PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558

"บิ๊กตู่"ลั่นต้านคอร์รัปชั่น ระบุมายืนตรงนี้เพราะมีคนโกง แนะอย่านับถือคนรวยทุจริต



"บิ๊กตู่" ประกาศเจตนารมณ์วันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล ย้ำบังคับใช้ก.ม.จริงจัง ทำหน้าที่นำคนทุจริตเข้าสู่กระบวนการ เล็ง รื้อระบบบรรจุข้าราชการ ต้องตรงกับพันธกิจงาน หวังอนาคตเป็นมืออาชีพ ชี้ อย่านับถือคนรวยที่ไม่สุจริต ระบุไม่มายืนตรงนี้ หากไม่มีคนโกง


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ธันวาคม ที่อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต เนื่องในงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล วันที่ 9 ธันวาคม 2558 โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นที่รุนแรงมากขึ้นในประเทศไทย โดยดูจากที่มูลนิธิองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทยได้เปิดเผยการจัดอันดับดัชนีชี้วัดการคอรัปชั่น พ.ศ.  2557 พบว่า ประเทศไทยได้คะแนน 38 คะแนน จาก 100 คะแนน อยู่ลำดับที่ 85 จากการจัดอันดับทั้งหมด 175 ประเทศทั่วโลก จึงแสดงให้เห็นว่าปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นยังเป็นปัญหาสำคัญที่ประเทศต้องเร่งแก้ไข สำนักงานป.ป.ช.คาดหวังว่าความร่วมมือระหว่างองค์กรกับภาคีทุกภาคส่วนในการป้องกันการทุจริต จะเป็นการกระตุ้นเตือนให้สังคมตระหนักในผลเสียหายร้ายแรงที่เกิดจากการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นการสร้างกลุ่มเครือข่ายป้องกันทุจริตที่ยั่งยืน รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ประเทศ อันจะส่งผลให้ค่าคะแนนดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นของไทย ถึง 50 คะแนน ในปี 2560


ขณะนี้เรากำลังเดินเข้าสู่โรดแมป ระยะ ที่ 2 เดินหน้าประเทศไทย ทุกอย่างจะเดินตามขั้นตอน ตามโรดแมป โดยรัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของทุกคน ในโรดแมประยะที่ 2 มีเวลาถึงเดือนกรกฎาคม ปี 60 เรามีเวลาเท่านี้ตามโรดแมปที่วางไว้ และขอเรียนต่างประเทศต่างๆ ให้เข้าใจว่า ยืนยันตนจะเดินหน้าตามโรดแมป และเรื่องการทุจริตเป็นหัวข้อหนึ่งในการปฏิรูปประเทศ ซึ่งจะต้องมีส่งต่อรัฐบาลต่อไป ไปแต่หากไม่ทำต่อก็เป็นเรื่องของประชาชนที่ไปเลือกมา จึงขอฝากด้วยและต้องช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรให้เขาทำกันต่อไป อะไรไม่ดีก็ไม่ต้องทำ อะไรดีก็ต้องทำให้ได้

ขณะนี้สังคมต้องรับรู้ และที่ตนพูดมากเพื่อให้สังคมรับรู้ และตนไม่ได้ปกปิดอะไรทั้งสิ้น เรื่องที่ประชาชน ข้าราชการ ต้องรับทราบ ตนก็ต้องพูด ถ้าไม่พูดแล้วใครจะพูด ยืนยันว่าตนไม่มีเจตนาอย่างอื่น ในหัวใจของตนมีแต่คำว่าประเทศไทยเท่านั้น และประเทศคือเสาหลักที่ทุกคนต้องยึดเหนี่ยว ทุกคนเป็นคนกำหนดว่าประเทศจะเป็นอย่างไรในอนาคตไม่ใช่นักการเมือง จึงต้องเลือกคนที่ดีเข้ามาเพื่อรับผิดชอบแผ่นดินนี้ ดังนั้นแนวทางการบังคับใช้กฎหมาย เรื่องต้องทำให้โปร่งใสให้ได้รับความน่าเชื่อถือ ไม่ถูกกล่าวอ้างในทางที่ไม่ถูกต้อง คนเลวมันพูดทุกอย่างอยู่แล้ว เราพูดอะไรมากไม่ได้เพราะเราไม่สามารถพูดนอกกรอบเหมือนบางคนวันนี้ แนวทางการใช้กฎหมายในการป้องกันการทุจริต สำนักงานป.ป.ช. และหน่วยงานที่มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายจะต้องจริงจัง เคร่งครัด ต่อเนื่อง ซึ่งจากการพูดคุยกับประธานป.ป.ช.ยืนยันว่าจะทำงานอย่างเต็มที่ ที่สำคัญอำนาจรัฐต้องไม่ไปทับซ้อน วันนี้ปัญหาคือการบริหารที่เข้าไปทับซ้อน แต่ตนมาอย่างนี้จะไม่ไปทับซ้อน แม้จะมีอำนาจอย่างไรก็ตาม เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในฐานะองค์อิสระต่างๆ สำหรับตนมีหน้าที่ในการนำเข้าสู่กระบวนการ

นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของปปช. จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือกกต. สตง. ปปท. ปปง. สตช. ดีเอสไอ ทั้ง 7 องค์กรนี้ถือเป็นองค์กรหลักโดยตรงในการปราบปรามการทุจริต และสำนักงานอัยการสูงสุด จะรับต่อช่วงจาก 7 องค์กรนี้ ในการทำงานปราบปรามการทุจริตมาบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ฉะนั้นจะต้องมีการวางแผนร่วมกัน ซึ่งวันนี้ก็ทำกันอยู่แล้ว

"แต่จะทำอย่างไรให้กระบวนการยุติธรรมไม่ล่าช้า และไม่เร็วจนเกินไป ตรงนี้สำคัญ แต่ทำอย่างไรคนก็ไม่ทันใจหรอก ใจมันเร็วนึกอะไรก็ไปนู่นแล้ว ฉะนั้นต้องตั้งสติให้ดี เข้าใจขั้นตอนการทำงาน และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ถ้าอยากให้มันจบเร็วก็มีเรื่องทุกที แต่จะต้องไม่ช้าจนเกินไป ให้ความเป็นธรรม สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน" นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนรับไม่ได้กับความไม่ถูกต้อง แต่ก็ให้กระบวนการทางกฎหมายตรวจสอบไป ทุกเรื่องตนพูดหมดแล้ว พูดทุกวัน จะให้ตนพูดน้อยลง ตนก็อยากพูดน้อยเหมือนกันแต่ก็ทำไม่ได้ ถ้าไม่พูดคนก็ไม่เข้าใจกัน กฎหมายคือกฎหมาย โลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นธรรมเท่าเทียมอย่างแท้จริง ทุกประเทศเป็นประชาธิปไตยหรอ ไม่ใช่ เพราะถ้าเป็นประชาธิปไตยที่ไม่นึกถึงประชาชนทั้งประเทศ ตนถือว่าไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ตนนึกถึงประชาชน 70 ล้านคนที่จะต้องเดินหน้าไปได้ เราเหน็ดเหนื่อยกันมากมากเพียงพอแล้วกับความขัดแย้ง มากเพียงพอแล้วกับการพัฒนาประเทศที่ล่าช้า ฉะนั้นเวลาช่วงนี้เท่านั้นที่จะทำได้ เราจะได้มีเกียรติยศและศักดิ์ศรี ไม่อายเขา บังคับต่างประเทศได้ แต่จะต้องทำตามพันธะสัญญาระหว่างประเทศด้วย เราต้องรักกันทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่เป็นมิตรกับเรา เราทะเลาะกับใครไม่ได้ ไม่เคยไปโกรธ ไม่เคยไปขัดแย้งกับใคร เพราะเราเป็นประเทศเล็ก สิ่งที่เรามีอยู่คือศักดิ์ศรีความเป็นประเทศไทย และคำว่าคนไทยต้องไม่ลืมคำนี้


พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า วันนี้ประชาชนต้องรู้ทุกเรื่อง ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ต่างประเทศ นี่คือโอกาสของพวกเรา หากเราไม่ทำในวันนี้วันหน้าจะล้มเหลวทั้งหมด ประเทศไทยจะถูกลบเลือนหายไปทั้งหมดซึ่งการทุจริตเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำลายชาติอย่างมหาศาล ต้องมีการร่วมมือกันเป็นประชารัฐในทุกมิติ ถ้าประชาชนเข้มแข็ง ประเทศชาติก็เข้มแข็ง ต้องร่วมมือกันในทุกภาคส่วน ซึ่งรัฐบาลกำลังทำเรื่องประชารัฐอยู่ ซึ่งวันนี้เป็นวันครบรอบวันต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นสากล ขอให้พวกเราทุกคนร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ รณรงค์สร้างชาติ ตามหลักธรรมาภิบาล ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นไปพร้อมๆ กัน

“ข้าพเจ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอประกาศเจตนารมณ์ว่าจะประพฤติปฏิบัติตนในสัมมาชีพ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นหลักสำคัญมั่นคง ดำรงตนอยู่ด้วยความมีเกียรติและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ยึดความยุติธรรมความเป็นธรรมเป็นที่ตั้ง จะยับยั้งชั่งใจ ไม่กระทำการโกงกินแผ่นดิน หรือใช้ตำแหน่งหน้าที่หาประโยชน์ บนความทุกข์ยากของประชาชน จะเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ในปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และยืนเคียงข้างสุจริตชน ร่วมสร้างเยาวชนให้โตไปไม่โกง เพื่อจรรโลงและนำพาประเทศไทยให้รุ่งเรืองสืบไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ขอให้ร่วมมือกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โตไปไม่โกง ขอยืนยันว่าประเทศไทยพร้อมเคียงข้างทุกประเทศในโลก ตามพันธะสัญญาที่มีอยู่ เพียงแต่ขอเวลาทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งไปพร้อมๆ กันด้วย

ไม่มีความคิดเห็น: