PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

จับตาสงครามตัวแทนใกล้วตัวกว่าที่คิด


Proxy war หรือสงครามตัวแทนนั้นใกล้ตัวขึ้นไปทุกที คนไทยส่วนมากจะนั่งดูแล้วบอกว่ามันไกลบ้านเราเสียเหลือเกิน ทั้งสงครามยิว-ปาเลสไตน์ สงครามยูเครน-รัสเซีย และที่เพิ่งเกิดขึ้นสงคราม ซาอุดิอาราเบีย-เยเมน นั้นไม่กระทบอะไรกับบ้านเรา แต่ผมพยายามบอกมาหลายครั้งว่าสงครามตัวแทนนั้นมันคืบคลานมาใกล้บ้านเรากว่าที่คิด

ทุกสงครามที่ผมบอกมานั้นคือสงครามตัวแทนที่มีชาติอื่นรบแทนอเมริกาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น อิสราเอล ยูเครน ซาอุดิอาราเบีย อียิปต์ จอร์แดน สิ่งที่ปฎิเสธไม่ได้คือประเทศเหล่านั้นมีอเมริกาอัดอาวุธเข้าไปแบบไม่อั้น และในสงครามเยเมนเมื่อสองเดือนที่แล้วมีการใช้คลัสเตอร์บอมบ์ที่มีประเทศทั่วโลกร้อยกว่าประเทศลงนามว่าจะไม่ใช้ เพราะมันเป็นระเบิดแตกอากาศแล้วลูกไฟฟอสฟอร์รัสขาวจะกระจายลงมาเผาทุกอย่างแบบดับไม่ได้ โดนร่างกายคนก็เผาไหม้จนถึงกระดูกตายแบบทรมาณ 

แต่อเมริกาและประเทศบริวารทางการทหารไม่มีประเทศไหนลงนามในการเลิกใช้ระเบิดที่โหดร้ายแบบนี้ ซึ่งในช่วงปีเดียวที่ผ่านมาทั้งสงคราม อิสราเอล-ปาเลสไตน์ และ ซาอุดิอาราเบีย-เยเมน นั้นมีการถล่มด้วยคลัสเตอร์บอมบ์จากอเมริกาที่ส่งอาวุธทุกอย่างเข้าไปจนมีแต่คนด่ากันทั่วโลก แต่คลัสเตอร์บอมบ์ไม่มีการใช้ที่สงครามยูเครน เพราะว่าถ้าเอาออกมาใช้เมื่อไรเจอโหดสัดรัสเซียกระซวกกลับไม่เลี้ยงแน่นอน เพราะรัสเซียก็มีและมีมากกว่าเสียด้วย 

วันนี้ผมเข้าไปอ่านข่าวจากเพนตากอน ได้เจอข่าวที่น่าเอามาเล่าให้ฟังอีกหลายเรื่อง เมื่อตอนต้นปีก่อนผมเคยเล่าเรื่องที่ญี่ปุ่นจะแก้รัฐธรรมนูญของให้มีกองทัพของตัวเองได้ และสามารถสร้างอาวุธออกขายแก่ประเทศต่างๆได้ แต่ญี่ปุ่นนั้นมีกองกำลังป้องกันประเทศที่เหมือนทหารมานานแล้ว จะบอกว่าในเอเซียถ้าไม่นับจีน กองทัพอินเดียที่ว่าใหญ่แล้ว ถ้าเจอกองกำลังป้องกันตัวเองของญี่ปุ่นเข้าไปอาจจะถึงกับสะดุดเบรคล้อตายหยุดคาที่ได้เลยทีเดียว 

ญี่ปุ่นนั้นเลี่ยงข้อกำหนดหลังสงครามโลกที่ไม่ให้สะสมอาวุธรวมถึงต่อเรือรบขนาดใหญ่มาตลอด ทั้งเรือพิฆาตดาดฟ้าเรียบขนาดใหญ่ที่เครื่องบินลงได้แบบสบายๆ ฝูงใหญ่ เครื่องบินรบ Mitsubishi F-15 Eagle ที่สร้างเองและที่อเมริกาขายให้ญี่ปุ่นแบบไม่มีเบรคจากรัฐสภาของสหรัฐ ขอซื้ออะไรได้หมดแม้กระทั้ง Lockheed Martin F-35 Lightning II ที่อเมริกาหวงนักหวงหนาก็ขายให้ญี่ปุ่นได้ทั้งนั้น เพราะรู้ว่าญี่ปุ่นเป็นพร็อกซี่รบกับจีนแทนอเมริกาให้ได้ไม่ต่างกับหลายๆชาติในตะวันออกกลาง

เรื่องที่ผมอ่านข่าววันนี้คือ เพ็นตากอนได้ส่งหนังสือไปรัฐสภาสหรัฐเพื่ออนุมัติการขายเครื่องบิน Bell Boeing V-22 Osprey ให้ญี่ปุ่นฝูงใหญ่จำนวนล็อตแรก 17ลำ พร้อมเครื่องยนต์สำรองและอุปกรณ์เสริมเพียบไปหมด มูลค่า 3000 ล้านดอลล่า ซึ่งก่อนหน้านั้นญี่ปุ่นก็ซื้อ ยานสะเทินน้ำสะเทินบก AAV-7 หรือ Amphibious Assault Vehicle ไปอีกจำนวนมากหลายสิบคัน ถึงวันนี้อาจจะมีหลักร้อยคันแล้วก็ได้

V-22 นั้นเป็นเครื่องบินที่ขึ้นลงทางดิ่งได้แบบเฮลิค็อปเตอร์ แต่บินได้แบบเครื่องบินปีกตรึงธรรมดา ดังนั้นมันจึงใช้งานได้อเนกประสงค์มากและเดินทางได้เร็วกว่าเฮลิค็อปเตอร์มาก จากการดูอาวุธที่ญี่ปุ่นซื้อในล็อตหลังๆ นี้ดูเหมือนญี่ปุ่นกำลังเตรียมการที่จัดการรบกับการยกพลขึ้นบกอยู่ เพราะทั้ง V-22 Osprey และ AAV-7 มันส่อให้เห็นว่าสงครามนี้ไม่ใช่ญี่ปุ่นตั้งรับในประเทศเสียแล้ว มันคือสงครามรุกออกไปภายนอกประเทศซึ่งวันนี้ผมก็ไม่เห็นใครที่ญี่ปุ่นจะรบด้วยนอกจากจีน

เวลานี้ญี่ปุ่นกำลังมีข้อพิพาทกับจีนเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลและหมูเกาะต่างๆ ทั้งหมู่เกาะทาเคชิมะหรือหมู่เกาะด็อกโดในภาษาเกาหลี ซึ่งเป็นปัญหาระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ และหมู่เกาะเซนกากุ หรือทีเรียกกันเป็นภาษาจีนว่าหมู่เกาะเตียวหยู ซึ่งเป็นปัญหาระหว่าญี่ปุ่นกับจีน แต่เรื่องเกาะทาเคชิมะนั้นยังไม่รุนแรงเพราะทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีนั้นมีอเมริกาเป็นตัวกลางทำหน้าที่พี่ใหญ่คอยประณีประนอมให้สองฝ่ายอยู่ตลอดเวลา แต่กับจีนนั้นหมู่เกาะเซนกากุนั้นร้อนแรงกว่าเพราะมันพร้อมจะปะทะทางทหารได้ทุกเวลา เพียงแต่จีนยังไม่กล้าลุกล้ำเข้าไปสร้างฐานทัพและรันเวย์เครื่องบินรบเหมือนหมู่เกาะทางตอนใต้ที่มีปัญหากับเวียดนามและฟิลิปินส์ในเวลานี้

เรื่องสงครามระหว่างจีนและญี่ปุ่นนั้นอาจจมีแน่สักวันหนึ่ง ซึ่งจีนก็รู้ญี่ปุ่นก็รู้ ไม่อย่างนั้นคงไม่ดิ้นรนหาทางแก้รัฐธรรมนูญให้สามารถมีทหารและกำลังรบได้อีกครั้งในรอบเจ็ดสิบปีหลังจากสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งในตอนแรกนั้นอาจจะเกิดขึ้นไม่ใช่การขัดแย้งกับจีนและญี่ปุ่นโดยตรง แต่อาจจะเกิดระหว่างเวียดนามและฟิลิปินส์จนลามไปถึงญี่ปุ่น เพราะจะให้ญี่ปุ่นและจีนก่อสงครามรบกันตรงๆคงต้องรอไปถึงชาติหน้า เพราะทั้งจีนและญี่ปุ่นรู้ดีว่ารบกันเมื่อไรเจ็บหนักทั้งคู่ ไม่มีใครชนะใครหรอกครับนอกจากจีนจะกดปุ่มนิวเคลียร์เท่านั้นถึงจะชนะญี่ปุ่นได้

ผมอ่านข่าวนี้จากเพ็นตากอนข่าวนี้แล้วทำให้อยากรู้อยากตรวจสอบการซื้ออาวุธ รวมถึงการสร้างเรือรบของญี่ปุ่นย้อนหลังแล้ว ผมบอกได้เลยว่าเรื่องนี้ต้องติดตามดูกันต่อไปครับ ถ้ามันเกิดขึ้นมาเมื่อไรสงครามตัวแทนหรือ Proxy war ของอเมริกานั้นจะเกิดขึ้นในเอเซียและใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด

รูปภาพของ Pat Hemasuk

ตาลีบันโหดสอย ฮ.ฑูตร่วง

ตาลีบันเหี้ยม !สอย ฮ.กองทัพปากีฯร่วง เอกอัครราชทูตนอร์เวย์-ฟิลิปปินส์ ดับ
Cr:ไทยรัฐ
เฮลิคอปเตอร์กองทัพปากีสถาน นำคณะทูตเดินทางไปดูโครงการรัฐบาลประสบเหตุตกทางภาคเหนือ คร่าชีวิตเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ และฟิลิปปินส์ รวมทั้งภริยาของเอกอัครราชทูตมาเลเซีย และอินโดฯ ขณะที่กลุ่มตาลีบันในปากีสถานออกโรงอ้างความรับผิดชอบ ยิงเฮลิคอปเตอร์ตก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 8 พ.ค.ว่า เกิดเหตุสลด เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพปากีสถาน นำเอกอัครราชทูตต่างชาติหลายคนประจำกรุงอิสลามาบัด เดินทางไปดูโครงการใหม่ของรัฐบาลปากีสถาน ประสบเหตุตกและเกิดไฟลุกไหม้ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในเมืองกิลกิต ทางภาคเหนือของปากีสถาน เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พ.ค. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 6 ศพ ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย ลีฟ เอช.ลาร์เซน เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ และ นายโดมินเอโก ดี.ลูซีนาริโอ จูเนียร์ เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ รวมทั้ง ภริยาของเอกอัครราชทูตมาเลเซีย และอินโดนีเซีย รวมอยู่ด้วย

ด้านนายอาซิม บัชวา โฆษกของกองทัพปากีสถาน รายงานผ่านทวิตเตอร์ในโลกโซเชียลว่า เหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ทหารตกครั้งนี้ เป็นเหตุให้มีชาวต่างชาติสิ้นชีพ 4 คน และนักบินเสียชีวิตอีก 2 คน ขณะที่ มีผู้โดยสารบนเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ได้รับบาดเจ็บ 11 คน รวมทั้ง เอกอัครราชทูตโปแลนด์ และเนเธอร์แลนด์
ด้านสื่อท้องถิ่นในปากีสถานรายงาน ว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุตก เป็นรุ่น MI-17 โดยมีชาวต่างชาติ 11 คนและชาวปากีสถาน 6 คน เดินทางไปดูโครงการของรัฐบาลทางภาคเหนือ

ขณะที่รอยเตอร์รายงานว่า นายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ แห่งปากีสถาน ซึ่งเดินทางไปดูโครงการของรัฐบาล 2 แห่งทางภาคเหนือ ด้วย เพียงแต่นั่งเฮลิคอปเตอร์ไปคนละลำ ได้เดินทางกลับไปยังกรุงอิสลามาบัดแล้ว ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุสะเทือนใจครั้งนี้ เบื้องต้น ยังไม่ทราบแน่ชัด

ต่อมา ตามรายงานของเดอะ อินเตอร์เนชันแนล บิสซิเนส ไทม์ส ระบุว่า กลุ่มตาลีบันในปากีสถาน หรือมีชื่อว่า เตห์รีก- อี -ตาลีบัน ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบว่า อยู่เบื้องหลังการยิงเฮลิคอปเตอร์ตกแล้ว โดยเฮลิคอปเตอร์ลำที่ตกเป็นหนึ่งใน 3 ลำที่นำคณะทูตเดินทางไปตรวจโครงการในเมืองกิลกิต และบัลติสถาน ทางภาคเหนือ เป็นเวลา 3 วัน และมีกำหนดการจะพบกับนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟด้วย 

ทั้งนี้ หากเฮลิคอปเตอร์โดนกลุ่มตาลีบันยิงตกตามคำอ้างจริง จะนับเป็นเหตุการณ์อากาศยานโดนยิงตกครั้งเลวร้ายที่สุดในปากีสถานตั้งแต่ปี 2555 ต่อจากเหตุเครื่องบินโดยสาร โดนยิงตกที่กรุงอิสลามาบัด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 130 ศพ

รูปภาพของ Ampaipan Wachaporn
รูปภาพของ Ampaipan Wachaporn