนั้น จึงขอให้ทางคณะกรรมการการการเลือกตั้ง ได้พิจารณาสอบสวน ซึ่ง นายสมชัย กล่าวว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ มีรายงานบทความชิ้นหนึ่งในโซเชียลมีเดีย เรื่อง "อ้างสัญญาลับUSAทักษิณสร้างฐานทัพยึดแหล่งน้ำมันไทยคนไทย.. โดนหลอก!!! (ถั่วต้มจนเปื่อย) "

โดยมีการระบุว่า เอกสารสำคัญจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา กรณีการตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยเนื้อความในเอกสารนี้ จะทำให้การชุมนุมที่มีคนออกมาร่วมเป็นล้านคน หรือเรื่องการปฎิ

รูปประเทศ กลายเป็นเรื่องเล็กๆไปเลย เนื่องจาก การที่เราให้ รมว. ต่างประเทศของเราเป็นคนลงนามในสัญญาจ้างนี้ ผูกพันกับไทย ตามกฎหมายระหว่างประเทศจ่ายเงินไปบางส่วน สัญญาจึง

สมบูรณ์แล้ว ระยะเวลาของสัญญา 22 พ.ย. 2556 ถึง 28 ก.พ. 2557 ประมาน 3 เดือน สั้นมากสำหรับเรื่องใหญ่และสำคัญขนาดนี้แสดงว่าเตรียมการมาก่อนแล้ว

เนื้อหาสำคัญ รัฐบาลไทยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สุรพงศ์ โตวิจักรชัยกุล ได้ว่าจ้าง Davenport McKesson Corporation ให้เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในการล๊อบบี้ให้สมาชิกสภา

คองเกรส ของประเทศสหรัฐอเมริกา ให้อนุมัติ ให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐ มาสร้างฐานทัพเรือ ในประเทศไทย รวมทั้งประเทศไทยจะช่วยเหลือทางทหารในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในอ่าวบริเวณ

น่านน้ำของราชอาณาจักรไทย "หมายความว่าเราจะเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ในอ่าวไทยทั้งหมดแก่สหรัฐทันที อย่างนี้จะไม่เรียกว่าขายชาติได้อย่างไร"

เหตุที่รัฐบาลไทยไปจ้างบริษัทล๊อบบี้ เช่นนี้เพราะอเมริกา มีความประสงค์ที่จะมาตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยมานานแล้วเนื่องจากเป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ และเป็นการปิดล้อมประเทศจีนไม่

ให้แผ่อิทธิพลลงสู่ประเทศอาเซียน แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ เสนอเรื่องเข้าสภาคองเกรสฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะจะถูกตั้งคำถามว่าทางประเทศไทยว่าอย่างไร จึงส่งสัญญานให้ฝ่ายไทย เสนอผ่านบริ

ษัทล๊อบบี้ เขาก็จะรับลูกทันที หากสภาคองเกรส อนุมัติ ก็จะมีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศทันที

"เขาจึงออก พรบ. นิรโทษกรรมสุดซอย เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ซึ่งผ่านสภาในอีก 2 วันถัดจาก พรบ. สุดซอย"

จึงไม่แปลกใจที่ อดีตนายก สามารถเดินทางเข้าออกสหรัฐได้ โดยไม่กลัวว่าจะถูกจับกุม เพราะศาลประจำวอชิงตันได้รับฟ้องกรณีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ไว้แล้ว

ทั้งหมดจึงเป็นการวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เป้าหมายน่าเป็นแหล่งพลังงานในอ่าวไทย เพราะถ้าจะสร้างฐานทัพเรือ ก็คงต้องใช้ที่สนามบินอู่ตะเภา เพราะสร้างเพิ่มเติมอีกไม่มาก และเป็นทั้งสนาม

บินและท่าเรือ แล้วประกาศเขตปลอดภัยของฐานทัพ อาจมีรัศมีถึง 300 กม. เพราะจะมีเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือดำนำพลังนิวเคลียร์ เครื่องบินรบชนิดต่างๆ รวมทั้งต้องนำอาวุธนิวเคลียร์ติดมาด้วย

แน่นอน พื้นที่ดังกล่าวครอบคลุมแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนไทย- เขมร ก็ไม่มีใครเข้ามาได้ เพราะต้องได้รับอนุญาติจากสหรัฐ เขาจึงขุดน้ำมันได้แต่เพียงผู้เดียว และขณะนี้ เซฟรอน ได้

สัมปทานจากรัฐบาลไทยไปทั้ง 15 แปลงแล้ว

แต่พอศาลรัฐธรรมนูญรับฟ้อง กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ทำให้ติดขัด เขาจึงเปลี่ยนตัว จากประชา พรหมนอก ไปเป็น สุรพงศ์ ที่ไม่มีบารมีในกองทัพ และตำรวจ เลยแปลกไหมครับ ก็เพราะ

ให้สุรพงศ์ มาแล้วเรียกแขกอย่างเดียว เพื่อบีบให้เกิดการนองเลือด แล้วบีบให้ทหารปฎิวัติ , ม. 190 ก็จะหายไป ทางสหรัฐก็ลงมติอนุมัติทันที แล้วก็มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ประเทศ

ไทยก็จะสูญเสียเอกราชทางดินแดน เสียน่านน้ำในอ่าวไทย และอาจจะเลยไปถึงฝั่งอันดามันบางส่วนด้วย กองทัพสหรัฐก็จะเข้ามาควบคุมประเทศในอาเซียนได้มาขึ้น โดยใช้ไทยเป็นฐาน

นอกจากนั้นจะเสียความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับเพื่อนบ้าน และที่สำคัญกับประเทศจีน ซึ่งอาจถึงขั้นตัดความสัมพันธ์ ประเทศชาติก็จะเสียหายมากมาย เพื่อแลกกับผลประโยชน์ของใครบางคน

บางกลุ่ม

ทั้งหมดถูกวางแผนและเตรียมการมาก่อนทั้งสิ้น!
คนไทย.. โดนหลอก!!! (ถั่วต้มจนเปื่อย)

เอกสารสำคัญจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา กรณีการตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยเนื้อความในเอกสารนี้ จะทำให้การชุมนุมที่มีคนออกมาร่วมเป็นล้านคน หรือเรื่องการปฎิรูปประเทศ กลาย

เป็นเรื่องเล็กๆไปเลย เนื่องจาก การที่เราให้ รมว. ต่างประเทศของเราเป็นคนลงนามในสัญญาจ้างนี้ ผูกพันกับไทย ตามกฎหมายระหว่างประเทศจ่ายเงินไปบางส่วน สัญญาจึงสมบูรณ์แล้ว ระยะเวลา

ของสัญญา 22 พ.ย. 2556 ถึง 28 ก.พ. 2557 ประมาน 3 เดือน สั้นมากสำหรับเรื่องใหญ่และสำคัญขนาดนี้แสดงว่าเตรียมการมาก่อนแล้ว

เนื้อหาสำคัญ รัฐบาลไทยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สุรพงศ์ โตวิจักรชัยกุล ได้ว่าจ้าง Davenport McKesson Corporation ให้เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในการล๊อบบี้ให้สมาชิกสภา

คองเกรส ของประเทศสหรัฐอเมริกา ให้อนุมัติ ให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐ มาสร้างฐานทัพเรือ ในประเทศไทย รวมทั้งประเทศไทยจะช่วยเหลือทางทหารในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในอ่าวบริเวณ

น่านน้ำของราชอาณาจักรไทย "หมายความว่าเราจะเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ในอ่าวไทยทั้งหมดแก่สหรัฐทันที อย่างนี้จะไม่เรียกว่าขายชาติได้อย่างไร"

เหตุที่รัฐบาลไทยไปจ้างบริษัทล๊อบบี้ เช่นนี้เพราะอเมริกา มีความประสงค์ที่จะมาตั้งฐานทัพเรือในประเทศไทยมานานแล้วเนื่องจากเป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ และเป็นการปิดล้อมประเทศจีนไม่

ให้แผ่อิทธิพลลงสู่ประเทศอาเซียน แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ เสนอเรื่องเข้าสภาคองเกรสฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะจะถูกตั้งคำถามว่าทางประเทศไทยว่าอย่างไร จึงส่งสัญญานให้ฝ่ายไทย เสนอผ่านบริ

ษัทล๊อบบี้ เขาก็จะรับลูกทันที หากสภาคองเกรส อนุมัติ ก็จะมีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศทันที

"เขาจึงออก พรบ. นิรโทษกรรมสุดซอย เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ซึ่งผ่านสภาในอีก 2 วันถัดจาก พรบ. สุดซอย"

จึงไม่แปลกใจที่ อดีตนายก สามารถเดินทางเข้าออกสหรัฐได้ โดยไม่กลัวว่าจะถูกจับกุม เพราะศาลประจำวอชิงตันได้รับฟ้องกรณีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ไว้แล้ว

ทั้งหมดจึงเป็นการวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เป้าหมายน่าเป็นแหล่งพลังงานในอ่าวไทย เพราะถ้าจะสร้างฐานทัพเรือ ก็คงต้องใช้ที่สนามบินอู่ตะเภา เพราะสร้างเพิ่มเติมอีกไม่มาก และเป็นทั้งสนาม

บินและท่าเรือ แล้วประกาศเขตปลอดภัยของฐานทัพ อาจมีรัศมีถึง 300 กม. เพราะจะมีเรือบรรทุกเครื่องบิน เรือดำนำพลังนิวเคลียร์ เครื่องบินรบชนิดต่างๆ รวมทั้งต้องนำอาวุธนิวเคลียร์ติดมาด้วย

แน่นอน พื้นที่ดังกล่าวครอบคลุมแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนไทย- เขมร ก็ไม่มีใครเข้ามาได้ เพราะต้องได้รับอนุญาติจากสหรัฐ เขาจึงขุดน้ำมันได้แต่เพียงผู้เดียว และขณะนี้ เซฟรอน ได้

สัมปทานจากรัฐบาลไทยไปทั้ง 15 แปลงแล้ว

แต่พอศาลรัฐธรรมนูญรับฟ้อง กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 ทำให้ติดขัด เขาจึงเปลี่ยนตัว จากประชา พรหมนอก ไปเป็น สุรพงศ์ ที่ไม่มีบารมีในกองทัพ และตำรวจ เลยแปลกไหมครับ ก็เพราะ

ให้สุรพงศ์ มาแล้วเรียกแขกอย่างเดียว เพื่อบีบให้เกิดการนองเลือด แล้วบีบให้ทหารปฎิวัติ , ม. 190 ก็จะหายไป ทางสหรัฐก็ลงมติอนุมัติทันที แล้วก็มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ประเทศ

ไทยก็จะสูญเสียเอกราชทางดินแดน เสียน่านน้ำในอ่าวไทย และอาจจะเลยไปถึงฝั่งอันดามันบางส่วนด้วย กองทัพสหรัฐก็จะเข้ามาควบคุมประเทศในอาเซียนได้มาขึ้น โดยใช้ไทยเป็นฐาน

นอกจากนั้นจะเสียความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับเพื่อนบ้าน และที่สำคัญกับประเทศจีน ซึ่งอาจถึงขั้นตัดความสัมพันธ์ ประเทศชาติก็จะเสียหายมากมาย เพื่อแลกกับผลประโยชน์ของใครบางคน

บางกลุ่ม

ทั้งหมดถูกวางแผนและเตรียมการมาก่อนทั้งสิ้น!
//////////////

http://sakdaper.blogspot.com/2014/02/usa.html

ไม่มีความคิดเห็น: