PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

คำสั่งลับ“ศอ.รส” คุมเข้มรักษาความสงบ"ม็อบราชดำเนิน"อารักขาบ้านบุคคคสำคัญ

เปิดคำสั่งลับ“ศอ.รส”คุมเข้มร่วมชุมนุมราชดำเนิน-อารักขา"บุคคลสำคัญ"

เขียนวันที่
วันอาทิตย์ ที่ 24 พฤศจิกายน 2556 เวลา 13:30 น.
เขียนโดย
isranews
เปิดคำสั่งลับ “ศอ.รส” คุมเข้มรักษาความสงบ"ม็อบราชดำเนิน" เกาะติดความเคลื่อนไหวแกนนำ ตั้งจุดคัดกรองบุคคล ตรวจค้น "ยุทธปัจจัย" ใช้ก่อเหตุรุนแรง -อารักขาความปลอดภัย สถานที่สัญลักษณ์การเมือง “บุคคลสำคัญ” ใกล้ชิด
eeweedeweded
บรรยากาศการนัดชุมนุมใหญ่ที่ถนนราชดำเนิน เพื่อต่อต้านรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในช่วงเช้าถึงเที่ยงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 เป็นไปอย่างคึกคัก!!
“ประชาชน” จากหลายส่วนหลายพื้นที่ ต่างทยอยเดินทางเข้ามาร่วมตัวกันตามคำนัดหมายตั้งแต่ช่วงเช้าอย่างต่อเนื่อง จนถึงเที่ยง และลากยาวต่อมาถึงช่วงบ่าย จนทำให้พื้นที่บริเวณถนนราชดำเนินดูแคบลงไปถนัดตา
ถึงขนาดแกนนำคนสำคัญอย่าง "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" ต้องขึ้นเวทีเพื่อออกคำสั่งจัดระเบียบการเจรจรในพื้นที่การชุมนุมด้วยตนเองอยู่เป็นระยะๆ
ท่ามกลางเสียงเตือนจากคนใน"รัฐบาล"ว่าอาจจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในระหว่างการชุมนุม มีการเตรียมคนขน และอาวุธเข้ามาเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ 
ขณะที่แกนนำการชุมนุม ได้ขึ้นประกาศบนเวที ว่า ผู้ชุมนุมหลายจังหวัดถูก สกัดกั้นไม่ให้เดินทางการชุมนุม ด้วยวิธีการและรูปแบบต่างๆ 
น่าสนใจว่า ความเคลื่อนไหวที่แท้จริงในส่วนของหน่วยงานรัฐบาลที่มีหน้าที่กำกับดูแลความสงบเรียบร้อยครั้งนี้ อย่าง ศอ.รส. เป็นอย่างไรบ้าง?
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับมอบเอกสารสำคัญชิ้นหนึ่ง เกี่ยวกับคำสั่งของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการ ศอ.รส. ให้ควบคุมกำกับดูแลการชุมนุมให้เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย 

โดยเอกสารดังกล่าว ระบุเนื้อหาสำคัญว่า ตามที่ ศอ.รส. จัดให้มีการประชุมระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2556 เวลา 08.00 น. โดย ผบ.ตร./ผอ.ศอ.รศ. ได้สั่งการกำชับการปฏิบัติให้ทุกหน่วยในสังกัด รักษาความสงบเรียบร้อย การชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มมวลชนต่างๆ ทั้งในเขตพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัด ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน นั้น
ดังนั้น เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมเรียกร้อง การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ของ ภ.1 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ จึงกำชับและเน้นย้ำการปฏิบัติตามคำสั่งของ ผอ.ศอ.รศ. ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดดำเนินการ ดังนี้
1.ให้เพิ่มความเข้มในการสืบสวนหาข่าว เฝ้าฟัง และติดตามสถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มมวลชนต่างๆ ทุกกลุ่ม ในเขตพื้นที่รับผิดชอบอย่างใกล้ชิด หากพบความเคลื่อนไหวให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานและติดตามแกนนำกลุ่มมวลชนต่างๆ ทั้งในกรณีชุมนุมในเขตพื้นที่และ/หรือเดินทางไปร่วมชุมนุมในเขตพื้นที่ กทม. อย่างใกล้ชิด จนกว่าจะเสร็จสิ้นการชุมนุมหรือเดินทางไปร่วมชุมนุมอีกส่วนหนึ่ง ด้วย 
2. ให้เพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจ เพื่อประชาสัมพันธ์ชี้แจงข้อเท็จจริงของสถานการณ์และกฎหมายให้แก่ประชาชนทั่วไป และผู้ที่จะเดินทางเข้าร่วมชุมนุมได้รับทราบ และเพื่อตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายตามเส้นทางสายหลัก-รอง ในเส้นทางขาเข้ากทม. เน้นการตรวจค้น/คัดกรอง บุคคลยานพาหนะ ต้องสงสัย เพื่อตรวจยึดอาวุธ วัตถุระเบิด หรือสิ่งของต่างๆ ที่นำมาเป็นยุทธปัจจัยใช้ก่อเหตุรุนแรงในสถานที่ชุมนุม รวมทั้งสิ่งของต่างๆ ที่อาจนำมาประกอบ เป็นวัตถุระเบิดได้ หากตรวจพบให้บังคับใช้กฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด 
3. ให้เพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการสำคัญ บ้านพักบุคคลสำคัญ และสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง อย่างจริงจัง และต่อเนื่อง เน้นการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและการตั้งจุดตรวจเพื่อคัดกรองบุคคลหรือยานพาหนะบริเวณโดยรอบสถานที่ ทั้งนี้ ให้ประสานการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานที่และบุคคลสำคัญ อย่างใกล้ชิดอีกส่วนหนึ่งด้วย 
4.กรณีพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนต่างๆ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ทั้งในกรณีจากการสืบสวนหาข่าวการเฝ้าระวัง การรักษาความสงบเรียบร้อยในที่ชุมนุม และการตั้งจุดตรวจ กำชับให้รายงานสถานการณ์ตามข้อข่าวสารที่กำหนดไว้ให้ ศปก.ภ.3 ทราบทันที 
จึงแจ้งมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด
พล.ต.ต. กรเอก เพชรไชยเวส 
รองผบช.ฯ ปรท.ผบช.ภ.1
dsdsdsdsdsdsdsds23
 

โรยตะปูเรือใบสกัดรถขนผู้ชุมนุมเข้ากรุงเทพฯ ไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่ ตำรวจ

"..เรื่องโรยตะปูเรือใบสกัดรถขนผู้ชุมนุมเข้ากรุงเทพฯ ไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่ ตำรวจไม่ทำแน่นอน เป็นเพียงลูกไม้ตื้น ๆ ที่ทำกันเอง ตนอยากถาม ว่า มีตำรวจที่ไหนอยากให้บ้านเมืองไม่สงบ

ส่วนที่ตำรวจต้องไปเฝ้าอยู่บนจุดสูงเพราะกลัวใครจะมาแอบยิงนายสุเทพ เพราะมีเรื่องส่วนตัวเยอะ ไม่ได้คิดไปยิง ไประวังให้ แต่ไปออกข่าวด่าตนสาดเสียเทเสีย ตนไม่โกรธ แต่ที่นายสุเทพประกาศล้มรัฐบาล ไล่นายกฯ จะปลดนายกฯ ไล่ตระกูลชินวัตร จะโค่นระบอบทักษิณ ถือว่าเป็นกบฏในราชอาณาจักร ความผิดครบ สุดท้ายนายสุเทพ จะมีความผิด และถูกจับเพียงคนเดียว 

ขอให้มั่นใจว่านายกฯ ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก เพราะมาตามระบอบประชาธิปไตย แต่หากขั้นตอนทางการเมืองไปถึงจุด ๆ หนึ่งก็เลือกตั้งกันใหม่ พรรคเพื่อไทยก็จะชนะอีกเหมือนเดิม ครั้งนี้ 265 เสียง ครั้งหน้าจะได้ถึง 300 พรรคประชาธิปัตย์ แค่หวังส้มหล่นเหมือนครั้งที่แล้ว ที่เอานายเนวิน ชินชอบ ไปอยู่ฝ่ายเดียวกัน..

พวกผมไม่มีใครไม่จงรักภักดี ครั้งหนึ่งก็เคยรับราชการ ได้ถวายสัตย์ 8 ครั้ง รัฐบาลชุดนี้จับเว็บหมิ่นสถาบันมากที่สุด แต่ผู้ใหญ่ข้างในบอกว่า อย่าแถลงได้ไหม ก็บอกว่าได้ครับ วันนี้ก็ยังทำงานอยู่ พูดได้อย่างไร ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่จงรักภักดี ผมป่วยอยู่นะ ยังไม่ค่อยไหว แต่รัฐบาลมอบหมายให้มาช่วย

ที่เป็นห่วงเพราะ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และผมได้กล่าวตรงกันว่า จะมีคนกลุ่มหนึ่งเอาอาวุธสงครามมาก่อเหตุในระหว่างการชุมนุม ประชาชนจะได้รับอันตราย จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ สังคม ความน่าเชื่อถือของประเทศ เพราะนายสุเทพ คนเดียวที่ก่อเรื่อง

คนที่จะมาก่อเหตุก็ทราบว่าเป็นกลุ่มไหน มีการย้ายอาวุธจากที่ซ่อนตอนตี 2 เมื่อคืนนี้ ไปไว้อีกที่หนึ่งเพื่อก่อเหตุ บอกตำรวจแล้วให้ขอหมายเข้าไปตรวจค้น ผมเชื่อว่า ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ไม่ทำเรื่องรุนแรง แต่ให้เฝ้าระวัง 24 ชม..."


นายกฯยิ่งลักษณ์แนะทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เพื่อรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของรัฐสภาให้วุฒิสมาชิกมาจากการเลือกตั้ง ตลอดจนการชุมนุมของประชาชนที่สะท้อนแนวคิดหลากหลาย ที่หาข้อยุติไม่ได้จึงทำให้เกิดความกังวลต่อเรื่องดังกล่าว ดิฉันในฐานะนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง ยืนยันที่จะรักษากติกา และพร้อมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในทุกเสียง เพื่อร่วมกันหาแนวทางออกของปัญหาร่วมกัน ดิฉันเชื่อว่าในความเป็นคนไทยมีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เหมือนกันทุกคน ดิฉันขอเรียกร้องความสามัคคี สมานฉันท์ สงบสุข และเคารพในหลักนิติรัฐ ในฐานะรัฐบาลไม่ต้องการเห็นภาพของการทะเลาะเบาะแว้งจนนำไปสู่ความรุนแรง การเสียเลือดเสียชีวิตที่ไม่มีใครอยากเห็น

การชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ละเมิดกฎหมาย สามารถกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ตราบเท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น รัฐบาลจึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายดูแลความสงบเรียบร้อย บริหารจัดการด้วยความละมุนละม่อม และเป็นไปตามขั้นตอน วิธีการของมาตรฐานสากล เพื่อให้การแสดงออกของผู้ชุมนุมไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของผู้ที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย และไม่เป็นเหยื่อของมือที่สามที่จะใช้ความรุนแรง ไม่เป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่จะทำให้เกิดการสูญเสีย เพื่อเป็นเงื่อนไขแห่งความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ชอบธรรมนั้น ดิฉันเชื่อมั่นว่าประเทศชาติจะไม่ถึงทางตันหากกระบวนการต่างๆ ยังยึดหลักระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และหากทุกคนหันหน้าเข้าหากัน ใช้เหตุใช้ผล เปิดกว้าง ไม่ใช้อารมณ์ ลดการเผชิญหน้า ใช้การพูดคุยด้วยวิถีแห่งสันติ ซึ่งเวทีปฏิรูปการเมืองเพื่อหาทางออกของประเทศที่รัฐบาลได้ริเริ่มไว้ยังเปิดกว้างที่จะให้ทุกฝ่ายทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม และมาถกเถียงแนวทางการแก้ปัญหาของชาติเพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้

นอกจากนี้ในอีกไม่กี่วันก็จะมีตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามแนวทางของรัฐสภา สุดท้ายนี้ เพื่อรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงและสงบสุข เพื่อความเป็นปึกแผ่นของประเทศชาติ ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันปกป้องรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักของเราทุกคน
229

กทม.สั่งปิดโรงเรียน 24 แห่ง ในเขตพระนคร ดุสิต และป้อมปราบศัตรูพ่าย วันที่ 25-26 พ.ย.นี้

เขตพระนคร 11 โรงเรียน ได้แก่ 1.โรงเรียนราชบพิธ 2.โรงเรียนวัดตรีทศเทพ 3.โรงเรียนวัดพระเชตุพน 4.โรงเรียนวัดมกุฎกษัตริยาราม 5.โรงเรียนวัดมหรรณพ์ 6.โรงเรียนวัดมหาธาตุ 7.โรงเรียนวัดราชนัดดา 8.โรงเรียนวัดราชบูรณะ 9.โรงเรียนวัดสุทัศน์ 10.โรงเรียนวัดใหม่อมตรส และ 11.โรงเรียนวัดอินทรวิหาร

เขตดุสิต 9 โรงเรียน ได้แก่ 1.โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร 2.โรงเรียนวัดจันทรสโมสร 3.โรงเรียนวัดเทวราชกุญชร 4.โรงเรียนวัดธรรมาภิรตาราม 5.โรงเรียนวัดประชาระบือธรรม 6.โรงเรียนวัดสวัสดิ์วารีสีมาราม 7.โรงเรียนวัดราชผาติการาม 8.โรงเรียนวัดสมณานัมบริหาร (วัดญวนสะพานขาว) และ 9.โรงเรียนสุโขทัย

เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 4 โรงเรียน ได้แก่ 1.โรงเรียนวัดคณิกาผล 2.โรงเรียนวัดดิสานุการาม 3.โรงเรียนวัดพระพิเรนทร์ และ 4.โรงเรียนวัดสิตาราม #FM.91 Trafficpro

ส่อแรง ???? รบ.ใช้บริการตชด.พรึ่บ ล่าสุดมุ่งหน้าไปสยามแล้ว

ชักบานปลาย ??? รัฐบาลขนรถตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งมุ่งหน้าไปที่สยามแล้ว เมื่อเวลาบ่าย 2 โมง

วันนี้ ( 24 พ.ย.56) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. กล่าวยืนยันว่า ศอ.รส. มีมาตรการในการรับมือการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะพยายามคลี่คลายสถานการณ์ โดยใช้ความอดทนอดกลั้น หลีกเลี่ยงการปะทะ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายใด ๆ เกิดขึ้น ขณะที่การดำเนินคดีกับบุคลที่กระทำผิดกฎหมายนั้น ได้กำชับให้ฝ่ายสืบสวน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวป้องกันจุดต่าง ๆ บันทึกภาพเหตุการณ์ต่าง ๆไว้ทั้งหมด เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีภายหลัง พร้อมระบุ ศอ.รส. มีความกังวล และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น โดยเฉพาะความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมการชุมนุม เนื่องจากอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้พร้อมเตือนให้เข้าร่วมการชุมนุมอย่างมีสติ ขณะเดียวกัน ได้ฝากเตือนไปยังประชาชนให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดหลีกเลี่ยงเส้นทางใกล้กับพื้นที่การชุมนุม


อย่างไรก็ตาม ในเวลา 17.00 น. วันนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติที่ทำการส่วนหน้าสะพานมัฆวานรังสรรค์ด้วย

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.40 น. ในเพจ "สายตรงภาคสนาม" ได้แชร์ภาพรถตำรวจตระเวนชายแดนจำนวนมาก อยู่ที่บริเวณหน้าสยามเรียบร้อยแล้ว


นพดล ปัทมะ:อย่าใช้ประเด็นสถาบันมาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง

คำแถลงนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องเรียกร้องผู้ชุมนุมอย่าใช้ประเด็นสถาบันมาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การชุมนุมของม็อบนายสุเทพ ตอนแรกบอกว่าต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม แต่พอ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลประกาศไม่เดินหน้ากฎหมายฉบับนี้ นายสุเทพและพวกก็เดินหน้าล้มรัฐบาล โดยแอบแฝง ใช้คำว่าล้มระบอบทักษิณ ตนขอถามว่านายสุเทพจะชุมนุมไปจนกว่านายอภิสิทธิ์จะได้เป็นนายกใช่หรือไม่ และขณะนี้ดูเหมือนจะใช้สงครามจิตวิทยามวลชนทุกรูปแบบ แม้กระทั้งความเท็จก็นำมาใช้โจมตีฝ่ายตรงข้าม เพื่อวาดภาพให้ดูน่าเกลียดน่ากลัว ใช้วาทกรรมอำพรางรูปแบบเดิมๆ ที่เคยใช้ในอดีต เช่น ในอดีตมีคนไปตะโกนในโรงหนัง หรือวาทกรรมจำลองพาคนไปตาย และในขณะนี้ก็ใส่ร้ายด้วยความเท็จว่านักการเมืองฝ่ายตรงข้ามพวกตนไม่จงรักภักดี ไม่รักชาติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านายสุเทพและพวกหมดประเด็นที่จะเล่นแล้ว ถึงขนาดยอมนำความเท็จมาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น ตนรู้สึกสงสารประเทศไทย ที่มีคนพยายามแบ่งแยกคนไทย ตนเห็นว่าคนไทย ไม่ว่าจะนามสกุลอะไร ยากดีมีจน ก็ล้วนรักชาติ รักสถาบัน ไม่น้อยไปกว่านายสุเทพและพวก 
“นักการเมืองจะแย่งชิงอำนาจกัน ก็ควรเป็นไปตามวิธีทางประชาธิปไตย ผ่านการเลือกตั้ง ไม่ใช่เมื่อประชาชนไม่เลือกแล้วก็จะมาจ้องล้มรัฐบาล สมมติว่านายสุเทพล้มรัฐบาลนี้สำเร็จ ไม่คิดหรือว่าประชาชนที่ไม่พอใจก็จะมาล้มรัฐบาลของนายสุเทพบ้าง ดังนั้นเราควรยุติวงจรอุบาทว์ทางการเมืองได้แล้ว ปล่อยให้ระบอบประชาธิปไตยได้ขับเคลื่อน ดีกว่าที่จะใช้ระบบม็อบจัดตั้งมาล้มรัฐบาล เพราะเศรษฐกิจและประเทศเสียหาย และท้ายที่สุดคนไทยทุกคนก็จะเป็นคนแพ้ ไม่มีคนชนะ”นายนพดล กล่าว

24 พฤศจิกายน 2556

‘สุเทพ’ลั่นเปลี่ยนแปลงประเทศ “ปกครองด้วยระบอบพระมหากษัตริย์ที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง”

Sun, 2013-11-24 10:30

สุเทพ เทือกสุบรรณ ขึ้นกล่าวปราศรัยเวที คปท. แยกนางเลิ้ง ประกาศปณิธานขจัดระบอบทักษิณ เปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทย ให้เป็นประเทศไทยที่ปกครองด้วยระบอบพระมหากษัตริย์ ที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 พ.ย.2556 สุเทพ เทือกสุบรรณ ขึ้นกล่าวปราศรัย เวทีเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ที่สี่แยกนางเลิ้ง ว่า “พี่น้องผู้รักชาติรักแผ่นดินที่เคารพทุกท่านครับ เกิดมาทั้งทีชีวิตหนึ่ง มีครั้งนี้ที่เราจะได้เสียสละทุ่มเทเพื่อประเทศไทยและอนาคตของลูกหลานไทยทุกคน ผมปลื้มใจและภาคภูมิใจเป็นที่สุดที่ได้ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ต่อสู้เพื่อประเทศไทยร่วมกับมวลมหาประชาชนและบรรดาแกนนำของทุนกลุ่มทุกองค์กรครับ”
สุเทพ กล่าวอีกว่า“ผมขอให้คำมั่นสัญญาแทนเพื่อนๆผู้เป็นคณะกรรมการแกนนำที่ราชดำเนินว่าพวกเราจะยืนหยัดต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านจนกว่าชัยชนะจะเป็นของประชาชนครับ และขอกราบเรียนยืนยันกับพี่น้องทั้งหลายว่าการต่อสู้ของพวกเราครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เราผนึกหัวใจสู้เพื่อประชาชนคนไทยและแผ่นดินไทยครับพี่น้องครับ”
“ข้อที่ 1 เราต้องร่วมใจกันขจัดระบอบทักษิณให้สิ้นซากพ้นแผ่นดินไทย และข้อที่ 2 เราจะหลอมหัวในด้วยกันเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทย ให้เป็นประเทศไทยที่ปกครองด้วยระบอบพระมหากษัตริย์ ที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง นั่นคือปณิธานของเราของคนไทยทุกคนที่หลอมดวงใจต่อสู้ในคราวนี้” สุเทพ กล่าวทิ้งท้าย
โดยสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มการเมืองสีเขียว กล่าวยืนยันด้วยว่า “ผมเชื่อเหลือเกินว่าบทปราศรัยของคุณสุเทพสั่นๆเมื่อตะกี้เป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องการได้ยินและได้ฟังมากที่สุด”