PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

“ถูกทาง”แต่“ผิดคิว”?

“ถูกทาง”แต่“ผิดคิว”?

ภาพสวยงามในเทศกาลบุญใหญ่ อาสาฬหบูชา เข้าพรรษา ประชาชนคนไทยแห่เข้าวัด ตักบาตรทำบุญ ถือศีลกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง

เต็มวัดวาอารามทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด

สะท้อนถึงนิมิตหมายดี คนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ พากันตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม ยึดเอาคำสอนของพระพุทธองค์เป็นที่ตั้งในการดำเนินชีวิต

ผิด ชอบ ชั่ว ดี แยกแยะได้

ที่แน่ๆมาถึงเทศกาลเข้าพรรษา นั่นหมายถึงสถานการณ์ที่ล่วงเลยเข้าสู่ครึ่งปีหลังแล้ว โดยแนวโน้มวันเวลาตามโรดแม็ปก็หดสั้นลงทุกขณะ

หลายเรื่อง บางอย่างก็ชัดเจนขึ้นตามเงื่อนเวลา

โดยเฉพาะกับคำตอบที่ว่า เมื่อ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ไม่ได้ไขก๊อกจากตำแหน่งก่อนเที่ยงคืนวันที่ 4 กรกฎาคม 2560

เลยกำหนดเดดไลน์ที่รัฐธรรมนูญล็อกไว้

หมดสิทธิลงสนาม พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งแน่

นั่นก็เหลือ “ประตูเดียว” คือนายกรัฐมนตรีคนนอก

ต้องรับเทียบเชิญ นั่งเสลี่ยงคานหามมา

แน่นอนตามเงื่อนไขสถานการณ์ นักการเมืองอาชีพต้องรีบแห่มาตีปี๊บประจานดักทาง

และก็ชิงเล่นเร็ว ชู้ตกระแสตามน้ำเลย กับเหลี่ยมที่ “เจ๊หน่อย” คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองหลวงพรรคเพื่อไทย ออกมาฟันธงดังๆแบบไม่กลัวหน้าแตกเลยว่า

พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกแน่นอน หลังการเลือกตั้ง

แต่อวยกันแบบนี้ หวังดี ประสงค์ดีหรือไม่ ตามฟอร์มเขี้ยวๆพอจะเดาทางกันได้

ตามรูปการณ์ “เรียกแขก” ให้ “บิ๊กตู่” มากกว่าเชียร์

ไม่อย่างนั้น “เสธ.ไก่อู” พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายก-รัฐมนตรี คงไม่รีบออกมาเคลียร์ข่าว เป็นแค่มุมมองส่วนตัวของคุณหญิงสุดารัตน์ แต่รัฐบาลมีหน้าที่อย่างเดียวคือ ตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามโรดแม็ปที่วางเอาไว้

เรื่องของเรื่องมันก็ลงล็อกพอดีกับจังหวะ “เร่งเครื่อง” ออกตัวแบบล้อฟรีของ “เจ๊หน่อย”

ถึงตรงนี้จะปากแข็งยังไงก็ไม่มีใครเชื่อแล้วว่า “ไม่หวังอะไร”

ตามท้องเรื่องที่บ่งชี้สถานการณ์ ภายหลัง “เจ๊หน่อย” นำคณะพรรคเพื่อไทยชุดใหญ่ มีคนระดับกุนซือและทีมงานใกล้ชิด “นายใหญ่” ร่วมเป็นหางเครื่อง เดินทางไปประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดหน้าโชว์ตัว “กึ่งทางการ” กับฝ่ายการเมืองและนักธุรกิจของทางการปักกิ่ง

นัยว่าเป็น “ตัวจริง” ที่รับมอบธงจาก “ทักษิณ ชินวัตร” แล้ว

โดยแนวโน้มแบบที่ “บิ๊กกี่” พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่ ปรึกษา คสช. ในฐานะเพื่อนซี้ “บิ๊กป้อม”
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็เพิ่งออกมาการันตีสถานะ “เต็งหนึ่ง” แม่ทัพค่ายเพื่อไทย

ส่งซิกเป็นนัย “เจ๊หน่อย” มีเส้น ต่อสายกับท็อปบูตติด

ทุกอย่างเดินตามฉากที่เซ็ตไว้

ถึงตรงนี้ต้องยอมรับว่า “เจ๊หน่อย” มาไกลเกินครึ่งทางแล้ว

แต่เรื่องของเรื่อง มา “ถูกทาง” แต่ก็ยังเสี่ยง “ผิดคิว” ได้

ว่ากันตามท้องเรื่องที่เจ้าแม่เมืองกรุงพรรคเพื่อไทยกำลังเร่งเครื่องปั่นหุ้น เดินสายไปงาน “ผูกเสี่ยว” ในพื้นที่ภาคอีสาน พยายามกลมกลืนกับฐานใหญ่ของพรรคเพื่อไทย โดยใช้โอกาส การปรากฏตัวในงานบุญท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มาให้กำลังใจ

มุกเดียวกัน อีเวนต์การตลาดที่ลอกแบบกันมา

ในจังหวะเบียดซีน แย่งเรตติ้งกับ “น้องปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ต้องเดินสายขึ้นศาล ลุ้นชะตากรรมในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

กระตุกฉากดราม่า เร้าอารมณ์มวลชนผู้สนับสนุน

“นางสิงห์” กำลังตกที่นั่งลำบาก แต่อีกฟาก “นางเสือ” พยายามเบียดแทนที่

หนีไม่พ้นลูกหมั่นไส้ เพราะภาพมันขัดแย้งเห็นๆ.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: