PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ลึกปมอุ้มทนายนักสู้ สมชาย นีละไพจิตร

ลึกปมอุ้มทนายนักสู้ สมชาย นีละไพจิตร
http://www.prachathai.com/jservlet/servlet/newsdetail?script_code=w4703-01795
 เนื้อหา

ลึกปมอุ้มทนายนักสู้ สมชาย นีละไพจิตร ก่อนลามประเด็น สะบั้นมวลชน จุดติดไฟแผ่นดินจาก มิคสัญญี ด้ามขวาน พ.ต.ท.ก. หัวหน้าชุด๔นักอุ้มรับแผน พล.ต.อ.ส. ปฏิบัติการ ตัดตอน ก่อนสาวถึงจอมบงการ ปฏิบัติการเจาะไอร้อง๔๗ กับดักสมรภูมิรบอำพราง การเมือง๒ขั้ว บทดำเนินแผนสัปยุทธพลิกระบบ ก่อนปลด ผบ.ตร. แม่ทัพภาพที่๔สังเวย .

การหายตัวไปอย่างลึกลับของ สมชาย นีละไพจิตร (๒๐.๐๐น.:๑๒มี.ค.๔๗) อย่างที่ นสพ.ร่วมด้วยช่วยกัน ทิ้งปมไว้ในฉบับที่แล้ว (ฉบับ ๒๑๗ :วันที่ ๑๘-๒๑ มี.ค.๒๕๔๗) ว่า ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ที่ใครต่อใครในรัฐบาลจะมองข้ามผ่านการจัดการ และถือเป็นปะทุเชื้อไฟที่นำไปสู่ความรุนแรง วงกว้างทางสังคม มากไปกว่า ไฟใต้ ที่ถูกจุดปะทุโดยกลุ่มปฏิบัติการ เจาะไอร้อง๔๗ (ม.ค.๒๕๔๗)

แน่นอน เฉพาะยิ่งแค่ผลเบื้องแรก มวลชนชาวมุสลิม ไม่เฉพาะแต่ในพื้นที่ภาคใต้ หากแต่หมายรวมถึงมุสลิมทั่วประเทศ ต่างรู้สึก ไม่สบายใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีการแสดงท่าทีชัดเจนกับรัฐในรูปแบบที่คล้ายบ่งบอกว่าความสัมพันธ์ในระดับที่หมิ่นเหม่อยู่แล้วได้ถูกตัดสะบั้นลงไปอย่างสิ้นเชิงจากการครั้งนี้

ภารกิจที่รัฐบาลฝ่ายเกี่ยวข้องและสื่ออย่าง นสพ.ร่วมด้วยฯ จะช่วยกันนาทีนี้คือการร่วมด้วยช่วยกันคลี่คลายภาพการหายตัวไปของ สมชาย และลากไส้ ตัวละคร ที่ปฏิบัติการ และอยู่เบื้องหลังออกมาดำเนินการ ซึ่งนาทีนี้ถนนทุกสายทั้งองค์กรสิทธิมนุษยชน นักกฎหมาย ทนายความ นายทหาร ส.ส. ส.รวมถึง ผู้ใหญ่ ในรัฐบาล ฯลฯ มีทิศทางสอดรับกัน โดยพุ่งเป้าไปที่ เจ้าหน้าที่รัฐ อย่าง ตำรวจ

ส่วนจะใช่หรือไม่ อย่างไร ลองติดตามพิเคราะห์ ข้อมูล ที่จะนำเสนอต่อไปนี้

@@ใครอุ้ม สมชาย หายตัว

คำถามที่ทุกคนก็อยากจะหาคำตอบให้ได้โดยเร็ว ในท่ามกลางความสับสนและตั้งใจให้สับสน นับแต่นาที ข่าวการหายตัวไปอย่างลึกลับของ สมชาย นีละไพจิตร ที่แทรกอยู่ในคำถามพื้นฐานของทุกฝ่าย แม้ถึงนาทีนี้ ก็คือ สมชาย หายไปไหน? ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่? แล้วถ้าหายไปอย่างไม่ปกติโดยมีขบวนการ อุ้ม จริงๆ ใคร คือคนอุ้ม และใครอยู่เบื้องหลัง เพื่ออะไร ทำไม ใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์ ฯลฯ แน่นอนว่า ข้อเท็จจริง หรือ สมมุติฐาน ที่ปรากฏทางคดีการตรวจสอบ ที่ว่าด้วย จุดเกิดเหตุ เส้นทาง สภาพของพยานวัตถุ บุคคล ย่อมดำเนินไปตามกระบวนการสอบสวนของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังอาการแบ่งรับแบ่งสู้ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี (๑๘มี.ค.๔๗) ที่ว่า ขอยืนยันทั้งที่ไม่แน่ใจอย่างเต็มที่ว่า ไม่น่าจะเกิดจาก ตำรวจ แต่ก็จะขอดูต่อไปและเอาจริงเอาจังให้ได้ เพราะเท่าที่ฟังเสียงวันนี้ค่อนข้างชี้ไปที่ ตำรวจ

ซึ่งก็สอดคล้องกับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกที่ออกมาฟันธงแบบไม่เกรงใจใคร (๑๙ มี.ค.๔๗) ว่า มันก็ออกข่าวว่าเกิดมาจากการที่ทหารไม่พอใจในเรื่องการล่า ๕๐,๐๐๐ รายชื่อให้ยกเลิกประกาศกฎอัยการศึก ผมว่ามันนั่นแหละอุ้ม เพราะไปกระทืบจำเลยเขาเพื่อให้รับสารภาพเขาก็โวยสิ พอเขาโวยก็ไปอุ้มเขา อย่างกรณีตัวอย่างทนายของผู้พันตึ๋ง ทนายความ เสธ.แดงที่ถูกอุ้ม และชูวิทย์ที่ถูกอุ้ม แม้กระทั่ง เสธ.แดงที่เป็นนายพลมันยังกล้าอุ้ม กับทนายความแบบนี้ทำไมมันจะไม่กล้าอุ้ม มันขัดใจกันอยู่และนี่เป็นนโยบายระดับชาติด้วยมันไม่เอาตายเลยเหรอ

หากแต่ในเชิงลึก ทางการข่าวของ หน่วยข่าวลับ ด้านความมั่นคงของรัฐที่โดดลงมาร่วมคลี่คลายคดีนี้ แบบถือเอาเรื่องนี้เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ ความมั่นคง มาตั้งแต่ต้นนั้น คำตอบ ใน คำถาม ชุดเดียวกัน ดูเหมือนพอจะได้เค้ารางแล้วว่า ใคร คือชุดปฏิบัติการ อุ้ม ใคร อยู่เบื้องหลังและเกี่ยวอะไรอย่างยิ่งยวดหรือไม่กับใครต่อใครที่อยู่เบื้องหลังการบงการกองกำลัง ปฏิบัติการเจาะไอร้อง๔๗ ซึ่งมีองค์ประกอบตั้งแต่นักการเมืองระดับชาติ ระดับท้องถิ่น นายตำรวจระดับสูง ฯลฯ

@@พ.ต.ท. ก หน.๔ ชุดอุ้ม

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวเชิงลึกของ หน่วยข่าว ที่ถูกส่งผ่านมาจากหน่วยงานข่าวด้านความมั่นคงของรัฐบาลเป็นระลอกนับแต่การหายตัวไปของ สมชาย มีรายงานข่าวลับชุดหนึ่งที่น่าสนใจซึ่งถูกส่งผ่าน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชิณวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงค่ำของวันพฤหัสที่ ๑๘ มี.ค.๔๗ ที่ผ่านมา ว่า หน่วยข่าวได้รับเบาะแสว่า ปฏิบัติการ อุ้ม ครั้งนี้ มีบุคคล ๔ คน ที่มีนายตำรวจในราชการสังกัดหน่วยงานราชการ ส่วนกลาง ยศ พ.ต.ท. ชื่อ ก. เป็นชุดปฏิบัติการ

โดยรายงานชุดนี้ยังแยกเป็น ๒ สาย สายหนึ่งระบุว่า มีการอุ้ม สมชาย จากระหว่างเส้นทางการเดินทางออกจากโรงแรมชาลีน่า ออกไปทางถนนรามคำแหงมุ่งหน้าหมู่บ้านสวนสน และมีการอำพรางด้วยการขับรถไปจอดทิ้งไว้ที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยหน่วยข่าวสายนี้ระบุว่า นายสมชาย ถูก จัดการ เสียชีวิตแล้วหลังจากที่มีการนำตัวไปในที่แห่งหนึ่ง ขณะที่อีกสายข่าว กลับระบุว่าขณะนี้ สมชาย ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อการต่อรองบางอย่างของผู้มีอำนาจกับฝ่ายอำนาจรัฐ

@@๒พล.ต.อ. ส. สั่งปฏิบัติการ

รายงานชิ้นเดียวกันนั้นได้มีการขยายผลไปในรายละเอียดเชื่อมต่อกับรายงานข้อมูลอีกชุดที่ถูกส่งผ่าน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งภายหลัง มีการเปิดรับข้อมูลผ่าน สายข่าว ชาวมุสลิมสายหนึ่ง เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีการระบุถึงนายตำรวจยศพลตำรวจเอกชื่อ ส.เสือ ๒ คน ว่าอยู่เบื้องหลังการสั่งการครั้งนี้ ผ่าน พ.ต.อ. ก.ไก่ นายตำรวจพื้นที่นครบาล อีกคนหนึ่งที่อยู่ในบัญชีโยกย้ายตำรวจล่าสุด โดยตามประวัติของ พล.ต.อ.ส. นั้นมักใช้วิธีการดังกล่าวจัดการกับ ฝ่ายตรงข้าม ในลักษณะการ อุ้มฆ่า โดยในรายงานชิ้นนี้ ระบุว่า กลุ่มของ พล.ต.อ.ส. นอกจากจะมีอยู่ในส่วนกลาง ยังมีอยู่ในพื้นที่ภาคใต้เป็นหลักทั้งตอนบนและตอนล่าง โดยทั้งหมดขึ้นกับนักการเมือง ส. ซึ่งกองกำลัง อำนาจรัฐแฝง จะประกอบไปด้วยกองกำลังของ พล.ต.ต.ค. หรือ ผู้การ ต. และ พล.ต.ต.ส. ที่เชื่อมต่อกับ พ.อ.ณ ที่เชื่อมโยงตรงกับกับ พล.อ.ส. และ นาย พ. โดยกองกำลังเหล่านี้ยังแยกย่อยออกไปอีก เป็นกองกำลังของ พ.ต.ท. ส. พ.ต.ท. จ. และ พ.ต.ท. ช.

@@เชื่อมกลุ่ม เจาะไอร้อง๔๗

นสพ.ร่วมด้วยช่วยกัน ฉบับที่ผ่านมาซึ่งเกาะติดสถานการณ์ไฟใต้ เคยขยายภาพกองกำลังที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะ เจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนหนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ โดยมีความพยายามเชื่อมต่อกับองค์กรนอกประเทศ CIA. ผ่านนักการเมือง ส. และนักวิชาการ อ. โดยยังพบว่าขบวนการดังกล่าวขยายตัวเข้ามายัง ศูนย์กลางอำนาจรัฐ ทั้งยังแทรกซึมเข้าไปในหน่วยงานราชการด้านความมั่นคง ผ่านองค์กรการเมือง ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ที่เริ่มดำเนินการตามแผนการนี้มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ แล้ว

โดย ปฏิบัติการเจาะไอร้อง๔๗ ในพื้นที่ ๓จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั้นเป็นเพียง กับดักอำพราง ให้ฝ่ายรัฐทำการจัดส่งกำลังทั้งทหาร ตำรวจ ลงไปในพื้นที่จำนวนมาก เพื่อก่อให้เกิดเงื่อนไขความขัดแย้งกับ มวลชน ในพื้นที่ จากทั้งปฏิบัติการของทหารเองบ้าง (นำมาสู่การเรียกร้องให้ยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่) และจากทั้งการ สวมรอย ปฏิบัติการจิตวิทยาของ กองกำลังอำนาจรัฐแฝง ในรูปแบบ ฆ่ารายวัน ปล่อยข่าวทำลายขวัญราษฎรทั้งชาวไทยพุทธ มุสลิม บ้าง โดยฝ่ายผู้อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการ เจาะไอร้อง๔๗ พยายามลากดึงให้สถานการณ์ภาคใต้ยืดเยื้อถึง ๕-๖ เดือน เพื่อขยายลุกลามสู่ เป้าหมาย สถานการณ์ระดับชาติ

@@ สมชาย จุดติดไฟประเทศ

เหตุการณ์การหายตัวไปของ สมชาย นอกจากจะทำให้เห็นภาพการความเพลี่ยงพล้ำของรัฐบาลด้วยเหตุการ สะบั้นขาด จาก มวลชน ในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ วันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ นำ ครม.สัญจร จ.ปัตตานี รวมไปถึงความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะในปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เคลื่อนขับผ่านองค์กรสิทธิมนุษยชนแล้ว

ภาพที่ปรากฎชัดถัดต่อมาคือ การปรากฏซึ่งภาพการ สันดาบทางความคิด ของแต่ละกลุ่มขัดแย้งทางสังคมวงกว้าง ไม่เฉพาะแต่พื้นที่ภาคใต้ ที่ถูกพิสูจน์แยกแยะออกมาอย่างชัดเจนมากขึ้น หากแต่ ภาพรวม การปฏิรูปประเทศได้ถูกแยก คู่ความขัดแย้ง ออกมาอย่าง เด่นชัดมากขึ้นเช่นกัน เฉพาะยิ่งเมื่อภาพเหล่านี้ถูกขยายผ่านนักการเมืองฝ่ายค้าน ที่พยายามฉายภาพ ปฏิบัติการอุ้ม ในพื้นที่ภาคใต้ให้ปรากฏสอดรับกับกรณี สมชาย โดยมีการอ้างอิงข้อมูลของนักวิชาการมหาวิทยาลัยที่ระบุชัดเจนว่า ขณะนี้ผู้ถูกอุ้มตัวไป ๑๐๓ คน โดยมีความพยายามกดดันจากทุกฝ่ายให้รัฐบาลสรุปออกมาให้ชัดเจนว่าผู้อุ้ม คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ เจ้าหน้าที่หน่วยงานไหนของรัฐบาล

@@ มุสลิม ละหมาดทั่วประเทศ

ประเด็นนำไปสู่การจุดติดไฟครั้งใหญ่ ฉายภาพชัดผ่าน อาการการขับเคลื่อนของทั้งนักกฎหมายทนายความที่ใกล้ชิด สมชาย นักวิชาการด้านกฎหมาย นักสิทธิมนุษยชนทั้งในและนอกประเทศ รวม
ไปถึงศาสนิกมุสลิมทั้งในพื้นที่ภาคใต้และส่วนกลางดังที่ พล.อ.ชวลิต เองก็ยอมรับ (๑๙มี.ค.๔๗) ว่าเหตุการณ์ลอบวางเพลิง ๓๘ จุดในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้กลางดึก(๑๘ มี.ค.) ส่วนหนึ่ง
มาจากความไม่พอใจของคนในพื้นที่ต่อการหายตัวไป สมชาย ซึ่งเป็นที่รักของชาวบ้าน ซึ่งอาจเป็นการเตือนล่วงหน้า แต่อย่างไรก็ตามยังคงไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการก่อเหตุหลังจากนี้หรือไม่ ซึ่งก็สอดรับกับภาพชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศ รวมทั้ง สมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย ชมรมทนายความมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ทำพิธีสวดละหมาดฮายัต ให้กับ นายสมชาย ในเวลา ๐๔.๐๐ น. (๑๙ มี.ค.๔๗)

@@เหตุ ตัดตอน สาวถึงผู้บงการ

สถานการณ์ที่ลุกลามจากประเด็นของ สมชาย นอกจากจะเกิดแรงปะทุจาก มวลชน ในพื้นที่ภาคใต้ และลามไปยังมุสลิมทั่วประเทศ ยังระบาดเข้าไปสู่สถาบันตำรวจ ทหาร โดยเฉพาะทหารที่ถูกตีขลุมมาโดยตลอดว่า มีส่วนเกี่ยวข้องสถานการณ์ภาคใต้ และรวมถึงกรณี นายสมชาย เช่นเดียวกับตำรวจ ภายใต้สถานะ เจ้าหน้าที่รัฐ โดยแนวโน้มที่ทุกฝ่ายมองล้วนมีความสอดคล้องกันโดยมองไปที่ตำรวจเป็นหลัก โดยเฉพาะกองกำลังอำนาจแฝงที่เป็นตำรวจในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งมักปรากฏพฤติกรรมตามที่ สมชาย ระบุว่ามีการบังคับให้ผู้ต้องหาแพะสารภาพด้วยวิธีการทรมานหลายรูปแบบ

โดยเฉพาะล่าสุดกับผู้ต้องหา ๕ คนที่ถูกฉี่กรอกปากและไฟฟ้าช็อตให้รับสารภาพว่ามีส่วนปล้นปืน ซึ่งในประเด็นนี้นายสมชายนอกจากจะออกมาแฉถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำาวจ แล้วยังเตรียมที่จะนำข้อมูลที่ได้รับจากผู้ต้องหาทั้ง ๕ รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง ขยายสาวไปถึงผู้บงการบางรายด้วย การดังกล่าวสอดรับกับการออกมาระบุของ สมชาย หอมละออ เลขาธิการสมาคมสิทธิเสรีภาพ (ส.ส.ส.)
ว่า คดีแบ่งแยกดินแดน มักไม่มีทนายความกล้าต่อสู้คดี นายสมชาย เป็นทนายความที่กล้าหาญต่อสู้ทำคดีนี้ เป็นไปได้ว่าจะเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่เกิดความไม่พอใจในการทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหา ทำให้ถูกลักพาตัว...ซึ่งการที่นายสมชายหายตัวไปเป็นเพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐที่นายกฯ เป็นผู้ให้ท้ายแต่ต้น โดยเจ้าหน้าที่ที่ทำงานไม่ตรงไปตรงมา มาใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือ เช่น การฆ่าตัดตอนของรัฐบาลที่ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ใจ

@@ ปลด ผบ.ตร.สังเวยใต้

อย่างไรก็ตาม ถึงที่สุดในขณะที่สถานการณ์ลามจากพื้นที่ภาคใต้ และขณะที่เกิดการการแสดงความไม่พอใจตอบรับกับข่าวการหายไปของ นายสมชาย (๑๘ มี.ค.) ด้วยการเผาสัญลักษณ์ของฝ่ายราชการหลายสิบแห่ง รุ่งขึ้นอีกวัน (๑๙ มี.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้ลงนามในคำสั่งโยกย้าย พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผู้บัญชการตำรวจแห่งชาติ ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขึ้นรักษาการแทนตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมยังมีคำสั่งให้โยกย้าย พล.ท.พงษ์ศักดิ์ เอกบรรณสิงห์ แม่ทัพภาคที่ ๔ ไปช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และให้ พลโทพิศาล วัฒนวงศ์คีรี ผู้ช่วยหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการทหาร ผู้บัญชาการทหารบก ไปดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ ๔

ทั้งหลายทั้งปวงยังคงต้องติดตามผลแห่งความเป็นไปของประเด็น นายสมชาย ที่กำลังขยายไปในการเมืองระดับชาติแบบแบ่งฝ่ายแยกข้าง และรวมไปถึงการดำเนินไปของการเปลี่ยนแปลงปฏิรูประบบประเทศ ซึ่งมี ระบบราชการ เป็นตัวแปรสำคัญอันเป็นปฏิปักษ์กับอำนาจรัฐ . ตามรอย เสธ.แดง ลุยใต้-มาเลย์กู้ภาพทหาร

สะใจคำสั่งฟ้าผ่า ปลดสันต์ ฐานขวางทางปืน หลังจากเกิดเหตุ ปล้นปืน ในพื้น ๓ จังหวัดภาคใต้ติดต่อกันหลายครั้งในปี ๒๕๔๕-๒๕๔๖ แล้วมีการปะทะจนทำให้มีการสูญเสียชีวิตเกิดขึ้นนั้น มีอยู่ ๓-๔ เหตุการณ์ เริ่มตั้งแต่เหตุ ปล้นปืน ในเขตอุทยานแห่งชาติบางลาง ตามด้วย ปล้นปืน จากหน่วยทักษิณพัฒนาที่ ๑๒ อ.สุคิริน นราธิวาส ทหารตาย ๔ นาย แล้วก็ตามด้วย ปล้นปืน จากหน่วยทักษิณพัฒนาที่ ๕ อ.ธานโต ยะลา และที่รุนแรงที่สุดก็คือ ปล้นปืน ในคืนวันที่ ๓ ต่อเชื่อมเช้ามืดวันที่ ๔ ม.ค.๒๕๔๗ ณ หน่วยทักษิณพัฒนา ๔๔ อ.เจาะไอร้อง นราธิวาส แล้วยังตามด้วยการบุกป้อมตำรวจที่ ต.อัยเยอรีเวง อ.เบตง ยะลา พร้อมๆ กับเกิดเหตุการณ์บึ้มป้อมตำรวจใน ปัตตานี ตำรวจเสียชีวิตคาที่อีก ๒ นาย แล้วหลังจากวันที่ ๔ ม.ค.๒๕๔๗ เป็นต้นมา อาจกล่าวได้ว่าความรุนแรงใน ๓ จังหวัดภาคใต้ได้กลายเป็นปัญหาชาติที่ส่อเค้ายืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อไปถึง หน่วยงาน ที่เกิดขึ้นเกือบฝ่ายทุกสถาบัน ด้วยกลุ่มโจรก่อการร้ายยังมีการปฎิบัติการโหดสังหารชาวบ้าน เด็ก ครู ตำรวจ และทหาร อย่างต่อเนื่องมาถึงวันนี้

ขณะที่การปฏิบัติการ ไล่ล่า โจรใต้ปล้นปืนสังหารเจ้าหน้าที่รัฐ ชาวบ้าน ยังคงดำเนินไปอย่างเนิบช้าและไร้ผลความสำเร็จ เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายจากส่วนกลาง ถูกส่งให้ไปปฏิบัติหน้า กอบกู้สถานการณ์ แต่แล้วความรุนแรงก็ยังเหมือนจะยังไม่ซางซาหายไปจากพื้นที่ กระทั่งรัฐบาลโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องประกาศใช้กฎอัยการศึก อีกด้านหนึ่ง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ไล่ล่าทวงปืน ทวงศักดิ์ศรีทหารใน ๓ จังหวัดภาคใต้และพื้นที่ใกล้เคียงตลอดจนพื้นที่ชายแดนและประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยเหตุการณ์ ปลื้นปีน ข้างต้นกระแสหนึ่งได้พาดพิงถึง ทหารกลุ่มหนึ่ง ว่ามีส่วนพัวพันอยู่ด้วย

การลงพื้นที่ของ เสธ.แดง อาจแบ่งภาพการติดตาม ปืน ที่หายไปทั้งหมดเกือบ ๔๐๐ กระบอกในครั้งนี้ ออกได้เป็น๓ ภาพ โดยภาพแรกฉายไปที่ช่วงเวลาแรกๆ ที่มีการปล้นปืนครั้งรุนแรงสุดหลังวันที่ ๔ และอีกภาพหนึ่งเป็นช่วงเวลาที่ เสธ.แดง ลงไปปฏิบัติการทำแผนนอกประเทศ และภาพที่ ๓ ก็เป็นภาพของการติดตาม ข้อมูลลับ กับกลุ่มผู้ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้อง โดยกรณีนี้ เสธ.แดง กล่าวยอมรับว่า ส่วนหนึ่งตน ไปเอาจดหมายจาก ดาโอ๊ะ ท่าน้ำ กับ สะมะแอ ท่าน้ำ เพื่อนำภรรยาและลูกของเขาไปพบกับกลุ่มของ พูโล ซึ่งการปฏิบัติการเช่นนี้ จะเพื่อวัตถุประสงค์ให้กลุ่มพูโลกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ต้องตรวจสอบกันเองหรือไม่ เสธ.แดง ไม่ยืนยัน เพราะในการปล้นครั้งนี้มีกระแสะออกมาก่อนหน้านี้ว่ามีกลุ่ม เบอร์ซาตู เกี่ยงข้องด้วย ซึ่งหากจะย้อนกลับไปแล้ว กลุ่มเบอร์ซาตู ก็คือกลุ่มที่รวมกันระหว่างพูโล บีอาร์เอ็น และขบวนการใต้ดิน เราจึงได้ลงไปในพื้นที่ได้เข้าไปพบกับแม่ น้องชาย และลูกสาวของนายสะมะแอ ท่าน้ำ และได้พบกับนายหมัดปาริต ซึ่งเป็นหัวหน้าพูโลซึ่งอยู่ในมาเลเซียเรียบร้อย เอาแล้วทีนี้ยุ่งแหละมีวิทยุจาก พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร. ส่งหนังสือและรูปของผมไปที่หนังสือพิมพ์ของมาเลเซีย กล่าวหาว่าผมปลอมตัวเป็นดาโต๊ะเพื่อจะใช้ยุทธการ ใบไม้ร่วง ของคนไทย เข้าไปเอาคนมาเลเซียมาฆ่า ๒๐ กว่าศพแล้วอันนี้อันที่หนึ่ง เสียงของ เสธ.แดง โอดครวญถึงการต้องเผชิญกับปราการด่านสำคัญในการติดตามไล่ล่าทวงปืนคืน

แผนการไล่ล่าทวงปืนคืนของ เสธ.แดง ที่ต้องการพิสูจน์เพื่อพิทักษ์ศักดิ์ศรีของทหารหลังจากถูกกระแสสังคมตั้งข้อสงสัยและแม้กระทั่ง นายกรัฐมนตรีเองก็เคยหลุดปากตั้งคำถามมาแล้ว ครั้งนี้ เหมือนจะยังไม่สามารถเดินไปได้ตามแผนที่วางไว้แต่ต้นได้ เพราะหลังจาก เสธ.แดง ต้องถอยทัพตามไล่ล่าปืนออกจากมาเลย์เซียกลุ่มเจ้าหน้าที่และบุคคลที่ให้การช่วยเหลือเชิงข่าวลับก็ถูกต้นสังกัด สั่งย้ายด่วน

กรณีนี้ เสธ.แดง ย้ำชัดว่า มีตำรวจน้ำที่ตากใบ ๒ นาย ซึ่งเป็นตำรวจน้ำที่จบจากโรงเรียนนายเรือ แล้วมาช่วย เสธ.แดง สำรวจเส้นทางโกลก คือ นายตำรวจ ต. กับ นายตำรวจ ท. โดยย้ายไปไว้ที่ ตชด.จังหวัดสุรินทร์ เป็นการย้ายออกจากพื้นที่โดยให้ตำรวจยศจ่ามาทำการแทนที่สถานีตำรวจตากใบ และไม่เพียงแค่นั้น เสธ.แดง ยังถูกทางการตำรวจไทย แจ้งความจับ ที่อำเภอจะนะ จ.ปัตตานี ข้อหา หนี เมื่อวันที่ ๑๘ มี.ค.๒๕๔๖ หลังจากที่ถอยทัพออกมาจากมาเลเซีย์อีกด้วย...ซึ่ง เสธ.แดง ยืนยันอีกว่า... เมื่อวันที่ ๑๘ ที่ผ่านมามีเรื่องราวใหญ่โต ผมเลยจะไปมอบตัวที่จะนะเขาก็ไม่รับมอบตัว เขาให้มามอบตัวที่หาดใหญ่คงเพราะเขากลัว ผมก็บอกว่าถ้ามอบตัวที่หาดใหญ่ไม่สะดวกมีคนเป็นร้อยเลย ผมก็เลยเสนอว่าขอมอบตัวที่ มทบ.๔๒ ก็ไม่ยอมมาที่ มทบ.๔๒ ผมก็เลยยังไม่มอบตัว ก็เลยแถลงข่าวว่าจะออกหมายจับผม

เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ เสธ.แดง ต้องเผชิญกับการทำงานที่อาจจะเรียกได้ว่า โดนขวาง จากคู่ปรับตลอดกาลอย่าง พล.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผ่านเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ส่งคำสั่งสายปานไปครอบคุมกลุ่มสีกากีเกือบทั้งหมด ทั้งนี้มีการตั้งข้อสัญนิฐานษ์เบื้องต้นว่า หากว่า เสธ.แดง ตามปืนที่ปล้นไปเจอและมีการสาวโยงใยอาจจะชักใยถึงผู้ใหญ่บางคนในกลุ่มสีกากี ได้หรือไม่

ดังคำยืนยันประโยคหนึ่งของ เสธ.แดง ที่ว่า.... ไอ้ตังกุย ดาว กับตังกุย ไตกวง ซึ่งเป็น ผบ.กองกำลังแบ่งแยกดินแดนเขาก็เตรียมต้อนรับอยู่แล้ว โดยให้ผมขึ้นรถไปต้องออกจากปีนัง ไปเมืองยี่หรุ่น

จากนั่นถึงจะข้ามไปอาเจะห์ เราเตรียมที่จะไปพบกับเขาอยู่แล้ว เขาทำจนเรากลายเป็นคนชั่วร้ายเป็นคนที่เป็นอันตรายต่อประเทศมาเลเซีย เดี๋ยวทางการมาเลย์ก็จับเราแขวนคอตายกันพอดี เราทำงานทางข่าวลับเราต้องปลอมตัวมาใส่ชุดแขก เราเป็นสายลับไม่ใช่งานโอเปอเรชั่นตามล่าแบบทหารพรานทหารหลักแน่นอน

ส่วนกรณีของ นายสมชาย นีละไพจิตร ประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิมที่ได้หายตัวไปนั้น จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกับใครอย่างหรือไม่ ยังไม่มีการสรุปแน่ชัดซึ่งในส่วนของ เสธ.แดง ได้กล่าวถึงกรณีของนายสมชาย ทำนองว่า... เขาก็ออกข่าวว่าเกิดมาจากการที่ทหารไม่พอใจในเรื่องการล่า ๕๐,๐๐๐ รายชื่อให้ยกเลิกประกาศกฎอัยการศึก ผมว่าเขานั่นแหละอุ้ม เพราะไปกระทืบจำเลยเขาเพื่อให้รับสารภาพเขาก็โวยสิ พอเขาโวยก็ไปอุ้มเขา อย่างกรณีตัวอย่างทนายของผู้พันตึ๋ง ทนายความ เสธ.แดง ที่ถูกอุ้ม และชูวิทย์ที่ถูกอุ้ม แม้กระทั่ง เสธ.แดง ที่เป็นนายพลเขายังกล้าอุ้ม กับทนายความแบบนี้ทำไมมันจะไม่กล้าอุ้ม เขาขัดใจกันอยู่และนี่เป็นนโยบายระดับชาติด้วยเขาไม่เอาตายเลยเหรอ ส่วนกรณีที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มปฏิบัติการอุ้ม อาจจะเกรงกลัวว่า ทนายสมชาย อาจจะแฉความลับอะไรบางอย่างหรือไม่ ที่เกี่ยวข้องกับ ผู้ใหญ่ บางคนในบ้านเมืองนั้น เสธ.แดง แสดงความเห็นว่า

...ตอนนี้ทนายสมชายออกมาไม่ได้แน่ เพราะคนปล่อยเขาก็ไม่กล้าปล่อยออกมา ถ้าปล่อยเขาก็แฉว่าใครจับมาอาจต้องฆ่าเพื่อจะได้หายไปเหมือนไม่มีเรื่องอะไร กับทนายของผมยังโดนอุ้มจับยัดเข้า
รถยนต์แต่ยัดไม่เข้าเพราะโชคดีตัวตั้งกว่า ๒๐๐ กิโลเลยยัดไม่เข้าโชคดีไป ที่ตำรวจพยายามไปจับเจไอมาก็เพื่อมาสอบแล้วให้รับสารภาพเพื่อเป็นผลงาน เขาไม่รับก็ไปกระทืบเขาพอไปกระทืบทางทนายสมชายก็ออกมาโวยนี่แหละคือสาเหตุ

อย่างไรก็ตามตอนท้ายสุด เสธ.แดง ได้กล่าวยืนยันที่จะปฎิบัติภาระกิจของนายพลทหารติดตามทวงปืนที่หายไปอย่างไม่ลดละต่อไป โดยย้ำในประโยคสุดท้ายอีกว่า... ตอนนี้เป้าหมายในการลงพื้นที่ก็คือ ตามปืนที่หายคืนมา เสียฟอร์ม และถือเป็นภารกิจชาติ ตอนนี้กำลังเตรียมที่จะไปอินโดนีเซียเพื่อตามปืนต่อไปและ เสธแดง ยังได้กล่าวถึงกระแสข่าวล่าสุดที่มีคำสั่ง ปลด พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ พ้นเก้าอี้ ผบ.ตร. เมื่อวันที่ ๑๙ มี.ค.ที่ผ่านมาอีกว่า ...ถือเป็นคำสั่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะพล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ เป็นมือปราบ เคยรับราชการ อยู่ภาคใต้มาก่อน จึงเข้าใจ ปัญหาพื้นที่ได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าการแต่งตั้ง พล.ต.สุนทรมารักษาการแทน จะช่วยลดสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่เอาได้ เสธ.แดง กล่าวด้วยว่า สาเหตุการย้าย พล.ต.อ.สันต์ ไปช่วยราชการ สำนักนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้ เชื่อว่า มาจากประเด็นการหายตัวไปของ นายสมชาย นีละไพจิตร ประธานชมรมนักกฏหมายมุสลิม เพราะขนาดตนเอง มีอาวุธประจำกายครบมือ ยังเคยถูกตำรวจอุ้ม ดังนั้น การหายตัวไปของนายสมชาย เชื่อว่า เป็นฝีมือ ของตำรวจด้วยเช่นกัน

สุดท้ายของสุดท้ายต้องเกาะติดภาระกิจชายชาติทหารของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ครั้งนี้ หลังจากถูกขวางทางปืนมาแล้ว ครั้งต่อไปจะบรรลุสู่ความสำเร็จหรือไม่ต้องติดตามกันต่อไป

*************************

 ดูตร.ชี้ปม สมชาย หายตัว ปมลึกกรณีการหายตัวไปอย่างลึกลับของทนายชื่อดัง สมชาย นีละไพจิตร ประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มี.ค. ๔๗ ที่ผ่านมา จนบัดนี้ยังไร้ร่องรอย พบเพียงพาหนะคู่กายรถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค สีเขียว ทะเบียน ภง ๖๗๘๖ กรุงเทพมหานคร จอดทิ้งไว้ด้านหลังหมอชิต ๒ ซึ่งปรากฎว่ามีความสับสนว่าใครกันแน่ที่อยู่

เบื้องหลังปมอุ้มนายสมชาย นสพ.ร่วมด้วยฯ จึงประมวลความเห็นของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องมานำเสนอ

พล.อ.หาญ ลีนานนท์ ส.ว.สตูล ประธานกรรมาธิการการทหาร วุฒิสภา ทหารเขาไม่ทำหรอก คงต้องถามตำรวจเพราะว่าคนที่ลงไปเป็นตำรวจทั้ง ๓ สาย ทั้งสันติบาล กองปราบ และสอบสวนกลาง ที่ลงไปนี่แม่ทัพภาคก็ไม่รู้เรื่องเขาทำตามสายของเขา รัฐบาลเขารู้เรื่องแต่ทหารไม่รู้ ที่บอกว่าอยากให้ถอนกฏอัยการศึกผมบอกว่าถอนได้เลยเลิกได้เลย เพราะว่าทหารไม่ได้ใช้เต็มที่ คิดเอาแต่ประโยชน์บริษัทยางขายยางไม่ได้ก็มาร้องว่ากฎอัยการศึกกลายเป็นข้ออ้าง เรื่องทนายสมชายต้องหาตัวให้ได้ ต้องหาตัวว่าใครเป็นคนอุ้มด้วย รัฐบาลต้องขึงขังเรื่องนี้ ถ้ามันเหมือนคดี หะยี สุหรง ก็คือว่าแรงมากประวัติศาสตร์ซ้ำรอย...นายกเชื่อตำรวจมากไปบ้านเมืองอาจถึงแย่ การสั่งให้ถอนทหารเมื่อปี ๔๕ คือข้อผิดพลาดอันยิ่งใหญ่ โจรจึงเต็มเมืองไปหมดเลยนราธิวาส ทุกหัวบ้านทุกอำเภอมีโจรหมด สั่งให้ทหารออกแล้วให้ตำรวจเข้าไปอยู่แทน ตำรวจไม่เข้าป่าไม่ขึ้นเขาโจรสบายเลยทีนี้

ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถูกรุมเร้าด้วยกระแสการว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังปฎิบัติการอุ้มทนายสมชายในครั้งนี้เช่นกัน แม้ก่อนหน้านี้จะมีนายตำรวจระดับบังคับบัญชาหลายนาย ออกมาโต้แย้งกระแสดังกล่าวว่า ตำรวจไม่ได้มีส่วนรู้เห็นการหายตัวไปของทนายชื่อดังในครั้งนี้ พล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า จากการตรวจสอบย้อนหลังในรอบ ๑๐ ปีที่ผ่านมา พบว่า นายสมชายทำคดีสำคัญจนชนะคดีแล้วกว่า ๓๐ คดีด้วยกัน โดยล่าสุดมีคดีทางแพ่งที่เกี่ยวข้องกับเงินมรดกมูลค่ามหาศาล ซึ่งเกี่ยวข้องกับมัสยิดแห่งหนึ่ง ย่านรังสิต คลองหนึ่ง โดยนายสมชายเป็นทนายว่าความจนชนะ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าต้องสร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายตรงข้าม ฉะนั้นจุดนี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการหายตัวไปก็เป็นได้

พล.ต.ท.วงกต มณีรินทร์ ผบช.ก. หนึ่งในคณะทำงานการแก้ไขปัญหาภาคใต้ให้ความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า อย่าเชื่อข่าวที่ผู้ไม่หวังดีสร้างขึ้นมาเพื่อให้เข้าใจผิดเจ้าหน้าที่รัฐ รัฐบาลให้ความเป็นห่วงเรื่องนี้อย่างมาก ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดลงไปว่านายสมชายตายแล้วหรือยัง แต่จากหลักฐานรถยนต์ส่วนตัวที่เจ้าหน้าที่พบจอดทิ้งไว้ บริเวณหน้าสถานีขนส่งหมอชิตมีร่องรอยการถูกชน จึงน่าจะบ่งบอกอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับนายสมชาย แต่ขอเวลาในการขยายผลการสอบสวนหาเบาะแสก่อน พล.ต.ท.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ผบช.น. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเกิดจากอะไร

เนื่องจากการทำงานของตำรวจต้องสืบสวนทุกประเด็น ส่วนที่มีญาติอ้างความรู้สึกว่าการหายตัวไปของนายสมชายไม่เกี่ยวกับเรื่องครอบครัวนั้น ตำรวจจะไม่ใช้ความรู้สึกในการทำงาน เนื่องจากต้องรับผิดชอบในการติดตามค้นหา พร้อมทั้งหาสาเหตุด้วยว่าทำไมถึงหายไป และหายไปอย่างไร คดีนี้การสืบสวนยังไม่ลงลึกในเรื่องการเสียชีวิตหรือไม่เสียชีวิต และทั้งหมดก็ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล

พล.ต.ท.ปรุง บุญผดุง ผู้บัยชาการตำรวจภูธรภาค ๙ กล่าวว่า การติดตามตัวนายสมชาย ตำรวจยังให้ความสำคัญทั้ง ๒ ประเด็น คือการเป็นแกนนำในการล่ารายชื่อ ๕,๐๐๐ ชื่อ เพื่อยกเลิกกฎอัยการศึก
และว่าความให้ผู้ต้องหาในสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ ถึงแม้ว่าประเด็นในการล่ารายชื่อจะอ่อนไป แต่ยังไม่ตัดทิ้ง

ข้างต้นเป็นทรรศนะความคิดเห็นและข้อเท็จจริงของฝ่ายเกี่ยวข้อง ที่ให้ไว้เกี่ยวกับการการคาดการณ์ความน่าจะเป็นและเป็นไปจากสาเหตุการหายตัวไปของ นายสมชาย

 วันที่เผยแพร่ 22 มี.ค. 2547

ไม่มีความคิดเห็น: