PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

รีบคืนความชอบธรรม

รีบคืนความชอบธรรม



สะท้อนปรากฏการณ์ระดับโลก
นักฟุตบอลชื่อก้องระดับ “เดวิด เบคแคม” ซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการลูกหนัง “ลิโอเนล เมสซี” ทีมชาติอาร์เจนตินา “พอล ป็อกบา” ทีมชาติฝรั่งเศส ไคล์ วอล์กเกอร์ ทีมชาติอังกฤษ รวมถึงทีมชาติญี่ปุ่น
เปิดพื้นที่สื่อโซเชียลฯส่วนตัวเอาใจช่วย แสดงความยินดีกับทีมหมูป่า อะคาเดมี ที่ติดอยู่ในถ้ำนานกว่า 2 สัปดาห์ ก่อนได้รับการช่วยเหลือออกจากถ้ำอย่างปลอดภัย
เพจอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรบาร์เซโลนา สโมสรแอตเลติโก มาดริด ฯลฯ เชิญทีมหมูป่าฯร่วมกิจกรรม พร้อมทัวร์ชมการแข่งขันถึงสนามแข่ง
อารมณ์แบบที่ “โจเซ่ มูรินโญ” ยอดกุนซือชื่อดังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พูดระหว่างเป็นคอมเมนเตเตอร์ฟุตบอลคู่ตัดเชือกฟุตบอลโลก 2018 ระหว่างทีมชาติฝรั่งเศสกับทีมชาติเบลเยียม ด้วยประโยคกินใจ
วีรบุรุษคือทุกคนที่มีส่วนช่วยเหลือ 13 ชีวิต ทีมหมูป่าฯออกจากถ้ำที่ประเทศไทย ไม่ใช่ที่ฟุตบอลโลก
สถานการณ์ที่พูดได้เลยว่า ทีมฟุตบอลหมูป่าฯเข้าไปร่วมซีนกับฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซีย
ขณะที่ผู้นำเบอร์หนึ่งของโลกอย่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา รวมทั้งผู้นำกลุ่มสหภาพยุโรป ต่างออกแถลงการณ์แสดงความยินดีกับความสำเร็จในการช่วยเหลือทีมหมูป่าฯ
สื่อดัง ซีเอ็นเอ็น บีบีซี รอยเตอร์ เอ็นเอชเค ฯลฯ รายงานเกาะติดสถานการณ์แทบทุกเบรกข่าว
เป้าทุกสายตาในโลกโฟกัสมาที่ประเทศไทย
เพราะมันมีอะไรที่เหนือกว่าคำว่า “มิชชัน พอสสิเบิล” ภารกิจที่เป็นไปได้
นั่นก็คือพลังแห่งความสมัครสมานสามัคคีที่ผุดขึ้นโดยธรรมชาติ ถึงห้วงสถานการณ์คับขัน คนไทยไม่ทอดทิ้งกัน และนั่นยังเลยไปถึงพลังมวลมนุษยชาติ ทุกชาติทุกภาษา
ร่วมด้วยช่วยกันสร้างสรรค์ภาพความสวยงามของความรักที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
นับเป็นห้วงเวลา 16–17 วัน ที่ดีกรีความขัดแย้งทางการเมืองลดอุณหภูมิลง เงื่อนไขเรื่องของการแบ่งขั้วแบ่งสี หายไปจากประเทศไทยชั่วขณะ
ในเครื่องหมายคำถาม จะทำอย่างไรเพื่อรักษาสภาวการณ์แบบนี้ในระยะยาว
ไม่ใช่ข่าวทีมหมูป่าฯซา กระแสเงียบ ก็หันกลับมาแบ่งข้างโซ้ยกันใหม่
ไหลตามเกมของนักค้าความขัดแย้งทางการเมือง จุดชนวนปั่นหัวให้ตีกันเพื่อเดิมพันชิงอำนาจ
แต่ที่ไม่หายแน่ๆก็ชื่อของนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายฯ ที่โดนย้ายจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ตามคำสั่งก่อนเกิดเหตุการณ์ทีมหมูป่าฯติดถ้ำ
โดยคนดำเนินการชงเสนอคณะรัฐมนตรีก็คือ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
ในอารมณ์แบบที่สื่อต่างประเทศยังเป็นงงกับมาตรฐานการย้ายคนต่อต้านทุจริต จากจังหวัดใหญ่ไปอยู่จังหวัดเล็ก เหมือนเป็นการลงโทษมากกว่าการปูนบำเหน็จ
นั่นก็ทำให้เกิดกระแสแบบที่ยังไม่ทันเสร็จจากภารกิจช่วยทีมหมูป่าฯออกจากถ้ำหลวงฯสำเร็จ พลังโซเชียลมีเดียฯเนืองแน่น แห่หนุนฮีโร่
ลุ้นให้ “ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์” มาลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
บ่งบอกให้รู้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการ “พ่อเมือง” น้ำดีแบบนี้
ไม่ใช่เน้นแต่ประเภท “ใช่ครับพี่ ดีครับนาย สบายครับผม เหมาะสมครับท่าน”
ตามสถานการณ์ที่แทงหวยล่วงหน้าได้ การโยกย้ายใหญ่
ผู้ว่าฯประจำฤดูในเดือนตุลาคมนี้ รัฐบาลโดย “นายกฯลุงตู่” ต้องคืนความชอบธรรมให้นายณรงค์ศักดิ์
ยกเลิกตรรกะส่งคนเก่งไปพัฒนาจังหวัดเล็กๆให้เจริญทัดเทียมจังหวัดใหญ่
มิเช่นนั้น ปลัดมหาดไทยที่มาจากจังหวัดใหญ่จะไม่มีคนเก่งเลย
เรื่องของเรื่อง จุดสำคัญมันโยงนัวเนียกับปมทุจริตคอร์รัปชัน ตามกระแสข่าวที่สื่อตามกัดติด เหตุโยกย้ายนายณรงค์ศักดิ์เพราะดันไปขวางโครงการที่มี “เงินทอน”
ย้อนศรนโยบายที่ คสช.ประกาศจะลุยล้างทุจริต
โดยภาพออกมาสวนกระแส เดี๋ยวจะพาลกระเทือนชิ่งถึงแผนตีตั๋วต่อของ “ลุงตู่”
ทั้งๆที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องอะไร ต้องตามน้ำที่มหาดไทยชงมา.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: