PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558

สัญญานจาก ประยุทธถึงสื่อดูแลกันไม่ได้เดี๋ยวจัดให้

"นายกฯ"ขอโทษ สื่อ ที่โมโห มีอารมณ์รุนแรง สะกิดสื่อเป็น สุนัขเฝ้าบ้าน ไม่ควรมากัดเจ้าของบ้าน เผยสมาคมสื่อฯคุมกันเองก็ไม่ได้ถามประชาขน อยากให้ผมทำยังไงบอกมา จะให้หนักกว่านี้ หรือเบากว่านี้ ใช้อำนาจมากกว่านี้ว่ามา ผมจะไปพิจารณาอีกที แนะเลียนแบบ สิงคโปร์สร้างประเทศ

พลเอก ประยุทธ์ กล่าวในรายการ "คืนความสุขฯ" ว่า หน้าที่อีกอย่างหนึ่งของสื่อ คือการเฝ้าระวัง ผมไม่ใช่ศัตรูกับสื่อ ทุกสื่อ ทุกคน หน้าที่ของสื่อต้องมีหน้าที่เหมือนกับเฝ้าบ้าน ต้องคอยแจ้งเตือนเจ้าของบ้าน เหมือนเครื่องมือสักอย่าง เหมือนช่องทีวี หรือในตาวิเศษอะไรสักอย่าง เพราะเวลามีเหตุร้ายมีโจร ขโมยขึ้นบ้าน หรือจะเห็นการทุจริตผิดกฎหมาย สื่อทำหน้าที่คอยเตือนประชาชน เมื่อไหร่ก็ตามที่มีนักการเมือง ข้าราชการโกงทุจริตต้องเตือนตอนนั้น หรือมีนักบริหารออกนโยบายที่จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ 

แต่ไม่ใช่สื่อมาทำให้เกิดความระแวงกันเอง เพราะท่านมีหน้าที่ในการดูแลบ้านหลังนี้ เจ้าของบ้านเขาให้ท่านดู ติดตั้งท่าน อะไรท่าน เหมือนกับสื่อคอยดูแทน แล้วปรากฏว่าท่านไม่ดู ท่านกลับมาเล่นงานเจ้าของบ้าน กลับมาเล่นงานคนในบ้าน แล้วโจรก็เข้ามาได้ นั้นคือเรื่องธรรมดา ผมไม่อยากยกตัวอย่างเป็นอย่างอื่น แม้กระทั้งให้คนในบ้านแตกความสามัคคี สร้างความเดือดร้อนเสียหาย บางครั้งอาจจะมีความผิดพลาดบ้างในการติดต่อสื่อสาร แต่ให้รู้ความตั้งใจของรัฐบาลของทุกกระทรวงมานี้ อาจจะมีการสื่อสารที่ไม่ตรง ไม่เข้าใจกันบ้าง หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน 

วันนี้เราอยู่ทีมเดียวกัน ท่านบอกว่าท่านมีหน้าที่ ท่านบอกว่าท่านมีสิทธิและหน้าที่ของสื่อ จะต้องนี่ต้องโน่นผมไม่ได้ขัดแย้งท่าน

ท่านนายกสมาคมสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ แห่งประเทศไทย (ส.น.ว.ท.) บอกว่า ขอร้องให้ผมเข้าใจสื่อ เป็นการทำงานของสื่อ เพื่อติติงอะไรก็ได้ ผมไม่ได้ว่าเลย ถ้าท่านทำอย่างนั้นดีอยู่แล้ว แต่ถ้าท่านอีกอย่างเหมือนกับเล่นงานผมทุกเรื่องไปเลย ผมว่าไม่เป็นธรรมกับผม แล้วพอผมบอกให้ท่านไปดูแลกันเอง ตอบผมว่าอย่างไร 

สำหรับสื่อที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯจะดำเนินการต่อไปตามปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากมีสื่อหลายสื่อ ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคม อันนี้ไม่สามารถจะรับผิดชอบได้ ท่านไปทำสิครับ หรือไม่ จะให้ผมต้องออกกฎหมายว่า สื่อทุกสื่อต้องเป็นสมาชิกของสมาคมท่าน สมาคมหนังสือพิมพ์ สมาคมสื่อ เอาไหม ผมจะทำให้ ไม่อย่างนั้นก็อ้างอยู่อย่างนี้ 

"บางสื่อก็คุมไม่ได้ อะไรไม่ได้ เขียนส่งเดชไปเรื่อย แล้วจะไม่ให้ผมโมโหมีอารมณ์รุนแรงได้อย่างไรในบางครั้ง ผมขอโทษผู้ที่สุภาพอาจจะไม่ชอบ แต่ท่านต้องเห็นใจผม พอบอกให้ไปดูแล บอกไม่เห็นผิดตรงไหนเลย ผิดตรงไหนไปอ่านดูที่เขียน อันนี้สร้างสรรค์ สนับสนุนท่านทุกอย่าง โอ้โหด่าทุกวัน บอกว่านี่เป็นการติติง ก็ผมทำไปแล้ว กำลังทำ ท่านก็บอกว่าผมไม่ทำอะไร ยกตัวอย่างง่าย ๆ หรือไม่ก็ เรื่องนี้ไม่รู้จะกล้าทำหรือเปล่า ถ้าไม่กล้าทำผมไม่เข้ามาเอาอย่างนี้แล้วกัน เพียงแต่ว่าจะทำได้เมื่อไหร่ ผมไม่อยากจะไปบังคับขู่เข็นคนมากนัก "

ผมฝากพี่น้องประชาชนทั่วไปแล้วกัน จะให้ผมทำอย่างไรบอกมา จะให้หนักกว่านี้ หรือเบากว่านี้ ใช้อำนาจมากกว่านี้ว่ามา ผมจะไปพิจารณาอีกที ผมเข้ามาแล้วก็อยากให้สำเร็จ การปฏิรูปอีกมากมาย ไม่ได้จบภายในปีหนึ่ง ปีหนึ่งแค่ลดความขัดแย้ง แค่คิดไว้ว่าจะทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า ผมว่าอีก 10 ปียังไม่ทันเลย 

"สิงคโปร์เขาทำ 30 ปี เอาง่าย ๆ แล้วเขาเลยเวลาเหล่านั้นมาแล้ว วันนี้เขาเข้มแข็งหมดทุกอัน บางคนบอกว่าไทยทำไม่ได้หรอก เพราะเรามีคนมากกว่า เขามีพื้นที่เล็กกว่าเรา เรายิ่งใหญ่ ไปดูในแผนที่ว่าใหญ่ขนาดไหน มีคน 60 – 70 ล้านคน ก็ใช่ แต่ 60 ล้านคน รวมกันได้เป็นหนึ่งไหม รวมเป็นไม้ไผ่ก้อนเดียวได้ไหม ไม่ได้ 60 กว่าล้านคน 60 กว่าความคิด มีกลุ่มชุมชน วันนี้ไม่ใช่แค่ประชาชนแล้ว เป็นกลุ่มชน เป็นของคนนี้ ของคนนั้น ของพวกนี้ พวกนั้น เป็นกลุ่ม แล้วคนเหล่านี้ก็เข้ามาสู่กระบวนการเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วก็เรียกร้องกับรัฐบาล เรียกร้องความต้องการจากรัฐบาลจนไม่มีความเพียงพอ เมื่อไม่เพียงพอ รัฐบาลก็ต้องมาดูแลเป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมีปัญหาการบริหารราชการ ใช่ไหม คนอื่นก็ไม่ต้องได้ นี่แหละคือปัญหาของประชาธิปไตยไทย ท่านจะทำอย่างไรไปทำ วันนี้ผมจะทำให้ทั่วถึงก่อน วันหน้าจะให้ส่งต่อให้ระบบแข็งแรง ข้าราชการ หรือการเมืองแข็งแรงกว่านี้ ที่ผ่านมาไม่รู้จะโทษใคร"

'"นายกฯ"ขอโทษ สื่อ ที่โมโห มีอารมณ์รุนแรง สะกิดสื่อเป็น สุนัขเฝ้าบ้าน ไม่ควรมากัดเจ้าของบ้าน เผยสมาคมสื่อฯคุมกันเองก็ไม่ได้ถามประชาขน อยากให้ผมทำยังไงบอกมา จะให้หนักกว่านี้ หรือเบากว่านี้ ใช้อำนาจมากกว่านี้ว่ามา ผมจะไปพิจารณาอีกที แนะเลียนแบบ สิงคโปร์สร้างประเทศ

พลเอก ประยุทธ์ กล่าวในรายการ "คืนความสุขฯ" ว่า หน้าที่อีกอย่างหนึ่งของสื่อ คือการเฝ้าระวัง ผมไม่ใช่ศัตรูกับสื่อ ทุกสื่อ ทุกคน หน้าที่ของสื่อต้องมีหน้าที่เหมือนกับเฝ้าบ้าน ต้องคอยแจ้งเตือนเจ้าของบ้าน เหมือนเครื่องมือสักอย่าง เหมือนช่องทีวี หรือในตาวิเศษอะไรสักอย่าง เพราะเวลามีเหตุร้ายมีโจร ขโมยขึ้นบ้าน หรือจะเห็นการทุจริตผิดกฎหมาย สื่อทำหน้าที่คอยเตือนประชาชน เมื่อไหร่ก็ตามที่มีนักการเมือง ข้าราชการโกงทุจริตต้องเตือนตอนนั้น หรือมีนักบริหารออกนโยบายที่จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ 

แต่ไม่ใช่สื่อมาทำให้เกิดความระแวงกันเอง เพราะท่านมีหน้าที่ในการดูแลบ้านหลังนี้ เจ้าของบ้านเขาให้ท่านดู ติดตั้งท่าน อะไรท่าน เหมือนกับสื่อคอยดูแทน แล้วปรากฏว่าท่านไม่ดู ท่านกลับมาเล่นงานเจ้าของบ้าน กลับมาเล่นงานคนในบ้าน แล้วโจรก็เข้ามาได้ นั้นคือเรื่องธรรมดา ผมไม่อยากยกตัวอย่างเป็นอย่างอื่น แม้กระทั้งให้คนในบ้านแตกความสามัคคี สร้างความเดือดร้อนเสียหาย บางครั้งอาจจะมีความผิดพลาดบ้างในการติดต่อสื่อสาร แต่ให้รู้ความตั้งใจของรัฐบาลของทุกกระทรวงมานี้ อาจจะมีการสื่อสารที่ไม่ตรง ไม่เข้าใจกันบ้าง หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน 

วันนี้เราอยู่ทีมเดียวกัน ท่านบอกว่าท่านมีหน้าที่ ท่านบอกว่าท่านมีสิทธิและหน้าที่ของสื่อ จะต้องนี่ต้องโน่นผมไม่ได้ขัดแย้งท่าน

 ท่านนายกสมาคมสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ แห่งประเทศไทย (ส.น.ว.ท.) บอกว่า ขอร้องให้ผมเข้าใจสื่อ เป็นการทำงานของสื่อ เพื่อติติงอะไรก็ได้ ผมไม่ได้ว่าเลย ถ้าท่านทำอย่างนั้นดีอยู่แล้ว แต่ถ้าท่านอีกอย่างเหมือนกับเล่นงานผมทุกเรื่องไปเลย ผมว่าไม่เป็นธรรมกับผม แล้วพอผมบอกให้ท่านไปดูแลกันเอง ตอบผมว่าอย่างไร 

สำหรับสื่อที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯจะดำเนินการต่อไปตามปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากมีสื่อหลายสื่อ ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคม อันนี้ไม่สามารถจะรับผิดชอบได้ ท่านไปทำสิครับ หรือไม่ จะให้ผมต้องออกกฎหมายว่า สื่อทุกสื่อต้องเป็นสมาชิกของสมาคมท่าน สมาคมหนังสือพิมพ์ สมาคมสื่อ เอาไหม ผมจะทำให้ ไม่อย่างนั้นก็อ้างอยู่อย่างนี้ 

"บางสื่อก็คุมไม่ได้ อะไรไม่ได้ เขียนส่งเดชไปเรื่อย แล้วจะไม่ให้ผมโมโหมีอารมณ์รุนแรงได้อย่างไรในบางครั้ง ผมขอโทษผู้ที่สุภาพอาจจะไม่ชอบ แต่ท่านต้องเห็นใจผม พอบอกให้ไปดูแล บอกไม่เห็นผิดตรงไหนเลย ผิดตรงไหนไปอ่านดูที่เขียน อันนี้สร้างสรรค์ สนับสนุนท่านทุกอย่าง โอ้โหด่าทุกวัน บอกว่านี่เป็นการติติง ก็ผมทำไปแล้ว กำลังทำ ท่านก็บอกว่าผมไม่ทำอะไร ยกตัวอย่างง่าย ๆ หรือไม่ก็ เรื่องนี้ไม่รู้จะกล้าทำหรือเปล่า ถ้าไม่กล้าทำผมไม่เข้ามาเอาอย่างนี้แล้วกัน เพียงแต่ว่าจะทำได้เมื่อไหร่ ผมไม่อยากจะไปบังคับขู่เข็นคนมากนัก "

ผมฝากพี่น้องประชาชนทั่วไปแล้วกัน จะให้ผมทำอย่างไรบอกมา จะให้หนักกว่านี้ หรือเบากว่านี้ ใช้อำนาจมากกว่านี้ว่ามา ผมจะไปพิจารณาอีกที ผมเข้ามาแล้วก็อยากให้สำเร็จ การปฏิรูปอีกมากมาย ไม่ได้จบภายในปีหนึ่ง ปีหนึ่งแค่ลดความขัดแย้ง แค่คิดไว้ว่าจะทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า ผมว่าอีก 10 ปียังไม่ทันเลย 

"สิงคโปร์เขาทำ 30 ปี เอาง่าย ๆ แล้วเขาเลยเวลาเหล่านั้นมาแล้ว วันนี้เขาเข้มแข็งหมดทุกอัน บางคนบอกว่าไทยทำไม่ได้หรอก เพราะเรามีคนมากกว่า เขามีพื้นที่เล็กกว่าเรา เรายิ่งใหญ่ ไปดูในแผนที่ว่าใหญ่ขนาดไหน มีคน 60 – 70 ล้านคน ก็ใช่ แต่ 60 ล้านคน รวมกันได้เป็นหนึ่งไหม รวมเป็นไม้ไผ่ก้อนเดียวได้ไหม ไม่ได้ 60 กว่าล้านคน 60 กว่าความคิด มีกลุ่มชุมชน วันนี้ไม่ใช่แค่ประชาชนแล้ว เป็นกลุ่มชน เป็นของคนนี้ ของคนนั้น ของพวกนี้ พวกนั้น เป็นกลุ่ม แล้วคนเหล่านี้ก็เข้ามาสู่กระบวนการเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วก็เรียกร้องกับรัฐบาล เรียกร้องความต้องการจากรัฐบาลจนไม่มีความเพียงพอ เมื่อไม่เพียงพอ รัฐบาลก็ต้องมาดูแลเป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมีปัญหาการบริหารราชการ ใช่ไหม คนอื่นก็ไม่ต้องได้ นี่แหละคือปัญหาของประชาธิปไตยไทย ท่านจะทำอย่างไรไปทำ วันนี้ผมจะทำให้ทั่วถึงก่อน วันหน้าจะให้ส่งต่อให้ระบบแข็งแรง ข้าราชการ หรือการเมืองแข็งแรงกว่านี้ ที่ผ่านมาไม่รู้จะโทษใคร"'

ไม่มีความคิดเห็น: