รายงานข่าวเศรษฐกิจ มหภาค
ข้อสังเกต หากรัฐบาลไม่เร่งโครงการเมกกะโปรเจคอย่างรีบด่วนที่สุดไม่มัวโอ้เอ้ทั้งที่มีม.44อยู่ในมือแต่ไม่ใช้ให้เป็นประโยชน์ขจัดกฏระเบียบที่รกรุงรังทำให้ไม่ข้องตัวออกไป เศรษฐกิจก็ไม่มีทางฟื้นตัวไม่ว่าชาตินี้และชาติหน้า งบประมาณนั้นรัฐบาลที่แล้วยังหางบบประมาณเอาไปผลาญถลุงเงินโครงการจำนำข้าว 8 แสนล้านบาทได้เลย ปีนี้และปีหน้ามีเงินทยอยเข้าคลังจากการประมูลคลื่นมือถือประมาณ 2แสนล้านบาททำไมไม่เอามาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ อย่าทำแบบโครงการเบี้ยหัวแตก นิดๆหน่อยๆเพื่อประชาสัมพันธ์ แนะนำมาด้วยความหวังดีในวาระปีใหม่ Proactive คือลงมือทำทันที เศรษฐกิจขยายตัวจิ๊บจ้อยร้อยละ2.8ปีนี้และร้อยละ3.8ปีหน้า เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่ขยายตัวมากกว่าร้อยละ4ขึ้นไปทั้งนั้น
เนื้อข่าว
สศค.ปรับจีดีพี 58 หลังปีใหม่ ส่งออกหดเกินคาด
Credit:ข่าวและภาพ INN
2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
© สนับสนุนโดย INN 668114
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการภาษีที่ให้ประชาชนนำค่าใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการ ตั้งแต่วันที่ 25 - 31 ธันวาคม 2558 หักลดหย่อนภาษีตามจำนวนเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท นั้น จะสามารถช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศในเดือนธันวาคม โดยมาตรการภาษีที่ออกมาใช้ 7 วัน มีผู้ที่ได้รับสิทธิ์การลดหย่อนภาษี ประมาณ 3 ล้านคน แต่คาดว่าจะมีผู้บริโภคใช้จ่ายประมาณร้อยละ 50 ของผู้ที่ได้รับสิทธิ์ทั้งหมด ซึ่งหากใช้จ่ายสูงสุดที่ 15,000 บาท ต่อคน จะมีเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ 22,500 ล้านบาท จะช่วยจีดีพี ขยายตัวขึ้นร้อยละ 0.1 การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4
สศค. ยังคงประมาณการเศรษฐกิจปี 2558 ขยายตัวร้อยละ 2.8 แต่อาจจะใกล้เคียงร้อยละ 3 มากขึ้น เพราะมีหลายมาตรการเสริม แต่ยอมรับกังวลการส่งออกในเดือนพฤศจิกายนที่หดตัวลงมากถึงร้อยละ 7.4 ทำให้ทั้งปีการส่งออกติดลบมากกว่าที่คาการณ์คือติดลบร้อยละ 5.5 จากเดิมคาดติดลบร้อยละ 5.4 ซึ่ง สศค. จะมีการปรับประมาณการใหม่ในเดือนมกราคมนี้
สศค.คาดเศรษฐกิจปี 59 ขยายตัว 3.8%
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในปี 2559 สศค. คาดการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ ร้อยละ 3.8 โดยยังมีความเป็นห่วงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่น ดังนั้น การฟื้นตัวยังเปราะบาง
ขณะที่มีความผันผวนทางการเงินโลก การดำเนินนโยบายการเงินของประเทศขนาดใหญ่ในโลก ใช้นโยบายการเงินไม่สอดคลองกัน กระทบเงินทุนเคลื่อนย้าย ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนผันผวน ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรยังต่ำ และราคาน้ำมันยังอยู่ในขาลง ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรทรงตัวในระดับต่ำ กระทบรายได้เกษตรกร และยังมีปัญหาภัยแล้งกดดัน
อย่างไรก็ตาม มีความหวังจากการลงทุนภาครัฐ ที่คาดว่าเม็ดเงินจะมากกว่าปีนี้ หลายโครงการประมูลได้โดยเฉพาะการก่อสร้างรถไฟทางคู่ โครงข่ายรถไฟฟ้า การก่อสร้างทางหลวงพิเศษ การขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนการท่องเที่ยวเป็นตัวสนับสนุนเช่นกัน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทยจะขยายตัวเกินร้อยละ 10 บวกกับการค้าชายแดนเร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะจากเมียนมา ลาว กัมพูชา จะส่งผลให้การส่งออกในปี 2559 ขยายตัวร้อยละ 2.5 แต่มีแนวโน้มต่ำกว่านี้ได้
Credit:MSN.COM
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น