PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2560

ภารกิจประวิตรในต่างแดน

บิ๊กป้อม ถก รมว.กห.อังกฤษ เริ่มฝึกPanther Gold ครั้งแรก ปรับปรุงMOU ความร่วมมือด้านการส่งกำลังบำรุง ยันเดินหน้าประเทศตาม Road  Mapกลับสู่ประชาธิปไตย

พล.อ. ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กห.พร้อมคณะ เยือนอังกฤษ  ระหว่าง 12 - 15 ก.ย.60 เพื่อกระชับความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างสองประเทศ 
 
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกห. เปิดเผยว่า เซอร์ ไมเคิล  ฟอลลอน รมว.กห. สหราชอาณาจักร ได้ให้เกียรติ ต้อนรับ พล.อ.ประวิตร และพร้อมคณะ ที่ อาคารรับรองของกห.  ( Admiralty House )  

ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความสัมพันธ์และการขยายความร่วมมือด้านการทหารและการป้องกันประเทศร่วมกัน โดยเฉพาะด้านการฝึก การศึกษา การแลกเปลี่ยนข่าวกรอง การปรับปรุงบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งกำลังบำรุง การปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ  

โดยรมว.กห.สหราชอาณาจักร ได้กล่าวชื่นชมไทย ที่จัดกำลังเข้าร่วมรักษาสันติภาพภายใต้กรอบสหประชาชาติ ที่สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน

 และขอบคุณที่สนับสนุนให้มีการฝึกผสมร่วมกันระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ร่วมกัน ภายใต้รหัสการฝึก Panther Gold  ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ระหว่าง 30 ต.ค.60 ถึง 1 ธ.ค. 60 ที่จังหวัดกาญจนบุรี   

พร้อมทั้งยินดีให้ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศ. 

ซึ่งพล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความขอบคุณในภาพรวม และกล่าวเพิ่มเติมถึง การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นประโยชน์เพื่อประชาชนและการวางรากฐานของประเทศ  รวมทั้งพัฒนาการทางการเมืองของไทย เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขตามโรดแมปที่กำหนด  พร้อมย้ำว่า ไทยพร้อมให้การสนับสนุนขยายความร่วมมือระหว่างกันในทุกด้าน เพื่อยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศที่มีมายาวนาน 

นอกจากนั้น พลเอกประวิตร พร้อมคณะ ได้พบปะและรับประทานอาหารกลางวันกับ นายมาร์ค  ฟีลด์ รัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศด้านเอเชียและแปซิฟิกและคณะ ณ ห้องรับรอง อาคารสำนักงานรัฐสภา ( Parliament House )  ณ พระราชวังเวสต์มินสเตอร์   

ทั้งสองฝ่ายได้หารือแลกเปลี่ยนมุมมองสถานการณ์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศและจุดยืนเกี่ยวกับความท้าทายด้านความมั่นคงต่างๆ

โดยสหราชอาณาจักรให้ความสนใจ  สถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก  การต่อต้านการก่อการร้าย การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเมียนมา การต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมาย  ซึ่งนำไปสู่อาชญากรรมด้านอื่นๆ ทั้งการค้ามนุษย์และการฟอกเงิน   เป็นต้น 

ขณะเดียวกัน ก็ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมกับอาเซียนในด้านต่างๆมากขึ้น โดยตระหนักถึงบทบาทความสำคัญของประเทศไทยในภูมิภาค และต้องการเพิ่มพูนความร่วมมือด้านต่างๆกับไทย ทั้งด้านการค้าการลงทุน และการป้องกันประเทศ     

โดยพล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำถึง การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลในภาพรวม ที่พยายามดูแลรักษาความสงบของประเทศ ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเท่าเทียมกัน โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน  

ขณะเดียวกันก็ตระหนักถึงการให้อิสระแก่ประชาชนในการแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วม เพื่อกำหนดแนวทางการสร้างความสามัคคีปรองดอง การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศร่วมกัน  

พร้อมทั้ง ยืนยันความตั้งใจที่จะกระชับความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือระหว่างกันในทุกด้าน 

นอกจากนั้น. พลเอกประวิตร พร้อมคณะ ยังได้รับเชิญ เข้าร่วมงานแสดงยุทโธปกรณ์ด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงนานาชาติ  ( Defence and Security Equipment International :   DSEI 2017)  ที่กำลังจัดขึ้น

 
หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร ฯ  ยังได้พบกับทีมไทยแลนด์ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน โดยได้มอบแนวทางให้สร้างความเข้าใจกับชาวต่างประเทศถึงสถานการณ์และพัฒนาการทางการเมืองของประเทศไทย โรดแม็ปที่จะนำไปสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นโยบายไทยแลนด์ 4.0  และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมทั้งแสวงความร่วมมือด้านใหม่ๆ กับสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีความสำคัญ ทั้งทางด้านความมั่นคง การค้า การลงทุน การศึกษา และการท่องเที่ยว เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน. 

 
พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า ผลการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรครั้งนี้ นับว่าเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์และการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างสองประเทศ รวมทั้งแสดงถึงความเชื่อมั่นในพัฒนาการกระบวนการประชาธิปไตยของไทย  ตลอดจนเป็นการเน้นย้ำจุดยืนร่วมในเวทีระหว่างประเทศ และความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันในทุกมิติ

ไม่มีความคิดเห็น: