PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ลึกแต่ไม่ลับ: นัยยะจากคำพูด "ป๋าเปรม" ที่ถูกลดทอนโดยเสียงระเบิด

จรัญ พงษ์จีน

มติชนสุดสัปดาห์ 6-12 กุมภาพันธ์ 2558


ระยะนี้ "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ปูชนียบุคคลที่คนไทยยังให้ความเคารพนับถือ อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ด้วยเอกลักษณ์ของความซื่อสัตย์ และมี "ความจงรักภักดี" เหนือสิ่งอื่นใด เดินสาย "ปาฐกถา-ให้โอวาท" ค่อนข้างถี่ "ผิดปกติ" คอการบ้านการเมือง นำประโยคปริศนามาตีความ แปร "นัย-ยะ" จ้าละหวั่น

เป็นต้นว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่สโมสรทหารบก เทเวศร์ "ป๋าเปรม" เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" มี "พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี "พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร" ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมตัวแทนเหล่าทัพเข้าร่วม โดยพูดให้เยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามและพุทธในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 240 คนฟัง

ตอนหนึ่ง "พล.อ.เปรม" ให้โอวาทว่า ขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนโครงการ ทั้งกองทัพ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย สำนักจุฬาราชมนตรี ที่ให้ความช่วยเหลือมาตลอด โดยเฉพาะ "พล.อ.อุดมเดช" ที่มาช่วยเหลือโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ นับตั้งแต่เป็นเสนาธิการทหารบก

ทั้งนี้ "ป๋าเปรม" เปิดประเด็นว่า "ขอพูดถึงความเป็นไทย และความเป็นธรรมอีกครั้ง เยาวชนทั้ง 240 คน เป็นคนไทยเหมือนกับผมเหมือนกับคนอื่นๆ เราเป็นเจ้าของประเทศนี้ ประเทศเป็นของพวกเราที่เป็นคนไทย ไม่ใช่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้น ทุกคนคงรักเมืองไทย มีหน้าที่ที่จะต้องทำให้ประเทศมีความร่มเย็นสงบสุข หากปล่อยให้ประเทศมีความบาดหมางกันคงไม่ดีแน่ จึงจำเป็นที่จะต้องรู้และเข้าใจว่าจะทำอย่างไรบ้านเราจะมีความสงบสุข"

"เธอทั้ง 240 คนเนี่ยเป็นคนไทยนะครับ เป็นคนไทยเหมือนกับผม เหมือน ผบ.ทบ. เหมือนกับอธิบดีกรมการปกครอง เหมือนกับ ผอ.ศอ.บต. เราเป็นเจ้าของประเทศนี้นะครับ ประเทศนี้เป็นของเรา ไม่ใช่เป็นของคุณประยุทธ์หรอก เป็นของพวกเราที่เป็นคนไทย ไม่ว่านับถือศาสนาอะไร เพราะฉะนั้น ผมมั่นใจว่า คุณคงรักประเทศเหมือนผมรัก เหมือนคนอื่นเขารัก เธอทั้งหลายก็จำสำนึกว่า เธอมีหน้าที่ที่จะต้องทำให้ประเทศของเรามีความร่มเย็นสงบสุข เราจะปล่อยให้ประเทศของเรามีความหมาดบางกันไม่ดีแน่"



และล่าสุดเมื่อเช้าวันที่2กุมภาพันธ์ "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ปาฐกถาพิเศษ ครั้งนี้พูดให้ "ผู้ใหญ่" ฟัง เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ครบรอบ 60 ปี ที่ วปอ. โดยกล่าวเปิดประเด็นอย่างร้อนแรงว่า

"ที่จริงผมอายุมากแล้ว เป็นคนโบราณด้วยซ้ำ แต่คงไม่แก่จนกระทั่งเรียกว่ารกแผ่นดิน"

จากนั้นร่ายยาวถึงปัญหาชาติบ้านเมือง มี 2 ปัญหา คือ 1.เรื่องของ "ความยากจน" ถือเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาล รัฐมนตรี ผู้แทนรัฐบาล 2.เรื่อง "การโกงชาติ" เป็นหน้าที่ของทุกคนต้องดูแลให้คนไทยโกงชาติให้น้อยลง สอนให้รู้จัก "ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน" ซึ่งทำไม่ยาก ไม่ต้องลงทุน ไม่มีกำไรหรือขาดทุน คือการทำตัวให้เป็นคนดี หากคนในชาติเป็นคนดี ก็ไม่มีการโกงชาติ สิ่งที่เรียกว่าคนโกง ว่าการฉ้อราษฎร์บังหลวง เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับโลก ไม่มีประเทศใดไม่มี เพียงแต่เขามีน้อย แต่ "ไทยมีมาก"

"ถ้าใครเห็นคนโกงไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหน คุณไม่ต้องไปไหว้ ไม่ต้องไปแสดงความเคารพนับถือ ต่อให้มีบารมีมากแค่ไหนขอให้แสดงความขยะแขยงรังเกียจ รักษาระยะห่าง เพราะเชื้อโรคการโกงจะมาติดคุณ เคยได้ยินคำเย้ยหยันเขาเขียนว่าประเทศไทยมีดีทุกอย่าง เสียอย่างเดียวคือมีคนไทย เป็นคำประชดที่น่าอายมาก"

ทั้งหมด คัดลอกบางบท บางตอนถึงเนื้อหา อันเป็นปาฐกถาพิเศษของ "พล.อ.เปรม" 2 กรรม 2 วาระซ้อน ในเวลาไม่ถึง 10 วัน และโดยปกติแล้ว "ป๋า" เป็นคนพูดน้อยมาแต่ไหนแต่ไร สมัยดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี เอกลักษณ์คือ "ถามคำตอบคำ"

เจอลูกตื๊อของกองทัพนักข่าว หนักๆ เข้าก็ลั่นสั้นๆ ว่า "กลับบ้านเถอะลูก" จนได้รับฉายาว่าเป็น "เตมีย์ใบ้"

วันไหนอารมณ์ดี ตอบคำถามสอง-สามประโยค นักข่าวถือว่า ถูกหวย "ดอกพิกุลร่วง" นี่คือเอกลักษณ์อันยั่งยืนของ "พล.อ.เปรม" พูดน้อยแต่มีน้ำหนัก

เหนือสิ่งอื่นใด เวลาจะให้สัมภาษณ์ หรือปาฐกถา หรือนัดหมายใครไปคุยเป็นกรณีพิเศษที่บ้านพักสี่เสาฯ "ป๋าเปรม" จะทำการบ้าน รู้เขารู้เราถึงแขกผู้มาเยือน จนทะลุ

การออกมาให้ 2 โอวาท-ปาฐกถา 2 ครั้งติดต่อกันของ "พล.อ.เปรม" จึงถือว่าไม่ธรรมดา ทั้งเรื่อง ประเทศไทยไม่ใช่ของใครคนเดียว และแก่แต่ไม่ถึงกับ "รกแผ่นดิน"

"ป๋าเปรม" รัดกุม ไม่มีทาง และไม่เคยพูดแบบ "กลอนพาไป" แต่จงใจพูดตาม "สคริปต์" ที่ตระเตรียมเอาไว้ทุกประโยค

วันที่ปาฐกถาพิเศษให้นักศึกษา วปอ. ฟัง รายละเอียดของเนื้อหา ภาษาดุดัน น่าจะเป็นข่าวระดับ "พาดหัว"

แต่ถูกเบียดแทรกด้วยข่าว มือมืดวางระเบิดไปป์บอมบ์ป่วนกรุง ที่สยามพารากอน ข่าว "พล.อ.เปรม" เลยถูกลดโทนไปโดยปริยาย


ไม่เช่นนั้น คงนำมาแปรและตีความกันเป็นการใหญ่

ไม่มีความคิดเห็น: