PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ออกหมายเรัยกอดีตรมช.คลังเบญจาคดีหุ้นโอ๊ค


 ศาลอาญาแผนกคดีทุจริต และประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ   รับฟ้อง กรณีเลี่ยงภาษีโอ๊ค-เอม ซื้อหุ้นชินคอร์ปฯ  มีหมายเรียกให้จำเลยที่ 1-5 มารายงานตัว และดำเนินการไต่สวนพยานครั้งแรก ใน  23 ก.พ. 59 เวลา 0900 น. 

ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ รับฟ้องคดี ปปช.เป็นโจทย์  ยื่นฟ้อง 1.  นางเบญจา หลุยเจริญ อดีต รมช.คลัง  และอดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร  2 .น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย 3. น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีตผอ.สำนักกฎหมาย 4. นายกริช วิปุลานุสาสน์ ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสรรพากร   5. น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิด เลขานุการส่วนตัวของ พจมาน ณ ป้อมเพชร  เป็นจำเลยที่ 1 - 5 ในความผิดฐานร่วมกัน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 

เจ๊หลุย  สายตรงกับคนในบ้านจันทร์ส่องหล้า มาตั้งแต่ครั้ง นั่งอธิบดีกรมสรรพากร ตอบข้อหารือ กรณีซื้อ-ขายหุ้นชินคอร์ปฯ ว่า “ไม่ต้องเสียภาษี” จึงกลายเป็นคดีประวัติศาสตร์ ที่ทำให้  ทักษิณต้องย้ายถิ่นฐานไปอยู่ต่างแดน 

 ปปช. ยื่นฟ้อง ศาลฯ เมื่อ  3ธ.ค.58 ระบุพฤติการณ์สรุปว่าจำเลยที่ 1-4 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานของกรมสรรพากร ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อไม่ให้นายพานทองแท้และน.ส.พิน ทองทา ชินวัตร  ต้องเสียภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่า ที่จะต้องเสียและได้รับประโยชน์ที่มิควร โดยชอบด้วยกฎหมาย จากการซื้อหุ้น บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อปี 2549 คนละ 164,600,000 หุ้น  ใน ราคาพาร์หุ้นละ 1บาท ขณะที่ราคาตลาดหุ้นละ 49.25 บาท ถือได้ว่าทั้ง 2  คน เป็นผู้ได้รับเงินพึงประเมิน ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 39 และมีหน้าที่ต้องเสียภาษี ของส่วนต่างราคาหุ้น  คนละ 7,941,950,000 บาท ซึ่งการกระทำนั้นทำให้กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และราชการ เสียหาย 

 เจ๊หลุย  ยังน่าจะโดนอีกหลายคดี  จากกรณี ยืนยัน กรณีซื้อ-ขายหุ้นชินคอร์ปฯ ก่อนที่คดีนี้ จะหมดอายุความเมื่อ  31 มี.ค 55  ว่า  ทักษิณ  ไม่ต้องเสียภาษี  

เรื่องเดิม  ทักษิณ  จะเล่นการเมือง ได้โอนหุ้นให้กับบริษัท แอมเพิลริช จากนั้นแอมเพิลริชขายหุ้น ให้ โอ๊ค-เอม ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด และต่อมาทั้งคู่ได้นำหุ้นไปขายให้ กองทุนเทมาเส็ก ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ 

ตามหลักการของกฏหมาย หากเป็นกรณีการขายสินค้า และบริการในราคาต่ำกว่าความเป็นจริง กรมสรรพากรจะใช้มาตรา 65 ทวิ (4) เข้าไปประเมินภาษีผู้ขายได้

ไม่มีความคิดเห็น: